เฮนรี่ขวมดคิ้วเป็นการตอบรับก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูดกับมาร์คไม่กี่คำก่อนที่จะวางสาย แอเรียนนั่งลงที่โต๊ะแล้วทานข้าวต้มด้วยอาการหัวร้อน “เขาพูดว่าอะไรคะ ลุงเฮนรี่?”“นายท่านพูดว่า ‘ติดไว้ก่อนนะ’...” เฮนรี่ตอบด้วยสีหน้าที่จริงจัง“ได้… หนูจะคอยดู เดี๋ยวก็รู้ ว่าใครกันแน่ที่ขี้ขลาด” แอเรียนพูดด้วยความรู้สึกผิดพร้อมกับการทานข้าวต้มต่อไปหลังจากที่เธอเลิกงานตอนเย็นเธอก็ได้ไปพบทิฟฟานี่และกำลังพากันไปที่บ้านพักพักฟื้นอีกครั้ง พวกเธอเพิ่งจะไปถึงหน้าห้องพักของจอร์จตอนที่พวกเธอเห็นผู้หญิงแก่คนหนึ่งกำลังทำความสะอาดอยู่ ประตูห้องถูกเปิดไว้ ข้างในไม่มีใครเลย“ขอโทษนะคะ คุณจอร์จ ลีไวน์ คนไข้ห้องนี้ไปไหนหรอคะ?” ทิฟฟานี่ถามอย่างรวดเร็วผู้หญิงคนนั้นหยุดการกระทำของเธอและจ้องมาที่พวกเขา “ไปแล้ว ญาติของเขามารับกลับไปตั้งแต่เช้าแล้ว”แอเรียนรู้สึกว่าราวกับโดนฟ้าผ่าทั้ง ๆ ที่ฟ้าสดใส “ไปแล้ว? ไปไหน?”ผู้หญิงคนนั้นส่ายหน้า “ฉันไม่แน่ใจ แต่ฉันได้ยินมาว่าเขาไม่ได้ย้ายไปโรงพยาบาลอื่นนะ เขาแค่เขียนใบออก จอร์จ ลีไวน์ อยู่ที่นี่มาสามปีแล้ว เขาเป็นมะเร็ง ตอนที่เขามาถึงหมอบอกว่าโอกาสที่เขาจะหายนั้นสูงถ้า
แน่นอนว่าพอสามารถเรียกราคาได้ไม่อั้นนักสืบก็ตื่นตัวทันทีทิฟฟานี่นำมือมาลูบแก้มแอเรียนหลังจากที่เธอวางสาย “อย่าหัวเสียไปเลยแอริ ทุกอย่างจะดีขึ้น นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราผิดหวัง อย่างไรเราก็ต้องหาจอร์จให้เจอตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ ถ้าเรารู้ตั้งแต่แรกว่าเค้าคือคุณสโลน เราคงจะสอบถามเขาและไม่ปล่อยให้เขาหลุดมือไปแน่ ๆ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย ชีวิตเธอตอนแรกก็มีความสุขดีอยู่แล้ว แล้วอยู่ ๆ เขาก็ตัดสินใจมาบอกเธอว่าพ่อเธอถูกใส่ร้าย พอเธอจะมาหาเขาเขาก็ดันมาเล่นเกมส์ซ่อนแอบ เขาคงคิดว่าตัวเองไม่ต้องกังวลอะไรเพราะกำลังจะตาย ทำไมคนที่อยู่จึงต้องเป็นคนที่ทรมาน?”แอเรียนยิ้มท่ามกลางลมหนาว “ฉันจะหาเขาจนเจอ เขาทำงานให้กับครอบครัวเทรมอนต์มานานและฉันก็สามารถรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับเขามาจนได้ ตราบใดที่เขายังไม่ตายฉันจะหาเขาให้เจอ”อยู่ ๆ โทรศัพท์ของทิฟฟานี่ก็ดังขึ้น เธอบ่นก่อนที่จะดูด้วยซ้ำว่าใครโทรมา “พระเจ้าช่วย น่ารำคาญชะมัด ฉันบอกแม่แล้วว่าให้สั่งอาหารเอา ฉันให้เงินเธอแล้วด้วยซ้ำ แล้วยังจะโทรมาทำไม…” แต่พอเธอมองไปที่จอและเห็นว่าแม่เธอไม่ได้เป็นคนโทรมา เธอจึงตัดประโยคตัวเองก่อนจบและมีสีหน้าที่อึ้ง “นี่ไม
เมื่อพวกเธอไปถึงที่ ไวท์ วอเอตร์ส เบย์ คาเฟ่ พนักงานเดินมาบอกกับพวกเธอว่าที่นั่งถูกจองไว้หมดแล้ว ทิฟฟานี่อารมณ์ฉุนเฉียวทันที “ฉันเตรียมพร้อมมาเพื่อทานอาหารอย่างเต็มที่ แล้วคุณก็มาบอกฉันว่าที่นั่งถูกจองไว้หมดแล้วอย่างงั้นหรอ? เจ้าของร้านคิดอะไรของเขาอยู่? ธุรกิจกำลังไปได้ดีแต่เขากลับไม่เปิดสาขาที่สองสักที? ช่างไม่มีเซนส์ในเรื่องธุรกิจเสียเลย สงสัยคงจะไม่ค่อยมีฐานะ เขาจะต้องจมปลักไปตลอดชีวิต!”แอเรียนไม่ได้โต้ตอบอะไร เธออยากจะบอกทิฟฟานี่ว่าร้านนี้เป็นของแจ็คสัน แต่เธอคิดว่าไม่บอกจะดีกว่า...“ช่างมันเถอะ ไปกินที่อื่นแถวนี้ดีกว่า หลังจากนั้นค่อยไปช็อปปิ้งกัน ปล่อยให้มาร์ครอที่บ้านนั่นแหละ” ทิฟฟานี่ลังเลที่จะจากไปแบบนั้น เธอชอบอาหารที่ ไวท์ วอเตอร์ส เบย์ คาเฟ่ มาก พอเธอได้ทานอาหารที่บ้านแจ็คสันจึงทำให้เธอคิดถึงอาหารที่นี่และอยากจะกลับมาทานอีก จนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังคงสงสัยว่าทำไมแจ็คสันถึงได้ทำอาหารออกมาได้รสชาติเดียวกันกับอาหารที่ ไวท์ วอเตอร์ส เบย์ คาเฟ่ เลยแอเรียนมองไปที่ทิฟฟานี่จึงไม่อาจทำให้เธอผิดหวังได้เธอกวาดสายตาไปรอบ ๆ และมองไปที่ที่นั่งใกล้หน้าต่าง ชายวัยกลางคนคนนึงนั่งอยู่ที
มาร์คได้ยินพวกเธอจึงหันมาตามเสียงทันที สำหรับแอเรียนความตายยังสวยกว่าสิ่งนี้ “มาร์คมา!”ทิฟฟานี่ตระหนักถึงความเสียงดังของเธอจึงก้มหน้าลงเงียบ มาร์คเดินมาที่โต๊ะและยิ้มให้อย่างฝืนใจ “พวกเธอช่างมีเวลาที่สนุกจริง ๆ ให้ผมขอแจ็คสันให้ทำอาหารให้พวกเธอเองเลยไหม?”พอได้ยินเช่นนั้นแอเรียนก็หูตั้งและตอบอย่างงงงวย “ไม่จำเป็น ฉันนึกว่าคุณจะกลับมามะรืนนี้?”เขานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามเธอ “มันก็ควรจะเป็นเช่นนั้น แต่การกระทำของเธอทำให้ฉันไม่มีกระจิตกระใจทำงาน ฉันเลยต้องรีบกลับ ทีนี้เธอบอกฉันได้ยังว่าเธอโกรธอะไรฉัน?”ทิฟฟานี่ยิบโทรศัพท์เธอขึ้นมาโชว์รูปที่เธอแคปไว้ให้เขาดู “ดู ดูตัวเองสิ!”แววตาของมาร์คเศร้าลงเมื่อเขาเห็นสิ่งที่แอรี่โพสต์บนโซเชียล “เราแค่เจอกันโดยบังเอิญ เธอเป็นคนถ่ายรูปนั้น ฉันไม่ทันได้ยินยอมหรือปฏิเสธด้วยซ้ำ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเอารูปไปโพสต์ลงให้คนอื่นเห็น อีกอย่าง ฉันไม่ได้ทานข้าวกับเธอด้วย นั้นแหละคำอธิบายของฉัน”“นี่คุณกำลังคิดจะหลอกใคร?” ทิฟฟานี่ถามด้วยท่าทางงง ๆ “คุณกล้าโทรหาแอรี่เพื่อให้เธอยืนยันเรื่องนี้ไหม?”แอเรียนกลัวว่าทิฟฟานี่จะก่อเรื่องจึงสกิดแขนเสื้อเธอใต้โต๊ะ ม
คราวนี้แอเรียนไม่อาจกลั้นขำได้ “โอเค โอเค คราวหน้าถ้าอยากทานอะไรก็มาบอกฉันนะ เดี๋ยวฉันพาไป ตอนนี้ฉันต้องกลับบ้านก่อน ถ้าฉันกลับบ้านดึกเกินไปมาร์คบ่นฉันไม่หยุดแน่”ทิฟฟานี่เห็นแท็กซี่ขับมาทางพวกเธอพอดีเธอจึงกวักมือเรียกมัน “ไปสิ เธอไปก่อนเลย”…ณ ไวท์ วอเตอร์ส เบย์ วิลล่ามาร์คกลับมาสูบบุหรี่เพราะความเครียด เขาสูบมวลต่อมวลราวกับว่าจะไม่หยุดสูบมันอีกแจ็คสันอดไม่ได้ที่จะต้องเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ “โอเค เกิดอะไรขึ้น?” มาร์คดึงเอกสารออกมาจากกระเป๋า “ดูนี้สิ มีคนกำลังใส่ร้ายฉัน”แจ็คสันจุดบุหรี่ระหว่างที่เลื่อนดูเอกสาร “เ*ย!” เขาอุทาน ไม่สามารถอดพูดหยาบได้ “ใครมันช่างกล้าจัง เป้าหมายเขาชัดเจนมาก ก็คือนาย เขาสามารถโน้มน้าวหุ้นส่วนทางไกลของนายได้ภายในเวลาเพียงสองเดือนสั้น ๆ ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมากที่สามารถชักชวนลูกค้าของนายให้ทิ้งนายและเลือกเขาได้ เขาเป็นใครวะ?”มาร์คส่ายหน้า “ฉันเช็คแล้ว บริษัทคู่แข่งเป็นบริษัทต่างชาติ เจ้าของเป็นต่างชาติ แต่มันก็ชัดเจนว่าชื่อบริษัทแค่เป็นชื่อแอบอ้าง ฉันไม่อาจสืบได้ว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง หลายปีที่ผ่านมีหลายคู่แข่งพยายามที่จะชนะฉัน แต่ไม่เค
วันต่อมามาร์คหายไปตั้งแต่เช้าตรู่ แอเรียนรู้สึกกระสับกระส่ายเพราะเรื่อง จอร์จ ลีไวน์ พอเธอลงมาด้านล่างแมรี่ก็เดินเข้ามาบ่น “แอริ เธอทะเลาะกับนายท่านอีกแล้วหรอ? นายท่านเพิ่งกลับมาจากทริปธุรกิจเหนื่อย ๆ เมื่อคืนและเมื่อเช้าท่านก็ดูไม่พอใจ เธอเองก็ดูบึ้งตึงเช่นกันนะ”แอเรียนส่ายหน้า “หนูไม่ได้หาเรื่องเขานะ หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นอะไร หนูอารมณ์ไม่ดีแต่มันไม่ได้เกี่ยวกับเขา ไม่ต้องห่วงนะแมรี่ ช่วงหลัง ๆ หนูยุ่งมาก หนูต้องทำงานล่วงเวลาสักสองสามวันนะเพราะว่าหลัง ๆ หนูไม่ได้ทำงานล่วงเวลาเลย หนูรบกวนดูข้าวปั้นให้หนูด้วยนะ”แมรี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ฉันดีใจที่คุณไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ต้องกังวล ข้าวปั้นกินดีกว่าฉันอีก ฉันให้มันลองของอร่อยทุกอย่างในบ้านที่มันชอบ ตอนนี้อ้วนไปหมดแล้วและท้องของมันก็แทบจะกวาดพื้นตอนที่มันเดิน”แอเรียนไว้วางใจแมรี่ในการดูแลข้าวปั้นโดยสินเชิง เธอรีบตรงไปที่บริษัทของเธอหลังจากที่ทานอาหารเช้า อย่างไรก็ตามเมื่อเธอมาถึงเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทุกคนดูไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พวกเขาจะมองไปที่หน้าบริษัทเป็นครั้งคราว เธอรู้สึกสงสัยจึงถามคนข้าง ๆ ว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
พ่อของเอริกตีไม้เท้าอย่างแรง “นี่เธอสอนฉันเรื่องเลี้ยงลูกหรอ? เอริก แกไม่ควรพาเพื่อนที่ไม่น่าไว้ใจเข้ามาในบริษัท แกไม่มีวันบริหารมันได้อยู่ดี ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันให้เวลาแกหนึ่งอาทิตย์เพื่อให้ส่งต่อ ไกลด์ ดีไซน์ ให้กับพี่ของแก!”เอริกกำหมัด “ด้วยเหตุผลอะไร?”“เพราะว่าฉันเป็นพ่อแกไง! ไม่ว่าฉันจะพูดอะไรก็ต้องเป็นเช่นนั้น ทำตามที่ฉันบอกซะ ถ้าแกไม่พอใจ แกก็ออกจากครอบครัวนาธาเนียลไปเลย!” คุณพ่อนาธาเนียลโกรธมากจนใบหน้าที่ซีดเซียวของเขากล้ายเป็นสีแดงอยู่ ๆ แอเรียนก็นึกถึงเฮเลน ต่อให้เฮเลนจะไม่ได้แสดงออกในที่สาธารณะแต่เธอเองที่เป็นคนเลือกที่จะทิ้งแอเรียนไปหาณองและแอรี่ แอรี่มีความสุขกับทุกอย่างที่แอเรียนไม่เคยได้รับ แอเรียนเกลียดผู้ปกครองแบบนี้ หัวใจของเธอลุกโชนด้วยความโกรธขณะที่เธอพูดว่า “ท่านนาธาเนียล ท่านกำลังพูดว่าสามีดิฉัน มาร์ค เทรมอนต์ ไม่น่าไว้ใจอย่างนั้นรึ? ครอบครัวนาธาเนียลคงมาตรฐานสูงสินะ พวกเราเทรมอนต์คงไม่มีค่าสำหรับท่าน ขนาดลูกชายของท่านยังไร้ค่าสำหรับท่านเลย ดิฉันจะไม่ยุ่งกับปัญหาครอบครัวของท่านและหวังว่าท่านจะไม่ผิดหวังทีหลัง!”แอเรียนมั่นใจว่าไม่มีใครบนโลกนี้ที่กล้าอ้างว่าม
เอริกหัวเราะ “ตกลง ต่อจากนี้ไปผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวนาธาเนียลอีก ผมได้ยินมาว่าพี่คนโตกำลังพยายามที่จะชวนมาร์คให้ไปทำงานกับเขา คุณรู้ไหมว่ามาร์คปฏิเสธไป? ไหน ๆ ภรรยาของมาร์คก็อยู่ที่นี้แล้ว ถ้าเช่นนั้น ผมจะบอกให้พ่อรู้ไว้ว่า พวกคุณไม่มีวันได้ร่วมงานกับ มาร์ค เทรมอนต์ หรอก ตราบใดที่ผมยังอยู่มันจะไม่มีวันนั้น! กำไรอาจเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับมาร์คแต่ไม่ได้สำคัญกว่าเพื่อนแน่นอน! ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็เชิญลองดูได้เลย!”คุณนาธาเนียลจ้องมองไปที่เอริคก่อนที่จะจ้องไปที่แอเรียน ไม่มีใครบอกได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ในที่สุดเขาก็จากไปอย่างเงียบ ๆ แอเรียนถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอรู้สึกกลัวจริง ๆ เธอไม่เพียงแต่กลัวว่าคุณนาธาเนียลจะทุบตีเอริกเท่านั้น แต่เธอกลัวว่าเขาจะทุบตีเธอด้วยเช่นกัน นั่นคือเหตุผลที่เธอพูดถึงมาร์คในตอนแรก ดูเหมือนว่าชื่อของมาร์คจะมีประสิทธิภาพมาก ยิ่งกว่านั้นคุณนาธาเนียลดูเหมือนจะไม่รู้ว่าเอริกเป็นเพื่อนที่ดีของมาร์ค ในทางหนึ่งเธอก็ยืนหยัดเพื่อเอริกด้วยเช่นกันหลังจากคุณนาธาเนียลจากไปเอริกก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้และคลายเน็คไท “ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรเลย ชายชราคนนั้นอนุญาตให้ผมน
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง