หนิงชิงเสว่ก้าวออกมา และเดินเข้าไปหาฉู่เฉิน พร้อมพูด: "”เสี่ยวซือโถว ปล่อยให้ฉันจัดการเอง!”เดิมที ก็เป็นเรื่องยากอยู่แล้ว สำหรับฉู่เฉินที่จะป้องกันตัวเอง เมื่อต้องเผชิญกับอีกฝ่ายเพียงตัวคนเดียว ตอนนี้ จอมยุทธขั้นเก้าระดับสูงอีกคนได้ก้าวออกมาลงมือแล้ว และทั้งสองก็ร่วมมือกันฉู่เฉินไม่ใช่คนโง่ ตัวเองไม่สามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน เมื่อเห็นว่าพี่เจ็ดเลือกที่จะเผชิญหน้ากับจอมยุทธขั้นเก้าสองคนนี้ตามลำพังฉู่เฉินก็อดกังวลไม่ได้“พี่เจ็ด พวกเขามีกันสองคน คุณ”ฉู่เฉินต้องการจะสื่ออะไรนั้น หนิงชิงเสว่เข้าใจทันที“ไม่ต้องกังวล แม้ว่าฉันอาจไม่สามารถเอาชนะชายชราทั้งสองคนนี้ได้ แต่ฉันเองก็ไม่ได้อ่อนแอ่”เมื่อหนิงชิงเสว่พูดจบ แมลงสีทองแวววาวก็โผล่ออกมาจากฝ่ามือมันคือหนอนไหมทองคำกู่นับตั้งแต่หนิงชิงเสว่ ไปถึงขั้นเก้าของอาณาจักรจอมยุทธ หนอนไหมทองคำกู่ไม่เพียงแต่มีขนาดที่โตขึ้นอย่างมากเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของมันยังก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดดอีกด้วย และได้เริ่มต้นการวิวัฒนาการตัวเองในขณะนี้ หนอนไหมทองคำกู่ไม่ดูเหมือนแมลงอีกต่อไป มันมีปากที่หัว ฟันที่แหลมคม และปีกสองคู่ที่หลังหลังจากป
“คนสวย คุณได้ยินแล้วใช่ไหมว่า เฉียวหานอวี้มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับฉู่เฉิน ไม่เช่นนั้น เธอคงไม่พยายามปกป้องเขาขนาดนี้หรอก คนสวย คุณถูกฉู่เฉินหลอกหรือเปล่า? ไม่ต้องห่วงนะ ตราบใดที่คุณถอยออกไปตอนนี้ พวกเราจะให้โอกาสคุณแก้แค้นอย่างแน่นอน!”หวังซิงพยายามทำให้หนิงชิงเสว่เปลี่ยนใจบ่อยครั้งที่หลังจากบรรลุถึงวรยุทธระดับนี้แล้ว แต่ผู้หญิงก็ไม่เคยเต็มใจที่จะแบ่งปันผู้ชายของตัวเองร่วมกับผู้อื่นหวังซิงคิดเข้าข้างตัวเองฟังคำหยาบคายพวกนี้สีหน้าของหนิงชิงเสว่ไม่เปลี่ยนไป และก็พูดอย่างเย็นชา"แค่ความจริงที่ว่า แกต้องการฆ่าฉู่เฉิน ก็เพียงพอที่พวกเราจะไม่มีทางยุติเรื่องนี้อย่างสันติ เตรียมตัวตายได้เลย!"เมื่อได้ยินคำพูดของหนิงชิงเสว่ซิวหลั่วจื่อและหวังซิงก็สบตากันพวกเขาตระหนักว่าไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติได้จึงออกคำสั่งเกือบจะพร้อมกันโดยไม่ลังเลอีกต่อไป“ฆ่าพวกมันซะ!”เมื่อเห็นว่าการต่อสู้กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ฉู่เฉินก็เรียกเทะอิจิโรจากดินแดนเร้นลับออกมาทันที“เทะอิจิโร ถึงเวลาที่นายจะต้องมีส่วนร่วมแล้ว”การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเทะอิจิโร ทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองชะงักกา
“แกกล้าฆ่าฉันเหรอ" ซิวหลัวจื่อไม่อยากจะเชื่อ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าฉู่เฉินจะโหดเหี้ยมขนาดนี้"ทำไมจะไม่กล้า แกคิดว่ามีแต่ซิวหลัวจื่อเท่านั้นหรือ ที่ฆ่าคนอื่นได้ แต่ฉันฆ่าแกไม่ได้เหรอ?" ฉู่เฉินโต้กลับและปลดปล่อยคลื่นเจตจำนงดาบซิวหลัวจื่อรวบรวมลมปราณที่แท้จริงในร่างกายทั้งหมดทันที เพื่อรับมือแม้ว่าจะเป็นเพียงการโจมตีธรรมดาจากฉู่เฉิน แต่ก็ยังทำให้ซิวหลัวจื่อชาไปทั่วทั้งร่างกายตอนนี้เองที่ ซิวหลัวจื่อตระหนักได้ดีว่า ถึงจะมีระดับวรยุทธเท่ากัน แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นแตกต่างจากฉู่เฉินอย่างสิ้นเชิงนึกย้อนกลับไป เมื่อครั้งที่เขาเชื่อว่า สามารถปราบฉู่เฉินได้จากรัศมีของตัวเอง ตอนนี้เข้าใจอย่างถ่องแท้ แล้วว่าความคิดนั้นช่างน่าหัวเราะเพียงใดฉู่เฉินปลดปล่อยคลื่นเจตจำนงดาบอีกครั้งซิวหลัวจื่อหมุนเวียนกระแสลมปราณที่แท้จริงอีกครั้ง และแทบจะป้องกันมันไม่ได้แต่ซิวหลัวจื่อเข้าใจว่า ถ้าต้องป้องกันการโจมตีของดาบอีกครั้ง พลังแนวป้องกันของตัวเองก็จะแตกสลาย“ผู้อาวุโสสาม ช่วยฉันด้วย!”ซิวหลัวจื่อไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตะโกนร้องขอความช่วยเหลือซึ่งทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้อาวุโสสาม ที่อยู่ท่ามกล
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉู่เฉินก็ตัดสินใจที่จะไม่ยั้งมือก่อนหน้านี้ ได้ใช้เจตจำนงดาบ เพื่อทดสอบซิวหลัวจื่อ เพราะกลัวว่าซิวหลัวจื่ออาจมีไพ่ตายอื่นซ่อนอยู่ แต่เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสสามวิตกกังวล ฉู่เฉินก็เข้าใจทันทีว่า สิ่งนี้ทำให้ซิวหลัวจื่อรับรู้ได้ถึงอันตราย อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในสถานการณ์วิกฤตการณ์นี้ ซิวหลัวจื่อก็ยังไม่ได้เอาไพ่ตายออกมาใช้ฉู่เฉินก็เข้าใจทันทีว่า ซิวหลัวจื่อได้เทไปหมดหน้าตักแล้วจากการก้าวเข้าไปเพียงก้าวเดียว ก็เกิดภาพลวงตาจำนวนมาก ฉู่เฉินก้าวเท้าไปในระยะทางไม่กี่เมตร และปรากฏตัวต่อหน้าซิวหลัวจื่อ“ฉู่เฉิน... แก…..กำลังทำอะไร?”ซิวหลัวจื่อก้าวถอยหลังพร้อมกับพูดหลังจากถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ก็ชนเข้ากับหวังซิงซึ่งหลบอยู่ข้างหลังเขาตั้งแต่แรก“คนที่แกต้องการคือเขา ใช่ไหม ฉู่เฉิน งั้นก็รีบไปหาเขาซะ เขากล้าที่จะตั้งค่าหัวนาย ไม่ต้องห่วง ฉู่เฉิน ฉันจะไม่ปกป้องเขาอีกต่อไปแล้ว”ซิวหลัวจื่อดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้ และผลักหวังซิงไปด้านหลัง เพื่อปกป้องตัวเองตอนนี้หวังซิงสงบกว่าซิวหลัวจื่อมาก แม้จะเผชิญกับจิตสังหารของฉู่เฉิน ก็ยังพูดออกมาได้ชัดถ่อยชัดคำ“ฉู่เฉิน ครั้งนี้
ณ เมืองหนานเจียงในห้องทำงานของประธานกรรมการแห่งเฟยเสวี่ยกรุ๊ปหนิงชิงเสวี่ยกำลังเบิกตาโพลงมองดูชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความเหลือเชื่อ “นายบอกว่าอะไรนะ? นายเป็นคู่หมั้นของฉันงั้นเหรอ?”“ใช่ครับ สามปีก่อนคุณปู่ของคุณหมั้นหมายคุณให้ผม นี่ทะเบียนสมรสครับ ถ้าคุณไม่เชื่อ คุณก็ลองดูเองเถอะครับ”ชายหนุ่มนามว่าฉู่เฉิน เขาหยิบเอาทะเบียนสมรสเล่มหนึ่งออกมาและยื่นส่งให้เธอหลังจากที่หนิงชิงเสวี่ยได้เห็นทะเบียนสมรสนั้นแล้ว ความคิดอยากตายก็ผุดขึ้นมาทันทีเธอมั่นใจว่าทะเบียนสมรสเล่มนี้เป็นของจริง เพราะตัวอักษรด้านบนเป็นรูปแบบตัวหนังสือของหนิงฉางเจิ้งปู่ของเธอ แถมยังประทับตราส่วนตัวของเขาเอาไว้ด้วยหนิงชิงเสวี่ยสูดหายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งเฮือกก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นายชื่อฉู่เฉินสินะ?”“ครับ”ฉู่เฉินพยักหน้ารับเล็กน้อย แต่กลับอดใจไม่ไหวที่จะมองพิจารณาเธอหน้าสวยแบบสาวงามล่มเมือง ทั้งผิวพรรณก็ขาวเปล่งปลั่งนุ่มนิ่ม แม้ตอนนี้จะกำลังทำหน้าตาเคร่งเครียดอยู่ แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผู้ชายทุกคนหัวใจเต้นรัวเธอสวมชุดทำงานทรงรัดรูป และมีรูปร่างที่ร้อนแรงแบบสุด ๆ โดยเฉพาะเอวเรียวบางดุจหนึ่งมือโอบขอ
หนิงชิงเสวี่ยจ้องมองไปที่ฉู่เฉินอย่างไม่ละสายตา พร้อมเผยใบหน้าที่หยิ่งผยองออกมาโดยที่เลขาที่อยู่ข้างกายของเธอ พานอวิ๋น ก็มองไปยังฉู่เฉินด้วยใบหน้าดูถูกเหยียดหยามด้วยเช่นกัน คนจน ๆ แบบนี้จะคู่ควรกับท่านประธานของพวกเราได้อย่างไรกัน?“ไม่มีปัญหา”ฉู่เฉินตอบกลับไปอย่างไม่แยแส “แต่ว่าคุณก็ไม่มีอำนาจตัดสินใจอยู่ดี เพราะว่าสัญญาการแต่งงานครั้งนี้คุณปู่ของคุณเป็นคนจัดการ คุณสามารถรอจนกว่าผมจะรักษาอาการป่วยของเขาจนหายแล้ว ค่อยให้เขายกเลิกการแต่งงานด้วยตัวเองก็ได้ แค่ท่านยินยอม ผมก็ไม่มีทางจะตามรังควานคุณอย่างแน่นอน”“ไม่ต้อง”หนิงชิงเสวี่ยยิ่งเหยียดหยามเขาแล้ว เพราะคิดว่าเขายังไม่ยอมแพ้ในเรื่องนี้“งานแต่งของฉัน ฉันจะต้องเป็นคนตัดสินใจเองสิ ยิ่งไปกว่านั้น อาการป่วยของคุณปู่ฉัน ฉันจะคิดหาวิธีเอง ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาคอยเป็นกังวลหรอกนะ”เธอรีบเขียนเช็คใบหนึ่งอย่างรวดเร็ว “ นี่เป็นเช็คมูลค่าห้าล้าน บาทขอแค่นายยอมยกเลิกงานแต่งงานกับฉัน มันก็จะเป็นของนายทันที”“เงินห้าล้าน บาทสำหรับฉันแล้วมันก็แค่เศษเงินเท่านั้น แต่ว่าสำหรับคนชนชั้นล่างแบบนาย ก็พอที่จะเลี้ยงดูปากท้องได้สบาย ๆ ไปทั้งชาติ ฉันเช
ครึ่งชั่วโมงต่อมาฉู่เฉินก็ตามหาบ้านของครอบครัวถังตามที่อยู่ที่ผู้เฒ่าให้มาจนพบในห้องรับแขกถังไห่ซานที่อายุราวๆ 50 ปีหลังจากที่ได้อ่านจดหมายที่อยู่ในมือจบแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้พร้อมทั้งพูดว่า“ไม่ผิดไปเลยไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นลายมือของผู้วิเศษท่านนั้นแน่นอน”“คุณลุงถังครับคราวนี้คุณลุงเชื่อตัวตนของผมแล้วใช่ไหม”ฉู่เฉินถามออกไป“ก่อนที่คุณปู่จะเสียชีวิตเขาบอกไว้ว่าคุณขอความช่วยเหลือจากเขาโดยอยากให้ผมปกป้องครอบครัวของพวกคุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่ามีเรื่องอะไรเหรอครับ?”ถังไห่ซานถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา“เสี่ยวฉู่เรื่องราวเป็นอย่างงี้ครับแข่งนิรนามทางการค้าได้ส่งอีเมลมาให้ฉันบอกว่าจะส่งคนมาลักพาตัวลูกสาวของฉันไป”“ฉันว่าจ้างบอดี้การ์ดให้กับลูกสาวถึงห้าคนแต่ลูกสาวของฉันถูกฉันตามใจจนเคยตัวตั้งแต่เด็ก ทั้งห้าคนนี้ก็เลยโดนเธอไล่ตะเพิดไปเสียจนหมด”“ดังนั้นพอพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วฉันจึงขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ของคุณ”ถังไห่ซานมองฉู่เฉินด้วยรอยยิ้ม“และอาจารย์ของคุณก็ส่งวิธีแก้ไขมาในจดหมายที่คุณนำมาด้วยนั่นก็คือให้คุณมาเป็นคู่หมั้นของเธอเพราะด้วยวิธีนี้คุณก็มีเหตุผลที่เพียงพอที่จะปกป้องเธ
“ถ้าอย่างนั้นนายก็ไปซื้อของเองก็แล้วกันนะ” ถังรั่วเวยพูดทิ้งท้ายอย่างเย็นชา และสะบัดหน้าเดินหนีไปฉู่เฉินยักไหล่ เดินหันไปทางข้างถนนเพื่อเรียกรถแท็กซี่ “คุณครับ ไปตี้หาวกรุ๊ปครับ”ถังรั่วเวยเดินเข้าไปที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เมื่อนั่งลงยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ควักโทรศัพท์ออกมาเพื่อส่งข้อความลงไปในกลุ่มไลน์งานว่า “น่าหงุดหงิดชะมัด ๆ !”ในกลุ่มไลน์งานนี้มีสมาชิกแค่ 5 คน ล้วนเป็นเพื่อนร่วมงานที่สนิทสนมกันเป็นอย่างดีกับถังรั่วเวยอีกไม่นาน ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ เฉินย่า ตอบกลับมาว่า “รั่วเวย นี่เธอเป็นอะไร ? ใครยั่วโมโหให้เธอโกรธอีกล่ะ ?” “พ่อของฉันไม่รู้ว่าไปเอาไอ้บ้านนอกที่ไหนก็ไม่รู้มา จะให้เป็นคู่หมั้นของฉันให้ได้” เหมือนถังรั่วเวยเจอคนที่อยากจะระบายด้วยแล้ว“อะไรนะ?”“แม่เจ้า จริงหรือเปล่า ?”แล้วกลุ่มไลน์งานก็ระเบิดทันที“ฉันจะโกหกพวกเธอทำไม ?”ถังรั่วเวยพิมพ์ข้อความตอบกลับไปด้วยความโกรธ “แล้วที่เกินไปก็คือ พ่อของฉันยังให้ฉันแนะนำไอ้บ้านนอกนั่นเข้าไปทำงานในบริษัทของพวกเราอีกนะ พูดเสียดิบดีว่าจะให้เขามาปกป้องฉัน ฉันก็เลยปฏิเสธไม่ได้”“ไม่เป็นไร รั่วเวย” ชายคนหนึ่งที่ชื่อ หวังซวี