เมื่อเห็นฉู่เฉินออกหน้ามาตั้งคําถามด้วยตัวเอง กัวไคก็กลับกลายเป็นโกรธและพูดขึ้น "ถ้าฉันไม่ได้เป็น หรือว่านายต่างหากที่เป็น?"“แน่นอนว่าไม่ใช่” ฉู่เฉินส่ายหัวกัวไคเยาะเย้ย "แค่นั้นแหละ คนบ้านนอกอย่างแกมีคุณสมบัติอะไรมาตั้งคำถามแบบนี้กับฉัน?""อีกอย่าง อาจารย์ของฉันเป็นใคร ฉันจําเป็นต้องอธิบายให้แกฟังอย่างงั้นเหรอ?"กัวไคเต็มไปความขุ่นเคือง ซึ่งทําให้เยว่ฟู่หลงกับเว่ยอิงลั่วเชื่อในตัวเขามากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าฉู่เฉินต้องการเอ่ยปากพูดอีกครั้ง เว่ยอิงลั่วจึงตำหนิเขาอย่างเย็นชา “หุบปากซะ ที่นี่ใช่ที่ให้นายสมควรพูดออกมาหรือเปล่า?”วินาทีต่อมา เธอโค้งคํานับให้กัวไคและพูดอย่างซาบซึ้งใจว่า "สุภาพบุรุษท่านนี้ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้ก่อนหน้านี้ ซวนหวู่ของฉันเป็นหนี้บุญคุณอาจารย์ของคุณ"เยว่ฟู่หลงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงโค้งคำนับให้กับกัวไคตามไปด้วยเขายังมีข้อกังขาอยู่บ้าง ว่ากัวไคนั้นเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ฉู่จริงหรือไม่เพราะพฤติกรรมของกัวไคคนนี้ทั้งเหลาะแหละ และมักหลบสายตา ทำให้เขาดูไว้ใจได้ยากแต่เมื่อคิดไปว่าเขาเป็นลูกศิษย์ใหม่ของปรมาจารย์ฉู่และยังเด็กอยู่ นิสัยของเขายั
“ให้ตายเถอะ คนนั้นกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้าจริงๆ เหรอ?”“นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า?”"..."ในขณะนั้น นักท่องเที่ยวทุกคนภายในบริเวณจุดชมวิวทะเลสาบต้าจิ่วก็อดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไปยังจินเทียนเซิง ซึ่งกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า จากนั้นพวกเขาก็อุทานด้วยความตื่นตะลึงและอ้าปากค้างด้วยความตกใจฉากบนท้องฟ้านั้นน่าตกใจจนเกินไป ทำไมคนๆหนึ่งถึงลอยอยู่ในอากาศโดยไม่มีอะไรมายึดเกี่ยวได้ยังไง?แม้แต่กระดานโรงศพของนิวตันก็ยังยึดไว้ไม่ได้ในเวลาเดียวกัน เยว่ฟู่หลง กัวไคและคนอื่นๆก็ได้ยินเสียงดังสนั่นมาจากไกล ๆเมื่อทุกคนหันหลังกลับมา สีหน้าของพวกเขาก็ไม่ได้แตกต่างไปกว่าคนอื่นๆ ทุกคนทำหน้าเหมือนเห็นผีเยว่ฟู่หลงสูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า "นี่คือบรรพบุรุษของตระกูลจิน จินเทียนเซิง!"“อะไรนะ? เขาเป็นปรมาจารย์วรยุทธของตระกูลจินแห่งจิงโจวคนนั้นหรอกเหรอ?” เว่ยอิงลั่วตะโกนลั่นออกมาแต่อู๋อวี่เหมิงและกัวไคต่างก็หวาดกลัวจนโง่เขลามานานแล้วมีเพียงฉู่เฉินเท่านั้นที่มองไกลเข้าไปในความว่างเปล่า ดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับสายฟ้า "จินเทียนเซิง บรรพบุรุษของตระกูลจิน ในที่สุดก็ได้เจอตัวแกสักที!"นับตั้งแต่เขาสังหารจินเหวิน
"จินเทียนเซิง ฉันรอแกมานานแล้ว ในที่สุดแกก็โผล่หัวมาสักที!"เมื่อได้ยินเสียงที่จู่ๆก็ดังขึ้นมานี้ นักท่องเที่ยวทุกคนที่อยู่รอบๆทะเลสาบต้าจิ่วก็ต่างหันมาให้ความสนใจไปที่แหล่งที่มาของเสียงอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาได้เห็นว่าฉู่เฉินเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่ง พวกเขาทั้งหมดก็ต่างตกตะลึงชายหนุ่มคนนี้คือปรมาจารย์ฉู่?มันเป็นไปไม่ได้หรอกมั้งคนที่สามารถได้รับการกล่าวขานจากจินเทียนเซิงขนาดนี้ คิดว่าอายุของอีกฝ่ายน่าจะต้องพอๆกันกับจินเทียนเซิงแต่ฉู่เฉินดูเหมือนจะมีอายุเพียงยี่สิบต้นๆ เท่านั้น หน้าละอ่อนเหมือนนักศึกษาทั่วไป ไม่มีอะไรที่ตรงกับภาพลักษณ์ของผู้เชี่ยวชาญที่น่านับถือเลยสักนิดพวกเขาตกใจมาก ไม่ต้องพูดถึงคนที่อยู่ใกล้ชิดกับฉู่เฉินอย่าง อู๋อวี่เหมิงและคนอื่นๆ เลยอู๋อวี่เหมิงมองไปที่ฉู่เฉินด้วยสีหน้าหวาดกลัวและพูดว่า: "ฉู่เฉิน นายกำลังทำอะไรอยู่? เขากำลังตามหาปรมาจารย์ฉู่ ไม่ใช่นาย""ฉันคือปรมาจารย์ฉู่" ฉู่เฉินพูดเบา ๆคำพูดก่อนหน้าของจินเทียนเซิงนั้นกระทบต่อจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก การปล่อยภัยคุกคามดังกล่าวไป โดยไม่จัดการอะไรเลย มันจะกลายเป็นปัญหาที่ไม่รู้จบ“ล้อเล่นรึเปล่า?”เว่ยอ
เมื่อเห็นฉากนี้ ก็เกิดเสียงโกลาหลดังมาจากข้างบนฝั่งทันที“คุณพระช่วย เด็กหนุ่มคนนี้ก็เป็นปรมาจารย์เหมือนกัน!”“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้พวกเราทุกคนตัดสินกันผิดไปหมด คิดว่าเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา”“ปรากฎว่าเขาคือปรมาจารย์ฉู่คนนั้นจริงๆ!”“ใครจะคิดว่าปรมาจารย์ฉู่ผู้โด่งดังแห่งหนานเจียงคนนั้น จะยังเด็กได้ขนาดนี้!”ทุกคนต่างตกตะลึง พวกเขาจ้องมองไปที่ฉู่เฉินที่ลอยอยู่บนพื้นผิวทะเลสาบด้วยความตกใจ รู้สึกว่าหนังศีรษะของพวกเขาลุกชาเยว่ฟู่หลง เว่ยอิงลั่วและคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างๆ ก็ต่างตกตะลึงกันเหมือนว่าความเป็นจริงได้เล่นตลกกับพวกเขาอู๋อวี่เหมิงรู้สึกเพียงว่าสมองของเธอว่างเปล่า และจ้องมองไปที่ฉู่เฉินอย่างโง่เขลา: "ฉู่... ฉู่เฉิน ขะ... เขา..."เยว่ฟู่หลงสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกะตือรือร้น และพูดทีละคำ: "เขาคือปรมาจารย์ฉู่!"ทันทีที่มีคำพูดนี้หลุดออกมากัวไคทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความกลัวโดยทันที พร้อมกับตัวสั่นเทาไอ้เด็กคนนั้นคือปรมาจารย์ฉู่จริงๆเหรอ?เป็นไปได้ยังไง? จะเป็นไปได้ยังไง?เขาเสียใจที่เคยดูถูกฉู่เฉินไว้ก่อนหน้านี้และทำกับเขาเหมือนคนบ้านนอกสิ่งที่ทำให้กัวไค
เมื่อสิ้นเสียงของจินเทียนเซิงท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้เป็นชายชราเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป กลับกลายดูเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำลายโลก และตัดสินความเป็นความตายของผู้อื่นได้ตามต้องการภายใต้รัศมีนี้ ผู้คนรู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมากนี่เป็นความน่าสะพรึ่งกลัวของตัวตนระดับปรมาจารย์ ทั้งคําพูดและการกระทําสามารถมีอิทธิพลต่อจิตใจของคนธรรมดาได้“ปรมาจารย์ฉู่ ให้ฉันได้เห็นความแข็งแกร่งของแกบ้างเถิด”จินเทียนเซิงลงมือเป็นคนแรกเขากระทืบเท้าอย่างแรง และพื้นผิวทะเลสาบที่เงียบสงบก่อนหน้านี้ก็กลายมาเป็นคลื่นสูงตระหง่าน"ตู้ม!"เสาน้ำหนาเท่ากับถังน้ำพุ่งขึ้นมาด้านหลังเขา สูงได้ถึง 15 เมตรขณะที่จินเทียนเซิงโบกแขนของเขา กระแสน้ำขนาดใหญ่ราวกับมีชีวิตก็บิดตัวแล้วทะยานขึ้นมาบนท้องฟ้าแล้วพุ่งไปยังฉู่เฉินซึ่งอยู่ห่างออกไป 30 เมตรมองจากระยะไกล มันดูเหมือนมังกรน้ำที่ดุร้ายกำลังคำราม โดยมีความน่ากลัวอยู่ภายใน แม้แต่ป้อมปราการก็ยังพังทลายลงมาได้ด้วยพลังของมัน“นี่เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวของปรมาจารย์วรยุทธงั้นเหรอ? มันน่ากลัวเกินไปแล้ว”“แค่ร่างกายของมนุษย์ธรรมดา แต่ยังสามา
หลังจากที่ทุกคนได้เห็นใบหน้าของร่างนั้นอย่างชัดเจน พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตกใจ“เป็นจินเทียนเซิง เขาเป็นฝ่ายเสียเปรียบจริงๆ เหรอ?”“เป็นไปได้ยังไง? เขาเป็นปรมาจารย์วรยุทธที่มีชื่อเสียงมาหลายปีเชียวนะ!”ทุกคนมองไปที่จินเทียนเซิงซึ่งกระเด็นถอยหลังในสภาพที่สะบักสะบอม ฉู่เฉินที่ยืนนิ่งเอามือไพล่หลังอย่างไม่สั่นคลอน และเผยให้เห็นความตกตะลึงในดวงตาของพวกเขาฉู่เฉินน้องใหม่ไฟแรง ที่เอาชนะปรมาจารย์วรยุทธรุ่นเก่าหากพวกเขาไม่เห็นด้วยตาตนเอง แม้ว่าพวกเขาจะถูกทุบตีจนตายก็จะไม่มีวันเชื่อจินเทียนเซิงหลังจากรักษาท่าทางให้มั่นคงในที่สุด ก็มองที่ฉู่เฉินอีกครั้งด้วยดวงตาที่กระตุก “แกเป็นใครกันแน่?”ในบรรดาปรมาจารย์วรยุทธนั้นมีทั้งผู้ที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ แต่พื้นฐานกำลังไปถึงขั้นดอกบัวทั้งสามและพลังห้าชี่"เขาเก็บตัวทำสมาธิมานานกว่าสิบปี ในที่สุดก็บรรลุดอกบัวทั้งสาม และ "พลังชี่กำเนิด" ซึ่งถือว่าความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้อ่อนแอไม่คิดว่าวันนี้กลับถูกชายหนุ่มคนหนึ่งไล่ต้อน“ฉันเป็นคนที่จะฆ่าแกเอง!” ฉู่เฉินยังคงเอามือไพล่หลังของเขาพูดราวกับว่ากำลังเพลิดเพลินไปกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
นอกฝั่งทะเลสาบต้าจิ่ว รถเอสยูวีคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง“คุณหนูหนิง เรามาถึงทะเลสาบต้าจิ่วแล้ว” คนขับที่รับผิดชอบ เดินไปที่เบาะหลังแล้วเปิดประตูรถหลังจากหนิงชิงเสว่ลงจากรถแล้ว ก็มองไปรอบ ๆ อย่างว่างเปล่า พูดขึ้นอย่างซาบซึ้งใจว่า "ขอบคุณพวกคุณมากๆ พวกคุณกลับไปเถอะค่ะ หลังจากนี้ฉันจะหาฉู่เฉินด้วยตัวเอง"“คุณหนูหนิง จะดีกว่าไหมถ้าพวกเราไปกับคุณด้วย คุณหงสั่งให้เราดูแลความปลอดภัยของคุณไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม” คนขับอ้อนวอน“ไม่... ไม่จำเป็น ฉันขอบคุณความมีน้ำใจของคุณนะ แต่ฉันรบกวนคุณมามากพอแล้ว และจะขอรบกวนคุณต่อไปไม่ได้แล้ว” หนิงชิงเสว่รีบส่ายหัวเธอออกจากเขตเมืองจิงโจวมาแล้ว หากไม่ได้รับการคุ้มครองจากคนเหล่านี้มาตลอดทาง เธอคงไม่รู้ว่าจะมาถึงที่นี่ได้อย่างไรท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ และก็ทำมามากพอแล้วสำหรับช่วยเหลือเธอถึงระดับนี้แล้ว เธอรู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่จะรบกวนพวกเขาอีกต่อไป“งั้นก็ได้ครับ คุณหนูหนิงโปรดระวังตัวด้วย”คนขับพยักหน้าไม่ยื้ออีกต่อไป หันหลังกลับ แล้วกลับไปที่รถเอสยูวี สตาร์ทรถแล้วขับออกไปหลังจากดูพวกเขาจากไป หนิงชิงเสว่ก็หยิบสร้อยข้อมือออกมา
คนที่เห็นเหตุการณ์หลายคนส่ายหัวและถอนหายใจต่อภาพของฉู่เฉินตรงหน้า ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเสียดายเว่ยอิงลั่วพูดอย่างเป็นกังวล “ตาเยว่ ระ… เราควรทำอย่างไรดี?”แม้ว่าเธอจะเคยไม่ชอบฉู่เฉินเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ฉู่เฉินก็แอบช่วยพวกเขาจับฟูจิอิและซึ่งถือเป็นความมีน้ำใจกับพวกเขาตอนนี้เธอกำลังจะเห็นฉู่เฉินตายด้วยน้ำมือของจินเทียนเซิงได้อย่างไรเยว่ฟู่หลงยิ้มอย่างขมขื่นและพูด: "จะทำอะไรได้ ท้ายที่สุดแล้วนี่คือการต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์ เธอกับฉันในฐานะจอมยุทธมือใหม่ก็เหมือนกับมดปลวกต่อหน้าพวกเขา มันไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้"“นอกจากนี้ ถ้าพวกเราจะเปิดเผยตัวตนในฐานะซวนหวู่ จินเทียนเซิงก็จะไม่ไว้หน้าเป็นแน่”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เว่ยอิงลั่วก็รู้สึกท้อแท้อย่างยิ่งในขณะเดียวกัน อู๋อวี่เหมิงและกัวไคที่ยืนอยู่ข้างพวกเขาก็ได้แสดงสีหน้ากังวลเช่นกันอู๋อวี่เหมิงมองไปที่ฉู่เฉินบนทะเลสาบ นิ้วของเธอประสานกันแน่น: "ฉู่เฉินอ่าฉู่เฉิน นายต้องไม่แพ้นะ แม้ว่าพวกเราจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันอยู่บ้าง แต่ฉันก็ยังหวังว่านายจะชนะ""ฮ่าๆๆ!"จากสายตาของทุกคน จินเทียนเซิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่เขามอ