ในเวลานี้ ทุกคนต่างก็เงียบกริบรวมทั้งผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาด้วย เธอตัวสั่นด้วยความกลัว ไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อยเพราะพลังงานของคนตรงหน้ามันน่ากลัวมาก พวกเขารู้ดีว่า แม้แต่คนอย่างผู้ว่าเมืองหนานเจียงในวันที่เขาเข้ารับตำแหน่งก็ยังมาเยี่ยมเยียนเขาด้วยตนเอง“แกวางใจเถอะ ฉันจะต้องมีคำอธิบายให้แกอย่างแน่นอน” ฉู่เซี่ยงตงค่อย ๆ ลุกขึ้น พูดอย่างเยือกเย็นว่า “ไปกันเถอะ พาฉันไปที่ห้องพักของประธานาธิบดี”ทางด้านนี้ ภายในห้องโถงจัดเลี้ยงของประธานาธิบดีหลังจากที่เฉินติงเทียนไปได้ไม่นาน ถังไห่ซานก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมาได้ แล้วพูดว่า “เสี่ยวฉู่ พวกเรารีบไปกันเถอะ”อย่างไรก็ตามฉู่เฉินไม่เพียงแต่ไม่ตื่นตระหนก แต่เขายังนั่งนิ่งอย่างสงบ กินอาหารที่วางเต็มโต๊ะพร้อมพูดว่า “คุณลุงถัง ไม่รีบครับ ก่อนออกเดินทาง อย่างน้อยก็ต้องทานอาหารมื้อนี้ก่อน ไม่อย่างงั้นเสียดายแย่”ถังรั่วเวยแทบจะเป็นบ้าตาย แล้วพูดด้วยความโมโหว่า “นี่มันเวลาไหนแล้ว คุณยังมานั่งกินอยู่แบบนี้อีก คุณดูไม่ออกเหรอว่าเฉินติงเทียนไปเรียกคนมาแล้ว?”“รั่วเวยพูดถูก ผมสงสัยว่าเจ้าหมอนี่คงจะเป็นโรคจิตแล้วล่ะ” หว
ฉู่เซียงตง อดไม่ได้ที่จะขยี้ตา และสีหน้าก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงทําไมเขากลับคิดไม่ได้ว่าคนที่สามารถเอาชนะใครบางคนได้ ที่เฉินติงเทียนพูดถึงนั้น จะเป็นฉู่เฉินถ้าต้องรู้ว่า ฉู่เฉินเป็นนายน้อยของเขา ไม่ต้องพูดถึงการเอาชนะเฉินติงเทียนหรอก แม้แต่จะฆ่าเขา ฉู่เซียงตงก็ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วสงสัยตอนนี้จะเห็นก็เพียงแต่มือข้างนึงของฉู่เฉินที่สอดไว้ในกระเป๋ากางเกง พร้อมกับมองด้วยรอยยิ้มแบบครึ่งๆ กลางๆ แต่ก็ไม่ได้ยิ้มออกมา “พี่ตงใช่ไหม? ถ้าผมทำร้ายใครจนบาดเจ็บ คนคนนั้นก็จะต้องถูกฆ่าทิ้ง จะเอายังไงต่อไปนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับพี่แล้วล่ะ”ฉู่เซียงตงแทบจะกระอักเลือดออกมาจากปากฆ่านายงั้นหรอ? อย่ามาล้อเล่นไปหน่อยเลย แค่ให้ยืมความกล้าจากฉันมาร้อยครั้ง ฉันก็ไม่กล้าหรอกนะเขาเช็ดเหงื่อก่อนจะพูดด้วยความเคารพว่า : "นายน้อย..."ทันใดนั้น ถังไห่ซานก็รีบเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของฉู่เฉิน และพูดอย่างแข็งกร้าวว่า "เจ้าพ่อแห่งเจียงหนานเรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาพูดเอาไว้ตั้งแต่แรก ยังก็ขอให้ท่านฟังผมอธิบายก่อนนะครับ..."ถังรั่วเวยตกใจ และอดไม่ได้ที่จะพูดออกไปว่า "พ่อ..."แต่ถือว่าโชคดีมากแล้วที่เจ้าพ่อแห่
เขาโค้งคํานับให้กับฉู่เฉินก่อนจะพูดว่า "ขอโทษที่ทําให้ท่านต้องตกใจนะครับ นี่เป็นความผิดของผมเอง ผมต้องขอโทษท่านมา ณ ที่นี้ด้วยครับ"หวังซวี่ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ฉู่เฉิน ก็คิดว่าเขาโค้งคำนับให้กับตัวเอง ดังนั้นเขาจึงโบกปัดมือด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า "ไม่ ไม่ ไม่ พี่ตง พี่เกรงใจเกินไปแล้ว พวกเราต่างหากที่ต้องรู้สึกขอบคุณพี่มากที่พี่ทำแบบนี้"ถึงเขาจะพูดแบบนี้ แต่ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ไม่สามารถซ่อนเอาไว้ได้เลยเจ้าพ่อแห่งเจียงหนานถึงกับขอโทษต่อเขา แบบนี้เป็นเกียรติให้กับเขามากจริงๆฉู่เซียงตงไม่แม้แต่จะมองเขาเลย แต่กลับหันไปทางถังไห่ซานและถังรั่วเว่ยแล้วพูดว่า "พวกคุณไม่ต้องกังวลนะ ผมสัญญาว่าจะไม่มีใครกล้าสร้างปัญหาให้พวกคุณอีกในอนาคต"ถังไห่ซานและถังรั่วเว่ยยังไม่ได้สติกลับมา พวกเขาแค่พยักหน้าด้วยความสับสนงงงวย“เด็กๆ โยนไอ้คนนี้ออกไปซะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาจะไม่ใช่ผู้จัดการของตี้หาวกรุ๊ปของเราอีกต่อไป” ฉู่เซียงตงชี้ไปที่เฉินติงเทียนแล้วพูดไม่ช้า เฉิงติงเทียนก็ถูกโยนลงบนถนนเหมือนกับสุนัขที่ตายแล้วฉู่เซียงตงคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้หยิบการ์ดสีม่วงทองออกมา แ
หวังซวี่หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า "ไม่งั้นจะเป็นอะไรไปได้ล่ะ? หรือว่างั้นจะเป็นเพราะเห็นแก่หน้าแกหรองั้นหรอ?"ฉู่เฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า "แน่นอนสิ ก็เขาเป็นลูกน้องผม"หลังจากที่เขาพูดจบ หวังซวี่ก็ตกตะลึง ถังไห่ซานและอีกสามคนที่อยู่ด้านข้างก็ตกใจไปด้วยเช่นกัน"นายพูดว่าอะไรนะ" หวังซวี่ยังคิดว่าฟังผิด ขยี้หูแล้วพูดว่า "แกบอกว่าเจ้าพ่อแห่งเจียงหนานเป็นลูกน้องของนายงั้นหรอ?"“ก็ใช่ไง” ฉู่เฉินพยักหน้า“ฮ่าๆ”หวังซวี่หัวเราะขึ้นมาทันทีและพูดว่า "ไม่ได้การล่ะ ฉันอดขำไม่ได้จริง ๆ ฮ่า ๆ ตลกมาก""ลุงถัง รั่วเวย พวกคุณได้ยินแล้วใช่ไหม? ไอ้คนนี้กลับบอกว่าเจ้าพ่อแห่งเจียงหนานเป็นลูกน้องของเขา ผมเคยเห็นคนพูดโอ้อวดมาก่อนนะ แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมเห็นคนโอ้อวดเรื่องแบบนี้เนี่ย"เขากุมท้องไว้ หัวเราะจนโน้มตัวไปข้างหน้าทีข้างหลังที ราวกับว่าวินาทีต่อไปจะหัวเราะจนขาดอากาศหายใจเหอหลานโกรธจนหัวเราะออกมา "ไร้สาระสิ้นดี นายที่มันอวดดีจริง ๆ ถ้าเจ้าพ่อแห่งเจียงหนานเป็นลูกน้องของนาย งั้นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือก็เป็นลูกชายของฉันแล้วล่ะเว้ย""แคกแคก..." ถังไห่ซานไอออกมาอย่างกระอักก
ฉู่เฉินไปที่ร้านพวงหรีดที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณใกล้เคียงทันที เขาได้ซื้อธูปเทียนและธนบัตรกระดาษจำนวนมากเพราะวันนี้เป็นครบรอบปีที่ 12 แล้ว ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก และเป็นวันครบรอบของผู้อำนวยการที่นั้นด้วยครึ่งชั่วโมงต่อมา หน้าสุสานส่วนกลางในโครงการ B สุสานเจียงจวินซานท่ากลางความเงียบงันและความอ้างว้าง มีเพียงหญิงสาวคนหนึ่งคุกเข่าอยู่หน้าป้ายหลุมฝังศพ เสียงสะอึกสะอื้นว่า "คุณปู่ผู้อำนวยการคะ วันนี้เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของพวกคุณ เสี่ยวเสว่มาเยี่ยมพวกคุณแล้วนะคะ"ตรงหน้าเธอมีถือธูป 7 ดอก เทียน 7 เล่ม"ขอโทษค่ะ เสี่ยวเสว่ไร้ประโยชน์ ไม่เพียงแต่จะหาน้องฉือโถวและพี่สาวอีกหกคนไม่เจอ แถมยังแก้แค้นให้พวกคุณไม่ได้อีกด้วย""ฉันเกลียดพวกตระกูลฉี พวกเขาเป็นคนทําลายทั้งหมดนี้และฆ่าพวกคุณ ในช่วงสิบสองปีที่ผ่านมาเสี่ยวเสว่ไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่ไม่อยากแก้แค้น แต่หนูจนหนทางจริง ๆ""คุณปู่ผู้อำนวยการ ตระกูลฉีจะประมูลจี้หยกที่คุณเก็บไว้ให้กับน้องฉือโถวน้อยในวันนี้ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เสี่ยวเสว่ จะไม่ยอมปล่อยให้จี้หยกตกไปอยู่ในมือของคนอื่นไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ... "หลังจากนั้น หญ
ในเมืองตลาดที่เชิงเขาของสุสานเจียงจวินซาน พานอวิ๋นนั่งอยู่ในรถ ก้มหน้าดูเวลาในบางครั้ง และเงยหน้ามองออกไปนอกรถเป็นครั้งคราวขณะเดียวกัน หนิงชิงเสว่ก็เดินขึ้นมา“ประธานกรรมการ คุณโอเคไหมคะ? ทำไมตาคุณถึงแดงแบบนี้?” พานอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะถาม“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”หนิงชิงเสวี่รีบขยี้ตาและฝืนยิ้ม: "บางทีทรายอาจเข้าตาน่ะค่ะ"เธอเปลี่ยนเรื่องคุย: "ใช่แล้ว การประมูลของตระกูลฉีอีกนานแค่ไหนถึงจะเริ่มคะ?"“เหลือเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ” พานอวิ๋นพูดอย่างเร่งรีบ“ออกรถได้”หนิงชิงเสว่เร่งเมื่อพานอวิ๋นกำลังจะสตาร์ทรถ เขาก็ได้เห็นคนเดินมาไม่ไกลคนๆนั้นคือฉู่เฉินพานอวิ๋นตะโกนออกมาเป็นคนแรก “ฉู่เฉิน”หนิงชิงเสว่สะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นจึงลดกระจกรถลงและจ้องมองชายคนนั้นอย่างเย็นชาฉู่เฉินที่เพิ่งลงมาจากสุสานเจียงจวินซาน หันกลับมาและพูดอย่างช่วยไม่ได้: "คุณหนูหนิงครับ แม้ว่าหนานเจียงจะเป็นเพียงเมืองๆหนึ่ง แต่มันก็ไม่ได้เล็กขนาดนั้นนะครับ ทำไมเราถึงได้เจอกันทุกที่เลยครับเนี่ย?""ถ้าคุณอยากให้ผมถอนหมั้นกับคุณ งั้นก็หยุดเถอะครับ"เมื่อหนิงชิงเสว่ได้ยินแบบนี้ ก็โกรธแทบบ้า จากนั้นจึงลงรถแล้วพูด
เพี๊ยะ!เสียงดังไพเราะและยืดหยุ่นมากในขณะนี้ ฉีเชา หนิงชิงเสว่และพานอวี๋นที่อยู่ด้านข้าง ทั้งหมดก็ต่างตกตะลึงหนิงชิงเสว่เหมือนถูกไฟฟ้าช็อต ร่างกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทา และตั้งแต่คอไปจนถึงหูก็เป็นสีแดงปี๊ดไอ้บ้านี่อยู่... มาตีกลางที่สาธารณะ... ยังจะตีตรงนั้นอีก!อารมณ์ต่างๆ ตกใจ โกรธ ขายขี้หน้า และความไม่น่าเชื่อรวมกันอยู่ในดวงตาของเธอเธออดกลั้นความอยากที่จะหั่นฉู่เฉินออกเป็นชิ้นๆเอาไว้ แล้วฉีกยิ้มอันแข็งทื่อพูดว่า “ใช่แล้วค่ะ ดังนั้นฉีเชาได้โปรดหยุดมายุ่งกับฉันได้แล้วนะคะ”จากนั้น เธอก็เอื้อมมือออกมาเงียบ ๆ หยิกไปบนแขนของฉู่เฉินอย่างแรงและบิด 360 องศาเธอใช้แรงทั้งหมดออกมา แต่ฉู่เฉินกลับมีสีหน้าปกติ เหมือนคนไม่เดือดไม่ร้อนอะไร“ไม่ ผมไม่เชื่อ!”ฉีเชาคำรามออกมาเสียงดัง ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า "ชิงเสว่ คุณบอกผมหน่อย ผมมีอะไรที่สู้ไอ้หนุ่มนี่ไม่ได้?"“เรื่องง่ายๆ ก็เพราะว่าผมทำเรื่องนั้นได้ดีไง” ฉู่เฉินพูดออกอย่างจริงจัง จากนั้นหันไปมองหนิงชิงเสว่ด้วยท่าทางขี้เล่น: “คุณบอกว่าชอบใช่มั้ย เสว่เอ๋อร์”คุณเป็นนายน้อยนะ!หนิงชิงเสว่แทบจะอยากจะกระอักเลือดเธออดไม่ได้ที่จะรู้
ฉีเชาคิดว่าเขาจะกลัว จึงยิ่งมั่นอกมั่นใจมากขึ้น: "ใช่ ตอนนี้มึงรู้ตัวแล้วว่าต้องกลัว? ตราบใดที่มึงคุกเข่าลงและคำนับสามครั้ง กูจะให้เล่นกับหนิงชิงเสว่ได้อีกสักสองสามวัน อย่างงั้นกูจะปล่อยมึงไป คิดว่าไงล่ะ?”“ไร้ยางอาย!”หนิงชิงเสว่โกรธมากจนตัวสั่น แม้ว่าเธอจะพูดแบบนี้ออกไป แต่ในใจก็กลับรู้สึกอ่อนแออย่างมากตระกูลฉียังเป็นตระกูลที่ร่ำรวยในหนานเจียง และไม่ได้น้อยไปกว่าตระกูลหนิงเมื่อก่อนเลยน่าเสียดาย หลังจากที่คุณปู่หนิงฉางเจิ้งตกอยู่ในภาวะโคม่าเนื่องจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตระกูลหนิงก็เริ่มเสื่อมถอยลง และก็ถูกตระกูลฉีแซงหน้าไปนี่คือสาเหตุที่เธอไม่กล้าล้ำเส้นมากเกินไปเมื่อต้องเผชิญกับการคุกคามซ้ำแล้วซ้ำเล่าของฉีเชา“เพี๊ยะ!”ทันใดนั้น ฉู่เฉินก็ยกมือขึ้น และตบหน้าฉีเชาฉาบใหญ่แรงตบ ทำใบหน้าของฉีเชาครึ่งหนึ่งบวมเต่งออกมา และฟันหลายซี่ก็หลุดออกไปพร้อมเลือด"ไอ้เหี้ย มึง... มึง..." ฉีเชาปิดหน้า ในปากเต็มไปด้วยเลือดมองฉู่เฉิน ด้วยสีหน้าทั้งตกใจและโมโหเขาคาดไม่ถึงว่าแม้จะอ้างชื่อตระกูลฉีไปแล้ว ไอ้หนุ่มคนนี้ยังจะกล้าลงมือกับเขาเมื่อเห็นแววตาของฉู่เฉินที่เต็มไปด้วยการมีเจตนาฆ่า เข