แอเรียนคิดไม่ออกเหมือนกันว่ามาร์คกำลังคิดอะไรอยู่ เธอเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่ได้พูดถึงลูกเลย แต่พอนึกได้ว่าเขาเป็นคนที่เย็นชา ทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น ผู้ชายแบบนั้นคงไม่คิดอะไรมากกับลูกจากสายเลือดตัวเองแค่คนเดียวหรอก เขาบอกว่าเขารักเธอ นั่นเป็นคำโกหกรึเปล่า? หรือ… นั่นมันเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว? ทิฟฟานี่ระบายความผิดหวังของเธอกับรถ Audi ตอนที่พวกเขาออกมาจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ “ถ้าฉันมีเงินมากพอที่จะปฏิเสธ ฉันจะไม่ยอมขับรถคันนี้อีก ใครอนุญาตให้มาร์คได้มีเงินเยอะขนาดนี้? ในเวลาแบบนี้เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากว่าต้องก้มหัวยอมพวกคนเลว รวมถึงแม่ของฉันด้วย ขืนถ้าเธอยังอยู่ต่อที่บ้านเรา แม่จะต้องคิดทำอะไรไม่ดีอีกแน่ ๆ ถึงเวลานั้นเราอาจจะไม่มีปัญญาแก้ปัญหาที่แม่จะสร้าง ภายในวันสองวันฉันจะช่วยเธอหาห้องใหม่ มันจะดีกว่าหากเธอย้ายออก ฉันจะไปเยี่ยมเธอบ่อย ๆ และฉันจะคอยไปรับไปส่งเธอที่ทำงานทุกวัน ฉันไม่ได้พยายามจะไล่เธอออกนะ ; ฉันต้องบอกให้เธอเข้าใจฉันในจุดนี้ก่อน เธอรู้ว่าฉันทำเพราะหวังดีกับเธอใช่ไหม?”ครั้งนี้แอเรียนไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือ การย้ายออกเป็นความคิดที่ดี แค่มีลิเลียนอยู่ด้วยทิฟฟานี่
มาร์คกัดฟันตัวเอง เขาไม่เคยนึกหาเหตุผลว่าทำไมแอเรียนจึงย้ายออกจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ 10 ปี เป็นเวลาที่นานมากที่เธอไม่ได้ออกจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ เลย แต่ตอนนี้เธอจะไปซะอย่างนั้น ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดว่าทำไม เขาไม่เคยขอร้องให้เธออยู่ต่อด้วยซ้ำ พอได้ฟังคำเตือนของแอรี่แล้วเขาถึงได้เข้าใจ เธอย้ายออกเพราะเรื่องที่พวกเขาทะเลาะกันเรื่องวิลจริง ๆ เหรอ? ดวงตาของแอรี่เป็นประกายด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะเมื่อเธอเห็นแววตาที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ บนใบหน้าของมาร์ค “โอเค พี่มาร์ค อย่าไปนึกถึงมันเลย ลองชิมของหวานที่ฉันเอามาให้ดีกว่า อร่อยนะ ฉันชอบขนมร้านนี้ตั้งแต่เด็ก ฉันจะอยู่รอพี่เลิกงาน หลังจากนั้นเราไปหาอะไรทานกัน ดีไหม?” มาร์คไม่ปฏิเสธขนมที่แอรี่ป้อนเขา แต่อย่างไรก็ตาม ขนมที่ควรจะมีรสชาติหวานกลับไร้รสชาติ อย่างกับว่าเขากำลังเคี้ยวยางอยู่ เฮเลนและฌอง คินซีย์ เดินตามกันออกมาจากสำนักงานกิจการพลเรือน “นี่คือ… จุดจบของเราจริง ๆ เหรอ?” ฌองพูดแบบไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาใช้ชีวิตด้วยกันมามากกว่าครึ่งชีวิตของกันและกัน เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเฮเลน ที่แต่ก่อนเคยขาดเขาไม่ได้ จะเป็นคนยุติความสัมพันธ์นี้ เขานึกว่าเธอขอ
เฮเลนหยิบโฉนดทรัพย์สินและบัตรธนาคารออกจากกระเป๋าเงินของเธอ “นี่คือเงินออมของแม่ทั้งหมดที่แม่ออมไว้ระหว่างที่อยู่กับพวกคินซีย์ตลอดระยะเวลาหลายปีนี้ การหย่าร้างของแม่กับฌองนั้นจบด้วยดี บริษัทและบ้านเป็นของเขา ส่วนแม่ได้รับ 80% ของเงินออมทั้งหมดรวมกับอสังหริมทรัพย์อีกสองที่ แม่ให้ลูกหนึ่งหลังกับเงินอีกครึ่งนึงของทั้งหมด แม่ตั้งใจว่าเงินที่เหลือในส่วนของแม่ แม่จะเอาไปก่อตั้งบริษัทเอง เมื่อแม่ตาย บริษัทก็จะเป็นของลูก แม่ไม่ได้เก็บมาเยอะเพราะหลัง ๆ นี้พวกคินซีย์ก็ค่อนข้างแย่เหมือนกัน รายได้เดียวก็มาจากการพยายามทำงานร่วมกับมาร์คเพื่อเอาตัวให้รอด อย่าคิดมากกับเรื่องนี้เลย ตอนนี้ลูกกำลังต้องใช้เงิน”แอเรียนมองไปที่สิ่งของในมือเฮเลนแต่เธอไม่ได้ตอบรับทันที อสังหาริมทรัพย์คงจะมีมูลค่าอย่างน้อยสองสามแสน รวมถึงเงินในบัตรนั้นก็คงจะมีจำนวนไม่น้อยกว่ามูลค่าของอสังหริมทรัพย์ หากว่าพวกคินซีย์ไม่ได้ตกอับจำนวนเงินคงจะมากกว่าสองสามเท่า ใช่ สิ่งของเหล่านี้กำลังเป็นสิ่งที่เธอต้องการพอดี แต่ว่าเธอไม่ได้อยากได้มันจากเฮเลนในส่วนของเฮเลน แอรียนหวังว่าผู้หญิงคนนี้จะหายไปจากโลกนี้และไม่ติดต่อเธอกลับมาอีก นี่คือข
แอเรียนแซวเล่น “อาจจะเป็นเธอก็ได้ที่ได้แต่งงานกับเขา เธอจะได้กินและใช้จ่ายได้เต็มที่”ทิฟฟานี่หัวเราะ เสียงหัวเราะเธอฟังดูร้ายกาจนิดหน่อย “ฮ่าฮ่า… ตอนนี้กระเพาะฉันติดอาหารเขาไปแล้ว ฉันคิดอยู่เหมือนกันว่าอยากจะเก็บเขาไว้ตลอดชีวิตเลย ดูสิ เขาทั้งสูง รวย และทำอาหารเป็นด้วย -- ผู้ชายแบบนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก? และบางทีฉันก็ฝันเห็นเขา… ฮิฮิ… โป๊ เขาแต่งตัวเทห์มาก เขาต้องหุ่นดีแน่ ๆ เมื่อเขาถอดเสื้อผ้าออกมา! โชคดีที่ฉันหลงเสน่ห์เขาเพียงเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นนะฉันกินเขาไปนานแล้ว!”แอเรียนขนลุก “โอ๊ย… เธอนี่นะ โอเค พอแล้ว ๆ ไปกินข้าวเถอะ”หลังจากที่ทิฟฟานี่วางสาย เธอก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังเธอในขณะที่เธอยังคงยิ้มเป็นนัย ๆ จากการคุยโทรศัพธ์ พอเธอหันไปดูเธอก็พบว่าแจ็คสันกำลังจ้องมองเธอด้วยความตะลึง เธอรู้สึกราวกับว่าเส้นเลือดในสมองกำลังจะแตก เขาได้ยินทุกอย่างเลย!“เอ่อ… ฉันแค่ล้อเล่นนะ…” เธอตอบอย่างรวดเร็วพร้อมกับความรู้สึกที่อายจนอยากจะมุดดินหนี“เอ่อ… ผมก็แค่เดินผ่านพอดี ทานอาหารให้อร่อยล่ะ ผมจะ… กลับไปที่ห้องทำงานผมแล้ว” แจ็คสันคงจะตกใจกับคำพูดที่ชัดเจนของเธอจนเขาต้องใช้เวลา
ไบรอันอึกอัก “ครับ นายท่าน ผมจะไปส่งนายท่านเดี๋ยวนี้”ไบรอันขับรถไปที่ที่พักของแอเรียน พอไปถึงไบรอันก็ช่วยพยุงมาร์คที่เมามากขึ้นไปที่ห้องของแอเรียน ไบรอันไม่กล้าเคาะประตูหนักเกินไปจึงเรียกเบา ๆ “นายหญิง นายท่านมาหา…”ไม่มีเสียงตอบรับจากในห้อง มาร์คจึงเคาะประตูดัง ๆ “เปิดประตู!” ไบรอันตกใจและรีบหยุดการกระทำของมาร์ค แอเรียนกำลังท้องอยู่ เธอคงจะไม่อาจรับมือกับความกลัวแบบนี้กลางค่ำกลางคืนได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเพราะสิ่งนี้มันจะสายเกินไปที่จะรู้สึกผิดในภายหลัง!แอเรียนตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะประตู เธอสอดดูที่ตาแมวก่อน เธอถอนหายใจเมื่อเห็นไบรอันกับมาร์ค ; เธอเปิดประตู ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร มาร์คก็โซเซมาหาเธอและกอดเธอไว้อย่างแน่นพร้อมกับพึมพัมอะไรบางอย่างที่ไม่อาจจับใจความได้“ผมไปก่อนนะ ฝากนายท่านด้วย” ไบรอันพูดเมื่อเห็นเช่นนั้นแอเรียนไม่ทันได้ตอบโต้ด้วยซ้ำก่อนที่ไบรอันจะปิดประตูแล้วหนีไป เธอเห็นได้ชัดว่ามาร์คเมามาก ด้วยความกังวล เธอจึงใช้มือนึงพยุงท้องตนเองและช่วยพยุงมาร์คอีกมือนึง “ช้า ๆ… ตามฉันมา…”ในตัวมาร์คยังมีเศษเสี้ยวของสติหลงเหลืออยู่ เขาจึงไม่ได้ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดของตัวเขา
แอเรียนล้มเลิกที่จะขัดขืน ไม่ว่าเธอจะพยายามเท่าไหร่ มาร์คจะไม่ยอมจนกว่าจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการ...การเคลื่อนไหวของมาร์คน่ากลัวพอ ๆ กับเสียงฟ้าร้องที่ทำให้หูหนวกได้ ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงท่ามกลางเสียงสะอื้นของแอเรียนฝนหยุดตกในช่วงกลางคืนของวันนั้น ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นยามเช้าส่องแสงกระทบละอองฝน ทำให้รู้สึกอบอุ่นมาก แอเรียนรู้สึกหวาดกลัวตลอดทั้งคืนจนแทบจะไม่ได้นอนเลย เธอตรวจให้แน่ใจว่าลูกของเธอยังสบายดี แต่เธอก็ยังคงไม่พอใจในตัวมาร์คเธอไม่ได้เงียบในขณะที่เธอล้างหน้าแปรงฟัน ความเหนื่อยล้าและอาการแพ้ท้องทำให้พลังงานที่เหลืออยู่ของเธอหมดลงอย่างมากจนเธอไม่เหลือแรงแม้แต่จะก้มลงหยิบถ้วยที่ตกลงพื้น เธอไม่มีอาการแพ้ท้องมาก่อน แต่ดูหลังจากที่มาร์คมาสิ เธอคิดว่าเขาต้องมีผลกับเธอแน่ ๆ …ในที่สุดมาร์คก็ตื่นขึ้นเนื่องจากแอเรียนที่ส่งเสียงดัง เมื่อมองไปที่สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเขาก็เข้าสู่ความงุนงงชั่วขณะ ชิ้นส่วนความทรงจำของคืนที่แล้วผ่านเข้ามาฉายซ้ำในความคิดของเขา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามที่จะจำให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความทรงจำของเขาปฏิเสธที่จะกลับมาอย่างครบถ้วน แน่นอนว่าเขาจำสิ่งที่เขาพูดไม่ได้
แอเรียนถามอย่างสบายๆ “ใครส่งมาหรอ?”หญิงสาวตอบตามคำถาม “เขาแจ้งว่าชื่อไบรอันค่ะ”ไบรอันเหรอ แอเรียนปวดหัวเล็กน้อย วิธีการพูดของมาร์คตอนพูดกับเธอนั้นไม่ได้น่ารักเท่าไหร่นัก เธอไม่คิดว่าเขาจะขอให้ไบรอันมาส่งอาหารเช้าให้เธอด้วย แต่ถ้าเขาไม่ได้สั่ง ไบรอันคงจะไม่กล้าทำด้วยตนเองเป็นแน่ เธอเดาไม่ออกว่ามาร์คกำลังคิดอะไรอยู่อากาศนั้นร้อนมากขึ้นทุกวัน และอายุอาหารก็ลดลงไปเรื่อย ๆ เธอคงทานคนเดียวไม่หมด คิดได้เช่นนั้นเธอจึงแจ้งไปว่า “ฉันเอาแค่นี้ ที่เหลือก็เอาไปแบ่งกันนะ ยังไงฉันก็คงทานไม่หมดแน่ ๆ”หญิงสาวหน้าแผนกต้อนรับทำตามที่เธอบอกอย่างดีอกดีใจและเก็บของดี ๆ ไว้ให้เอริกโดยเฉพาะ ตอนที่เอริกเห็นป้ายบนกล่องอาหารเขาก็กระเดาะลิ้น “สงสัยจะคืนดีกันแล้ว ดูนี่สิ ส่งอาหารมาถึงที่ออฟฟิศด้วย…”“คุณนาธานเนียล ว่าอะไรนะคะ?” สาวแพนกต้อนรับถามด้วยความงุนงงเอริกส่ายหัว “ไม่มีอะไร กลับไปทำงานได้”เมื่อทำงานเสร็จสำหรับวันนั้นแล้ว แอเรียนไม่ได้ให้ทิฟฟานี่มารับ เธอเลิกงานเร็วกว่าปกติ เวลาจึงไม่ตรงกัน เลยไม่อยากทำให้วุ่นวายเมื่อแอเรียนเปิดประตูเข้าห้องเธอ เธอก็รับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ปกติข้าวปั้นจะต
เขามองไปที่เธอด้วยความสนใจในขณะที่เธอกำลังอุ้มข้าวปั้น มาร์ครู้สึกได้ถึงความน้อยใจของตนเอง มันดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนเดียวที่แอเรียนทำตัวไร้หัวใจใส่ แม้ขนาดเจ้าแมวน้อยยังได้รับความรักมากกว่ามาร์คมากแอเรียนไม่ค่อยกล้าที่จะขึ้นรถไปกับมาร์คเพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนกลัวเชื้อโรคและเป็นห่วงว่าขนของเจ้าแมวน้อยจะไปร่วงในรถ “ความจริงแล้วคุณไม่ต้องรีบมาก็ได้... วันนี้การให้น้ำเกลือก็ได้เสร็จไปแล้ว มันก็แค่ ฉันให้ยามันเองที่บ้านคนเดียวไม่ได้... และพรุ่งนี้ก็ต้องมาให้น้ำเกลือใหม่อีกรอบด้วย”มาร์คกระโดดออกจากรถและเอากระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยงที่แอเรียนใส่ข้าวปั้นมาในตอนแรกและโยนมันเข้าไปในรถ “ฉันไม่มีเวลาให้กับเรื่องไร้สาระของเธอหรอกนะ ขึ้นรถมา”แอเรียนตกใจ เธอเป็นห่วงว่าหากข้าวปั้นอยู่ข้างในนั้นจะเป็นยังไงบ้างหลังจากที่เขาโยนกระเป๋าแมวแบบนั้น แต่เธอก็ไม่กล้าเถียง อากาศวันนี้ร้อนและแห้งมาก ทำให้คนอารมณ์เสียได้ง่าย คนอย่างเขาไม่แปลกหรอกที่จะมีอารมณ์ฉุนเฉียวพอกลับไปถึงที่พักมาร์คก็จัดการถอดเสื้อสูทของเขาและวางมันไว้บนโซฟาทันทีที่เขาเดินเข้าห้องพัก จากนั้นเขาก็จัดการพับแขนเสื้อตนเองขึ้น “มา”แอเรียนไ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง