แอเรียนอ้าปากค้างจากความเจ็บปวด ในขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้น รองเท้าหนังสั่งทำคุณภาพสูงคู่หนึ่งก็ปรากฏต่อหน้าเธอ เสียงที่ไม่แยแสของมาร์ค เทรมอนต์ ดังมาจากเหนือหัวของเธอ“คุณมีเวลาสองนาที”แอเรียนมองขึ้นไปในดวงตากลมลึกของเขาและถามอย่างระมัดระวัง “คุณ… ปล่อยพวกเขาไปได้ไหม?”เธอไม่ได้รู้สึกความผิดหวังที่เกิดขึ้นในดวงตาของเขา สิ่งที่เขาอยากจะได้ยินไม่ใช่สิ่งนี้“คุณกำลังทำให้ผมเสียเวลา ถ้านั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องพูดหลังจากที่ไล่ตามรถของฉันอย่างบุ่มบ่าม”มาร์ค เทรมอนต์ เดินกลับไปที่รถโดยอย่างไม่เหลียวแลหลังจากพูด การกระแทกประตูรถอย่างแรงของเขาทำให้ไบรอันตกใจ“ยกเลิกตั๋วขากลับของฉันในสัปดาห์หน้า ฉันจะดูแลสาขาในต่างประเทศด้วยตัวเอง”ไบรอัน เพียซ ลังเล“ท่านครับ… ท่านจะกลับมาไม่ได้อีกอย่างน้อยสามปี… แน่ใจเหรอครับต้องการยกเลิก?”“ทำตามที่ฉันพูด!” ริมฝีปากของมมาร์ค เทรมอนต์ ถูกกดทับกันเป็นเส้นบาง ๆ ในขณะที่เขาหลับตาและเอนตัวพิงเบาะแอเรียน วินน์ ยืนอยู่บนจุดนั้นจนกระทั่งรถหายไปจากสายตาของเธอ เธอยังคงมึนงง หัวใจของเธอรู้สึกว่างเปล่า เธอมีลางสังหรณ์ว่าตอนนี้เธอสูญเสียทุกอย่างไปอย่างแท้จริง…
ในที่สุดก็ย่อยข้อมูลนี้ ตอนนี้แอเรียน วินน์ รู้สึกประหม่ามากกว่าตอนที่เธอรับสายเสียอีก เธอพุ่งลงไปชั้นล่าง“แม่นมแมรี่ กรุณาทำความสะอาดบ้านให้ดีด้วยนะคะ…”แมรี่รู้สึกประหลาดใจเนื่องจากโดยปกติแล้วแอเรียนจะไม่ใส่ใจกับเรื่องดังกล่าว“ว่าไงแอริ”แอเรียนไม่สามารถระบุได้ว่าเธอรู้สึกมีความสุขหรือกลัว “เขา…กำลังจะกลับมา”แมรี่งุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตระหนักว่าแอเรียนหมายถึงใคร ยิ้มด้วยแววตาของเธอ "จริงเหรอ? ท่านกำลังจะกลับมาอย่างนั้นเหรอ? เยี่ยมไปเลย พวกคุณไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่แต่งงานกันเมื่อสามปีที่แล้ว เป็นข่าวดีที่เขาจะกลับมา ฉันจะทำความสะอาดบ้านให้สะอาด ไม่ต้องห่วง”แอเรียนกลับไปที่ห้องของเธอและจัดการภาพร่างมากมายอย่างยุ่งเหยิงที่กระจัดกระจายไปทั่ว เธอทำงานในบริษัทออกแบบแฟชั่นที่เพิ่งผ่านการทดสอบมา ปกติเธอจะยุ่งและห้องของเธอก็เป็นภาพสะท้อนของสิ่งนั้น แมรี่ไม่กล้าทำความสะอาดห้องของเธออย่างไม่ใส่ใจเพราะเธอไม่รู้ว่าจะจัดระเบียบภาพของเธออย่างไร ตอนนี้มาร์ค เทรมอนต์กำลังจะกลับมา แอเรียนไม่ต้องการให้เขาเห็นด้านที่ยุ่งเหยิงของเธอ...ในวันที่มาร์ค เทรมอนต์ กลับมา แอเรียนได้ขอเวลาเที่ย
คำตอบสั้น ๆ ของเขาหยุดเธอได้สำเร็จ เธอไม่เคยสงสัยในความสามารถของมาร์ค เทรมอนต์ ในการระงับบริษัทที่เธอทำงานอยู่จากการดำเนินงานหากเขาต้องการ…อย่างไรก็ตามแอเรียนไม่ได้พูดอะไรเลยเลือกที่จะกลับไปชั้นบนที่ห้องของเธอ นอนอยู่บนเตียงจิตใจของเธอนั้นว่างเปล่ามาร์ค เทรมอนต์ วางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะอาหารอย่างไร้อารมณ์และกินอาหารอย่างตั้งอกตั้งใจแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับข้อความที่ซ้อนกันไม่ให้พวกเขาเหลือบมองอีกต่อไป“แมรี่ ย้ายเธอไปที่ห้องของฉัน”แมรี่กำลังทำความเข้าใจ “ นี่ควรเป็นเช่นนั้น… คุณไม่ได้อยู่ที่นี่มาสามปีแล้วใช่ไหม? แอริได้พักในห้องเดิมของเธอ ตอนนี้คุณกลับมาแล้วเธอควรจะย้าย ได้เลยค่ะ”มาร์ค เทรมอนต์ แก้ไขเธอ “คุณควรเปลี่ยนการเรียกใหม่”“ โอ้ ใช่แล้ว ดิฉันเคยชินกับมัน ดิฉันต้องเรียกเธอว่านายหญิงตั้งแต่นี้ไป” แมรี่ตอบด้วยรอยยิ้มเมื่อแมรี่ไปที่ห้องของแอเรียนเพื่อย้ายของด้วยความยินดี และงงงวยเล็กน้อย “คุณกำลังทำอะไรอยู่แมรี่? คุณกำลังจะย้ายของของฉันไปไหน?”แมรี่ตอบอย่างรวดเร็ว “ท่านกลับมาแล้ว คุณสองคนเป็นสามีภรรยากัน แน่นอนคุณต้องอยู่ด้วยกัน ท่านไม่ใช่เด็กอีกต่อไปคุณทั้งสองสามาร
เสียงแปลกปลอมของชายคนหนึ่งดังมาจากอีกด้านหนึ่งของสาย"ฮัลโหล? พี่สะใภ้เหรอครับ? เอ่อ มาร์คดื่มมากเกินไปแล้ว คุณคิดว่าคุณจะมารับเขาได้ไหม?”พี่สะใภ้ครับ? ถ้อยคำเหล่านั้นให้เธอตกใจ ปฏิกิริยาแรกของแอเรียนคือผู้โทรต้องเข้าใจผิดแน่ ๆ เธอค่อนข้างงงงวย"อะไร? ที่ไหน”แอเรียนต้องใช้ความพยายามพอสมควรในการชี้แจงว่าพวกเขาอยู่ที่บาร์อะไรเนื่องจากปลายสายอีกด้านหนึ่งมีเสียงดังมากวางสาย เธอใส่เสื้อคลุมและปลุกเฮนรี่ เธอไม่มีใบขับขี่และไม่สามารถไปรับเขาได้ด้วยตัวเองเมื่อมาถึงสถานที่ เธอเห็นผู้ชายที่ทางเข้าบาร์จากระยะไกลขณะที่เธอลงจากรถ นอกจากมาร์ค เทรมอนต์ ที่มึนเมาแล้ว ยังมีผู้ชายอีกสองคน‘คนประเภทเดียวกันรวมตัวกัน’ - นี่คือความคิดทันทีของแอเรียน ชายทั้งสองดูดีและสูงส่ง ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อนและไม่มีโอกาสทำความคุ้นเคยกับกลุ่มเพื่อนของเขา“เอ่อ มาร์คเก่งเรื่องการปิดบังน่ะ เขาเผลอบอกความลับเรื่องที่เขาแต่งงานออกมา แต่หลังจากเมาวันนี้ ฉันไม่เคยคาดหวังว่าคนประเภทเขาจะเป็นคนที่สดชื่นและไร้เดียงสาแบบนี้ คุณไม่ใช่คนที่เขาเอาเข้ามา…ไม่ใช่เหรอ?” แจ็คสัน เวสต์ เบิกตากว้างเมื่อเห็นแอเรียน
ดวยเหตุผลบางอย่าง แอเรียนจำผู้หญิงที่เกี่ยวแขนกับเขาที่สนามบินและผลักมาร์ค เทรมอนต์ ออกไปโดยสัญชาตญาณ“เราจะคุยกันเมื่อคุณมีสติ!”ถ้าเขามีสติเขาคงไม่อยากแตะต้องเธอแน่นอน…“ออกไป!" เขาคำรามด้วยน้ำเสียงต่ำแอเรียนถึงกับผงะและรีบลุกขึ้น เธอคลี่ชุดนอนออกก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องข้าง ๆ แม้ว่าสิ่งที่เหลืออยู่คือเตียง แต่เธอก็ยังนอนในห้องที่ว่างเปล่าได้เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้น แอเรียนนั่งลงที่ห้องอาหารเธอเห็นแม่รี่เอาผ้าปูที่นอนในห้องเดิมของเธอออกไปด้วยความเร่งรีบแม้แต่ที่นอนก็ถูกย้ายออกไปมาร์คเทรมอนต์ไม่แม้แต่จะละสายตาจากเธอในขณะที่เขาลงมาชั้นล่างและหายเข้าไปในรถแอเรียนทานอาหารง่าย ๆ จากนั้นก็คว้ากระเป๋าแล้วออกไป เมื่อเธอทำงานเธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการปรากฏตัวของมาร์ค เทรมอนต์ขณะที่เธอนั่งลงในสำนักงาน ไซมอน ดอนน์ หัวหน้างานของเธอก็วางเอกสารไว้บนโต๊ะทำงาน“ส่งสิ่งนี้ไปยังบริษัทไวแอทจำไว้ว่าคุณต้องส่งมอบให้กับเลขานุการของคุณเทรมอนต์เป็นการส่วนตัว ถ้าคุณโชคดีคุณอาจสามารถส่งมอบให้คุณเทรมอนต์ได้โดยตรง อย่ามอบให้คนอื่นเป็นอันขาด”แอเรียนสะดุ้งเล็กน้อย ถ้าจำไม่ผิดสำนักงานใหญ่ของไวแอทอยู่ภา
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นเบา ๆ โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าจากห้องทำงานของมาร์ค เทรมอนต์ “ฮึ่ม! คุณบอกว่าคุณไม่ว่าง แต่คุณก็ไม่ได้ยุ่ง! ฉันเห็นกระเป๋าที่ฉันชอบ - ไม่ใช่สิ หมายถึงกระเป๋าที่ฉันรัก! ซื้อให้ฉันโอเคไหม?”ลมหายใจของแอเรียน วินน์ ติดอยู่ในลำคอเหมือนมีใครบางคนกำลังทำให้เธอสำลักเธอไม่ได้ยินว่ามาร์ค เทรมอนต์ พูดอะไรกลับมาหรือเปล่าไม่นานพอผู้หญิงคนนั้นก็ออกมา เมื่อสบตากับแอเรียนก็ประหลาดใจเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่เธอเห็นที่สนามบินการจ้องมองของเธอไม่ได้มองไปบนใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่เหนือกว่า แต่ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องไปที่รองเท้าส้นสูงที่ผู้หญิงคนนี้สวม มาร์ค เทรมอนต์ ห้ามไม่ให้ทุกคนรบกวนความสงบและเงียบในชั้นนี้ แต่เขาอนุญาตให้ผู้หญิงคนนี้มาที่นี่ด้วยรองเท้าส้นสูง“เป็นเธออีกแล้วสินะ เธอมีธุระอะไรกับพี่มาร์คของฉันมิทราบ? ฉันไม่รู้ว่าในอดีตเธอมีอะไรกับพี่มาร์ค แต่ฉันไม่ชอบขี้หน้าเธอและจากนี้ไปฉันจะขัดเคืองกับเธอ หลังจากเรากลับมาจากต่างประเทศฉันเจอเธอทุกครั้งที่มองหาพี่มาร์คที่รักของฉันและฉันเกลียดมัน" ผู้หญิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ขี้เล่นและน่ารัก แม้ว่าคำพูดของเธอจะเสียดแทง
“ไม่ ฉันจะไปในทันที” แอเรียนตอบในไม่ช้าขณะที่เธอหันกลับมาปากกาก็บินผ่านหูของเธอและกระแทกเข้ากับประตูห้องทำงาน หมึกรั่วจากรอยแตกของปากกาและเปื้อนพื้นการขว้างปาสิ่งของ หมายความว่ามาร์ค เทรมอนต์ นั้นโกรธมาก แอเรียนไม่กล้าขยับตัวแม้ว่าเธอจะสั่นเล็กน้อย เธออยากหักห้ามความกลัวที่มีต่อเขา แต่เธอไม่สามารถ..."มานี่!" เสียงของมาร์ค เทรมอนต์ เจือไปด้วยความโกรธ สำหรับแอเรียนมันเป็นการเตือนล่วงหน้าถึงสถานการณ์ที่คุกคามถึงชีวิตความลังเลของเธอเกิดขึ้นเพียงสองวินาทีก่อนที่เธอจะหันไปหาเขาโดยมือของเธอกำชายเสื้อของเธอและมองเขาอย่างระมัดระวังมาร์ค เทรมอนต์ ดึงเธอเข้ามาใกล้เขาและโอบแขนของเขาไว้รอบเอวของเธอแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้เธอขยับ เสียงของเขาเสียดแทงและเย็นยะเยือก “คุณเรียกผมว่าอะไรนะ? การสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนเช่นนี้หมายความว่าคุณกำลังเปลี่ยนวิธีพูดกับฉันที่บ้านด้วยใช่ไหม?”เมื่อเขาคิดได้ว่าเธอควรจะยืนอยู่นอกห้องทำงานนานกว่าสองชั่วโมงกว่าจะมาพบเขาความโกรธของเขาก็ลุกเป็นไฟในที่สุดแอเรียนก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงโกรธ“ฉัน… ฉันกังวลว่าคุณคิดว่าฉันไม่สามารถแยกงานออกจากเรื่องส่วนตัวได้”มาร์ค
ลิฟต์หยุดที่ชั้นเจ็ด การข่มขู่อย่างท่วมท้นกระตุ้นให้ไซมอน ดอนน์ เงยหน้าขึ้นมองชายที่เข้ามาในลิฟต์ในขณะที่เขาเดินไปที่มุมโดยสัญชาตญาณประตูลิฟต์ปิดลงชั่วครู่ จู่ ๆ ชายคนนั้นก็เตะเข้าที่ท้องส่วนล่างของไซมอน ดอนน์ น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน แต่คุกคามอย่างไม่ต้องสงสัย“อย่าแตะต้องคนที่คุณไม่ควรเเตะ”การเตะที่รุนแรงทำให้ไซมอน ดอนน์ ก้มลงกอดท้องของเขาอย่างงุนงง"คุณเป็นใคร?"“สามีของแอเรียน วินน์!”…เมื่อแอเรียนกลับมาและก้าวเข้ามาในห้องโถงของคฤหาสน์เทรมอนต์ ปฏิกิริยาทันทีของเธอคือตรวจสอบว่ามาร์ค เทรมอนต์ กลับมาแล้วหรือยังแมรี่รู้สึกขบขันกับท่าทางระมัดระวังของเธอขณะที่เธอหัวเราะเบา ๆ “ท่านยังไม่กลับมาน่ะ!”แอเรียนหายใจออกด้วยความโล่งใจ “เขาบอกว่าคืนนี้เขาจะกลับมาทานอาหารเย็น…”ตามเหตุผลแล้วเขาควรจะกลับบ้านเร็วกว่าเธอแอเรียนออกมาจากห้องอาบน้ำ เห็นว่ามาร์ค เทรมอนต์ นั่งอยู่ที่ห้องอาหารแล้ว ผมของเขาชื้นและเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าเลานจ์ของเขา ดูเหมือนว่าเพิ่งอาบน้ำมาเช่นกัน นี่เป็นนิสัยของเขาหลังจากกลับมาถึงบ้านแอเรียนนั่งตรงข้ามกับเขาและเริ่มกินอย่างเงียบ ๆ ขณะที่เธอตักอาหารเข้าปากโทรศัพท
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง