แขกในงานจากทุกทิศทางต่างพากันมองดูคนสองคนจับมือทักทายกัน ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมารู้ไหมว่านายน้อยเจียงเป็นนักรบนะ!เด็กแซ่ฉู่คนนี้โชคร้ายแล้วมีเพียงฉู่เมิ่งเหยาเท่านั้นที่มีใบหน้าสงบนิ่ง เมื่อดูดีๆ เธอมองไปที่เจียงอี้ฟานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสารฉู่เฉินเป็นถึงปรมาจารย์วรยุทธ จะไปกลัวอะไรแบบนี้ได้ยังไง?ต่อหน้าทุกคน ใบหน้าของเจียงอี้ฟานค่อนข้างซับซ้อน ไม่รู้ว่าเจ็บปวดหรือตกใจ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ให้ได้เดิมทีเขาตั้งใจจะบีบมือฉู่เฉินอย่างแรง และทำให้เขาดูอับอายต่อหน้าสาธารณชนที่คาดไม่ถึงไปกว่านั้น ก็คือฉู่เฉินกลับทำตรงข้ามและจับมือของเขาไว้แน่น ทำให้เขาเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ“เด็กคนนี้มีความแข็งแกร่งแบบนี้ได้ยังไง?”“มันเป็นไปไม่ได้ เธอก็รู้ว่าฉันมีวรยุทธในระดับชกด้วยฐานข้อศอก!”เจียงอี้ฟานคำรามอยู่ในใจ ใช้กำลังทั้งหมดของเขาจับมือของฉู่เฉินไว้แน่นแต่ก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้ใบหน้าของฉู่เฉินเปลี่ยนไปได้เลยแม้แต่น้อยในทางตรงกันข้าม ฉู่เฉินจับมือของเขา และมันก็เริ่มระเบิดเหมือนกับประทัดเจียงอี้ฟานพยายา
ผู้หญิงหลายคนในงานเลี้ยงมีสีหน้าเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเว่ยซือยวี่เพราะพวกเธอล้วนแต่เป็นหนึ่งในนางบำเรอของเจียงอี้ฟานพวกเธอยังคิดว่าตัวเองสำคัญมากในใจของเจียงอี้ฟาน แต่ที่น่าประหลาดใจคือพวกเธอเทียบไม่ได้กับฉู่เมิ่งเหยาเลยสักนิดโดยเฉพาะเว่ยซือยวี่ แววตาเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความริษยาฉู่เมิ่งเหยา!นังตัวแสบ แกมีสิทธิ์อะไรที่จะเป็นหัวหน้านางบำเรอของนายน้อยเจียง?ฉู่เมิ่งเหยาไม่คิดว่าเจียงอี้ฟานจะไร้ยางอายถึงขนาดนี้ ทำเรื่องบ้าอะไรนางบำรงบำเรออะไรกัน อีกทั้งเขายังอยากจะให้ตัวเองเป็นนางบำเรออีกด้วยเธอถากถางทันทีและพูดว่า "นายน้อยเจียง ถ้าคุณมีความต้องการทางเพศมากนัก ทำไมคุณไม่ไปหาคนอื่นล่ะ ฉันรังเกียจ!"“กล้าดียังไงมาปฏิเสธฉัน?” สายตาของเจียงอี้ฟานหรี่ลง“ถ้าฉันปฏิเสธคุณจะทำไมล่ะ?”ฉู่เฉินลุกขึ้นและพูดว่า "แกเป็นแค่ทายาทรุ่นที่สอง แต่แกแค่อาศัยกินบุญเก่าของบรรพบุรุษแก เพื่อมีอำนาจมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป แกจะสร้างนางบำเรอแปดคนได้อย่างไร แกคิดว่าเป็นองค์ชายในสมัยโบราณเหรอ?”“ในฉู่โจว ฉันคือองค์ชาย!” เจียงอี้ฟานหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ“เสี่ยวเฉิน หยุดพูดเรื่องไร้สาระกับเขาได้แล้ว ไปกัน
เมื่อได้สบสายตาที่โกรธเกรี้ยวของเว่ยไห่หลง ฉู่เฉินก็มองเขาด้วยสีหน้าเย็นชาและพูดว่า "ถ้าแกยังพูดไร้สาระอีก แกจะได้มีสภาพไม่ต่างจากมัน!"เสียงของเว่ยไห่หลงหยุดลง และเขาก็โกรธแทบตาย โกรธจนอยากจะระเบิดออกมา แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่กล้าพูดอะไรเขาเคยเห็นความโหดเหี้ยมของฉู่เฉินแล้ว เมื่อฉู่เฉินบอกว่าจะทุบตีก็คือทุบตีจริงๆทั้งห้องโถงเงียบลงอย่างน่าขนลุก แขกในงานยังคงตกตะลึงกับความจริงที่ว่าฉู่เฉินตบหน้าเจียงอี้ฟานอย่างบ้าคลั่งหลังจากที่เจียงอี้ฟานลุกขึ้น ใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเขาจ้องฉู่เฉินด้วยจิตสังหารอย่างบ้าคลั่งในแววตา: "ไอ้เด็กนรก ฉันเจียงอี้ฟาน คนนี้มีอายุยี่สิบกว่าปีแล้ว และแกเป็นคนแรกที่กล้าทำกับฉันแบบนี้""โอเค ดีมาก เยี่ยมยอดมาก!"“ตายซะ!”ความเย็นชาแวบขึ้นมาในแววตาของเขา ในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าและปล่อยหมัดๆหนึ่งใส่ฉู่เฉินโดยตรง เผยให้เห็นวรยุทธที่แท้จริงของเขาอยู่ในระดับการชกด้วยฐานข้อศอกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดเผยวรยุทธของเขา แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว เขาแค่อยากจะฆ่าฉู่เฉินเพียงเท่านั้นในพริบตา หมัดของเจียงอี้ฟานก็อยู่ห่างจากใบหน้าของฉู่เฉินไม่ถึงสิบนิ้วเจ
แต่เมื่อเขาเห็นเจียงอี้ฟานถูกทุบตีเช่นนี้ ตัวเขายังต้องกลับไปอธิบายให้ตระกูลเจียงฟังเขาพยักหน้าและมองฉู่เฉินด้วยสายตาเศร้าหมองและพูดว่า “เจ้าหนุ่ม แกไม่คิดว่าที่ทำลงไปนั้น มันโหดเหี้ยมเกินไปหน่อยเหรอ?”“งั้นเหรอ? ฉันคิดว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าแกมาช้ากว่านี้ ไอ้บ้านี่คงเหลือแต่ร่างไร้วิญญาณแล้ว” ฉู่เฉินพูดอย่างไร้อารมณ์สีหน้าของผู้เฒ่าจู้มืดมนลง: "แกกล้าหาญมากพ่อหนุ่ม ฉันไม่รู้ว่าแกมาจากนิกายหรือสำนักไหน? แกไปเรียนวิชาพวกนี้มาจากใคร?"เขาเห็นว่าฉู่เฉินยังเด็กและสามารถเอาชนะเจียงอี้ฟานที่มีวรยุทธระดับชกด้วยฐานข้อศอกได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นจึงระแวงภูมิหลังของฉู่เฉินฉู่เฉินเหมือนจะเห็นความคิดของเขาทะลุปรุโปร่งและเยาะเย้ย “ฉันไม่มีนิกายหรือสำนัก และไม่มีอาจารย์ด้วย”ด้วยคำพูดเหล่านี้ ผู้เฒ่าจู้รู้สึกโล่งใจและพูดอย่างเย็นชาทันทีว่า "เจ้าหนุ่ม ฉันจะให้โอกาสแก คุกเข่าลงซะ ตัดแขนออกมาข้างหนึ่ง แล้วไปที่ตระกูลเจียงกับฉันเพื่อชดใช้บาปของแกและฉันอาจคิดพิจารณาไว้ชีวิตของแกก็ได้!”“ไอ้แก่ ถ้าอยากจะสู้ก็เข้ามาเลย มัวแต่เล่นน้ำลายอยู่ได้” ฉู่เฉินยิ้มเยาะ“รนหาที่ตาย!”ผู้เฒ่าจู้โกรธมากและ
เจียงอี้ฟานรู้แจ้งแล้วว่า แม้แต่ตัวของผู้เฒ่าจู้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉู่เฉิน ถ้าไม่ยอมรับความขี้ขลาดของตัวเองอีก ตัวเขาอาจจะตายได้ในวันนี้ดังนั้น เขาจึงคุกเข่าลงทันที!ในขณะที่เขาคุกเข่าลง ทุกคนในห้องโถงก็ตกใจมากจนคางแทบหล่นลงไปกองกับพื้น และไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองตอนนี้นายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลเจียงกำลังคุกเข่าต่อหน้าชายหนุ่มคนหนึ่งเจียงอี้ฟานไม่สนใจสายตาของทุกคน ริมฝีปากสั่นเทา และมองไปที่ฉู่เฉินด้วยความกลัว: "ฉันยอมรับความพ่ายแพ้ ปล่อยฉันไปเถอะ ความแค้นระหว่างพวกเราช่วยลืมไปเถอะนะ"นั่นคือสิ่งที่เขาพูด แต่จิตสังหารอันบ้าคลั่งในใจก็ไม่สามารถระงับได้เจียงอี้ฟานอายุขนาดนี้แล้ว เคยถูกดูถูกเช่นนี้ตอนไหน?เขาสาบานว่าจะตอบโต้ฉู่เฉินทุกวิถีทาง เมื่อกลับไปที่ตระกูลฉู่เฉินรู้ดีว่าเขาคิดอะไรอยู่ในใจ และกำลังจะลงมือสังหารเขาทันทีฉู่เมิ่งเหยาลุกขึ้นและพูดว่า "เสี่ยวเฉิน ช่างมันเถอะ เมื่อนายน้อยเจียงยอมถอยให้แล้ว พวกเราก็ไม่ควรก้าวร้าวไปมากกว่านี้"เธอไม่ได้เห็นอกเห็นใจเจียงอี้ฟาน แต่กลัวอำนาจของตระกูลเจียงมากกว่า เพราะตระกูลเจียงมีอิทธิพลมากมายในกองทัพ และดูเหมือนจะมีความเกี่ย
“นายกำลังพูดไร้สาระอะไร? นายอยากโดนตีหรือไง?” ฉู่เมิ่งเหยาจ้องมองเขาด้วยความโกรธและพูดอย่างดุเดือดว่า "นายเป็นน้องฉัน มันเป็นหน้าที่ที่พี่สาวต้องปกป้องน้อง แต่วันนี้นายกลับปกป้องฉัน ฉันจะตำหนินายได้ยังไง""งั้นก็ดีแล้ว" ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆจากนั้นทั้งสองก็เดินไปตามถนนการค้าของฉู่โจวอีกครั้ง ซึ่งฉู่เมิ่งเหยาได้ซื้อของมากมายให้กับฉู่เฉิน เช่นเสื้อผ้าและเครื่องสำอางผู้ชายต่างๆหนึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อทั้งสองคนกลับมาที่บ้านตระกูลเว่ย พวกเขาพบว่าผู้อาวุโสของตระกูลเว่ยทั้งหมดซึ่งมารวมตัวกัน และบรรยากาศก็เคร่งเครียดผิดปกติทันทีที่เว่ยเหล่าไท่ไท่เห็นฉู่เมิ่งเหยา ก็ตำหนิอย่างเย็นชา: "ให้ตายเถอะ ทำไมแกยังไม่คุกเข่าลงให้ฉันอีก!"“คุณย่า ฉันทำอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ? ทำไมต้องคุกเข่าด้วย?” ฉู่เมิ่งเหยาขมวดคิ้วแล้วถาม"นังตัวดี!"เว่ยถงซานเป็นคนแรกที่ยืนขึ้นและชี้หน้าเธอ: "เหล่าไท่ไท่ ขอให้แกเข้าร่วมงานสังคมที่ไป๋จินฮั่น แต่พวกแกกลับทำให้งานเลี้ยงยุ่งเหยิงและทุบตีนายน้อยเจียง พวกแกกล้าดียังไง!"“ถูกต้อง นายน้อยเจียงเขาเป็นใคร? เขาเป็นลูกชายคนเดียวของหัวหน้าตระกูลเจียง ซึ่งเป็นทายาทสืบทอดตระกูลเ
ภายในห้องโถงอันกว้างขวางที่เต็มไปด้วยผู้คน ฉู่เฉินถูกปืนหลายสิบกระบอกเล็งมาพร้อมๆ กัน ทำให้บรรยากาศดูน่าตึงเครียดเป็นอย่างมากเว่ยเหล่าไท่ไท่นั่งนิ่ง เหมือนจะมั่นใจกับแผนการในหัวสมาชิกตระกูลเว่ยที่เหลือยิ้มอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าไม่แปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเว่ยไห่หลงกับเว่ยซือยวี่รู้สึกมีความสุขมากก่อนหน้านี้พวกเขากังวลว่า หากเหล่าไท่ไท่บีบบังคังขู่เข็ญฉู่เฉินมากเกินไป อาจนำไปสู่การที่ฉู่เฉินไล่ฆ่าผู้คนแต่กลับไม่คิดว่าที่แท้เหล่าไท่ไท่ได้เตรียมการมานานแล้วเว่ยซือยวี่มองไปที่ฉู่เมิ่งเหยาและเห็นว่าใบหน้าของเธอซีดเผือกมาก ก็เลยทำให้รู้สึกตื่นเต้นในใจอย่างมากทันทีนังตัวดี!พวกแกสองคนมีสิทธิ์อะไรมาท้าทายตระกูลเว่ย? ฝันกลางวันเหรอ!”เธอมองไปที่ฉู่เฉินอีกครั้ง แววตานั้นไม่มีความรู้สึกอะไรฉายออกมาเลยไอ้หนู!แกจะทำอะไรได้ แม้ว่าแกพอจะมีฝีมือด้านการต่อสู้อยู่บ้าง?แต่ตอนนี้ปืนหลายสิบกระบอกกำลังจ่อมาที่แก แกจะเร็วกว่ากระสุนได้แค่ไหน?ถ้าแกกล้าขยับเพียงนิดเดียว ก็จะโดนยิงจนพรุน!เมื่อเห็นฉู่เฉินไม่ขยับเขยื้อน เว่ยเหล่าไท่ไท่ก็คิดว่า เขากลัวจนหัวหดและพูดอย่างภาคภูมิใจว่า
“แกยอมตกลงง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ? ไอ้เด็กคนนี้มีความหมายกับแกมากขนาดนั้นเลยหรือ?” เว่ยเหล่าไท่ไท่ตกใจมากยังไงแล้ว เธอก็เคยบังคับให้ฉู่เมิ่งเหยาแต่งงานกับเจียงอี้ฟานมาก่อน แต่เธอเองก็ปฏิเสธอย่างแน่วแน่มาโดยตลอดแต่ตอนนี้ ฉู่เมิ่งเหยาตกลงที่จะแต่งงานกับเจียงอี้ฟานอย่างไม่ลังเล และยอมเป็นนางบำเรอ เพื่อเห็นแก่น้องชายที่เธอไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอีกด้วยท่าทางของฉู่เฉินเปลี่ยนไปอย่างตื้นตันฉู่เมิ่งเหยาเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่สวยงามเต็มไปด้วยความรู้สึกจริงใจ: "เพื่อเห็นแก่เสี่ยวเฉิน ฉันยอมทำทุกอย่าง แม้ว่าจะต้องตายก็ตาม!"เธอจะจำเสมอว่าเด็กหญิงทั้งเจ็ดคน ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมสาบานตั้งแต่อายุยังน้อยว่าจะดูแลฉู่เฉินอย่างดีเป็นเวลาหลายปีมานี้ ในที่สุดเธอก็ได้พบกับฉู่เฉิน และสัญญาว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ชดเชยให้เขาหลายครั้งเป็นฉู่เฉินที่คอยปกป้องเธอสิ่งนี้ทำให้ฉู่เมิ่งเหยารู้สึกเป็นคนไร้ประโยชน์ดังนั้น เพื่อฉู่เฉินการแต่งงานกับเจียงอี้ฟานก็เป็นเรื่องง่ายๆ?เว่ยเหล่าไท่ไท่พูดด้วยความพึงพอใจอย่างยิ่ง "เอาล่ะ เมิ่งเหยาที่แกเลือกนั้นถูกต้องแล้ว งั้นแกก็ตัดสินใจแล้ว นะ... ""ฮ่าๆๆ!"