พ่อของเอริกตีไม้เท้าอย่างแรง “นี่เธอสอนฉันเรื่องเลี้ยงลูกหรอ? เอริก แกไม่ควรพาเพื่อนที่ไม่น่าไว้ใจเข้ามาในบริษัท แกไม่มีวันบริหารมันได้อยู่ดี ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันให้เวลาแกหนึ่งอาทิตย์เพื่อให้ส่งต่อ ไกลด์ ดีไซน์ ให้กับพี่ของแก!”เอริกกำหมัด “ด้วยเหตุผลอะไร?”“เพราะว่าฉันเป็นพ่อแกไง! ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรก็ต้องเป็นเช่นนั้น ทำตามที่ฉันบอกซะ ถ้าแกไม่พอใจ แกก็ออกจากครอบครัวนาธาเนียลไปเลย!” คุณพ่อนาธาเนียลโกรธมากจนใบหน้าที่ซีดเซียวของเขากล้ายเป็นสีแดงอยู่ ๆ แอเรียนก็นึกถึงเฮเลน ต่อให้เฮเลนจะไม่ได้แสดงออกในที่สาธารณะแต่เธอเองที่เป็นคนเลือกที่จะทิ้งแอเรียนไปหาณองและแอรี่ แอรี่มีความสุขกับทุกอย่างที่แอเรียนไม่เคยได้รับ แอเรียนเกลียดผู้ปกครองแบบนี้ หัวใจของเธอลุกโชนด้วยความโกรธขณะที่เธอพูดว่า “ท่านนาธาเนียล ท่านกำลังพูดว่าสามีดิฉัน มาร์ค เทรมอนต์ ไม่น่าไว้ใจอย่างนั้นรึ? ครอบครัวนาธาเนียลคงมาตรฐานสูงสินะ พวกเราเทรมอนต์คงไม่มีค่าสำหรับท่าน ขนาดลูกชายของท่านยังไร้ค่าสำหรับท่านเลย ดิฉันจะไม่ยุ่งกับปัญหาครอบครัวของท่านและหวังว่าท่านจะไม่ผิดหวังทีหลัง!”แอเรียนมั่นใจว่าไม่มีใครบนโลกนี้ที่กล้าอ้างว่าม
เอริกหัวเราะ “ตกลง ต่อจากนี้ไปผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวนาธาเนียลอีก ผมได้ยินมาว่าพี่คนโตกำลังพยายามที่จะชวนมาร์คให้ไปทำงานกับเขา คุณรู้ไหมว่ามาร์คปฏิเสธไป? ไหน ๆ ภรรยาของมาร์คก็อยู่ที่นี้แล้ว ถ้าเช่นนั้น ผมจะบอกให้พ่อรู้ไว้ว่า พวกคุณไม่มีวันได้ร่วมงานกับ มาร์ค เทรมอนต์ หรอก ตราบใดที่ผมยังอยู่มันจะไม่มีวันนั้น! กำไรอาจเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับมาร์คแต่ไม่ได้สำคัญกว่าเพื่อนแน่นอน! ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็เชิญลองดูได้เลย!”คุณนาธาเนียลจ้องมองไปที่เอริคก่อนที่จะจ้องไปที่แอเรียน ไม่มีใครบอกได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ในที่สุดเขาก็จากไปอย่างเงียบ ๆ แอเรียนถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอรู้สึกกลัวจริง ๆ เธอไม่เพียงแต่กลัวว่าคุณนาธาเนียลจะทุบตีเอริกเท่านั้น แต่เธอกลัวว่าเขาจะทุบตีเธอด้วยเช่นกัน นั่นคือเหตุผลที่เธอพูดถึงมาร์คในตอนแรก ดูเหมือนว่าชื่อของมาร์คจะมีประสิทธิภาพมาก ยิ่งกว่านั้นคุณนาธาเนียลดูเหมือนจะไม่รู้ว่าเอริกเป็นเพื่อนที่ดีของมาร์ค ในทางหนึ่งเธอก็ยืนหยัดเพื่อเอริกด้วยเช่นกันหลังจากคุณนาธาเนียลจากไปเอริกก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้และคลายเน็คไท “ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรเลย ชายชราคนนั้นอนุญาตให้ผมน
ณ บ้านของครอบครัวนาธาเนียลคุณนาธาเนียลเรียกครอบครัวประชุมทันทีที่เขากลับไปถึงบ้าน แน่นอน เอริกไม่ได้ถูกเชิญเหมือนเดิมเป็นธรรมดาที่ทุกคนที่ต้องการผลประโยชน์จากคุณนาธาเนียลจะต้องคอยเลียแค้งเลียขาเขาก่อนที่เขาจะเสียลูกชายคนโตและคนที่สองมาถึงแล้ว สองพี่น้องต่างพาครอบครัวของตนเองมาร่วมด้วย เหลือเพียงแต่ลูกสาวของคุณนาธาเนียลที่ไม่ได้เข้าร่วมเนื่องจากว่าเธอแต่งงานและได้ย้ายออกจากบ้านแล้ว“คุณพ่อเรียกพวกเรามากระทันหันเช่นนี้มีเรื่องอะไรหรอครับ?” ลูกชายคนที่สองของเขาแอบไม่พอใจเพราะว่าการประชุมไปขัดความสุขของเขา อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้แสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจนั้นคุณนาธาเนียลตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “ฉันคาดไม่ถึงว่าเอริกจะร่วมงานกับมาร์ค เทรมอนต์ นอกจากนี้พวกเขายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอีก ภรรยาของมาร์คยังเป็นนักออกแบบในบริษัทอีกด้วย ฉันวางแผนผิดในครั้งนี้ ฉันไม่รู้ว่าเขาพยายามจะหลอกล่อเราหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงเราลืมเรื่องร่วมงานกับมาร์คไปได้เลย”ลูกชายคนที่สองของคุณนาธาเนียลไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด เมื่อเรื่องมันยุ่งยาก เขาจะผลักความรับผิดชอบออกไป “เป็นความผิดของคุณพ่อที่ไม่รู้ตัวเร
ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เธอพูด ภรรยาของลูกชายคนโตทนไม่ได้กับวิธีการที่น่ารังเกียจของน้องสะใภ้และพูดอย่างเหยียดหยามว่า “อย่าลากเรื่องที่ไม่น่ารู้ของคุณมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ แบบนั้นเกรงว่าเราจะจบลงด้วยการถังแตกเพราะความโง่เขลา"ภรรยาของลูกชายคนที่สองจ้องมองเธอ “คุณกำลังพูดอะไร? เรื่องที่ไม่น่ารู้คืออะไร? ฉันกำลังแนะนำให้เราโน้มน้าวให้ภรรยาของมาร์คหักหลังเอริก ตอนนั้นเอริกจะต้องตัดสัมพันธ์กับมาร์คแน่นอน หากเอริกมีปัญหากับภรรยาของมาร์ค มาร์คจะต้องมีปัญหากับเขาเช่นกัน ในเวลานั้นเราสามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้และพยายามล่อให้มาร์คมาอยู่ข้างเรา ฉันแน่ใจว่ามาร์คจะต้องไม่ติดที่จะร่วมงานกับเราเพื่อแก้แค้นเอริก!”ดวงตาของลูกชายคนโตโตขึ้น “คุณพ่อ ผมคิดว่านั่นเป็นความคิดที่ไม่เลว ลิลลี่ยังคงอยู่ใน ไกลด์ ผมจะคุยกับเธอ เราจะเริ่มแผนอย่างนี้ ภรรยาของมาร์คอาจไม่ทรยศต่อเอริก แต่ลิลลี่สามารถทำแทนเธอได้ คุณพ่อคิดอย่างไร?"คุณนาธาเนียลพยักหน้าอย่างหนักหลังจากที่คิดไตร่ตรอง “นั่นเป็นวิธีเดียวในตอนนี้ ฉันจะให้แกเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ฉันจะกังวลน้อยลงถ้าแกเป็นผู้รับผิดชอบ”ลูกชายคนรองรู้สึกรำคาญ “ทำไมเขาถึงได้
ในตอนนี้เองที่ทำให้เธอรู้สึกว่ามาร์คได้กลายเป็นคนสำคัญกับเธอเหมือนคนในครอบครัวไปแล้ว เมื่อใดก็ตามที่เขาอยู่รอบ ๆ คฤหาสน์ เทรมอนต์ ก็จะมีชีวิตชีวาขึ้น เธอไม่ชอบกลับบ้านไปยังบ้านที่ไร้ชีวิตชีวา สิ่งนี้ทำให้วันที่เหนื่อยล้าของเธอเหนื่อยล้ามากยิ่งขึ้นข้าวปั้นตะปบเข้ามาในอ้อมแขนของเธอ เธอยิ้มแล้วอุ้มมันขึ้นไปชั้นบน “ฉันจะไปอาบน้ำและนอน ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก ฉันขอโทษที่ไม่ได้ดูแลเธอเลย”ข้าวปั้นตอบเธออย่างเห็นอกเห็นใจด้วยเสียงคร่ำครวญที่น่าสงสารเมื่อเธอออกมาจากห้องน้ำข้าวปั้นก็หลับไปบนผ้าห่มที่มุมเตียงเรียบร้อย เธอไม่อยากปลุกมันขึ้นมาเธอจึงปล่อยให้มันนอนตรงนั้น เธอค่อย ๆ ย่องเข้าไปในผ้าห่มและหลับไปหลังจากเวลาผ่านไปสักครู่เธอก็ตื่นจากความฝันด้วยเสียงร้องโหยหวนของข้าวปั้น เธอเปิดไฟด้วยความตื่นตระหนก ทั้งมาร์คและข้าวปั้นรู้สึกตกใจกับเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัดข้าวปั้นย่อตัวลงที่ปลายเตียงพร้อมกับเบิกตากว้างอย่างน่าเอนดูมาร์คยืนพิงประตูห้องนอนโดยไม่ขยับ ใครจะรู้ว่าวันนี้เขาประสบพบเจออะไรมาบ้าง? เขากลับมาหลังจากทำงานมาทั้งวัน หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จเขาก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้นอนหลับอย่างสบา
แอเรียนรีบกลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อหาเอกสารของเธอ แต่แม้จะพยายามอย่างไร ก็ไม่เจออยู่ดี! เธอกลับไปที่ห้องทำงานของเอริกด้วยใบหน้าซีดเซียว “ไม่… เอกสารของฉันหายไป ลูกค้าจะขัดแย้งกันได้อย่างไร? มีการเซ็นสัญญาอย่างชัดเจน นี่มันมากเกินไป!”เอริกลดเสียงลงขณะที่เขากล่าวว่า “เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันของผม นอกเหนือจากความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับครอบครัวนาธาเนียล ไกลด์ เป็นเพียงบริษัทขนาดกลาง ดังนั้นผมจึงไม่สามารถให้ผลกำไรเขามากนัก เราไม่สามารถให้คู่แข่งของเราทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ หากมีข่าวนี้ออกไปคู่แข่งของผมจะถลาลงและให้ผลกำไรที่สูงขึ้นแก่ลูกค้าของเรา ในเวลานั้นการยกเลิกสัญญาเช่นนี้จะเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่าผมจ่ายไม่ได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องควักเงินส่วนนั้น คุณเข้าใจใช่ไหม?"แอเรียนรู้สึกกังวลเล็กน้อย “ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเป็นนักออกแบบ ฉันไม่ควรยอมรับบทบาทที่สำคัญเช่นนั้นตั้งแต่แรก ตอนนี้พอมีบางอย่างเกิดขึ้นฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ฉันน่าจะเก็บเอกสารไว้ในลิ้นชักอย่างเรียบร้อย ฉันไม่รู้ว่ามันหายไปได้อย่างไร! ตอนนี้ฉันควรทำอะไรดี?"สภาพเอริกดูแย่มากจากความกังวล
แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ “ขอบคุณ ฉันเข้าใจ ฉันไม่ได้สูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวไป ฉันทำบางอย่างที่เป็นความลับของบริษัทหายน่ะ”เพื่อนข้างโต๊ะของเธอถอนหายใจ ใบหน้าแสดงออกให้เห็นถึงความกลัวขณะที่เธอพูดว่า “ฉันไม่เกี่ยว!”แอเรียนไม่ตอบกลับ เธอไม่อยากสงสัยลิลลี่ แต่เวลามันบังเอิญเกินไป เอริกเชื่อว่าตอนนี้ลิลลี่ทำงานให้เขา เขาจะต้องผิดหวังมากหากพบว่าลิลลี่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้แอเรียนลุกขึ้นและเรียกลิลลี่ไปหาที่ครัวลิลี่พูดอย่างไม่อดทน “มีอะไรหรอ? ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน ถ้าเธอมีอะไรจะพูดที่ไม่เกี่ยวกับงานให้ทำนอกเวลาทำงาน”แอเรียนรีบตรงไปที่ประเด็น “ฉันรู้ว่าเธอขโมยเอกสารฉันไป เธอเคยทำงานให้กับพวกนาธาเนียล ดังนั้นฉันจึงเชื่อว่าเธอมอบมันให้พวกเขา ทำไมเธอถึงทำแบบนี้?"สีหน้าของลิลลี่ทรุดลง “มันเป็นความผิดพลาดของเธอ ทำไมเธอถึงโยนความผิดให้กับฉัน? ฉันจะไม่รับผิดในความผิดพลาดของคนอื่น สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน”แอเรียนหรี่ตาลง “เธอรู้ได้อย่างไรว่ามันเกี่ยวกับอะไร? เอริกให้เธอเรียกฉันไปที่ห้องทำงานของเขา เขาบอกว่าไม่ได้เปิดเผยอะไรกับเธอ เขาและฉันเป็นคนเดียวในบริษัทที่รู้เรื่องนี้ เธอยังจะเล่นลิ้นกั
ลิลี่ชำเลืองมองไปที่แอเรียน ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนี้ “คุณเจอความจริงได้ง่ายเพราะฉันไม่ได้ทำอย่างละเอียดรอบคอบ” เธอมองไปที่เอริก “ฉันไม่ได้อยากทำแบบนี้เหมือนกัน แต่พี่ชายคนโตของคุณขอให้ฉันทำ ฉันถามเขาแล้วว่าทำไม แต่เขาก็ไม่บอกเหตุผลกับฉัน มันไม่ง่ายที่จะอยู่ในเมืองหลวง พวกนาธาเนียลให้โอกาสกับฉันมากมาย ครอบครัวของฉันค่อนข้างลำบาก และฉันไม่ต้องการเสียงานของฉันไป แม่ของฉันจะต้องฆ่าฉันแน่ ๆ ถ้าเราหาเงินไม่ได้ พี่ชายของคุณต้องการแค่การตอบรับและฉันก็ไป ฉันไม่มีทางเลือก...”ความผิดหวังที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของเอริกนั้นฉายแววชัดเจน “นี่คุณคิดว่าผมเป็นสุนัขจรจัดอยู่หรือเปล่าที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้และไม่สามารถดูแลคุณได้? คุณคิดว่าผมไว้ใจไม่ได้ใช่ไหม? ไม่เป็นไร นั่นไม่เป็นไรเลย ผมตั้งใจว่าจะพาคุณไปกับผมด้วยเมื่อผมเริ่มก่อตั้งบริษัทของตัวเองหลังจากที่ออกจากไกลด์แล้ว อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนกับว่าเป้าหมายของเรามันไม่สอดคล้องกัน กลับไปที่สำนักงานใหญ่เดี๋ยวนี้ ผมไม่ต้องการคุณที่นี่”ลิลี่คอตกขณะที่เธอหันกลับไป เธอเดินไปได้สองก้าวก่อนจะชะงัก “ฉันขอโทษคุณนาธาเนียล... สำหรับการที่ทำให้ค
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง