แอเรียนพึมพำอย่างไม่มีความสุข "หนูจะไม่ไป เขาจะมาหาหนูเองไม่ได้เหรอ? ทำไมต้องไปหาเขา? หนูไม่ใช่คนที่กำลังมองหาเขานี่!”ดวงตาของแมรี่เบิกกว้าง “แอริ… ไม่ใช่ว่า…วัยต่อต้านของเธอสายไปหน่อยเหรอ? ปีนี้เธออายุยี่สิบสองปีนะ!”แอเรียนถูกทำให้พูดไม่ออกไปชั่วขณะ ในสายตาของแมรี่ตอนนี้เธอกำลังผ่านขั้นตอนอยู่หรือเปล่า? เธอกำลังระเบิดในความเงียบจริง ๆ ใช่ไหม? ในที่สุดเธอก็ถูกกดขี่มาหลายปีมากพอแล้วและต้องการหยุดยั้งสถานการณ์นั้น โอเค?เมื่อเห็นการไม่เชื่อฟังของเธอ แมรี่สามารถรายงานตามความเป็นจริงต่อมาร์คได้ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็รีบวิ่งไปที่สวนหลังบ้านอีกครั้งด้วยความเร่งรีบกว่าก่อนหน้านี้อีก “แอริ นายท่านบอกว่าถ้าเธอไม่เชื่อฟัง เขาก็จะไม่ยอมให้เธอเลี้ยงแมวอีกต่อไป เขาหมายความตามที่เขาหมายถึงนั่นแหล่ะ…!”หมายถึงสิ่งที่เขาหมายถึง? ว้าว แอเรียนทั้งโกรธและขบขัน เขาเอาแต่ใจแบบนี้และทำตัวเหมือนว่าเขาเหนือกว่าคนอื่น ๆเธอหายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันกลับไปและขึ้นไปชั้นบน มาร์คนั่งอยู่หน้าหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสตามปกติโดยพลิกดูหนังสือภาษาอังกฤษเล่มหนึ่งซึ่งช่วยเพิ่มรสชาติทางวิชาการให้กับความดุเดือดของเขา หากไม่
เมื่อพูดถึงจุดที่เจ็บ มาร์คก็เขวี้ยงแก้วไวน์ในมือลงกับพื้น “เธอชอบที่จะเป็นคนรับใช้เหรอ? เอาล่ะ ฉันจะทำตามความปรารถนาของเธอ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอจะต้องทำทุกอย่างที่คนรับใช้ของ คฤหาสน์ เทรมอนต์ ทำ! ตอนนี้ไสหัวไปซะ!”เธอจากไปโดยไม่ลังเลและไปที่ห้องคนรับใช้ของแมรี่ ห้องนี้ถูกครอบครองโดยผู้ช่วยสี่คนและไม่มีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับเธอ แอเรียนสามารถเบียดกับแมรี่ได้เท่านั้นอย่างไรก็ตาม เธอไม่เสียใจที่ทำให้เขาโกรธ เธออยากจะนอนในห้องของคนรับใช้มากกว่านอนเตียงเดียวกับเขา เมื่อใดก็ตามที่เธอเห็นเขาเธอจะนึกถึงทุกสิ่งที่เขาทำกับแอรี่และเฮเลนพวกเขาทั้งสามฉีกยิ้มที่ไม่มีวันเยียวยาในหัวใจของเธอและนั่นจะเตือนเธอทุกวินาทีที่มีชีวิตอยู่ด้วยความเจ็บปวดวันรุ่งขึ้นเธอไปทำงานในสำนักงานตามปกติและกลายเป็นคนรับใช้ "พาร์ทไทม์" ใน คฤหาสน์ เทรมอนต์ หลังเลิกงานแม้ว่ามาร์คจะขอให้คนรับใช้ของคฤหาสน์อย่าทำตัวสุภาพและทำให้เธอทำในสิ่งที่ควรทำ แต่ก็ไม่มีใครกล้าสั่งเธอ ท้ายที่สุดพวกเขายังไม่ได้หย่าร้างกัน แอเรียนยังคงเป็นนายหญิงเธอรับงานบ้านของแมรี่โดยไม่พูดอะไรโดยจะไปช่วยทุกที่ที่ต้องการความช่วยเหลือและท
แอเรียน กดริมฝีปากเข้าหากันโดยไม่พูดอะไร เธอเมื่อยล้าและค่อย ๆ หลับไปเมื่อไม่ได้ยินคำตอบจากเธอ แมรี่ก็ถอนหายใจและกอดเธอไว้ราวกับว่าเขาอยากเห็นเธอทำตัวโง่งี่เง่าใส่เขา มาร์คกลับบ้านตรงเวลาทุกวันหลังเลิกงานและอยู่ในห้องนั่งเล่นนานกว่าปกติเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เห็นเขา ส่วนใหญ่แอเรียนจะอยู่ห่างจากห้องนั่งเล่นและทำงานในครัวและสวนหลังบ้านเท่านั้น เธอจะทำความสะอาดห้องนั่งเล่นหลังจากที่เขาขึ้นไปชั้นบนเท่านั้น รู้สึกดีที่ได้อยู่ในที่ของใครของมันโดยไม่มีการรบกวน …ในเวลาเดียวกันทิฟฟานี่กำลังค้นหาบางสิ่งในบ้านเช่าของเธออย่างใจจดใจจ่อ "แม่! เห็นบัตรธนาคารของหนูไหม?”ลิเลียนไม่ได้สนใจทิฟฟานี่ ขณะที่เธอกำลังทานขนมอยู่ในห้องนั่งเล่น “ไม่… หาเองสิ แกคิดว่าฉันเป็นคนขโมยไปเหรอไง?”ทิฟฟานี่ค้นบ้านทั้งหลัง แต่เธอก็ยังไม่เห็นบัตรกดเงินของเธอ ไม่มีใครมาเยี่ยมพวกเขาเช่นกัน นอกจากลิเลียนเธอไม่มีทางเดาได้ “แม่บอกมาตามตรงนะ แม่เอาบัตรของหนูไปใช่ไหม? ทำไมแม่ต้องเอามันไปด้วย? แม่ไม่รู้รหัสผ่านนี่! คืนให้หนูถ้าแม่เอาไป หนูต้องการเงินสำหรับเหตุฉุกเฉิน”ลิเลียนเงียบไปก่อนที่เธอจะพูดว่า “แล้วแกบอกฉันว่าแกไ
แอเรียนมองสายฝนผ่านกระจกห้องครัว เธอเห็นอกเห็นใจทิฟฟานี่ ทั้งคู่ถูกผลักมาถึงทางตัน...“ทิฟฟ์ เธออยู่ที่ไหน? ฉันจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้แหล่ะ” แอเรียนกล่าวขณะที่เธอทิ้งงานที่บ้านและเดินออกไปพร้อมกับร่ม“ฉันอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อชั้นล่างของบ้าน ฉันออกมาพร้อมกับโทรศัพท์ของฉัน ฉันไม่ได้ใส่เสื้อแจ็คเก็ตด้วยซ้ำ มันหนาวมาก... ฉันไม่อยากกลับไปเจอแม่เลย ตอนนี้ฉันไม่สามารถทนเห็นใบหน้าของเธอได้” เสียงของทิฟฟานี่เจือด้วยน้ำเสียงสะอื้นแอเรียนที่เดินไปที่ประตูหันกลับมาทันทีเมื่อเธอได้ยินว่าทิฟฟานี่ไม่ได้สวมเสื้อแจ็คเก็ต “โอเค ฉันจะเอาเสื้อไปให้เธอนะ อยู่ที่นั่นและรอฉัน อย่าไปไหนล่ะ!”ในขณะที่เธอพูดนั้น แอเรียนลื่นล้มลงบนพื้นตอนที่เธอกำลังขึ้นบันได ท้องส่วนล่างของเธอกระแทกเข้ากับขั้นบันใดและร่มของเธอก็หล่นแม้จะเจ็บปวด แต่เธอก็ลุกขึ้นคว้าเสื้อแจ็คเก็ตแล้วรีบวิ่งออกไป พายุลมแรงและฝนตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสื้อผ้าครึ่งล่างของแอเรียนก็เปียกด้วย แม้ว่าเธอจะถือร่มก็ตาม รองเท้าของเธอก็เปียกโชกเช่นกันรถยนต์แทบไม่ผ่านมาบริเวณนั้นเลย เธอสามารถเรียกรถแท็กซี่ได้เมื่อเธอมาถึงทางแยกขณะที่แอเรียนเข้ามาในรถเธอร
“แอริ ทำไมเธอถึงเลือดออก?"แอเรียนมองตามทิฟฟานี่ที่จ้องมองลงไป แต่การมองเห็นของเธอพร่ามัวไปแล้วและเธอก็เริ่มได้ยินเสียงหึ่งแทนที่จะเป็นเสียงเมื่อตระหนักถึงสภาพที่คลุมเครือของเธออย่างประหลาด จึงเรียกรถแท็กซี่และส่งเธอไปโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สองสามคนปรากฏตัวต่อหน้าเธอดูกังวลขณะที่พวกเขาเข็นเธอเข้าไปในห้องฉุกเฉินเธอมีสติและรับรู้ได้ว่าเธอกำลังนอนอยู่ห้องผ่าตัด แต่เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดและไม่สามารถพูดได้ทิฟฟานี่เดินออกไปข้างนอกหอผู้ป่วยฉุกเฉินด้วยอาการประหม่า หลังจากนั้นไม่นานพยาบาลก็เปิดประตูห้องฉุกเฉินและเดินออกไป “คุณเป็นครอบครัวของผู้ป่วยหรือเปล่าคะ? ผู้ป่วยเหนื่อยล้ามากเกินไปหลังจากที่เธอแท้งและตอนนี้กำลังทุกข์ทรมานจากการสูญเสียเลือดเนื่องจากการบาดเจ็บ เธอต้องผ่าตัด กรุณาใส่ลายเซ็นของคุณถ้าคุณเป็นครอบครัวของเธอ!”ทิฟฟานี่มึนงง “ดิฉัน… ดิฉันเป็นเพื่อนของเธอค่ะ ดิฉันไม่ใช่สมาชิกในครอบครัว”นางพยาบาลพูดอย่างรีบร้อน “ถ้าอย่างนั้นโทรหาครอบครัวของเธอค่ะ! การผ่าตัดทำได้เฉพาะลายเซ็นเท่านั้น เธอไม่สามารถรอได้อีกต่อไป!”ด้วยมือที่สั่นเทาทิฟฟานี่หยิบโทรศัพท์ของแอเรียนขึ้นมาเพื่อ
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างครับ?" มาร์คถาม“ตอนนี้เราทำดีที่สุดแล้ว เมื่อคุณหญิงเทรมอนต์ถูกส่งเข้ามา... เธอเสียเลือดมาก ค่อนข้างรุนแรงจริง ๆ ค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ คุณหญิงเทรมอนต์ภรรยาของคุณจะสบายดี”พยาบาลพูดด้วยความระมัดระวัง ท้ายที่สุดแล้วคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?" อารมณ์ที่น้ำเสียงของเขาซับซ้อนเกินไปทำให้พยาบาลตกใจกลัว“ดิฉัน… ไม่แน่ใจค่ะ… การวินิจฉัยเบื้องต้นของแพทย์เกิดจากความเหนื่อยล้าหลังจากการแท้งบุตรและการบาดเจ็บทำให้เสียเลือดอย่างหนัก… เธอควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ว่าควรพักผ่อนให้เพียงพอหลังจากการแท้งใช่ไหมคะ? ทำไมถึง... ”มาร์คทรุดตัวลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง “ช่วย… รักษาเธอเพื่อผมด้วยครับ… ตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ อะไร ๆ ก็ได้…”เขาแค่ต้องการให้เธอยอมแพ้ทำไมเธอถึงยอมทรมานตัวเองในสภาพนี้และยืนกรานที่จะต่อสู้กับเขาทิฟฟานี่คิดว่าเป็นเรื่องแปลก “เหนื่อยล้า? แอริทำงานหลังจากออกจากโรงพยาบาลเพียงไม่กี่วัน แต่เธอก็อยู่ในออฟฟิศและงานของเธอก็ไม่เหนื่อยเลย ทำไมเธอถึงเหนื่อยล้า? บาดแผล… เป็นเพราะการล้มลงโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อเธอออกมาหาฉัน…”
มาร์ครับเช็คจากไบรอันแล้วโยนให้ผู้ชาย “ใส่เท่าที่คุณต้องการ”พวกผู้ชายกลัวในตอนแรก แต่เมื่อมาร์คบอกให้พวกเขากรอกสิ่งที่ต้องการพวกเขาคิดว่าเขาเป็นเจ้านายขี้ขลาดที่ใช้เงินเพื่อแก้ปัญหาของเขา ด้วยความยินดีกับตัวเองพวกเขาใส่เลขจำนวนเงินมหึมาลงในเช็คตามที่พวกเขาคิด “เราไม่ได้โกงแก” พวกเขาอวดอ้าง “นอกเหนือจากค่าความเสียหายแล้วยังมีค่าทำขวัญอีกด้วย มันไม่ใช่การกล่าวเกินจริงเลย”มาร์คเม้มริมฝีปากเป็นรอยยิ้มเยาะ “คุณควรจะได้เงินก้อนที่มากกว่านี้เพราะยังมี... ค่ารักษาพยาบาลใส่เข้าไปด้วย”ก่อนที่คนเหล่านั้นจะรู้ว่าเขาหมายถึงอะไรพวกเขาก็ถูกบอดี้การ์ดลากออกไปไบรอันพาดเสื้อโค้ทที่เขาพกมารอบตัวของมาร์ค “นายท่านครับ รถของคุณเสียหาย ผมให้คนมาลากไปแล้วครับ และนำอีกคันมาให้คุณ”มาร์คพยักหน้า “ผมไม่รู้ว่าฝ่ามากี่ไฟแดง ดูแลมันด้วย”ไบรอันเหลือบมองไปที่ห้องฉุกเฉิน “เอิ่ม… ท่านจะไม่เป็นอะไรที่นี่ใช่ไหมครับ?”มาร์คโบกมือและไบรอันก็หันกลับและจากไปทิฟฟานี่ถอนหายใจและพูดว่า “ฉันคิดมาตลอดว่าคุณรุนแรงกับแอริมากเกินไป ตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณจะมีจิตสำนึกขึ้นมาหน่อยนึงนะ รีบแจ้นมาหลังจากที่พบว่ามีบางอย่างเกิดข
เช้าวันที่สองเมื่อแอเรียนตื่นขึ้นมา ก่อนที่เธอจะลืมตาเธอสัมผัสได้ว่ามีใครบางคนอยู่ข้างเตียงของเธอ โชคดีที่เธอจำได้ว่าเธอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อคืนนี้ เธอคิดว่าเป็นแมรี่ที่คอยดูแลเธอ เธอจึงพูดว่า “แมรี่ โทรบอกที่ทำงานให้หน่อยว่าหนูไม่สบาย ตอนนี้หนูไปทำงานไม่ได้…”เมื่อไม่มีการตอบกลับ แอเรียนก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ใบหน้าที่ค่อนข้างซีดเซียวของมาร์คสบตาเธอ เครื่องแต่งกายที่เลือกชุดนอนและผมรุงรังเล็กน้อยของเขาทำให้เธอตกใจจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอไม่ได้เกิดอะไรขึ้นระหว่างการผ่าตัดที่ทำให้คนอย่างเขาที่ใส่ใจภาพลักษณ์ของเขามองแบบนี้ในที่สาธารณะเช่นโรงพยาบาลริมฝีปากบางของมาร์คแยกออกพูดคำที่เธอไม่เข้าใจ "อะไร? ตอนนี้เธอมีความสุขไหมล่ะ? เธอชนะนี่"“คุณกำลังพูดถึงอะไร?” เธอรู้สึกงุนงง เขาโกรธอีกครั้งและตัดสินใจที่จะแกล้งเธอหรือเปล่า?มาร์คไม่ตอบเธอ เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะสวมเสื้อโค้ทและมุ่งหน้าไปที่ประตู “แมรี่จะมาในภายหลัง อยู่โรงพยาบาลล่ะ ฉันจะกลับมาอีกครั้งหลังเลิกงาน”แอเรียนขมวดคิ้ว เสียงของเธอแหบแห้งขณะที่เธอประท้วง “ไม่ต้อง! ไปทำงานเถอะค่ะ ฉันไม่ได้ต้องการคนจำนวนมากที่นี่” ในความเป็
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง