ทั้งสองเงียบอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าอาหารจะมาเสิร์ฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่พวกเขาก็ก้มหัวลงและกินอาหารเครื่องเคียงเป็นหนิงชิงเสว่ที่ทำลายความเงียบ: "เสี่ยวเฉิน มาแต่งงานใหม่กันเถอะ!"“แค่ก แค่ก แค่ก….”ฉู่เฉินสำลักทันที“พี่เจ็ด คุณพูดอะไร?” ฉู่เฉินถามอีกครั้งหลังจากดื่มน้ำแล้ว“ฉันบอกว่ามาแต่งงานใหม่กันเถอะ!” หนิงชิงเสว่รวบรวมความกล้าที่จะพูดเสียงดังอีกครั้ง แม้แต่ลูกค้าที่อยู่ใกล้ๆ ก็ได้ยินและหันหน้าไปมองหนิงชิงเสว่ไม่สนใจต่อสายตาแปลก ๆ ของคนอื่นที่มองมาและพูดต่อ: "เหตุผลที่ฉันหย่ากับนายก่อนหน้านี้ก็คือฉันไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของนายในเวลานั้น เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามจากตระกูลจ้าว ฉันไม่ต้องการลากนายเข้ามาเอี่ยวด้วย”“ต่อมา เมื่อฉันรู้ว่านายเป็นน้องเสี่ยวซือโถว ฉันก็สับสนว่าฉันตกหลุมรักฉู่เฉินหรือน้องเสี่ยวซือโถว ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าคุณทั้งคู่คือคนคนเดียวกัน ดังนั้นพวกเรามาแต่งงานกันอีกครั้งเถอะนะ!”ฉู่เฉินตกตะลึงกับคำสารภาพอันกล้าหาญของหนิงชิงเสว่ขณะที่เขาตกตะลึง ก็มีเสียงแหลมดังขึ้น“โอ้ นี่คุณหนิงผู้ก่อตั้งเฟยเสวี่ยกรุ๊ปด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมฉันไม่ได้เจอคุณมาสักพักใหญ
"นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทําไมเฟยเสวี่ยกรุ๊ปของคุณถึงตกไปอยู่ในมือคนอื่นแล้ว" ฉู่เฉินไม่ได้สนใจหลิวเสี่ยวอวิ๋นที่หนีไป แต่หันกลับไปถามหนิงชิงเสว่เดิมทีตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หนิงชิงเสว่ได้ส่งมอบกิจการทั้งหมดของเฟยเสวี่ยกรุ๊ปให้กับลุงของเธอ และตามฉู่เฉินไปที่จิงโจวหลังจากที่ได้พบฉู่เฉิน จากนั้นเธอก็พบกับคุณยายอสรพิษเฒ่าและถูกพาตัวไปซินเจียงทางใต้ ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ฝึกฝนวิชากับคุณยายอสรพิษเฒ่าและไม่ได้กลับไปหาตระกูลหนิงอีกเลย ซึ่งเรื่องนี้นำไปสู่ความเข้าใจผิดจากคนภายนอกหลิวเสี่ยวอวิ๋นเดิมทีเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนหางแถวของเฟ่ยเสวี่ยกรุ๊ป แต่เมื่อมีปัญหากับอุปทานบางอย่าง หนิงชิงเสว่ก็ตัดหุ้นส่วนรายนี้ออกไปตอนนี้หนิงชิงเสว่ไม่อยู่ หลิวเสี่ยวอวิ๋นก็สามารถเข้ามาสร้างความร่วมมือกับเฟยเสวี่ยกรุ๊ปได้อีกครั้งจากการฟังคำพูดของหนิงชิงเสว่ ฉู่เฉินก็เข้าใจในทันที“และการระดมกำลังคนของบริษัท เพื่อออกตามค้นหาคุณคือ?”“บางทีลุงของฉันอาจกังวลเกี่ยวกับฉันเนื่องจากฉันหายไปหลายวัน” หนิงชิงเสว่ตอบโดยไม่คิดอะไรมากหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ดวงตาของฉู่เฉินสว่างขึ้น ได้เตือนพวกเขาไปแล้ว หากมีเจตนาอื่นแอบแฝง
“เจ้าหนู นายคงไม่ได้เป็นหนุ่มบริสุทธิ์ใช่ไหม?” เสียงของจวินหวู่หมิงล้อเลียนสิ่งนี้ทำให้ฉู่เฉินรู้สึกเขินอายมากยิ่งขึ้นในทันที“ให้ตายเถอะ ฉันลืมไปว่ามีแอบดูอยู่ คราวหน้าฉันต้องจำเอาไว้ว่าต้องสงบสติอารมณ์เอาไว้!” ฉู่เฉินเตือนตัวเองอย่างเงียบ ๆ……ในศาลาลึกลับแห่งหนึ่งในเมืองหลวงมีร่างหนึ่งปรากฏบนเก้าอี้ในห้องโถง“คาดไม่ถึง แม้แต่นักฆ่า 5 ศาสตราก็พลาดท่า การส่งนักฆ่าเพิ่มไปอีกก็คงไม่มีประโยชน์ ผู้เฒ่าสี่ ทำไมคุณไม่ไปแทนล่ะ?” เสียงชายชราดังขึ้นไม่ไกลแต่จู่ๆ ก็มีคนตอบกลับมา“ฉันลงมือได้ แต่ฉันจะไม่ลอบสังหาร”"หมายความว่ายังไง?"“ในนามของวิหารวรยุทธให้ไปท้าดวลไอ้สารเลวตัวน้อยนั้น ไม่ว่าเขาจะมาหรือไม่ก็ตาม วิหารวรยุทธจะได้รับชื่อเสียงอย่างมากจากเรื่องนี้!”"ดีมาก!"……เพิ่งกลับมาที่คฤหาสน์อวี้หลงวาน ขณะที่ฉู่เฉินยังคงดื่มด่ำกับช่วงเวลานั้นก็มีสายโทรศัพท์จากหนิงชิงเสว่โทรเข้ามาฉู่เฉินคิดว่าชิงเสว่ต้องการพบเขาอีกครั้งจึงรีบรับ แต่กลับเป็นเสียงที่ตื่นตระหนกของเธอที่ดังเข้ามาทางโทรศัพท์“เสี่ยวเฉิน คุณยายหายตัวไป”“หายก็หายไปสิ เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอไม่หลงทางหรอก อาจจะต้อง
หนานเจียงแตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในต้าเซี่ยอย่างสิ้นเชิงฉู่เฉินเมื่อมาถึงสถานที่นั้น ก็ตระหนักได้ว่าเหมือนหวนคืนสู่วัยเด็กของเขาอีกครั้งไม่มีตึกสูงสักหลังเลย ไม่ใกล้สนามบินด้วยซ้ำหลังจากที่ทั้งสองออกจากสนามบิน ไม่นานพวกเขาก็พบกับทะเลทราย“พี่เจ็ด พวกเราจะไปไหนกัน?” ฉู่เฉินถามขณะมองดูทะเลทรายที่ไกลสุดลูกหูลูกตาตรงหน้าเขา“ไปที่สถานที่ที่คุณยายเคยอยู่และสอบสวนก่อน” หนิงชิงเสว่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบ"ได้!"เมื่อไม่มีเบาะแสใดๆ ในขณะนี้ ฉู่เฉินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากติดตามการนำทางของหนิงชิงเสว่ทั้งสองคนเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการเดินทางที่หลากหลาย เปลี่ยนจากแท็กซี่เป็นรถทัวร์ จากรถทัวร์เป็นรถมินิบัส และต่อด้วยรถสามล้อ ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ลงเอยด้วยการคมนาคมแบบดั้งเดิม คือการขี่ม้าหลังจากใช้เวลาสองวันเต็มพวกเขาก็มาถึงชนเผ่าหนึ่งมีเต็นท์หลายหลังตั้งกระจัดกระจายอยู่ที่นี่ ซึ่งบางส่วนสามารถเห็นการพังทลายลงมาได้จากระยะไกลท่าไม่ดี!ทั้งสองสบตากันโดยตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติฉู่เฉินไม่สนใจเรื่องอื่น จากนั้นได้กระโดดไปข้างหน้าร่อนลงที่ชายเต็นท์แม้ว่าหนิงชิงเสว่จะตามหลังไปส
ปรากฎว่าลัทธิแม่มดกู่พยามยามอย่างสุดความสามารถ ในการค้นหาเธอซึ่งเป็นการถูกยอมรับโดยหนอนไหมทองคำกู่คุณยายเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าเมื่อหนอนไหมทองคำกู่ยอมรับใครบางคนว่าเป็นเจ้านายของมัน คนคนนั้นจะได้รับการพิจารณาให้เป็นนักบุญศักดิ์สิทธิ์จากลัทธิแม่มดกู่หนิงชิงเสว่โทษตัวเองอยู่ครู่หนึ่งเห็นว่าหนิงชิงเสว่รู้สึกไม่สบายใจ ฉู่เฉินจับมือหนิงชิงเสว่แล้วกระซิบ: “พี่เจ็ด อย่าเพิ่งตำหนิตัวเองเลย ลัทธิแม่มดกู่ได้กระทำการโหดเหี้ยมเอง และไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย"“ฉันรู้ แต่มีผู้บริสุทธิ์จำนวนมากถูกฆ่า พวกเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ทำไมลัทธิแม่มดกู่ถึงไม่ปล่อยพวกเขาไป”ความเสียใจของหนิงชิงเสว่ยากที่จะทำใจได้“เมื่อมาถึงจุดนี้ รู้สึกเศร้าไปก็ไม่มีประโยชน์ พวกลัทธิแม่มดกู่กำลังตามหาคุณ คุณยายอสรพิษเฒ่าไม่น่าจะได้รับอันตรายในตอนนี้ ลองคิดหาทางช่วยเหลือเธอกัน” ฉู่เฉินวิเคราะห์จากคำพูดของฉู่เฉิน หนิงชิงเสว่ก็พบว่ามันสมเหตุสมผล“ตอนที่คุณยายพาฉันไปซื้อแมลงกู่ก่อนหน้านี้ เธอพาฉันไปที่แห่งหนึ่งของลัทธิแม่มดกู่ พวกเราไปที่นั่นกันเถอะ” หนิงชิงเสว่มีความคิดทันทีก่อนอื่นต้องตามหาลัทธิแม่มดกู่ก่อนหลังจาก
เมื่อทั้งสองเข้าไปในหมู่บ้าน พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความแปลกใหม่อย่างแท้จริงหนิงชิงเสว่กำลังจะลากฉู่เฉิน ไปยังสถานที่ที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนแมลงกู่เดี๋ยวนั้น แต่ฉู่เฉินหยุดลงและพาเธอเข้าไปในอาคารที่มีลักษณะคล้ายโรงเตี๊ยมแทนในโรงเตี๊ยมมีผู้คนไม่มากนัก มีเพียงสามหรือห้าโต๊ะเท่านั้น และโต๊ะอื่นๆ ก็ว่างเปล่าทั้งหมดฉู่เฉินและหนิงชิงเสว่ นั่งลงที่โต๊ะว่างและรอสักพักก่อนที่จะมีพนักงงานเดินเข้ามาหา“คุณสองคนสั่งอะไร?” หญิงสาวที่แต่งกายด้วยชุดชาวเขาที่เป็นเอกลักษณ์ถามด้วยท่าทีที่ชัดเจน“นำอาหารจานพิเศษของคุณและไวน์ชั้นดีสองไหออกมา” ฉู่เฉินตั้งใจทำให้เสียงแหบแห้ง ขณะที่พูดออกไปอย่างช้าๆ"ได้ค่ะ รอสักครู่" หลังจากได้รับรายการอาหาร หญิงสาวก็รู้สึกกระตือรือร้น จากนั้นหันหลังเข้าไปในครัวลูกค้าที่สั่งอาหารแบบไม่ดูราคา นั้นหาได้ยากในโรงเตี๊ยม ดังนั้นหญิงสาวจึงทำสัญลักษณ์ว่า พวกเขาเป็นแขก VIP ทันที“เสี่ยวเฉิน ที่นี่เป็นหนึ่งในสาขาของลัทธิแม่มดกู่ พวกเราจะไม่ดึงดูดความสนใจมากเกินไปหรือ?”หนิงชิงเสว่ถามอย่างกังวลใจ“ไม่ต้องห่วง พวกเราเป็นคนแปลกหน้าที่นี่ จึงไม่มีใครรู้จักเรา นอกจากนี้
กำลังพลระดับล่างของลัทธิแม่มดกู่ ไม่ได้สังเกตเห็นว่าฉู่เฉินและหนิงชิงเสว่กำลังสะกดรอยตามพวกเขาทั้งกลุ่มเดินไปพูดไปและหัวเราะกันตลอดทางขณะที่พวกเขาเข้าใกล้อาคารโบราณ พวกเขาก็เงียบ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาถึงฐานใหญ่ลัทธิแม่มดกู่ ที่พวกเขาพูดถึงแล้วสถาปัตยกรรมโบราณตั้งอยู่ลึกเข้าไปในป่าแห่งนี้ ผสมผสานอย่างลงตัวราวกับว่าได้เติบโตมาจากพื้นดิน ผนังเชื่อมต่อกันด้วยต้นไม้สูงตระหง่านหลายต้นจนรวมกันเป็นอาคารขนาดใหญ่ แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าฐานใหญ่ของลัทธิแม่มดกู่“พวกแกแอบออกมาอีกแล้ว ไม่รู้เหรอว่านี่เป็นวันอะไร ถ้าผู้พิทักษ์เห็นเข้าจะต้องเจอมีปัญหาใหญ่อีกแน่”ขณะที่พวกเขาก้าวผ่านประตูไป ชายร่างใหญ่ก็ตำหนิพวกเขา“ผู้พิทักษ์มาแล้วเหรอ?” หนึ่งในนั้นเหงื่อตกเมื่อเอ่ยถึงผู้พิทักษ์“ฮึ่ม เดี๋ยวค่อยจัดการกับพวกแกทีหลัง” ชายร่างใหญ่พ่นลมหายใจออกมา และปล่อยผ่านพวกเขาเข้าไปพวกเขารีบวิ่งเข้าไปข้างในด้วยความโล่งใจ"พวกเราทำยังไงต่อ?" หนิงชิงเสว่ถามฉู่เฉินอย่างเงียบๆ ขณะที่เห็นกลุ่มคนแยกย้ายกันไปข้างใน“พี่เจ็ด ใจเย็นๆ ก่อนนะ ก่อนอื่นต้องมายืนยันว่าคุณยายอสรพิษเฒ่ายังอยู่ที่นี่หรือไม่
เมื่อเห็นหนิงชิงเสว่ แววตาของคุณยายอสรพิษเฒ่าก็ฉายความกลัวเป็นครั้งแรก จากนั้นดูเหมือนจะนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ ริมฝีปากที่แตกร้าวแล้วพูดช้าๆ “สาวน้อยโง่เขลา สุดท้ายพวกเราก็หนีไม่พ้น และตอนนี้พวกเราพบกันในยมโลก ”เห็นได้ชัดว่า คุณยายอสรพิษเฒ่าไม่คิดว่าเธอจะรอดมาได้ หลังจากตกไปอยู่ในเงื้อมมือของลัทธิแม่มดกู่ ดังนั้นเมื่อเห็นหนิงชิงเสว่ จึงคิดว่าตัวเองได้เดินทางมาถึงยมโลกแล้ว“คุณยาย คุณกำลังพูดอะไร ฉันมาที่หนานเจียงเพื่อช่วยคุณ” หนิงชิงเสว่พูดพร้อมกับเช็ดน้ำตา พร้อมใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นคุณยายอสรพิษเฒ่าได้สติ“อะไรนะ เธอมาที่หนานเจียงด้วยเหรอ? ช่างโง่เขลาจริงๆ ฉันบอกให้เธอรีบหนีไปแท้ๆ และอยู่ห่างจากหนานเจียงเอาไว้ไม่ใช่เหรอ?” คุณยายอสรพิษเฒ่าได้ยินแบบนั้น ไม่เพียงแต่ไม่มีความสุข แต่ยังรู้สึกกังวลอีกด้วย“คุณยาย ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ได้มาคนเดียว ยังมีเสี่ยวเฉินก็มาด้วย คุณไม่รู้สิ ตอนนี้เสี่ยวเฉินแข็งแกร่งมาก” หนิงชิงเสว่ปลอบใจ เพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉู่เฉินแข็งแกร่งมากเพียงใด“เธอรู้ไหมว่าหนานเจียงน่ากลัวแค่ไหน? ไม่ใช่แค่เธอ แม้แต่คนรักของเธอ อย่างปรมาจารย์ฉู่ หากมาที่หน