ราวกับว่ามาร์ครับรู้ได้ถึงสายตาของแอเรียน เขาจึงหันหน้าไปสบตาเธออย่างรวดเร็ว “มองอะไรเหรอ? มีอะไรติดหน้าฉันหรือเปล่า?”แอเรียนละสายตาของเธออย่างรู้สึกผิด “ขอโทษนะ ฉันไม่ได้มองคุณซะหน่อย ฉันมอง… เอ่อ มองวิวนอกหน้าต่างคุณต่างหาก! ดูอากาศวันนี้สิ ช่างดีเหลือเกิน หิมะไม่ตกด้วย ถึงจะหนาวหน่อยก็เถอะ”เขาเลิกคิ้วด้วยความสงสัย “แล้ววิวจากหน้าต่างเธอกับฉันมันต่างกันยังไง? หึ? มันดีมากจนเธอต้องพยายามมองผ่านฉันไปเลยเหรอ? นี่ฉันต้องขอโทษที่บังวิวเธอหรือเปล่า?”แอเรียนพูดไม่ออกจากความหน้าแตก ทำไมเขาถึงต้องเปิดโปงเธอแบบนี้ด้วยเนี่ย?พวกเขาไปถึงที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนหรูที่มาร์คจองเอาไว้ เมื่อพวกเขาเดินก้าวเข้าประตูมาร์คก็งอแขนเขาเล็กน้อยเพื่อให้แอเรียนควงแขนเขา ผู้ซึ่งทำมันอย่างเป็นธรรมชาติหัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น เธอต้องยอมรับว่าการออกเดตสามารถสร้างประจุไฟได้จริง ๆแอเรียนเลือกน้ำผลไม้เป็นเครื่องดื่มโดยคำนึงถึงคำเตือนของมาร์คเมื่อก่อนหน้านี้ ถ้าเขาห้ามไม่ให้เธอดื่มกาแฟ เครื่องดื่มแรง ๆ อย่างไวน์แดงก็คงจะเป็นสิ่งต้องห้ามเช่นกัน ท้ายที่สุดไวน์แดงก็ถือเป็นแอลกอฮอล์และควรจะเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคุ
แอเรียนยังคงครุ่นคิดกับที่มาที่ไปของแหวนวงนั้นเมื่อมาร์คชี้แจงเธอ “ฉันออกแบบเองเมื่อนานมาแล้ว ปรับปรุงเล็กน้อยและให้คนทำขึ้นเป็นเวลาสามเดือน ฉันตัดสินใจจะให้มันกับเธอก็ต่อเมื่อฉันพอใจแล้ว”การยอมรับของเขาทำให้แอเรียนนึกขึ้นได้ว่า เธอเคยเห็นงานออกแบบของเขาในห้องทำงานของเขาตอนที่เธอยังเป็นเด็ก เธอถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับแหวนวงนี้ตอนนั้นแอเรียนเข้าใจว่า มาร์คต้องออกแบบแหวนวงนี้ให้กับภรรยาในอนาคตของเขาแน่ ๆ เธอจะรู้ได้อย่างไรว่า แหวนวงนั้นจะได้มาอยู่บนนิ้วของเธอ?โชคชะตาช่างลึกลับ ด้วยกลอุบายของโชคชะตา ชีวิตของแอเรียนจึงถูกผูกมัดไว้กับมาร์คไปชั่วชีวิตนี้แอเรียนปิดกล่องลงด้วยความระมัดระวังโดยเห็นได้ชัดว่า เธอไม่ได้คิดที่จะสวมแหวนนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้เพราะเธอกลัวว่าเธอจะทำมันหายระหว่างที่ทำงานมาร์คไม่พอใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ ใบหน้าที่หล่อเหล่าของเขาค่อนข้างจะโมโหเลยทีเดียว “เธอจะไม่ใส่แหวนเหรอ?”“คือ ฉันกลัวทำหายน่ะ…”“ถ้าหายฉันก็แค่จ้างให้คนทำให้ใหม่” เขาสั่งด้วยเสียงที่เข้ม “สวมแหวนเลยสิ”แอเรียนแอบรู้สึกวิตกกับอารมณ์ที่เปลี่ยนได้เร็วของเขา เธอจึงเชื่อฟังเขาและสวมแหวน เนื่องจา
ทันใดนั้นโรบินก็เดินเข้ามา “พี่แอเรียน ฉันทำแบบร่างเสร็จแล้ว บ่ายนี้พี่ต้องลงมือทำตัวอย่างแล้วใช่ไหมคะ? คุณเยลแมนต้องใช้ภายในบ่ายวันมะรืนนี้”แอเรียนรีบปิดโทรศัพท์พลางทัดผมหลังหูอย่างกระอักกระอ่วน “เอ่อ… ใช่ ขอบคุณนะ เธอเริ่มลงมือก่อนได้เลย ชิ้นนี้มันค่อนข้างจะซับซ้อนเล็กน้อย เพราะฉะนั้นเธอจะต้องใช้เวลาอย่างมาก ถ้าเธอเริ่มเร็วเธอก็จะได้ไม่ต้องทำงานล่วงเวลา”สายตาที่แหลมคมของโรบินสังเกตเห็นแหวนบนนิ้วของเธอ “ว้าว พี่แอเรียน แหวนพี่สวยมากเลย เพชรเม็ดใหญ่มาก คงจะแพงน่าดู เมื่อเช้าฉันยังไม่เห็นมันเลย สามีพี่คงจะให้มันกับพี่ตอนไปทานมื้อเที่ยงแน่เลย ใช่ไหมคะ? คุณเทรมอนต์นี่ช่างโรแมนติกจริง ๆ”แอเรียนยิ้ม “ไปที่ห้องปฏิบัติการเลย เธอยังต้องช่วยงานฉันนะ”แอเรียนรู้สึกกระวนกระวายตลอดทั้งบ่ายเพราะข้อความของมาร์ค เธอมักจะล่องลอยไปกับความคิดที่แปลกประหลาดเสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะไปนอนโรงแรมกับเขา มันทำให้เธอรู้สึกค่อนข้างตื่นเต้นและประหม่าเล็กน้อย บางที ชีวิตประจำวันของพวกเขาอาจจะกลายเป็นความเคยชินจนเกินไป ความแปลกใหม่นี้จึงดูเหมือนจะเติมสีสันเข้ามาหลังจากนั้นต่อมา ทิฟฟานี่ก็ได้โทรหาแอเรียน
หัวใจของแอเรียนล้นปริ่มไปด้วยความหลงใหล ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมมาร์คถึงอยากมีลูกสาว ความสุขในการมีลูกสาวแตกต่างกับการมีลูกชายโดยสิ้งเชิง“เจ้าหนูไปไหนแล้วล่ะ? กลับมาหาแดดดี้เร็ว”แอเรียนตัวแข็งทื่อ เธอหันไปด้านข้างและสบตากับสายตาที่ตกใจของวิล ซีวาน ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไปเมื่อกาลเวลาผ่านไป แต่แววตาของเขายังคงเหมือนเดิม นอกเสียจากความเป็นผู้ใหญ่ที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลาแอเรียนตื่นตกใจเมื่อได้ยินเสียงของเขา ตอนแรกเธอนึกว่า เขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่มีน้ำเสียงคล้ายกับวิล ช่างบังเอิญจริง ๆ…“นาย… กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” เธอลุกขึ้นและถามเขาอย่างสบาย ๆ หลังจากที่เงียบไปชั่วครู่วิลสูดลมหายใจเข้า ก้าวไปข้างหน้าและอุ้มเด็กผู้หญิงขึ้น “ไม่กี่วันที่แล้วนี่เอง ฉันมาเยี่ยมญาติน่ะ ไม่ได้อยู่นานหรอก ช่างบังเอิญจัง… ฉันไม่นึกว่าจะมาเจอเธอที่นี่ มาซื้อของให้ลูกเหรอ? ฉันกลับมาอย่างกะทันหัน ก็เลยยังไม่ทันได้มีเวลาติดต่อเธอหรือทิฟฟ์…”วิลรู้ว่าเธอมีลูกแล้ว เธอเองก็รู้ว่าเขาแต่งงานและมีลูกแล้วแอเรียนยิ้ม “ฉันมาดูของฆ่าเวลานิดหน่อย ทิฟฟ์กำลังท้องนะ ถ้ามีเวลาก็ลองนัดเจอกับเธอสิ นี่ลูกสาวนายเหรอ?
ผู้หญิงคนนั้นยังคงยืนอุ้มลูกอยู่กับที่ เธอแอบรู้สึกหน้าแตกเล็กน้อย แต่หมดหนทางเสียมากกว่า เธอรู้ว่า ชาตินี้เธอจะไม่มีวันแทนที่แอเรียนในหัวใจของวิลได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีลูกด้วยกันแล้วก็ตาม นี่ช่างเป็นชะตากรรมที่น่าเศร้าเสียจริงแอเรียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเธอก้าวออกจากห้างสรรพสินค้า ลมที่หนาวเย็นทำให้ความรู้สึกของเธอเย็นลงไปด้วย ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลาแล้ว และมาร์คก็คงจะมาถึงในไม่ช้าเธอส่งข้อความไปบอกเขาว่าเธอรออยู่ที่ทางเข้าห้างสรรพสินค้า รถของเขามาจอดตรงหน้าเธอในไม่ช้า เธอเดินไปเปิดประตูและขึ้นรถ ความอุ่นข้างในรถลบล้างความหนาวเย็นจากข้างนอก เธอจัดผมที่ถูกลมข้างนอกพัดจนกระเซิงให้เป็นระเบียบ “เราจะไปทานข้าวที่ไหนกันคะ?”มาร์คไม่ตอบ เธอจึงต้องหันไปมองเขา “มีอะไรเหรอ?”เขาจ้องไปที่กระจกมองหลังด้วยสีหน้าตาย “วิล ซีวานกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”เธอแอบตกใจแต่แล้วก็ตระหนักว่าวิลกำลังนำทางภรรยาและลูกของเขาเพื่อเตรียมพร้อมที่จะกลับอยู่ห่างออกไปจากพวกเขาไม่มากนัก ซึ่งมาร์คเห็นทั้งหมด“เขาบอกว่าเขาแค่มาเยี่ยมญาติ” เธอยอมรับด้วยความจริงใจ “เขาเพิ่งจะมาได้ไม่กี่วันและก็จะกลับในเร็ว ๆ นี้
แอเรียนรู้สึกได้ถึงความว่างเปล่าลึก ๆ ข้างในตัวเธอ เบื้องหน้าความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจจะดูแข็งแรง แต่ในความเป็นจริง มันยังคงเปราะบางเช่นเคย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้สามารถยืนยันมันได้อย่างชัดเจนเธอผล็อยหลับสนิทก่อนที่มาร์คจะออกมาจากห้องน้ำ อาจจะเป็นเพราะความมืดที่ทำให้เธอสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้นไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน จู่ ๆ เธอก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างขยับใกล้ ๆ ตัวเธอ เธอลืมตาขึ้นเล็กน้อยและเห็นว่ามาร์คกำลังตรวจดูโทรศัพท์เธอ เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็นและหวังว่านั่นจะทำให้เขาสามารถรู้สึกมั่นใจขึ้นมาได้บ้าง เขาคงแค่อยากจะดูว่า เธอได้บันทึกเบอร์ของวิลไว้หรือไม่ โชคดีที่เธอไม่ได้ทำอย่างนั้น…วันรุ่งขึ้นแอเรียนตื่นขึ้นก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นเนื่องจากเธอเข้านอนเร็ว มาร์คยังคงหลับสนิท เธอลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำอย่างเงียบ ๆ เธอคิดถึงแอริสโตเติล นี่เป็นครั้งแรกที่เธอไม่ได้นอนที่บ้านหลังจากที่ให้กำเนิดแอริสโตเติลเธอก้าวออกจากห้องน้ำอย่างเหม่อลอยหลังการอาบน้ำและต้องกระโดดด้วยความตกใจ มาร์คตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้และมายืนพิงข้าง ๆ ประตูห้องน้ำเธอเรียกสติตนเอง “ตื่นแล้วเหรอคะ? ยังเช้าอยู่เลย
มาร์คเดินเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง เขาเอื้อมมือออกไปจับหูของแอริสโตเติลเบา ๆ “ฉันก็อยากจะสร้างบรรยากาศดี ๆ และโรแมนติกเหมือนกัน แต่ร่างกายของเธอมันแสดงออกอย่างชัดเจนมาก เธอไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เลยไม่ว่าฉันจะพยายามแค่ไหน มันหมายความได้ว่ายังไง? มันก็หมายความว่าเธอไม่สบอารมณ์ที่จะเดตเลยไง”แอเรียนไม่พอใจกับการกล่าวหาเท็จของเขา “มันเป็นเพราะคุณนั่นแหละที่หน้าบึ้งตลอดทั้งคืน ฉันก็เลยตื่นตระหนก จะให้ฉันมีอารมณ์ทำอย่างอื่นได้ยังไง? คุณทำเหมือนกับว่าฉันทำอะไรผิด คุณมันไร้เหตุผลและไม่โตจริง ๆ ! ตอนที่ฉันกลับมาจากไปเยี่ยมแอรี่ฉันก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาแบบนี้กับคุณไม่ใช่เหรอ? แต่นี่คุณจะไม่พอใจเพียงเพราะฉันบังเอิญเจอกับวิลอย่างนั้นเหรอ?”แอริสโตเติลสะบัดมือของมาร์คออกด้วยความไม่พอใจ มาร์คไม่สนทนาต่อ “ถ้าป้อนนมเขาเสร็จแล้วก็ลงไปทานอาหารเช้าด้วยนะ แล้วฉันจะไปส่งที่ทำงาน”ระหว่างทางไปที่ทำงาน ทิฟฟานี่ก็ดันส่งข้อความมาหาแอเรียนโดยไม่รู้เวลาจริง ๆ: ‘เมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง? เดทอันโรแมนติกที่เธอจินตนาการเอาไว้ได้เป็นจริงไหม?’แอเรียนเห็นว่ามาร์คกำลังใจจดใจจ่อกับการขับรถและไม่ได้สนใจเธอ เธอจึงรีบตอบกลับทิฟฟานี
แจ็คสันแอบสงสัยอยู่ข้างใน เขาไม่เชื่อว่าระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายจะมีความสัมพันธ์ที่เป็นแค่เพื่อนกันอยู่จริง ๆ เขารู้ว่าคนที่วิลชอบคือแอเรียน แต่ทิฟฟานี่ก็สนิทกับวิลมากเหมือนกัน มันจะเป็นไปได้ไหมว่าทิฟฟานี่อาจจะเคยชอบวิล? ไม่อย่างนั้นเธอจะขอลางานทันทีที่รู้ว่าวิลอยู่ในเมืองทำไม? เมื่อตอนที่เขาขอให้เธอลางานในอดีต เธอยังไม่เคยจะยอมเขาเลย เมื่อนึกได้อย่างนั้นเขาก็ยิ่งมั่นใจในการตัดสินใจของตนเองยิ่งขึ้น “ถ้าผมไปด้วยไม่ได้ คุณก็ห้ามไปเหมือนกัน”ทิฟฟานี่หมดความอดทน “ได้ ฉันไม่ไปก็ได้! ฉันจะฟ้องแม่คุณว่าคุณไม่ยอมให้คนท้องอย่างฉันลางาน ดูสิว่าเขาจะบ่นคุณไหม!”แจ็คสันไม่ได้สนใจคำขู่ของเธอ เขาไม่เชื่อว่าเธอจะกล้าไปฟ้องซัมเมอร์จริง ๆทันทีที่ทิฟฟานี่เดินออกไป ซัมเมอร์ก็โทรมาต่อว่าแจ็คสัน เขารู้สึกได้ว่าอารมณ์ของเขากำลังขึ้นเมื่อเขาพูดว่า “อย่าไปฟังเธอนะแม่ เธอไม่ได้จะลาเพื่อไปพักอยู่ที่บ้าน เธอจะไปหาเพื่อนสมัยเรียน แถมยังเป็นผู้ชายอีกด้วย แม่คิดว่าผมจะปล่อยให้เธอไปเที่ยวไหนต่อไหนทั้ง ๆ ที่ท้องเธอโตขนาดนั้นแล้วจริง ๆ เหรอ? ผมเสนอเธอไปแล้วว่าให้ผมไปด้วย แต่เธอเอาแต่ปฏิเสธ”หลังจากที่วางสายจากซัมเ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง