จู๊ดโบกมือด้วยความรำคาญเล็กน้อย “อย่าแก้ตัวเลย คนเราน่ะเมื่อไม่มีที่จะไปหรือหาทางออกไม่เจอก็ย่อมต้องทำทุกวิธีทางเพื่อให้ตัวเองรอดจนได้ ถ้านายไม่ชอบทางออกนั้น นั่นก็เป็นเรื่องของนาย ฉันแค่อยากได้เงิน นายคิดว่าพ่อของนายจะทำเช่นไรหากมีข่าวลือถึงลูกชายนอกสมรสเขา? องค์กร เทรมอนต์ ที่สมบูรณ์แบบซึ่งสร้างขึ้นจากสายเลือด หยาดเหงื่อและน้ำตาของตระกูลเทรมอนต์หลายชั่วอายุคนจะหายไปพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ดีของพ่อนาย เรื่องนี่จะต้องเป็นข่าวพาดหัวแน่นอน ถ้านายไม่ให้เงินฉัน ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากว่าจะต้องขายความลับของตระกูลเทรมอนต์ให้กับสื่อ จากนั้นสื่อก็จะเปิดโปงน้องชายที่หายไปนานของนายและเขาก็จะกลับมาทวงสมบัติครึ่งหนึ่งของครอบครัว นายอาจจะสูญเสียไปมากกว่านั้นด้วยซ้ำ แต่ฉันไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่ให้ฉัน 100,000,000 ฉันก็จะไม่มาสร้างความเดือดร้อนให้นายอีก”ใบหน้าของมาร์คดูไร้อารมณ์ เขาหยิบโทรศัพธ์บนโต๊ะขึ้นมาและโทรหาฌฮนรี่ เฮนรี่เดินเขามาและยื่นเช็คเงินสดให้กับมาร์ค “นายท่าน นายท่านจะทำแบบนี้จริง ๆ หรอ?”มาร์คเขียนจำนวนเงินบนเช็คอย่างใจเย็น “คุณมีความคิดที่ดีกว่านี้ไหมล่ะ?”ตั้งแต่นั้นเฮนรี่ก็ไม่พ
เรื่องที่แจ็คสันทิ้งทิฟฟานี่ไว้คนเดียวทันทีที่พวกเขามาถึงงานเลี้ยงแทบจะไม่ทำให้เธอรำคาญเลย เธอพอใจเพียงแค่ได้มีความสุขในช่วงเวลาที่เธออยู่ที่นั่นพร้อมกับของหรูหราทั้งหมดที่ปาร์ตี้มีมานำเสนอ แม้ว่าเธอจะอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้าก็ตามห้องจัดเลี้ยงที่เปล่งประกายด้วยแสงสีทองอันหรูหราเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับความเป็นส่วนตัวของคนชนชั้นสูง ที่นี่คุณจะได้พบกับคนชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงในเสื้อผ้าที่เป็นสไตล์ของเขา เช่นเดียวกับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีพร้อมกับมารยาทที่ดีที่สุดของพวกเขา พวกเขาเป็นนักแสดงทุกคนที่ตระหนักถึงบทบาทของตนเองดีและมีความกระตือรือร้นที่จะเล่นมันได้อย่างไม่มีที่ติอย่างไรก็ตาม บางคนที่แอบแฝงอยู่ท่ามกลางผู้ดีที่แท้เหล่านี้ ก็กำลังมองหาทางลัดไปสู่สังคมชนชั้นสูง — แม้ว่ามันจะหมายถึงการต้องเสียสละสิ่งเล็กน้อยเพื่อให้เล่ห์เหลี่ยมของเขาออกมาสมบูรณ์แบบก็ตาม ผู้ชายประเภทนี้ก็คือนักธุรกิจที่เผด็จการและผู้หญิงเหล่านี้ก็คือพวกขุดทอง ภายใต้หน้ากากนั้นประกอบไปด้วยชั้นเสื้อผ้าแบรนด์เนมเราคาสูงและเครื่องประดับ และอาจจะมีพวกที่หลงผิดมาและกำลังถูกควบคุมโดยวิญญาณชั่วร้ายด้วย“บังเอิญจังเลยท
อยู่ ๆ ก็มีมือที่ไม่ได้ต้องการมาโอบรอบเอวของเธออย่างกะทันหันก่อนที่เสียงหายใจของชายวัยกลางคนคนนั้นจะดังขึ้นใกล้หูของทิฟฟานี่ “ความโกรธแบบนั้นจะไม่ทำให้คุณได้มีเวลากับเขาในวันนี้หรอกที่รักของผม แต่ผมน่ะมีเวลาให้นะ ผมรู้จักผู้หญิงอย่างคุณเป็นอย่างดี เหมือนกับหลังมือของผมเลย ผู้หญิงอย่างคุณล้วนกำลังมองหาเสี่ยเลี้ยงอยู่ใช่ไหมละ? ผมจะตรงไปตรงมากับคุณเลยละกัน -- คืนนี้เรามาใช้เวลาร่วมกันดีไหม ถ้าคุณทำให้ผมมีความสุข ผมก็จะทำให้คุณมีความสุข โดยเริ่มจากอพาร์ทเมนต์สุดหรูเลย”ใบหน้าของทิฟฟานี่เปลี่ยนไปในเสี้ยววินาทีก่อนที่เธอจะตบหน้าของชายคนนั้นอย่างรุนแรง ในขณะที่รอยนิ้วสีแดงสดของมือเธอปรากฏขึ้นบนแก้มของเขาเธอร้องเสียงหลงอย่างร้อนแรง “แหงแหละ ถ้าฉันต้องนอนกับคนบ้ากามที่น่าขยะแขยงอย่างคุณ!”การทะเลาะวิวาทของพวกเขาทำให้ทั้งห้องเงียบลงทันที สายตาทุกคู่หันมาที่พวกเขา ในระยะไกลรอยยิ้มบนหน้าของแจ็คสันที่ใช้เมื่อต้องสนทนาบนหุบลงก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาพวกทิฟฟานี่และชายวัยคลางคนคนนั้นอย่างรวดเร็ว “เกิดอะไรขึ้น?”สีหน้าของชายวัยกลางคนคนนั้นพยายามหลบเลี่ยงการโดนตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างสิ้นหวัง “ค - คุณเ
แอเรียนสงสัยเล็กน้อยว่ามาร์คจะอยู่เบื้องหลังทั้งหมด : มาร์ค เทรมอนต์ ได้ส่งลุงแท้ ๆ ของตัวเองเข้าคุก ทำให้เขาได้รวบรวมเงินทุก ๆ เหรียญในหลาย ๆ ร้อยล้านเหรียญกลับมาได้เธอกำลังคิดไม่ตกว่าจะตัดสินเหตุการณ์พลิกผันนี้อย่างไร แน่นอนว่าจู๊ดเป็นขยะที่ไร้ค่าและเป็นความอับอายของมนุษยชน ดังนั้นเขาจึงสมควรได้รับบทลงโทษที่เขาได้รับอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามความจริงที่ว่ามาร์ค และไม่ใช่ใครอื่นใด ที่เป็นคนทำให้จู๊ดโดนจับ ทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ วิธีที่เขายอมจ่ายเงินจำนวนมากโดยไม่ต่อสู้เลยทำให้ข้อกล่าวหาการถูกกรรโชกดูไม่สมจริงแต่เหมือนเป็นเหยื่อที่รอให้จู๊ดกัดมากกว่า“สวัสดีครับคุณเวสต์ นายท่านอยู่ในห้องทำงานครับ”แอเรียนที่ได้รับแรงกระตุ้นจากการทักทายของเฮนรี่เงยหน้าขึ้นมองจากจุดที่เธอนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นและเห็นว่าแจ็คสันกำลังเข้ามาทางประตูหน้าบ้าน เขาทักทายหญิงสาวด้วยการพยักหน้าห้วน ๆ ก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปแอเรียนพบว่ามันเหลือเชื่อ มาร์คฟื้นตัวเร็วมากในเดือนนี้ ; ตอนนี้เขาสามารถเดินไปรอบ ๆ ได้ตามความพอใจของตนเองและสามารถที่จะพบกับแจ็คสันที่ชั้นล่างได้ด้วย แล้วทำไมเขาถึงขอให้แขกไปพบเขาที่ห้อง
ใบหน้าของชาร์ลส์แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ที่ขัดแย้งกัน “ฉันยอมก็ได้ไอ้เด็กน้อย พ่อของนายเล่าให้ฉันฟังก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น ฉันตกใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ นายรู้ไหม? ความสัมพันธ์ของเขาและแม่นายเต็มไปด้วยความรัก เขาไม่ได้ลงรายละเอียดกับฉัน แต่เขาบอกอย่างชัดเจนว่าถ้าวันใดวันหนึ่งลูกชายทั้งสองของเขากลายเป็นศัตรูที่ขมขื่กันเขาอยากให้ฉันเข้าไปช่วย คิด ๆ ดูแล้วเรื่องนี้มันฟังดูเป็นลางสังหรณ์ใช่ไหม? บางทีเขาอาจจะรู้จุดจบของเขาแล้ว หรือบางทีมันอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ… แน่นอนนั่นคงเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเทรมอนต์ ฉันคงไม่อาจเข้าใจ”มาร์คก้มลงมองโต๊ะ ดวงตาของเขากลายเป็นหน้าจอทึบแสงส่องจอที่ปกปิดอารมณ์ที่ถูกกระตุ้นของเขา ทิ้งไว้เพียงหมัดของเขาเป็นเบาะแสเดียวที่สื่อความรู้สึกที่แท้จริงของเขา “อย่าเอ่ยถึงเขาในประโยคเดียวกับแม่เลยคุณลุง เขาไม่สมควรได้รับมัน” เขากล่าว “ถึงอย่างไรก็ตาม นั่นเป็นความปรารถนาสุดท้ายของเขาใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้น คุณก็ให้เกียรติเขาตามที่คุณเห็นสมควรเลย แต่ผมจะบอกคุณให้ : ผมไม่เคยขอให้คนทุจริตคนนั้นได้รับอันตรายเลย เขาทำตัวเขาเอง”ความหนาวสั่นวิ่งลงกระดูกสันหลังของชายที่มีอ
ที่ห้องพยาบาล มาร์คไม่แม้แต่จะหลับตาลงในคืนที่ยาวนานและเงียบสงบนี้เช้าวันต่อมา แอเรียนลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ ยาชาได้หมดฤทธิ์ไปแล้วและหน้าเธอก็ซีดจากความเจ็บปวด แม้กระทั่งหน้าผากของเธอก็ยังเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเธอตกใจทันทีที่เธอเห็นมาร์ค “ลูก ๆ ของฉัน…”เขาแยกริมฝีปากบางของเขาออกเล็กน้อย “ไม่เป็นไร เราอย่ามีลูกกันเลยดีกว่า ผมดีใจที่คุณปลอดภัย”แอเรียนหายใจออกอย่างช้า ๆ เธอรู้ตั้งแต่เมื่อวานตอนทานอาหารค่ำแล้วว่าเธอจะต้องเสียลูก ๆ ของเธอ เธอแค่ไม่ได้คาดการณ์ว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ ตอนแรกเธอยังคิดอยู่เลยว่าเธอจะได้ให้กำเนิดลูก ๆ ทั้งสองอย่างสันติสุข แต่เรื่องราวก็กลายเป็นซะอย่างนี้…“ทำไม? มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ตอนแรกฉันยังดี ๆ อยู่เลยไม่ใช่หรอ? ฉันไม่ได้กินหรือทำอะไรที่ฉันไม่ควร…” เธอพึมพำกับตัวเอง น้ำตาเธอคลอเบ้า ทำให้เธอดูเหมือนตุ๊กตาเศษผ้าไร้วิญญาณที่น่าสงสาร“สภาพร่างกายของเธอไม่พร้อมที่จะให้เธอตั้งครรภ์ได้อีก มันเป็นความประมาทของผมเอง ผมไม่ควรทำให้เธอท้องตั้งแต่แรก ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการแท้งลูกครั้งแรกของเธอได้ทำลาย…” เขาชะงักเพราะไม่อยากเอ่ยชื่อแอรี่ต่อหน้าเธอแอเรียนหันหน้าห
ฌองลุกขึ้นจากพื้นด้วยความหวังอันริบหรี่ในดวงตาของเขา “จริงด้วย... แอเรียนยังมีเงินและบ้านอยู่ในมือ สิ่งเหล่านั้นรวมกันเป็นเงินประมาณสามล้านดอลลาร์ซึ่งจะเพียงพอเพื่อให้เราอยู่รอดได้ชั่วขณะ! ไปหาเธอกันเถอะ!”หลังจากทำการสอบสวนแอรี่จึงได้รู้ว่าแอเรียนได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เธอบุกไปที่โรงพยาบาลเพียงเพื่อถูกหยุดโดยบอดี้การ์ดที่หน้าประตู ขณะนี้เธอไม่สนใจที่จะรักษาภาพลักษณ์ของเธอในฐานะสุภาพสตรีที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยอีกต่อไป "ให้ฉันเข้าไป! ให้ฉันเข้าไปหาอินางเลวนั่น!”แมรี่ที่ได้ยินเสียงวุ่นวายนอกห้องพยาบาลจึงเดินออกมาดูพร้อมใบหน้าที่บึ้งทันทีที่เธอก้าวออกไป "คุณมาทำอะไรที่นี่?"แอรี่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะยืนเขย่งเท้าเพื่อมองเข้าไปในห้องพยาบาล “แอเรียนอยู่ข้างในนั่นใช่ไหม? ให้ฉันเข้าไป! ฉันมีเรื่องด่วน!”แอรี่ดูเหมือนว่าเธอมาที่นี่เพื่อฆ่าแทนที่จะมาหาใครบางคน แน่นอนว่าแมรี่จะไม่ยอมให้เธอเข้าไป “คุณคินซีย์ นายหญิงของเรายังไม่หายดีพอที่จะรับแขกได้ โปรดกลับไปเถอะ ไม่เช่นนั้นฉันจะต้องดำเนินการกับคุณหากคุณยังคงสร้างความปั่นป่วนอยู่ที่นี่”แอรี่เหวี่ยงมือไปที
มาร์คขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแอรี่ใช้คำหยาบคายเหล่านั้นก่อนที่จะเดินเข้ามาหาและจับคางของเธอ เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มที่น่าฟังแต่ซ่อนความอันตราย “คุณกำลังท้าทายขีดจำกัดของผมนะ”แอรี่กลัวมากจนน้ำตาไหลและร่างกายสั่นสะท้านดั่งใบไม้ “ค-คุณ… จะทำอะไร?”เขาผลักเธอออกไปอย่างกะทันหัน “ผมไม่มีนิสัยชอบลงไม้ลงมือกับผู้หญิงหรอก แต่ถ้าคุณยังคงเพิกเฉยต่อไป ผมก็จะไม่รังเกียจที่จะปล่อยให้บอดี้การ์ดของผมทำมันแทน”แอรี่ล้มลงกับพื้นที่ก้นของเธอ รองเท้าส้นสูงที่เธอตั้งใจเลือกมาสำหรับการนัดเจอของพวกเขากลายเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญในตอนนี้ เธอลุกขึ้นด้วยความยากลำบากและเดินกะเผลกออกไปเพียง เพื่อต้องหยุดเพราะบอดี้การ์ดที่จู่ ๆ ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ ด้วยความตื่นตระหนกเธอไม่แม้แต่จะสามารถถ่มน้ำลายใส่เขาได้เหมือนที่เธอเคยทำก่อนหน้านี้ ในที่สุด เธอก็รู้แล้วว่าความอ่อนโยนของมาร์คเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหน้ากากเขาเท่านั้น รอยยิ้มของเขาสามารถเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูใบไม้ผลิได้ แต่ความโกรธของเขาสามารถทำให้เกิดพายุหิมะในฤดูหนาวได้“ฉันจะไม่ไปหาแอเรียนอีกแล้ว… ได้โปรดปล่อยฉันไป…” เธอประนีประนอมและซ่อนความเกล
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง