มาร์คส่ายหัว "ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงพวกเขาหรอก เขาจะไม่ทำอะไรโดยประมาทแม้ว่าเขาจะไม่ส่งเธอกลับบ้านก็ตาม”แอเรียนไม่ได้กังวลขนาดนั้นเมื่อรู้ว่าทิฟฟานี่อยู่กับแจ็คสัน เธอกังวลเพียงว่ามันจะอันตรายเนื่องจากทั้งคู่เมาแล้ว “โอเค… เอ่อ… คุณเคยไปที่บาร์นั้นบ่อย ๆ ใช่ไหม? คนที่นั่นดูเหมือนจะคุ้นเคยกับคุณ…” แน่นอน ผู้หญิงเจ้าชู้คนนั้นจับเนื้อต้องตัวเขาอยู่แล้ว!"หึงเหรอ?" มาร์คถามแทนที่จะตอบ“ไม่ใช่ซะหน่อย! นอนกันเถอะ” แอเรียนปฏิเสธพร้อมกับทำหน้ามุ่ยมาร์คปรับตำแหน่งของพวกเขาและรับแอเรียนเข้าสู่อ้อมกอดของเขาอย่างเต็มที่ “พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปพักผ่อนในวันหยุด เธอห้ามปฏิเสธ” เขาเคยคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว ด้วยการเลิกราของอีธานและทิฟฟานี่ เขาทำได้เพียงชะลอเรื่องต่าง ๆ พาแอเรียนไปที่อื่นและป้องกันไม่ให้เธอติดต่อกับอีธานและจดหมายนั้น เขาจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ได้ในการยืดเรื่องนี้ออกไปแอเรียนไม่ได้ปฏิเสธเขา แต่เธอมีเงื่อนไขเช่นกัน “เราพาทิฟฟานี่ไปด้วยได้ไหม? เธอเพิ่งเลิกกับอีธาน ดังนั้นเธอจึงต้องการหนีจากความฟุ้งซ่านด้วย นอกจากนี้… มันจะอึดอัดถ้าฉันต้องไปกับคุณคนเดียว เราทำเช่นนั้นได้ไหม?”มาร์คตกลงหลัง
เมื่อขยับออกไปเล็กน้อยแจ็คสันก็ยังคงอยู่เหนือเธอ “ทำไมผมต้องปล่อยคุณไปตอนนี้ด้วย? บอกผมก่อนว่าคุณจะเลิกงอแง!”มือของทิฟฟานี่ไล้ไปที่หัวของแจ็คสันและถูมันอย่างรุนแรง “ไม่! ฉันรู้สึกไม่ดี! ฉันหายใจไม่ออก!”ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าแตะต้องผมของเขาเช่นนั้นมาก่อน ด้วยอาการหายใจไม่ออกเพราะถูกสัมผัสเช่นนั้น แววตาของแจ็คสันก็เข้มลง เขาตรึงมือทีสร้างปัญหาของเธอไว้เหนือศีรษะของเธอแล้วพูดว่า "สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะเป็นไปได้ก็คือการตกอยู่ในมือของคุณ คุณยั่วโมโหผมก่อน เพราะฉะนั้นอย่าเสียใจล่ะ”ก่อนที่ทิฟฟานี่จะสู้แจ็คสันกลับได้เขาก็ปิดระยะห่างระหว่างริมฝีปากของพวกเขา ก่อนหน้านี้เขาแค่จูบที่เบา ๆ แต่ครั้งนี้เขาทำให้มันลึกซึ้งยิ่งขึ้น หลังจากที่เขาดึงเข็มขัดของเสื้อคลุมอาบน้ำของทิฟฟานี่ออก เขาก็เห็นว่าทิฟฟานี่ดูค่อนข้างเล็กในชุดคลุมตัวใหญ่ ความคิดที่มีเหตุมีผลของแจ็คสันกลับมาในช่วงสุดท้ายขณะที่เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “คุณกับอีธาน คุณเคย…?”ทิฟฟานี่ส่ายหัวอย่างฉุนเฉียว “ไม่! เราไปไม่ถึงขั้นนั้น… ก่อนที่จะเลิกรากันครั้งแรกก็ไม่… ครั้งนี้ก็ไม่…”เมื่อนึกถึงสื่งที่เธอพูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอก็ตร
ทิฟฟานี่โต้กลับ “ฉันเป็นคนพูดเอง ฉันรู้สึกเหมือนไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมกับเขาได้อีกต่อไป และแน่นอนว่าฉันควรเลิกทันทีที่รู้ว่าเราจะไปกันไม่รอด มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉันและไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแม่เลย! แม่แค่กลัวว่าฉันจะไม่สามารถหาผู้ชายรวยได้อีกใช่ไหมล่ะ? ถ้าอีธานไม่ใช่น้องชายของมาร์ค แม่ก็จะไม่สนับสนุนเราเหมือนกันแหละ ไหน ๆ ก็คุยเรื่องเงินแล้ว ฉันขอเตือนแม่ว่านางฟ้าแห่งโชคลาภที่จะมอบบ้านให้แม่น่ะ หายไปแล้ว แม่จะต้องเสียเงินในการย้ายบ้านเอง ดังนั้นอย่าไปซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นล่ะ เราเคยได้รับรสชาติของความยากจนมาแล้ว ดังนั้นอย่าทำให้เราต้องตกเป็นแบบนั้นอีกเลย”ลิเลียนรู้จักนิสัยอารมณ์ของลูกสาวตัวเองดี จากสิ่งที่ทิฟฟานี่พูด ลิเลียนก็รู้ได้เลยว่าทิฟฟานี่จะไม่มีทางหันหลังกลับไปอีก “ลืมมันไปเถอะ ฉันจะเปลืองน้ำลายกับเธอด้วย ไปเที่ยวให้สนุกแล้วกัน ถ้ากลับมาแล้วก็ไปหางานที่ดีทำด้วย เราไม่สามารถใช้จ่ายเงินได้โดยไม่ทำอะไรเลย ลืมเรื่องการย้ายเข้าคฤหาสน์ด้วยเงินเพียงเล็กน้อยที่ฉันมีได้เลย เราซื้อคอนโดที่ใหญ่หน่อยก็พอแล้ว คิดให้ดีก่อนออกเดทครั้งต่อไปด้วยล่ะ ถ้าจะเดทก็ให้เดทโดยมีเป้าหมายที่จะแต
ลิซ่ามีความคิดเห็นเกี่ยวกับทิฟฟานี่ตั้งแต่บนเครื่องบิน ด้วยแอลกอฮอล์ในร่างกายของเธอในตอนนี้เธอจึงชี้นิ้วไปที่หน้าทิฟฟานี่และถามว่า “พระองค์อะไร? คุณคือผู้หญิงคนใหม่ของคุณเวสต์ใช่ไหมฮะ? อย่าหลงตัวเองมากเกินไปหน่อยเลย คนใหม่จะล้มล้างคนเก่าและคุณจะถูกแทนที่ในไม่ช้าก็เร็ว เราอยู่บนเส้นทางเดียวกัน ไม่เห็นต้องดูถูกกันเลย คุณแค่ยังเด็กแค่นั้นเอง แต่เขาจะทิ้งคุณภายในสามเดือน ฉันเคยคบเขาสามเดือนเหมือนกัน เป็นเวลาที่ค่อนข้างนานเลยนะรู้ไหมล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น เขาซื้อทุกอย่างที่ฉันต้องการให้ฉันด้วย... แย่จังที่มันคงอยู่ได้ไม่นาน ขอให้คุณโชคดีนะ”ทิฟฟานี่เขม่นและด่าแจ็คสันอย่างไม่ใยดีในใจ ก่อนที่ลิซ่าจะจากไปทิฟฟานี่ระแทกประตูใส่หน้าเธอและส่งข้อความหาแจ็คสัน “'เขาซื้อทุกอย่างที่ฉันต้องการให้ฉัน' นี่คือสิ่งที่ลิซ่าพูด ได้โปรด ฉันยังรู้สึกอับอายแทนคุณเลย ถ้าฉันต้องตื่นขึ้นอีกครั้ง ฉันจะตอนคุณ!แจ็คสันไม่ตอบกลับเมื่อเห็นข้อความนั้น เขาถอนหายใจยาว ๆ ขณะนอนอยู่บนเตียง เขาหวังว่าเขาจะรู้ก่อนว่าเขาจะได้พบกับอดีตคู่รักที่นี่ด้วย เขาโทษตัวเองที่ดื้อรั้นเกินไปในอดีต…อีกด้านหนึ่ง แอเรียนนอนพลิกตัวไปมาอยู่บน
เอริกเริ่มโวยวายเช่นกัน “เลิกพยายามอธิบายเถอะ การอธิบายหมายความว่านายกำลังซ่อนบางสิ่งบางอย่างอยู่และสิ่งที่นายกำลังซ่อนอยู่ก็คือความจริง ยิ่งนายพยายามอธิบายมันก็ยิ่งฟังดูแย่ลง เราทุกคนต่างตระหนักดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่เห็นต้องอายเลย นายไม่ได้อายุน้อยขนาดนั้นแล้วนะมาร์ค หยุดทำท่าทางเขินอายได้แล้ว”บังเอิญว่ามาร์คอารมณ์ดีเขาจึงไม่โต้เถียงกับพวกเขา มาร์คก้าวออกไปข้าง ๆ และจ้องมองไปยังทิวทัศน์ที่ไกลโพ้นพร้อมกับขวดเบียร์ในมือแทน เขามีความสุขกับลมทะเลอ่อน ๆ มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบที่หาได้ยากทิฟฟานี่รู้สึกเบื่อ เธอหยิบขวดเบียร์ของเธอและเดินไปข้าง ๆ เอริกและถามว่า “คุณวางแผนที่จะพักร้อนอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?”เอริกยักไหล่ “ไม่รู้สิ มันขึ้นอยู่กับพวกคุณ ผมยังไงก็ได้”ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ แจ็คสันพบว่าการที่เอริกและทิฟฟานี่นั่งอยู่ด้วยกันนั้นไม่น่าดู “เราจะกลับไปภายในหนึ่งสัปดาห์แน่นอน เราไม่สามารถทิ้งบริษัทของเราให้อยู่ลำพังได้ เราไม่ใช่คนเกียจคร้านสะหน่อย”ทิฟฟานี่หรี่ตา “คุณว่าแอริกับฉันเป็นคนเกียจคร้านเหรอ? ฉันเกลียดการต้องฟังคุณพูดจริง ๆ มันเหมือนกับว่าคุณพยายามที่จะกระชากหัวใจฉันอ
เอริกมีความสุขกับภาพนี้มาก; เขามองดูมันราวกับว่าเขาได้รับสมบัติล้ำค่าบางอย่าง “ฉันจะปริ้นรูปนี้เมื่อเรากลับไป หนึ่งใบสำหรับฉันและหนึ่งใบสำหรับคุณสองคน ฉันไม่แน่ใจว่าทำไมฉันไม่เคยสังเกตเห็นเลยว่าคุณสองคนดูเหมือนคู่รักที่ถูกกำหนดจากสวรรค์”แอเรียนก้มหัวลงและยิ้มอย่างเขินอาย มาร์คยิ้มเช่นกันและโอบแขนของเขารอบไหล่ของเธออย่างเต็มใจเมื่อเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าพวกเขาจึงกลับไปที่โรงแรมเพื่อพักผ่อนแจ็คสันยังคงอยู่ข้างนอกเมื่อพวกเขามาถึงโรงแรม เอริกกระเกาะลิ้นของเขา “ฉันคิดว่าคืนนี้เขาคงจะมีช่วงเวลาที่ดีจริง ๆ”ทิฟฟานี่กลับไปที่ห้องของเธอโดยไม่พูดอะไร อาจเป็นเพราะว่าเธอรู้สึกเหนื่อย เมื่อเธอเห็นสิ่งของของแจ็คสันในห้องของเธอ เธอก็โยนมันทิ้งอย่างหงุดหงิด ตอนแรกเธอตั้งใจไว้ว่าจะนอนหลับฝันดี แต่เมื่อเธอนอนลงเธอก็ตระหนักว่าเตียงนั้นอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของเขาเมื่อไม่มีทางเลือก เธอจึงไปที่ห้องของแจ็คสันอีกครั้ง พวกเขาเปลี่ยนห้องตั้งแต่เริ่มแรก เธอไม่ต้องการนอนในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้ชายอย่างแน่นอน!ทันใดนั้นก็มีคนเปิดประตูเข้ามาในขณะที่เธอเพิ่งจะหลับไป เมื่อเธอตระหนักว่าเธออยู่ต่างประเทศ
การเปลี่ยนหัวข้ออย่างกะทันหันของเขาทำให้ลิซ่าประหลาดใจ แต่เธอก็ตอบเขาอยู่ดี “ฉันคิดว่าเมื่อฉันรักผู้ชายคนหนึ่งฉันเป็นคนเดียวที่มีสิทธิ์ใช้เงินเขา พวกผู้หญิงคนอื่นห้ามมาใกล้เขา คุณผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมายแล้วนะแจ็คสัน คุณไม่เคยรู้สึกอะไรกับใครจริง ๆ เหรอ?”ขณะที่เขาจ้องมองลิซ่า เขาก็รู้สึกรังเกียจผู้หญิงอย่างเธอขึ้นมา นั่นไม่ใช่ความรัก นั่นไม่ต่างจากการแลกเปลี่ยนเพื่อสิ่งของเลย สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือความจริงที่ว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เขาเคยคบด้วยก็เหมือนกับเธอกันหมด ในอดีตเขาไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เลยจริง ๆ และรู้สึกว่าการใช้จ่ายเงินเพื่อความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นเป็นเรื่องปกติที่สุด “ผมคิดว่าผมไม่เคย…”ตอนกลางคืนพวกเขาไม่ได้กลับไปที่โรงแรม พวกเขาพบจุดที่เหมาะบนชายหาดจึงตั้งเต็นท์พักแรมและย่างบาร์บีคิวกันแทน เป้าหมายของพวกเขาคือการรอชมพระอาทิตย์ขึ้นในตอนกลางคืนลมทะเลมีกำลังแรงและอุณหภูมิก็ลดลงเช่นกัน แอเรียนนั่งบนเก้าอี้พกพาขนาดเล็กและจ้องไปที่เตาย่างบาร์บีคิว เธอดูเหมือนสาวน้อยที่เชื่อฟัง มาร์คจ้องไปที่เธอตลอดเวลาและไม่หันมองอย่างอื่นจริง ๆ ในดวงตาของเขามีความปรารถนาและความรู้สึกที่ซ
ลิซ่าทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเธอกลับไปที่ชายหาด เธอยังคงคุยและล้อเล่นกับแจ็คสันต่อไป เมื่อเห็นว่าแจ็กสันยุ่งกับการปิ้งบาร์บีคิวเสียบไม้เกิดกว่าที่จะมีโอกาสได้กินหรือดื่มอะไร เธอจึงริเริ่มที่จะป้อนเนื้อเสียบไม้บาร์บีคิวและเบียร์ให้เขา เธอไม่ลืมที่จะชำเลืองเยาะเย้ยทิฟฟานี่เป็นครั้งคราวทิฟฟานี่โกรธจัด แต่ดีที่หัวของเธอก็โล่งขึ้นเพราะลมทะเลที่เย็นยะเยือก ทำไมเธอถึงต้องโกรธด้วย? แจ็คสันสามารถจะดีกับใครก็ได้ตามที่เขาต้องการ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย แต่ทำไมเธอถึงต้องมีส่วนร่วมด้วย? เธอมีความรู้สึกแย่ ๆ ต่อลิซ่ามาเสมอ แม้กระทั่งบนเครื่องบิน มันเป็นความผิดของแจ็คสันไม่ใช่เหรอที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้?เมื่อจิตใจของเธอปลอดโปร่งแล้ว เธอจึงไม่อยากเปรียบเทียบตัวเองกับลิซ่าอีกต่อไป เธอจดจ่อกับการกินและดื่มแทนและคุยกับแอเรียนเป็นครั้งคราวตกดึกทิฟฟานี่และแอเรียนก็รวมตัวกันในเต็นท์พลางฟังเสียงคลื่นและพูดคุยกันเบา ๆ จู่ ๆ ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ทิฟฟานี่ก็ลุกขึ้นและโผล่หัวออกนอกเต็นท์พลางมองไปทางเต็นท์ของแจ็คสัน ไฟยังส่องสว่างอยู่ในเต็นท์ของเขาและวัสดุของเต็นท์ก็บางพอให้เธอได้เห
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง