เหยาปิงชู่อดไม่ได้ที่จะยิ้มเเฉ่งท่ามกลางฝูงชน“เอาล่ะ มาเริ่มรายการที่สองสำหรับวันนี้กันดีกว่า” ฉินลี่ชุนพูดพร้อมหยิบสินค้าชิ้นที่สองสำหรับการประมูลออกมา ธงเล็กๆ เจ็ดธงที่ทำจากวัสดุที่ทราบชนิดปรากฏขึ้นในมือของเขา“นี่คือธงพิเศษที่ใช้ในการทำลายค่ายกล ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยปรมาจารย์ด้านค่ายกลผู้หนึ่ง ดินแดนเร้นลับที่พวกคุณจะเข้าไปพรุ่งนี้เป็นดินแดนที่เพิ่งค้นพบ และแน่นอนว่าจะต้องมีรูปแบบค่ายกลต่างๆ ธงทำลายค่ายกลนี้จะมีประโยชน์มาก ฉันได้ทดสอบพวกมันมาแล้ว ค่ายกลที่สร้างโดยปรมาจารย์ระดับมหากาฬสามารถถูกทำลายได้ทันทีด้วยธงเหล่านี้ แม้แต่ค่ายกลที่สร้างขึ้นโดยระดับจอมยุทธก็ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการทำลาย ราคาเริ่มต้นคือ 300 หินจิตวิญญาณต่อชิ้น เพิ่มราคาประมูลไม่ต่ำกว่า 50 หินจิตวิญญาณ”ทันทีที่ฉินลี่ชุนพูดเสร็จ ดวงตาหลายดวงก็เป็นประกายเต็มไปด้วยความสนใจเห็นได้ชัดว่าธงทำลายค่ายกลนั้นได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนแม้แต่ชิงหลงซึ่งอยู่ข้างๆ ฉู่เฉิน ก็ยังหายใจแรง และมุ่งมั่นที่จะชนะการประมูลปากตะโกนออกมาทันที“หินจิตวิญญาณห้าร้อยก้อน”“หินจิตวิญญาณหกร้อยก้อน”“หินจิตวิญญาณเจ็ดร้อยก้อน”การ
ราคาของธงทำลายค่ายกลเริ่มสูงเกินจริงมากขึ้น จนกระทั่งชายลึกลับที่ซ่อนรัศมีเอาไว้ ซื้อมันด้วยหินจิตวิญญาณสามพันก้อนจากนั้นฉินลี่ชุนก็เริ่มแนะนำสินค้าประมูลรายการถัดไปในขณะที่การประมูลดำเนินต่อไป สิ่งของมีค่ามากมายก็ถูกนำเสนอทีละรายการมีของวิเศษที่เอาต้านทานพลังระดับจอมยุทธได้ และยาพิษเข้มข้นที่เป็นพิษต่อระดับจอมยุทธเมื่อเวลาผ่านไป การประมูลก็มาถึงจุดไคลแม็กซ์ในที่สุดฉินลี่ชุนโบกมือให้กับผู้ฟังเพื่อส่งสัญญาณให้ทุกคนสงบสติอารมณ์ก่อนจะพูดช้าๆ : "ต่อไป ก็มาถึงของชิ้นสุดท้ายของการประมูลนี้ ฉันเชื่อว่าทุกคนคงทราบข่าวแล้ว ไม่ต้องพูดมากความแล้ว โอสถทิพย์จะเริ่มประมูลบัดเดี๋ยวนี้ ราคาเริ่มต้นหินจิตวิญญาณสองพันก้อน สามารถเพิ่มราคาประมูลได้ตามต้องการ”หลังจากที่ ฉินลี่ชุนพูดจบ สถานที่จัดงานก็เงียบลง ไม่มีใครพูดอะไรมีเพียงแต่เสียงกระซิบกระซาบหลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง ก็มีคนพูดขึ้นช้าๆ“ผู้นำตระกูลฉิน โปรดแนะนำของชิ้นนี้อย่างถูกต้องด้วย ไม่เช่นนั้นจะคิดว่ามันเป็นเพียงโอสถทิพย์ที่ฉันกำลังรอคอยอยู่” น่าประหลาดใจที่คนที่พูดนั้นเป็นระดับจอมยุทธเมื่อได้ยินคำพูดของคนระดับจอมยุทธ ฉินลี่ช
ในการแข่งขันระหว่างห้าตระกูลหลัก คนธรรมดาไม่กล้าจะสอดแทรกเข้ามา แม้แต่นิกายลับบางนิกายก็ยังด้อยกว่าทรัพยากรทางการเงินของตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองหลวงเล็กด้วยเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าใครก็ตามที่เป็นเจ้าของโอสถทิพย์นี้ ก็เทียบเท่ากับได้ครอบครองดินแดนเร้นลับใหม่ไปแล้ว ทำให้ห้าตระกูลใหญ่ต่างก็ไม่ยอมแพ้ผู้คนต่างหน้าแดงระเรื่ออย่างตื่นเต้น และเสนอราคาอย่างบ้าคลั่ง“หินจิตวิญญาณสองหมื่นก้อน!”“สองหมื่นหนึ่งพัน”“สองหมื่นสองพัน”ในเวลาไม่นาน ราคาประมูลก็พุ่งสูงขึ้นถึงสองหมื่นห้าพันหินจิตวิญญาณอย่างน่าประหลาดใจราคาประมูลสุดท้าย ถูกตะโกนออกมาจากหานฉวนซิง ผู้นำตระกูลหานที่กำลังกัดฟันกรอดแม้แต่ตระกูลมั่งคั่งในเมืองหลวง ราคานี้ก็ถือเป็นขีดจำกัดแล้วอย่างทราบกันดีว่าเหมืองหินจิตวิญญาณธรรมดานั้น สามารถผลิตหินจิตวิญญาณได้ประมาณหนึ่งหมื่นก้อนเท่านั้นจำนวนนี้เทียบเท่ากับผลผลิตของเหมืองหินจิตวิญญาณสองเหมืองครึ่ง ทำให้แม้แต่ตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงต้องชั่งน้ำหนักผลกำไรและขาดทุนอย่างระมัดระวัง“สองหมื่นห้าพันครั้งที่หนึ่ง”“สองหมื่นห้าพันครั้งที่สอง”“ขอแสดงความยินดีกับผู้นำตระกูลหาน!”ฉินลี่ชุนยิ้
ฉู่เฉินกำลังจะออกจากตระกูลฉินกับชิงหลง แต่จากมุมหนึ่ง เขาก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเป็นเธอเหรอ?ขณะที่ฉู่เฉินกำลังจะยืนยัน ร่างนั้นก็เข้ามาในตระกูลฉินพร้อมกับผู้คนมากมายไปแล้ว“ชิงหลง นายกลับไปก่อน ฉันมีเรื่องต้องทำ!” ฉู่เฉินแยกตัวจากชิงหลงและอธิบาย เสร็จแล้วเดินตามร่างนั้นจากด้านหลังถ้าจำไม่ผิด ร่างนั้นคือฉินปิงเยว่!เธอจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ฉู่เฉินเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นจึงตามไปตลอดทางห้องโถงภายในของตระกูลฉินมีคนคนหนึ่งพาฉินปิงเยว่มาที่นี่ตอนนี้มีคนสองคนรออยู่ที่ห้องโถงด้านในแล้ว“นายน้อย ผมนำตัวมาแล้ว”ที่นั่งอยู่ในห้องโถงคือนายน้อยคนโตของตระกูลฉิน ฉินหยวนไถ และนายน้อยคนที่สอง ฉินหยวนหัวฉินหยวนไถโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้คนรับใช้เพื่อออกไป จากนั้นหันหน้าไปพูดกับฉินปิงเยว่“ปิงเยว่ เธอตัดสินใจแล้วหรือยัง?”“พี่ แม้ว่าพี่จะใจดีกับฉันมากตั้งแต่ฉันมาเมืองหลวง แต่การขอให้ฉันแต่งงานกับคุณก็ยังอุกอาจเกินไปหน่อยนะ แล้วพวกเราเป็นญาติกันอีก” ฉินปิงเยว่ส่ายหัวและปฏิเสธ“อะไรนักหนา การแต่งงานของญาติเป็นเรื่องปกติในตระกูลเรา นอกจากนี้ ตระกูลของเธอและตระกูลของพวกฉันยังห
ฉินหยวนหัวที่เผยธาตุแท้ออกมา แล้วมองฉินปิงเยว่ด้วยสีหน้าเย้ยหยันและพูดต่ออย่างเย็นชา“ฮึ่ม ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแกมีกายาทิพย์ในตำนาน และบังเอิญมีสายเลือดของตระกูลฉินอีก พี่ฉันจะอดทนต่อแกขนาดนี้ได้ยังไง? แกไม่รู้หรอกเหรอว่า พี่ฉันได้ความบริสุทธิ์ของแกไป เขาก็จะเพิ่มความสามารถก้าวผ่านจิตได้อีกในอนาคต”“จริงเหรอ?” ฉินปิงเยว่มองไปที่ฉินหยวนไถด้วยสีหน้าเหลือเชื่อบนใบหน้า รู้สึกโง่เขลาที่คิดว่าเขาเป็นญาติของเธอในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉินหยวนไถคิดไม่ซื่อต่อเธอแบบนี้“เธอเชื่อจริง ๆ หรือว่าแค่หน้าสวยๆ ของเธอทำให้ฉันหลงใหลได้? ในเมืองหลวงมีคนสวยๆ ให้ฉันชี้นิ้วเลือกมากมาย อย่าเพ้อเจ้อไปเอง!”เมื่อเผชิญกับคำถามของฉินปิงเยว่ ฉินหยวนไถก็ไม่ปฏิเสธ เขายังลุกออกจากที่นั่ง แล้วเดินไปหาฉินปิงเยว่ฉินปิงเยว่ก้าวถอยหลังทันที“คะ...คุณจะทำอะไร?”“ฉันจะทำอย่างไร เธอก็รู้อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ฉันจะอ่อนโยนอย่างแน่นอน”ฉินหยวนไถยิ้มและค่อยๆ เดินเข้าหาฉินปิงเยว่“กะ... แกฝันไปเถอะ! ฉันยอมตายดีกว่ายอมให้แกขืนใจ!” ฉินปิงเยว่ดึงมีดสั้นออกมาจากที่ไหนสักแห่ง แล้วจ่อไว้ที่คอของตัวเองเมื
เมื่อปรมาจารย์ระดับมหากาฬสองคนลงมือ หากพวกเขาไม่ได้ปกป้องฉินปิงเยว่ เธออาจเสียชีวิตทันทีจากลูกหลงจากความอลหม่าน ฉินปิงเยว่จึงได้ลืมตาขึ้นมาเมื่อเห็นฉู่เฉิน สีหน้าแสดงความไม่เชื่อ และปากบ่นพึมพำ: “ปรมาจารย์ฉู่ ใช่คุณจริงๆ เหรอ?”ฉู่เฉินมองไปที่ฉินปิงเยว่ด้วยสีหน้าเรียบๆ และพูดได้เพียงว่า "ถ้าไม่ใช่ผม มันจะเป็นผีหรือเปล่า"“เป็นคุณจริงๆ ปรมาจารย์ฉู่ ฉันคิดถึงคุณมาก”ฉินปิงเยว่หันไปด้านข้าง แล้วโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของฉู่เฉินในทันทีในทางตรงกันข้ามกับฉินปิงเยว่ที่กำลังดีใจสองพี่น้องฉินหยวนไถและฉินหยวนหัวมีใบหน้าที่มืดมน โดยเฉพาะฉินหยวนไถที่จ้องฉู่เฉินอย่างไม่ละสายตา“แกเป็นใคร แกรู้ไหมว่านี่คือที่ไหน แกบุกเข้าไปในตระกูลฉินของฉัน แกไม่ตายดีแน่!”ฉินหยวนไถเชื่อว่าเขารู้จักคนรุ่นเยาว์ที่มีทักษะระดับนี้ในเมืองทั้งหมด แต่ด้วยใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย คนๆ นี้ต้องไม่ได้มาจากเมืองหลวง จึงมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ลูกศิษย์จากนิกายซ่อนเร้น?เมื่อเห็นว่าทั้งสองไม่รู้จักตัวเอง ฉู่เฉินจึงไม่แนะนำตัวเองอย่างจริงจังเขาแค่เย้ยหยันแล้วพูด: "ฉันเป็นแฟนของเธอ"ฉินปิงเยว่ในอ้อมแขนได
“ท่านพ่อ ฉินปิงเยว่ถูกใครบางคนชิงตัวไปแล้ว” ฉินหยวนไถเล่าอย่างตรงไปตรงมาถึงเรื่องที่เกิดขึ้นฉินลี่ชุนมีสีหน้าหมองคล้ำ กำลังเปิดปากสอนบทเรียน“ฉันบอกให้แกลงมือมาตั้งนานแล้ว แต่แกก็มัวรอให้เธอเต็มใจอยู่ได้ แล้วเป็นไง ตอนนี้หายกันไปหมดแล้ว!”“ท่านพ่อ ผมกำลังคิดที่จะเพิ่มพลังจากกายาทิพย์ของเธอให้ไปถึงระดับสูงที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการก้าวผ่านจิต ใครจะไปคิดถึงว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้”“พอแล้ว ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของฉันเอง แกไปเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ได้แล้ว”ฉินลี่ชุนขัดจังหวะฉินหยวนไถซึ่งยังคงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง จากนั้นไล่ตามทิศทางที่ฉู่เฉินจากไปคืนนี้ก็เป็นคืนที่นอนไม่หลับ……บนท้องฟ้า ฉู่เฉินระบุทิศทางและมุ่งหน้าตรงไปยังฐานชิงหลงฉินปิงเยว่ที่เป็นคนธรรมดากำลังอยู่เคียงข้างเขา จึงไม่เหมาะที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหยาหลิงเฉินเพิ่งเตือนเขาว่ามีนักรบระดับจอมยุทธกำลังใกล้เข้ามาฉู่เฉินไม่จำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็รู้ดีว่านั่นต้องเป็นผู้นำตระกูลฉินจึงออกเล่นกลอุบายก่อน จากนั้นจึงรีบหนีไปทันที“คุณฉู่ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!”ฉินปิงเยว
“เจ้าหนู แกคิดว่าเมื่อได้รับการออกหน้าปกป้องจากนิกายที่ซ่อนเร้น ฉันจะไม่กล้าทำอะไรแกงั้นเหรอ? ทำไมแกจู่ๆ ถึงปรากฏตัวอย่างเปิดเผยในตระกูลฉินแบบนี้ คราวนี้ฉันจะขอดูสิว่า จะมีใครหน้าไหนออกมาช่วยแกได้อีก!” หานเหอชิงพูดจอมยุทธอีกแล้ว!ฉู่เฉินรู้ดีว่าเขาไม่มีพละพลังพอที่จะต่อสู้กับระดับจอมยุทธนี้ คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ตระกูลหานของแกชนะได้โอถสทิพย์ไปในการประมูล และตอนนี้ก็ตกเป็นเป้าหมายคนของตระกูลอื่นแล้ว ถ้าแกไม่ไปคุ้มกันและปรากฏอยู่ที่นี่ แกไม่กลัวหรือว่าโอสถทิพย์ที่ตระกูลหานประมูลมาในที่สุดจะมีราคาสูง จะลงเอยด้วยการให้ประโยชน์แก่ผู้อื่น?”“ฮึ่ม แน่นอนเพราะว่าโอสถทิพย์นั่นที่ดึงดูดความสนใจของผู้บ่มเพาะทั้งหลาย ฉันจึงมีโอกาสที่จะแอบหนีมาฆ่าแกอย่างลับๆ นี่ไง นกอกจากนี้ เนื่องจากตระกูลหานสามารถซื้อมันได้ พวกเราก็เลยมีความสามรถที่จะปกป้องมันได้แน่นอน แกไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น แค่เตรียมตัวตายอย่างสบายสงบได้เลย” หานเหอชิงพูด โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า เขาทิ้งภาพติดตาไว้ในขณะที่เขารีบไปหาฉู่เฉินเมื่อเห็นเช่นนั้น ฉู่เฉินก็หันหลังกลับและหนีไป“จะหนีไปไหน!”ร่างของหานเหอชิงปรากฏขึ