คณบดีที่อยู่ข้างๆเขายิ้ม “คุณเทรมอนต์ คุณหมายถึง… วิล ซีวาน? คุณคงเคยได้ยินเรื่องของเขามาบ้างแล้ว หนึ่งในสามนายน้อยแห่งตระกูลซีวาน เขาเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 และพวกเขาทั้งสามคนก็ชอบอยู่ด้วยกันเสมอๆ”“ครั้งหน้า ผมไม่ต้องการที่จะเห็นหน้าเขาอีกในมหาวิทยาลัยเซาธ์ไลน์แห่งนี้ ไม่สิ ในแถบทั่วเมืองหลวงนี่ต่างหาก” มาร์ค เทรมอนต์ พูดอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมกับเดินกลับออกไปหลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเขาก็ชะงัก “ฉันจะสนับสนุนและซัพพอร์ตแอเรียน วินน์ อย่างเต็มที่ แต่ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน”คณบดีโค้งตัวและก้มหัวอย่างรวดเร็ว “แน่นอนครับ แน่นอนครับ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะครับ”…หลังเลิกเรียน แอเรียน วิน ลากร่างที่ดูเหมือนไร้วิญญาณของตัวเองและเข็นจักรยานไปที่ประตูของมหาวิทยาลัย และยืนรอ วิล ซีวาน เพื่อที่จะคืนผ้าพันคอให้กับเขา“แอริ เธอกำลังรอวิลอยู่หรอ? เขากลับบ้านไปตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว เขาบอกว่ามีเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวนิดหน่อย”ทิฟฟานี่ เลน เดินเข้าไปหาแอริและหยิบถุงเล็กๆออกมาจากกระเป๋าของเธอ “รับนี่ไปสิ ยาแก้หวัด เขาบอกให้ฉันมอบสิ่งนี้ให้กับเธอ ยาสำหรับเป็นไข้ก็อยู่ในนี้ด้วย อย่าลืมทานล่ะ
แขนทั้งสองข้างโอบเอวและดึงตัวเธอแนบเข้ามาที่ตัวเขาอย่างรุนแรง แอเรียนสัมผัสได้ถึงร่างที่เปียกปอนเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จมาใหม่ๆและกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำจากตัวของเขามือของเธอประคองเข้าที่อกของเขา พวกเขาใจเต้นรัวอย่างไม่รู้ตัว เขารีบปล่อยแขนที่โอบเอวเธออยู่อย่างปุบปับ“ออกไปซะ”ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เสียงของเขาแหบพร่าลงเล็กน้อย แอเรียนไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้ว่าเธอทำให้เขาไม่พอใจอีกแล้วหรือเปล่า เธอจึงเดินออกไปอย่างลนลานแบบนั้นเธอเดินกลับมาที่ห้องเก็บของพร้อมกับความรู้สึกเสียใจแล้วเธอก็ลืมถามเขาเรื่องวิล ซีวานไปซะสนิทเลย เมื่อเธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้แล้วเธอก็ไม่มีความกล้าที่จะไปเจอเขาอีก เข้าวันต่อมา แมรี่เข้ามาหาเธอที่ห้องเก็บของพร้อมกับน้ำเปล่าแก้วหนึ่ง“แอริ นี่ยาแก้หวัดนะจ้ะ”แอเรียน วินน์ ถึงกับงง แมรี่รู้ได้อย่างไรว่าเธอเป็นหวัดอยู่ แล้วที่สำคัญแมรี่นำยาแก้หวัดมาให้เธอได้อย่างไรทั้งๆแมรี่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากมาร์ค เทรมอนต์แมรี่นั่งลงบนขอบเตียงพร้อมด้วยรอยยิ้ม และจะคลายข้อสงสัยให้กับแอเรียน “ท่านไปทำธุระเรื่องธุรกิจน่ะ คงจะกลับมาในอีกประมาณหนึ่งเดือน และนี่ค
มันเป็นช่วงเวลานึงที่แอเรียนเห็นเงาของวิลจากด้านหลังของทิฟฟานี่ ทั้งสามคนรู้กันกันเป็นอย่างดี ทิฟฟานี่ เลน จึงทำเสียงเหมือนเขาได้อย่างน่าประทับใจและไร้ที่ติใจของแอเรียนเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว เธออ้าปากค้างและไม่รู้จะตอบอย่างไรทิฟฟานี่โบกมือพร้อมกับยิ้ม“เอาล่ะ ภารกิจของฉันเสร็จสิ้นแล้ว ไม่ว่าเธอจะตอบยังไง เธอควรบอกวิลด้วยตัวเอง กลับบ้านดีๆล่ะ พรุ่งนี้เจอกัน!”หลังจากนั้นทิฟฟานี่ก็เข้าไปในรถของเธอ แล้วทิ้งให้แอเรียนตกตะลึงกับคำพูดของทิฟฟานี่ซึ่งเธอได้ยินมันซ้ำไปซ้ำมาวนอยู่ในหัวของเธออยู่ชั่วขณะ เมื่อแอเรียนกลับถึงคฤหาสน์เทรมอนต์ ซึ่งมันก็ล่วงเลยเวลา 2 ทุ่มมาแล้ว เธอเปิดกล่องของขวัญอย่างระมัดระวัง ทิฟฟานี่ซื้อสร้อยคอให้กับเธอและวิลซื้อสร้อยข้อมือไม่กับเธอ ในกล่องของขวัญของวิลยังมีโน้ตซึ่งเขียนว่า ‘จับมือแล้วก้าวไปด้วยกันนะ’แอเรียนหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศ เธอเก็บของขวัญไว้ในกล่องกระดาษแข็งแล้วซ่อนมันเอาไว้ใต้เตียงของเธอ มาร์ค เทรมอนต์ ไม่เคยยินดีกับสิ่งต่างๆที่เธอได้รับ เธอจึงไม่กล้าที่จะใส่มันให้ใครเห็นทันใดนั้นเสียงขอแมรี่ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง“แอริ กลับมาแล้วหรอ? ให้ฉันทำอาหาร
ดวงตาของแอเรียนเบิกกว้างด้วยความประหม่า ถ้าหากเธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะมาล่ะก็ เขาดื่มเหล้าไปพอสมควร แค่จิบเล็กๆ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่สามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยมาจากร่างกายเขาจูบของมาร์ค เทรมอนต์ ควบคุมเเละกลืนกินลมหายใจของแอเรียนทีละนิดๆดุจดั่งนักล่า ในขณะที่เธอดิ้นรนขัดขืนเพื่อที่จะรับอากาศหายใจ เขาก็ผลักร่างเล็กของเธออกไป“อาหารเย็นหมดแล้วค่ะ” แอเรียนพูดทั้งร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกมาร์ค เทรมอนต์ ไม่เหมือนคนเดิมอีกต่อไป เมื่อเปรียบเทียบกับตอนที่เขาเมากับตอนที่เขาสุขุม เมื่อเขาดื่มเขาค่อยๆปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงออกมา ในตอนที่เขาสุขุมเขาก็ดูเหมือนสุภาพบุรุษทั่วๆไปหลายๆคนแอเรียนหวาดกลัวจนตัวสั่นและเธอก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี ในขณะที่ข้อความของ ซีวาน ฝากให้แก่ทิฟฟานี่ เลน วนลูปอยู่ในหัวของเธอหลายครั้ง ‘ผมชอบคุณ รอผมกลับมานะ คุณต้องรอผมนะ’มาร์ค เทรมอนต์ ผลักเธอลงบนเตียงอันนุ่มฟูที่อยู่ด้านหลังของเธอ“อีกแค่สองชั่วโมง จะเสียเวลากินมื้อค่ำไปทำไมกัน”เขาหันหน้าห่างออกจากแสงไฟไปในทางมืด แอเรียนไม่สามารถมองเห็นถึงสีหน้าท่าทางของเขาได้เลย เธอไม่กล้าที่จะมอง
แอเรียนจับดูที่คอพร้อมกับขมวดคิ้ว เธอจำได้ลางๆว่ามาร์ค เทรมอนต์ จูบเธอที่ตรงนั้น เขาต้องฝากรอยจูบไว้แน่ๆ แมรี่ดูมีความสุขซึ่งต่างจากแอเรียนที่ดูลุกลี้ลุกลน“แอริ ถ้าท่านชอบเธอจริงๆ เธอก็ควรอยู่กับเขานะ เธอจะมีขนมปังเนยที่เธอโปรดปรานไปตลอดชีวิตเลยนะ และเขาก็ดูดีมากเลย ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรที่เธอจะไม่พอใจ ยังไงเธอก็อยู่กับเขามาเป็นสิบปีแล้วนะ”แอริอายที่จะตอบโต้บทสนทนาเรื่องแบบนี้เธอจึงตัดบทว่า “แม่นมแมรี่ ฉันจะเข้าเรียนสายแล้ว บายค่ะ!”เธอวิ่งออกมาทางประตูเพื่อเอาชีวิตรอด ให้เป็นคู่ชีวิตของมาร์ค เทรมอนต์ เนี่ยนะ? เธอคงจะเบื่อตายแน่นอนเมื่อแอเรียนถึงมหาวิทยาลัย ทิฟฟานี่ เลน ก็วิ่งแจ้นเข้ามาเล่นผ้าพันคอของเธอ “ที่รัก รสนิยมของเธอช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ดูเหมือนกับยุค 70 เลยนะ แต่แอริก็ดูดีที่สุดเสมอ ถึงเธอจะใส่เครื่องแบบภารโรงเธอก็ยังดูสวยอยู่ดี โดยเฉพาะแววตาของเธอเมื่อมองพวกเขา… อะ! เธอนี่น่ารักน่าเอ็นดูสุดๆเลยแหละ...” แววตาของเธอ มาร์ค เทรมอนต์ ก็พูดแบบนี้เหมือนกันเมื่อคืน นึกถึงแล้วแอริก็สะดุ้งทันที“หยุดล้อเล่นได้แล้วน่า”ทันใดนั้นโทรศัพท์ของใครคนนึงก็ดังขึ้น ทั้งแอริและทิ
เมื่อพวกเขาส่งงาน ติวเตอร์หัวเราะเยาะเย้ยขณะที่มองไปที่ภาพวาดของเธอ“เธอวาดมาร์ค เทรมอนต์ เหรอ? ปกติเธอดูขรึมๆนะ แต่ตอนนี้เธอดูเหมือนผู้หญิงส่วนใหญ่ทั่วไป พวกเธอก็วาดมาร์ค เทรมอนต์ แต่ของเธอออกมาดีที่สุด เธอมีรูปของเขาหรอ? ดูหน่อยสิ”ติวเตอร์ที่อายุใกล้จะสามสิบที่ยังขึ้นคานอยู่ เธอหลงใหลมาร์ค เทรมอนต์ และยังพูดพล่ามถึงเขาให้นักเรียนฟังทุกวันแอเรียน วินน์ ส่ายหัวแล้วบอกว่า “หนูไม่มีรูปค่ะ…”ติวเตอร์คอตก“แต่เธอวาดเขาออกมาดีมากๆเลย? ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากจินตนาการของเธอเหรอ? เธอเคยพบเขาเป็นการส่วนตัวไหม? มีน้ำใจหน่อยสิ ให้ฉันดูรูปหน่อยนะ เอ่อ รูปวาดของเธอ… ดูเหมือนเขาจะกำลังนั่งอยู่บริเวณในบ้าน? ในอินเตอร์เน็ตไม่มีรูปแบบนี้นะ เธอไปได้รูปแบบนี้มาจากไหนเหรอ?”ทิฟฟานี่ เลน ไม่อดทนอีกต่อไป“ทำไมต้องเซ้าซี้ด้วยคะ? เธอบอกว่าเธอไม่มีรูปถ่ายก็คือไม่มี ฝีมือการวาดรูปของเธอน่ะ ออกมาดีเสมอ คุณไม่รู้จักนักเรียนของตัวเองเหรอคะ?”เมื่อเจอนักเรียนที่มาจากครอบครัวที่มีอำนาจอย่างทิฟฟานี่ต่อต้านเข้า ติวเตอร์คิดทบทวนก่อนจะทำอะไรออกไป “โอเค ก็ได้ๆ ฉันรู้ว่าแอริอยู่ในการดูแลของเธอ ฉันไม่เอารูปแล้วก็ได้
แอเรียน วินน์ รู้สึกเป็นกังวล เขาไม่ต้องเดินทางไปทำธุรกิจแล้วเหรอ? ทำไมจู่ๆเขาก็กลับมา? ความกลัวออกมาจากภายในใจเธอ เมื่อนึกย้อนกลับไป โชคดีแค่ไหนที่เธอไม่ได้ไปเล่นสเก็ตน้ำแข็งกับทิฟฟานี่ แต่ก็ยังโชคไม่ดีที่โซ่หลุด ตรงไปที่ห้องน้ำ แอเรียนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจตอนที่เธออาบน้ำ เพราะเธอรู้ว่าเขากำลังมองหาเธออยู่แน่นอนเธอสัมผัสได้ถึงเงาดำที่อยู่ตรงโซฟาด้วยหางตาของเธอในขณะที่เธอออกมาจากห้องน้ำและผ่านห้องนั่งเล่นมาเขาสวมใส่ชุดนอนสีเทาอ่อน ดูสบายๆมากกว่าชุดสูทเต็มยศที่เขาใส่เป็นปกติอีก เพราะมันทำให้เขาดูเย็นชาน้อยลง ยกเว้นสายตาของเขาที่ยังดูห่างเหินเมื่อมองดูแอเรียน “มานี่สิ”แอเรียนก้มหัวลงแล้วเดินไปยืนตรงๆข้างๆเขา“กลับมาแล้วหรอคะ?”“...หนาวไหม?” เขาอยากที่จะถามเธอว่าทำไมกลับมาช้า? แต่คำถามของเขากลายเป็นเพียงแค่คำเดียวเมื่อเขาเห็นมือที่แตกกร้านของเธอ แอเรียนตกตะลึงเล็กน้อย เธอไม่กล้าที่จะมองเขา “คือ...ฉันสบายดีค่ะ…”มาร์ค เทรมอนต์ หยิบถ้วยชาดำร้อนๆบนโต๊ะกาแฟแล้วส่งให้กับเธอโดยไม่ได้คิดอะไรมาก ท่าทีที่แสดงออกของเขานั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลย“ครั้งหน้า อย่ากลับบ้านช้าอีกนะ”แอเรียนยัง
แอเรียน วินน์ ตัวแข็งทื่อ“ฉันนอนที่ห้องเก็บของก็สบายดีอยู่แล้ว!”มาร์ค เทรมอนต์ เหลือบมองไปที่เธอด้วยสายตาอันเย็นชาและรังสีคลื่นแห่งความไม่พอใจ“ผมไม่ได้บอกว่าให้คุณนอนที่ห้องผม แมรี่จะจัดการเตรียมห้องรับแขกที่ถัดไปนี้ให้กับคุณ”สิ่งที่เธอคาดการณ์ผิดถูกเปิดเผยออกมา เธอจึงค่อนข้างอึดอัดใจหลังจากนั้นแม่บ้านก็เสิร์ฟมื้อค่ำให้กับพวกเขาที่ห้องอาหาร “ท่านคะ คุณหนูคะ ได้เวลามื้อค่ำแล้วค่ะ”มาร์ค เทรมอนนต์ ปิดหน้านิตยสารที่เขากำลังถืออยู่ในมือและยืนขึ้น“กินสิ”เขาชวนเธอทานอาหารด้วยกัน เธอจำไม่ได้เลยว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอได้ร่วมทานอาหารบนโต๊ะเดียวกันกับเขาแอเรียนก้มหน้าก้มตากินอย่างเงียบๆ เธอเพียงตักอาหารที่อยู่ใกล้ๆตัวเธอมากที่สุด มาร์ค เทรมอนต์ ทานอย่างช้าๆและไม่ส่งเสียงเช่นกัน ท่าทางของพวกเขาตอกย้ำอยู่ในความเงียบในห้องอาหารที่ใหญ่มโหฬารนี้พ่อบ้านเฮนรี่ที่ยืนอยู่ข้างๆถอนหายใจพร้อมกับยกจานอาหารขึ้นมาและตักอาหารให้กับเธอ “อย่ากินแต่ผักสิครับ วัยกำลังโตนะ”“ขอบคุณค่ะ” แอเรียนตอบอย่างนุ่มนวล ในขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอาหาร แอเรียนทานเท่าที่พ่อบ้านเฮนรี่นั้นให้กับเธอ เธอไม่เ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง