เธอถือปิ่นโตไปที่ห้องทำงานแจ็คสันและถามว่า “นี่คุณคิดจะเอาอาหารมาให้ฉันทุกวันจริง ๆ หรอ?” แจ็คสันที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่มองมาที่เธอเมื่อได้ยินเสียงของเธอแล้วถามว่า “ทำไมหรอ? ไม่อร่อยหรอ?” เธอวางปิ่นโตลงบนโต๊ะและพูดว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณทำแบบนี้ทำไม ไม่ต้องมาหลอกฉันว่าคุณแค่เป็นห่วงฉันในฐานะหัวหน้าที่เป็นห่วงลูกน้อง ที่ออฟฟิศเรามีผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ตั้งเยอะ ฉันยังไม่เคยเห็นคุณทำแบบนี้ให้พวกเขาเลย แล้วไม่ต้องอ้างว่าคุณทำแบบนี้เพราะฉันเป็นเพื่อนแอริหรือคุณทำเพื่อมาร์คหรอก ใคร ๆ ก็รู้ว่านั่นมันคือคำโกหก” แจ็คสันวางมือจากงานและจ้องมาที่เธอพร้อมถามอย่างติดตลกว่า “ไม่เอาน่า เราเคย ‘นอน’ ด้วยกันแล้วนะ จริงไหม? เพราะฉะนั้นไม่เห็นจะต้องคิดมากเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เลย ถูกไหม?”ทิฟฟานี่ไม่มีอารมณ์ขำขันด้วยจึงพูดต่อ “คุณไม่ได้ชอบฉัน ใช่ไหม?” แจ็คสันอึ้ง เขาหลบสายตาเธอและดึงเน็คไทอย่างงุ่มง่าม “คุณคิดมากไปน้า”เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก “ดีแล้ว คุณไม่ต้องเอาข้าวกล่องมาให้ฉันแล้วนะ ฉันไม่ได้ท้อง ฉันโกหกคุณ เพื่อนฉันตังหากที่ท้อง” แววตาของแจ็คสันเป็นประกายขณะที่เขาถา
แจ็คสันถอนหายใจอย่างโล่งอก “ไม่เป็นไร ไหน ๆ ผมก็เอามาให้แล้วก็กิน ๆ มันไปเถอะ คราวหน้าถ้าผมตื่นเช้าและมีเวลาเหลือผมจะทำอาหารมาให้อีก ผมแค่อยากช่วยให้คุณสะดวกขึ้นเพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องลำบากใจหรอก”ทิฟฟานี่ถอนหายใจอย่างโล่งอกเช่นกันก่อนที่เธอจะหยิบปิ่นโตแล้วเดินจากไปเทรมอนต์ ทาวเวอร์ลิเลียนใช้ใบปลิวพัดลมใส่ตนเองพร้อมกับเงยหน้ามองตึกที่ใหญ่โต หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เดินเข้าไปที่แผนกต้อนรับ “คุณคะ รบกวนเรียกผู้บริหารให้ฉันหน่อยได้ไหม? บอกเขาว่าฉันเป็นแม่ของ ทิฟฟานี่ เลน และฉันมีเรื่องจะบอกเขา คือ ภรรยาของผู้บริหารของคุณอยู่ที่บ้านฉัน”พนักงานต้อนรับยิบโทรศัพธ์ขึ้นมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น “รอสักครู่นะคะ”การโทรถูกเชื่อมต่อสำเร็จ พนักกงานต้อนรับพูดอย่างระมัดระวังว่า “คุณเทรมอนต์ มีคนอยากพบคุณ เธอบอกว่าเธอเป็นแม่ของ ทิฟฟานี่ เลน”“ส่งเธอขึ้นมา” มาร์คตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแสเมื่อสิ้นสุดการโทร พนักงานต้อนรับเดินไปส่งลิเลียนที่ประตูลิฟต์ด้วยตนเอง “ขึ้นไปที่ชั้น 46 นะคะ อย่าลืมเปลี่ยนเป็นรองเท้าเป็นรองเท้าแตะเมื่อคุณออกจากลิฟต์และกรุณาเดินอย่างเบา ๆ "ลิเลียนจำทุกอย่างด้วยความเชื่อฟังก
“แอริท้อง ฉันเช็คประวัติทางการแพทย์หมดแล้ว ตอนนี้เธอท้องได้ 12 สัปดาห์แล้ว ฉันคิดว่าน่าจะราว ๆ 3 เดือนได้ ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่เพียงลำพังแล้วนะ แต่หลัง ๆ เธอยังคงทำงานล่วงเวลาจนดึก เวลาเธอกลับบ้านหน้าเธอซีดเสียวและหมดแรงตลอด ทั้งหมดก็แค่เพื่อเงินเดือนอันน้อยนิด ช่างเป็นภาพที่เจ็บใจยิ่งนัก ฉันไม่รู้ว่าระหว่างคุณสองคนมันเกิดอะไรขึ้น เธอคงไม่อยากบอกคุณเพราะไม่อยากย้ายกลับบ้าน แต่เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่นะ การที่เธอจะมีความสุขมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ฉันแค่มาอัพเดทคุณ สุดท้ายเธอก็ควรจะได้อยู่ในที่ ๆ ที่เธออยากจะอยู่ คุณคิดว่าไง?” ลิเลียนเน้นทุกคำอย่างระมัดระวังในขณะที่เธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะอ่านความรู้สึกของมาร์คมาร์คตัวสั่น เธอท้องอีกแล้วหรอ? เขานึกถึงวันที่แอเรียนเลือดออกจนต้องเข้าโรงพยาบาลทันที เขายังจำได้ว่าหมอพูดว่าอะไร — โอกาสที่เธอจะท้องอีกน้อยมาก… หลัง ๆ พวกเขามีอะไรกันแค่ไม่กี่ครั้งในระยะเวลาที่ห่างกันนานด้วย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้การป้องกัน แต่มันเป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะท้องทั้ง ๆ ที่มีโอกาสน้อยขนาดนี้? อีกอย่าง… เธอท้องได้ประมาณ 3 เดือน ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่เธออยู่ที่โรงแรม ซั
หลังจากที่ส่งแอเรียนด้านล่างและรอจนกว่าเธอจะขึ้นลิฟต์ ไบรอันก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและกดโทรออก “นายท่าน ผมส่งนายหญิงเทรมอนต์ถึงบ้านแล้ว ท่านจะให้ผมมาส่งเธอทุกวันเลยไหม? เธอจะไม่สงสัยหรอ? ครั้งสองครั้งก็จะถือว่าบังเอิญอยู่… แต่ถ้ามากกว่านั้นคงจะหลอกเธอไม่ได้…”“ไปคิดเอาเอง” เสียงที่เยือกเย็นของมาร์คตอบกลับสมองของไบรอันเริ่มบ่นไม่หยุดทันที “ผมทำไม่ได้ครับ… ทำไมนายท่านไม่บอกเธอไปเลยว่าตั้งแต่นี้ไปผมจะคอยไปรับไปส่งเธอ? หรือ… ท่านจะออกรถให้ทิฟฟานี่ก็ได้ เธอจะได้ไปส่งนายหญิงได้?”เขาไม่ได้รับคำตอบจากมาร์คเพราะมาร์ควางสายไปแล้วณ คฤหาสน์ เทรมอนต์ มาร์คยืนอยู่หน้าหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสในห้องนอนของเขาและกำลังโทรหาแจ็คสัน “นายหาทางซื้อรถให้ทิฟฟานี่เพื่อให้เธอขับไปส่งแอเรียนที่ทำงานหน่อย”แจ็คสันหัวเราะ “ฉันนึกว่านายยังไม่รู้ ฉันกำลังลังเลอยู่พอดีว่าจะบอกนายดีหรือไม่ว่าเธอท้อง นายทำตัวเป็นผู้ใหญ่และใจกว้างหน่อยได้ไหม? แค่พาเธอกลับคฤหาสน์ เทรมอนต์ ก็หมดปัญหาแล้วไหม? เธอจะได้เลี้ยงลูกที่นั้น”มาร์คไม่มีอารมณ์ที่จะหยอกเล่นกับแจ็คสัน “ฉันจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเอง นายหาทางซื้อรถให้ทิฟฟานี่ซะ แค่นี
แอเรียนกังวลจึงบอกกับเธอว่า “ทิฟฟ์ บอกความจริงฉันมา ระหว่างเธอกับแจ็คสันมีอะไรกัน? เธอจะยอมแพ้เพราะแค่เรื่องเงินไม่ได้นะ ถ้าพวกเธอชอบกันก็แค่ตกลงแต่งงานกัน แต่ถ้าเธอแค่เล่นสนุกเพื่อเงิน หรือเสื้อผ้า หรือรถ ก็หยุดซะ ฉันกลัวว่าเธอจะลงเอยด้วยความเจ็บปวด ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้คิดไปเอง ; ผู้ชายที่ไหนจะเอาอาหาร เอารถมาให้เธอถ้าเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอ!”ทิฟฟานี่รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า เธอกลัวที่จะบอกแอเรียนว่ามาร์ครู้เรื่องที่เธอท้องแล้ว และเธอก็ไม่อยากจะบอกว่าจริง ๆ แล้วก็เป็นมาร์คที่ซื้อรถคันนี้ให้ แต่นอกเหนื่อจากนั้น เธอสงสัยว่าลิเลียนจะเป็นคนที่ก่อเรื่องทั้งหมด… เธอกลัวว่าถ้าแอเรียนยังไม่เลิกถาม เธอคงจะปกปิดทั้งหมดไม่ไหวแล้ว เธอไม่ใช่คนที่เก็บความลับเก่ง ทำไมทุกคนถึงยัดเยียดให้เธอต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วย? “มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะแอริ” เธอตอบด้วยความกังวลใจ “เลิกถามสักทีเถอะน่า” แอเรียนรู้สึกได้ว่าทิฟฟานี่ไม่อยากพูดถึงมัน มันคงเป็นคำถามที่ส่วนตัวเกินไป เธอจึงไม่ถามต่อ “โอเค ฉันจะไม่ถามอีก เธอไม่ใช่เด็กแล้ว เธอควรรู้ดีแก่ใจว่าเธอทำอะไรอยู่ แต่จำไว้นะว่าฉันอยู่ตรงนี้เสมอ ถ้าเธอต้อง
ทิฟฟานี่รู้สึกผิด ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทะเลาะกับลิเลียนแล้วรู้สึกผิด เธอพูดไปแบบนั้นเพราะความโกรธ เธอเลยไม่สามารถหยุดยั้งคำพูดตัวเองได้ แต่อย่างไรก็ตาม ลิเลียนก็ล้ำเส้นเกินไปจริง ๆ ทิฟฟานี่จำเป็นที่จะต้องเคลียร์ปัญหาก่อนที่เธอจะยอมรับว่าตัวเองผิด เธอยอมรับความเจ็บ สูดหายใจเข้าลึก ๆ และพูดว่า “มาร์คจะให้เงินเธอโดยไม่มีเหตุหรอ? เงินที่เขาให้มานั้นเพื่อแอริ ถูกไหม? แม่ไม่คิดว่าแม่เอามาใช้เองแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยหรอ?”ลิเลียนยิ้มเยาะเย้ย “เรื่องแค่นี้เอง เงินจำนวนนั้นขนหน้าแข้งมาร์คไม่ร่วงหรอก เธอไม่คิดว่าการเลี้ยงข้าวปั้นและดูแลแอเรียนจะคุ้มกับเงินนั้นหรอ? แอเรียนอาศัยอยู่ที่บ้านเรานะ ตอนที่เธอเรียนเธอก็ดูแลแอเรียน ลองมองในอีกมุมนึงสิ แอเรียนเป็นผู้หญิงที่ไม่มีครอบครัวเป็นของตัวเอง เธอมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับแอเรียนที่สุด เพราะฉะนั้นเราเปรียบเสมือนครอบครัวสำหรับเธอ แล้วแอเรียนก็พึ่งพาอาศัยเราตอนที่เธอท้อง มาร์คต่างหากที่ล้ำเส้น เอาเงินเขามาแล้วมันผิดตรงไหน? ไม่มีใครควรรู้สึกผิดในที่นี้”ทิฟฟานี่กัดฟันตัวเองจนเกือบแลกสลาย “นั่นเป็นตรรกะที่โคตรจะป่วย แม่ป่วย! ต่อให้มาร์คจะแย่กับแ
หัวใจของแอเรียนค่อย ๆ เต้นช้าลงเมื่อแมรี่เดินขึ้นไปชั้นบน เธอไม่เคยคาดหวังว่าการตั้งครรภ์ของเธอจะถูกเปิดเผยเร็วขนาดนี้ มาร์คจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อเห็นเธอ?เธอไม่ทันได้มีเวลาให้คิดนานก่อนที่แมรี่จะกลับมาชั้นล่าง “แอริ นายท่านขอให้เธอไปพบเขาข้างบน นายท่านเพิ่งตื่น”แอเรียนส่งสายตาที่มั่นใจให้ทิฟฟานี่ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นและมุ่งหน้าขึ้นไปชั้นบน เธอรู้สึกได้ถึงเดจาวูเมื่อเธอเดินเข้าไปที่ห้องนอนที่เคยเป็นของเธอและมาร์ค ห้องนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นของมาร์ค ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้กลิ่นนั้นไม่ทำให้แอเรียนหนักใจอีกต่อไปมาร์คไม่ได้อยู่บนเตียงแต่เธอได้ยินเสียงน้ำไหลจากในห้องน้ำ เสียงไม่เหมือนกับเขากำลังอาบน้ำ เขาน่าจะแค่ล้างหน้าแปรงฟันมากกว่าเธอเดินไปหยุดที่หน้าหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสและรอเขาอย่างอดทน 10 นาทีผ่านไป มาร์คเดินออกมาจากห้องน้ำโดยยังสวมชุดนอน ผมเขาไม่ได้หวี ผิดกับลุคปกติของเขา ภาพลักษณ์สบาย ๆ ของผมเขาทำให้เขาดูกระเซิงและสบายตัวเขาเหลือบมองเธออย่างไม่สนใจจากนั้นก็เดินไปที่หัวเตียงและจิบชาดำที่แมรี่เตรียมไว้ให้ “มีอะไรก็พูดมา”แอเรียนหยิบเงินสดและกุญแจรถออกมาและวางมันไว้ที่โต๊ะเล็ก ๆ
แอเรียนคิดไม่ออกเหมือนกันว่ามาร์คกำลังคิดอะไรอยู่ เธอเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่ได้พูดถึงลูกเลย แต่พอนึกได้ว่าเขาเป็นคนที่เย็นชา ทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น ผู้ชายแบบนั้นคงไม่คิดอะไรมากกับลูกจากสายเลือดตัวเองแค่คนเดียวหรอก เขาบอกว่าเขารักเธอ นั่นเป็นคำโกหกรึเปล่า? หรือ… นั่นมันเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว? ทิฟฟานี่ระบายความผิดหวังของเธอกับรถ Audi ตอนที่พวกเขาออกมาจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ “ถ้าฉันมีเงินมากพอที่จะปฏิเสธ ฉันจะไม่ยอมขับรถคันนี้อีก ใครอนุญาตให้มาร์คได้มีเงินเยอะขนาดนี้? ในเวลาแบบนี้เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากว่าต้องก้มหัวยอมพวกคนเลว รวมถึงแม่ของฉันด้วย ขืนถ้าเธอยังอยู่ต่อที่บ้านเรา แม่จะต้องคิดทำอะไรไม่ดีอีกแน่ ๆ ถึงเวลานั้นเราอาจจะไม่มีปัญญาแก้ปัญหาที่แม่จะสร้าง ภายในวันสองวันฉันจะช่วยเธอหาห้องใหม่ มันจะดีกว่าหากเธอย้ายออก ฉันจะไปเยี่ยมเธอบ่อย ๆ และฉันจะคอยไปรับไปส่งเธอที่ทำงานทุกวัน ฉันไม่ได้พยายามจะไล่เธอออกนะ ; ฉันต้องบอกให้เธอเข้าใจฉันในจุดนี้ก่อน เธอรู้ว่าฉันทำเพราะหวังดีกับเธอใช่ไหม?”ครั้งนี้แอเรียนไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือ การย้ายออกเป็นความคิดที่ดี แค่มีลิเลียนอยู่ด้วยทิฟฟานี่
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง