Intro
ท่ามกลางทางถนนสายหลักขาเข้าตัวเมืองจันทบุรี มีสายฝนกระหน่ำมาไม่หยุดหย่อน ช่วงนี้อากาศของประเทศไทยไม่รู้ว่าทำไมถึงแปรปรวนบ่อยนัก รถเอสยูวีคันงามค่อยๆ ขับเคลื่อนไปตามทางถนน โดยจุดหมายคือหมู่บ้านท้ายตลาดในตัวเมืองจันทบุรี “คุณว่าเพื่อนคุณเขาจะนอนหลับไหม?” บรรยากาศเงียบเย็นภายในรถที่ทำให้สองคนอยู่ด้านในเงียบใส่กันมานาน ทว่าหมอหนุ่มเจ้าของรถจู่ๆ ก็เริ่มตั้งคำถามกับอีกคนที่นั่งมาข้างๆ กัน แววตาเศร้าสร้อยปนแดงก่ำคล้ายคนกำลังอกหักของหมอสามสิบ นัยน์ตาคู่นั้นกำลังบอกว่าเขารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ขนาดไหน “บัวว่าคุณหมออย่าคิดมากเลยนะคะ มั่นใจเถอะค่ะว่าเพื่อนบัวจะไม่กลับไปเจ็บอีก เพียงแต่ว่าตอนนี้หยกกำลังเสียใจที่เป็นต้นเหตุและสงสารพี่นาฟอยู่ก็เท่านั้น” ใยบัว คนที่นั่งโดยสารมาข้างๆ กับชายหนุ่ม เอ่ยปลอบใจเขาไป เมื่อเห็นสีหน้าของหมอกันต์แล้วเธอก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี อีกทั้งทางนั้นเองก็ทั้งเพื่อนทั้งพี่ที่เธอเคยรู้จัก ส่วนทางนี้ก็ว่าที่เจ้าบ่าวของเพื่อนเธอ “แต่ผมว่ามันอาจจะไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ ความจริงแล้วไม่ใช่ว่าผมไม่รู้นะว่าลึกๆ หยกยังรอเค้าอยู่” ทั้งๆ ที่เขากำลังจะแต่งงานกับปิ่นหยกในอีกไม่กี่วันแท้ๆ แต่คนที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวกลับต้องวิ่งแจ้นไปดูอาการคนรักเก่าของเธอ หนำซ้ำการกระทำที่บ่งบอกได้ว่าปิ่นหยกยังแคร์คนรักเก่ามาก มันถึงขั้นทำให้หมอกันต์อดไม่ได้เลยที่จะรู้สึกน้อยใจ “คุณหมออย่าคิดมากเลยนะคะ” “เห็นหยกบอกว่ารู้จักคุณมานานแล้ว” หมอกันต์ถามขณะที่สายตายังมองถนนอยู่เรื่อยๆ “ค่ะ” ใยบัวไม่รู้หรอกว่าระหว่างเพื่อนของเธอกับหมอกันต์ไปรู้จักหรือชอบพอกันได้อย่างไร เพราะวันๆ เธอก็ไม่ได้สนใจเรื่องของใครเลยด้วยซ้ำ คนอุทิศตัวถวายงานอย่างเธอวันๆ หมกมุ่นอยู่เพียงไม่กี่อย่างคือทำงานและช่วยแม่ขายของที่ตลาด ร่างบางแอบเหล่สายตามองคนขับ เมื่อเห็นว่าเขากลับมาเงียบอีกครั้ง เธอเองก็ไม่ได้สนทนาอะไรต่อ ก่อนจะเอนหลังนอนเอาศีรษะแนบเบาะนุ่มและหันหน้าเข้าหากระจกมองดูวิวทิวทัศน์ข้างทางไปเรื่อยๆ เอี๊ยดด!!! “คุณหมอจอดรถทำไมคะ?” ร่างบางที่กำลังจะเคลิ้มหลับได้ที่เพราะบรรยากาศตอนนี้ที่เป็นใจ ทว่าคนขับกลับเหยียบเบรกรถกะทันหันอยู่ตรงหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ทั้งที่ยังไม่ถึงบ้านเลยด้วยซ้ำ แล้วแถวนี้คือที่ไหนเธอเองก็ไม่อาจรู้ได้ “ผมขอแวะลงไปซื้อของก่อน คุณไปด้วยไหม?” “ตามสบายเลยค่ะ” จากนั้นชลกันต์ศัลยแพทย์หนุ่มจึงลงจากรถเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ มีเพียงร่างบางคนที่นั่งรออยู่ด้านในรถ กระทั่งใช้เวลาไม่นานหมอหนุ่มก็เดินมาพร้อมกับถุงใบใหญ่ ซึ่งเธอคิดว่าคงจะเป็นของที่เขาเพิ่งซื้อมา รถเอสยูวีคันงามขับเคลื่อนต่อไปหลังจากที่ทำธุระเสร็จแล้ว เหลืออีกเพียงไม่กี่กิโลเมตรข้างหน้าก็จะถึงที่หมาย โชคดีที่บ้านของท่านผู้ว่าเมืองจันท์ฯ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อของหมอชลกันต์อยู่ในตัวเมืองใกล้กับบ้านของใยบัวที่อยู่หลังตลาดเทศบาล “หื้ม? คุณหมอคะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของเรานี่คะ” ร่างบางดีดตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรงเมื่อเห็นว่าทางที่เขาใช้ขับมามันออกจากเส้นทางหลักมาแล้ว เมื่อครู่แทนที่เขาจะเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นตลาดเทศบาล ทว่าเขากลับไม่ยอมหักพวงมาลัยเลย กระทั่งคนขับเลี้ยวเข้าไปตรงสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลาง โชคดีที่ตรงนี้ฝนตกไม่ทั่วฟ้า “คุณดื่มเป็นเพื่อนผมได้ไหม? ผมยังไม่อยากกลับ” “แต่นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ บัวว่าเราควรกลับ” เธอบอกกับแม่ว่าจะออกมางานเลี้ยงของเพื่อนสนิทกับหมอหนุ่ม ยังไม่ได้บอกเลยว่าออกมาต่างจังหวัดในยามวิกาลแบบนี้ “คุณกินเบียร์เป็นไหม?” หมอหนุ่มไม่ฟังที่เธอพูด ก่อนจะเลี้ยวเข้าจอดข้างบริเวณอ่างเก็บน้ำซึ่งตอนนี้เวลาเที่ยงคืนแล้วแทบจะมองไม่เห็นแสงไฟ จากนั้นเขาก็เริ่มจัดแจงข้าวของทุกอย่าง รวมทั้งเครื่องดื่มที่ตัวเองซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อออกมาพร้อมกับเปิดประทุนรถ มือหนาแกะกระป๋องเบียร์ยืนให้คนที่นั่งเบาะด้านข้าง ใยบัวเหมือนต้องจำใจนั่งเป็นเพื่อนของหมอหนุ่มในคืนนี้ เธอเองก็เข้าใจว่าตอนนี้เขาคงรู้สึกน้อยใจที่ว่าที่เจ้าสาวของเขา เอาเวลาไปดูแลคนรักเก่าที่นอนอยู่โรงพยาบาล “ยิ่งมืดยิ่งเห็นดาวชัดมาก คุณว่าไหม?” “ค่ะ” “ผมชอบหยกตั้งแต่แรกเจอกัน หึ! นึกแล้วก็ขำนะ ทั้งที่ตอนนั้นเค้ามากับแฟน แต่ผมยังคิดเกินเลยได้” ใยบัวมองคนที่พูดพร้อมกับกระดกกระป๋องเบียร์เข้าปาก แววตาของเขาดูหม่นหมองเหมือนในใจคิดอะไรบางอย่างอยู่ จากนั้นก็เป็นเธอบ้างที่ยกเบียร์เข้าปากเหมือนกับที่เขาทำ จริงๆ เธอไม่ค่อยดื่มแอลกอฮอลเท่าไหร่นัก เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นคนคออ่อน มีเพียงกาแฟเท่านั้นที่พอจะดื่มได้ ต่อให้ขมมากกว่าเบียร์ก็ตามที มือหนาของหมอหนุ่มวัยสามสิบเอื้อมไปกดเปิดเพลงจากหน้าคอนโซลรถ เขาคงจะกำลังสร้างบรรยากาศเยียวยาจิตใจตัวอยู่หรือไม่ใยบัวกำลังคิดแบบนั้น “คุณคงจะรักหยกมากนะคะ” “หึ! มากขนาดที่รู้ว่าเขาไม่ได้รัก แต่ก็ยังรักเค้าอยู่นั่นแหละ” “หยกคงจะเป็นเจ้าสาวที่โชคดีมากๆ เลย” ตอนนี้ใยบัวกำลังทำหน้าที่เป็นพี่อ้อยพี่ฉอดอยู่ เธอพยายามจะพูดให้เขาไม่เครียด เพราะเชื่อว่าเพื่อนตัวเองจะยังคงแต่งงานกับเขาอย่างแน่นอน เพียงแต่ตอนนี้ต้องให้เวลาเธอหน่อยแค่นั้นเอง เพราะอย่าลืมว่าหยกกับชายหนุ่มรุ่นพี่คนนั้น คบหากันมานานหลายปี ร่างบางกระดกมาได้เพียงแค่ครึ่งกระป๋องก็เริ่มมึนๆ ในหัวบ้างแล้ว ส่วนอีกคนที่ไม่มีท่าทีว่าจะกลับง่ายๆ ตอนนี้ก็เริ่มเปิดกระป๋องที่ 3 แล้ว “บัวว่าคุณดื่มเยอะแล้วนะคะ เดี๋ยวจะขับรถไม่ได้” “เบียร์ไม่กี่กระป๋องไม่ได้ทำให้ผมเมาง่ายๆ หรอกคุณ คุณลองนี่ไหม?” พูดจบแล้วหมอกันต์ก็หยิบเอา เจมสัน ไอริส วิสกี้ ขวดสีเขียวที่เพิ่งซื้อในร้านสะดวกซื้อออกมาพร้อมกับเทใส่แก้วพลาสติกยื่นให้ร่างบางข้างๆ ดื่ม “คะ?” ใยบัวงงกับแก้วที่เขายื่นให้ แต่ก็ยังรับไว้ “ดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อย” ใยบัวยอมดื่มเพื่อหวังจะให้มันหมดเร็วๆ แล้วหมอกันต์จะได้พาเธอกลับบ้านเสียที ทว่าแค่แก้วแรกก็ทำเอาเธอร้อนวูบวาบทั่วท้องแล้ว ส่วนเขาก็ดื่มเยอะไปมากแล้วเหมือนกัน เสียงเพลงบนรถคลอเคล้าเบาๆ พร้อมกับบรรยากาศยามเที่ยงคืนเงียบที่สงัด มีเพียงแค่สองคนที่นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศยามนี้ภายในรถที่เปิดประทุนรับลมเย็นๆ ร่างบางเริ่มจะไม่ไหวกับเครื่องดื่มที่เขายื่นมาให้เรื่อยๆ แล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเลือดในกายมันร้อนวูบวาบขึ้นมาดื้อๆ เสียอย่างงั้น “อื้ม! บัวมึนหัวไปหมดเลยค่ะ คุณพาบัวกลับได้แล้ว” หญิงสาวบอกกับหมอหนุ่มพลางมือกุมขมับ “คุณนอนไหม? ผมปรับเบาะให้” อีกคนโน้มตัวมาทางร่างบางที่นั่งเบาะข้างๆ หวังจะปรับเบาะให้อีกคนได้นอน เพราะดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่อยากกลับ หากเธอง่วงเขาจะปรับเบาะให้นอนไปก่อน ขณะที่หมอกันต์กำลังปรับเบาะให้อีกคนที่กำลังงัวเงียอยู่ ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบจนได้ยินเสียงลมหายใจอุ่นๆ ของกันและกัน หมอหนุ่มมองใบหน้าแดงก่ำของใยบัวก่อนจะขาดสติโน้มริมฝีปากหยักประกบเข้ากับริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อนั้น “อ่ะ อื้มมม~~” อีกคนที่ยังมึนๆ อยู่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะมันเหมือนกับเธอกำลังอยู่ในห้วงของความฝันจึงปล่อยให้อีกฝ่ายได้ล่วงเกินไปตามน้ำ “จ๊วบบ~~” หมอหนุ่มก็เหมือนจะเมามากแล้วเหมือนกัน ริมฝีปากหยักเลื่อนลงมาจูบซอกคอขาวของเธอ กลิ่นน้ำหอมในกายของเธอช่างเหมือนกลิ่นเดียวกันกับที่ปิ่นหยกใช้ประจำ “หยก....” ตอนนี้ชลกันต์ทนไม่ไหวแล้ว ยิ่งได้กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวยิ่งนึกถึงใครอีกคน มือหนาเริ่มปลดกระดุมของอีกคนลงจนหมด เผยให้เห็นเนินอกอิ่มที่ยังมีบลาเซียสีขาวห่อหุ้มเอาไว้อยู่ ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงไปซุกอยู่กับเนื้ออิ่มนั้น ใยบัวไม่ได้สติมากแล้ว จนเสียทีให้ใครอีกคนได้กอบโกยหาความสุขกับเรือนร่างของเธอ “อ๊าส์.... อื้ม” คนเอาแต่ใจยังคงหยอกล้อกับเรือนร่างของหญิงสาวต่อไปไม่หยุด ก่อนที่ความต้องการมันจะทำให้ทั้งคู่เลยเถิดกันไปตามอารมณ์ สิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ทั้งสองไม่อาจรู้ได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป หากต้องตื่นขึ้นมายามมีสติกันทั้งคู่แล้ว พวกเขาจะทำอย่างไรกันต่อChapter 1[1/1]ภายในงานแต่งงานของเพื่อนสาวคนสนิทของใยบัวได้เริ่มขึ้นตามฤกษ์ที่ผู้ใหญ่คุยกันเอาไว้แล้ว โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใดหลังจากคืนนั้นผ่านไปใยบัวจำได้ว่าเธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างแล้ว เธอยอมรับว่าตกใจทำอะไรไม่ถูกเธอขาดสติไปมากแทบจำสิ่งที่ตัวเองทำลงไปไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอบอกกับหมอกันต์ให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับและขอให้เขาขับมาส่งเธอที่บ้าน จากนั้นก็แยกย้ายไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยจนกระทั่งวันนี้เป็นงานสำคัญของปิ่นหยก ความจริงเธอไม่อยากจะมาด้วยซ้ำเพราะรู้สึกละอายอยู่แก่ใจไม่น้อยที่ต้องมองหน้าเพื่อนในงานแต่งงานวันนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งจะมีอะไรกับเจ้าบ่าวของเพื่อนตัวเองไป“ใยบัว ฉันนึกว่าแกจะไม่มางานของฉันซะแล้ว ช่วงนี้ฉันติดต่อแกไม่ค่อยได้เลย เป็นอะไรหรือเปล่า?” ปิ่นหยกเดินมาหยุดถึงที่ด้านหน้าประตูทางเข้า พร้อมกับเอื้อมมือไปดึงแขนของเธอ“อ่อเปล่าๆ ช่วงนี้ฉันยุ่งๆ น่ะ เพื่อนแต่งงานทั้งที ฉันจะพลาดได้ยังไงกันล่ะ วันนี้แกสวยมากเลยหยก”ใยบัวไล่สายตามองชุดเจ้าสาวในวันนี้ช่างงามสง่าราวกับเจ้าหญิงตัวน้อยเหลือเกิน มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดในใจมากเหลือเกินจ
Chapter 1[1/2]งานแต่งยังไม่ทันจะได้เริ่มต้นขึ้นเลย แต่ใยบัวคิดว่าคงจะไม่เข้าไปในงานอีกแล้ว เธอขับรถออกมาจากโรงแรมที่จัดงานทันที หลังจากหมอกันต์เดินลงจากรถไป เอาเป็นว่าค่อยโทรบอกเจ้าสาวในงานทีหลังก็แล้วกันร่างบางขับรถมาเรื่อยๆ จนถึงตลาดสดในตัวเมืองจันทบุรี วันนี้เป็นวันหยุดตามเวลาราชการเธอจึงไม่ได้ไปทำงาน และได้มีโอกาสไปร่วมงานมงคลสมรสของเพื่อนสาวคนสนิท นอกเหนือจากงานวันนี้แล้วปกติใยบัวก็จะมาช่วยแม่ขายของที่ตลาดสดแห่งนี้“อ้าว! ไหนแกบอกว่าไปงานแต่งหนูหยกกับลูกผู้ว่าฯ ไง?” บัวแก้วผู้เป็นแม่ของเธอถามเมื่อเห็นว่าลูกสาวเพิ่งจะออกจากบ้านไปไม่ถึงชั่วโมงเลย แล้วทำไมถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้“ฉันรู้สึกปวดหัวนิดหน่อยน่ะจ้ะแม่” เธอไม่ได้รู้สึกปวดหัวหรืออะไรเลย เพียงแค่เหตุผลจริงๆ มันคือการไม่อยากไปเจอหน้าใครอีกคนในงานก็เท่านั้นเอง“อ้าวหรอ แล้วนี่แกกินยารึยัง?” อีกคนก็ถามด้วยความเป็นห่วงลูกสาว พลางจัดผลไม้วางลงแผงขายของ“กินแล้วจ้ะแม่ วันนี้ลูกค้าเยอะไหม?” ใยบัวถามแม่อย่างเช่นทุกวัน“ก็เหมือนเดิม ยังไม่เที่ยงเลยไม่ค่อยมีคน”แม่ค้าวัยกลางคนอย่างบัวแก้ว ขายผลไม้และน้ำปั่นในตลาดสดแห่งนี้ส่งลูกเรีย
Chapter 2[2/1]วันหยุดสุดสัปดาห์ผ่านพ้นไป งานมงคลของหมอกันต์และปิ่นหยกก็ผ่านพ้นมาแล้ว ใยบัวได้ข่าวว่าเพื่อนสนิทของเธอต้องย้ายที่อยู่ไปที่กรุงเทพฯ กับสามีป้ายแดงซึ่งเธอก็พอจะทราบจากเพื่อนสาวมาว่า แม่ของหมอกันต์และตัวของเขาเองต้องทำงานอยู่ที่นั่น เนื่องจากมีธุรกิจโรงพยาบาลที่ต้องดูแล ส่วนท่านผู้ว่าฯ ไพบูลย์ก็ยังคงประจำการอยู่ที่จันทบุรีตั้งแต่เรียนจบมาใยบัวก็กลับมาหางานทำแถวบ้านเลย ทั้งยังไม่อยากจะหนีห่างผู้เป็นแม่ไปไหนไกล เธอเลยเลือกที่จะมาทำงานที่ศาลากลางจังหวัดเป็นพนักราชการทั่วไป แต่ยังไม่ได้รับการบรรจุเนื่องจากทำงานได้ไม่นาน“ใยบัวจ้ะ หนูจะขึ้นไปชั้นบนตอนนี้ไหม? พี่จะได้ฝากของพี่ไปให้ท่านผู้ว่าฯ เซ็นด้วยน่ะจ้ะ”สาวใหญ่ในแผนกเดียวกับใยบัวถามขึ้นเมื่อเห็นว่า เธอมีเอกสารไปให้ท่านผู้ว่าฯ ที่อยู่ห้องด้านบนเซ็นเหมือนกัน“บัวกำลังจะขึ้นไปพอดีค่ะพี่น้ำ จะฝากบัวด้วยใช่ไหมคะ?”“ใช่จ้ะ งั้นพี่ขอบคุณนะ อ่ะ! นี่เลย” น้ำ สาวใหญ่รุ่นพี่ในแผนกส่งแฟ้มเอกสารเล่มบางมือใยบัว เพราะไหนๆ เธอก็จะขึ้นไปด้านบนพอดีใยบัวทำงานกับท่านผู้ว่าฯ คนนี้มาตั้งแต่เขาย้ายมาดำรงตำแหน่งที่นี่ได้ 2 ปีกว่าแล้ว พอดีกับที
Chapter 2[2/2]หลังจากพักผ่อนไปหนึ่งวันเต็มๆ แล้ว วันต่อมาใยบัวก็ขอลาป่วยจากที่ทำงานอีกวัน เพราะเธออยากจะรู้ให้ชัดว่าสิ่งที่เธอคิดมันเป็นจริงหรือไม่ใยบัวเดินทางมาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างไกลตัวชุมชนหลังตลาด สาเหตุที่เธอเลือกโรงพยาบาลเอกชนก็เพราะว่า ถ้าหากเธอเลือกไปโรงพยาบาลรัฐฯ ที่อยู่แถวบ้านคงจะมีคนรู้จักมากมายอยู่ที่นั่น และเธอก็ไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด“รอผลตรวจสักครู่นะคะ เดี๋ยวคุณหมอเรียกค่ะ”ระหว่างนั่งรถผลตรวจอยู่ หญิงสาวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาไปก่อนจะถึงคิว ปกติใยบัวไม่ได้เป็นคนติดโซเชี่ยลเลยแม้แต่น้อย มีบ้างที่เข้าไปสอดส่องความเคลื่อนไหวข่าวสารนิ้วเรียวสวยกดเลื่อนผ่านๆ โพสมากมายของเพื่อนในแอปพลิเคชันสีฟ้า เพื่อนสมัยเรียนบางคนก็อัพเดทเรื่องไปเที่ยว เรื่องความเป็นอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นมีโพสของมาร์วินที่ลงรูปงานแต่งเพื่อนสนิทอย่างปิ่นหยกมาร์วินเป็นเพื่อนอีกคนที่เธอและปิ่นหยกสนิทด้วย เมื่อตอนที่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย หยกเป็นคนน่ารักกับทุกคนยิ้มแย้ม คุยสนุกและเข้ากับคนอื่นง่ายไม่เหมือนกับเธอที่ค่อนข้างเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร ไม่อย่างนั้นสมัยเร
Chapter 3[3/1]“บัวลงมากินข้าวได้แล้วลูก” บัวแก้วเรียกลูกสาวที่อยู่บนห้อง เพื่อลงมาทานอาหารร่วมกันในช่วงเย็น หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาล ใยบัวก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องของตัวเองผู้เป็นแม่และพี่สะใภ้จะถามถึงอาการป่วยที่ไปหาหมอมาก็ยังไม่ทราบ เพราะหญิงสาวรีบเดินขึ้นห้องไปเลย โดยที่ไม่บอกกล่าวให้คนเป็นห่วงได้รับรู้สักพักใยบัวก็เดินลงมาตามเสียงที่บัวแก้วเรียกให้ลงมาทานอาหาร ใจจริงเธอยังไม่มีอารมณ์อยากทานอะไรด้วยซ้ำ ทว่าพอนึกถึงคำที่หมอบอกว่าเด็กในท้องควรได้รับสารอาหารที่ดีและเพียงพอ มันทำให้เธอต้องนึกเห็นแก่ลูกขึ้นมา“เออนี่บัว ตกลงไปหาหมอแล้วเป็นยังไงบ้าง ห้ะ?” บัวแก้วถามลูกสาวขณะที่มือก็ยังตักข้าวใส่จานให้คนมาใหม่ไปด้วย“แค่นอนดึก และก็เพลียสะสมน่ะแม่” จะให้เธอตอบว่าตัวเองท้องมันก็คงจะพูดไม่ได้“แม่บอกแล้ว ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องแวะไปช่วยที่ร้านก็ได้”“จริงบัว พี่ว่าช่วงนี้บัวดูเครียดๆ นะ ที่ทำงานมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”ยี่หวารู้สึกได้ว่าน้องสามีดูแปลกไปจากเดิม ช่วงนี้มีถ้าเลิกจากงานหรือวันหยุด ก็จะเห็นขลุกตัวอยู่แต่ในห้องนอน ไม่ยอมลงมาหยอกล้อเล่นกับหลานตัวน้อยเหมือนอย่างเคยระหว่างนั่งทาน
Chapter 3[3/2]เมื่อเข้าสู่เขตจังหวัดภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใยบัวตัดสินใจขับรถแวะเข้าไปทางย่านชุนชนเก่าแก่ของจังหวัดแห่งนี้ โดยที่เธอใช้ระยะเวลาในการเดินทางทั้งหมด 1 วัน กับอีก 15 ชั่วโมงเศษที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเธอต้องแวะพักผ่อนนอนค้างคืนโรงแรมที่เป็นทางผ่านก่อนจะถึงที่หมาย การขับรถที่กินระยะเวลานานมากขนาดนี้ถึงเป็นครั้งแรกของเธอทั้งๆ ที่ตอนนี้ใยบัวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาไกลถึงที่นี่ แต่เธอจำได้ว่าสมัยเด็กๆ เคยมาเที่ยวที่แห่งนี้กับแม่และพี่ชายอยู่บ่อยครั้ง เพราะมีเพื่อนของแม่อาศัยอยู่ที่นี่ชุมชนชิโนโปรตุกีส ชุมชนเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคและเรอเนซองส์ ที่ตั้งโดดเด่นสวยงามเต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ มีบ้านเรือน ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ รวมอยู่ในนี้โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินรสเด็ดของทางภาคใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใยบัวไม่รอช้าที่จะได้ลิ้มรสร้านอาหารที่ขึ้นชื่อจากการที่เธอได้เสิร์ชหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาแล้วMini Cooper 3 door Hatch รถยนต์ลูกรักของเธอที่ยังผ่อนไม่หมด ถูกจอดเทียบหน้าร้านอาหารชื่อดังในย่านนี้ ก่อนที่เจ้าของรถคันเล็กนั้นจะออกมาจากรถ และเดินเข้าไปในร้
Chapter 4[4/1]ใยบัวได้คุยกับเจ้าของอาคารพาณิชย์แล้ว เธอตัดสินใจจะเช่าเลย 1 คูหา ที่อยู่ถัดจากร้านอาหารของป้ายัชฟินที่ช่วยเธอหาที่เช่า เนื่องจากเจ้าของที่ปล่อยเช่านั้นใจดีให้ราคาถูกเป็นพิเศษ ตอนแรกใยบัวเองก็ตกใจกับราคาเช่า คิดว่าเธอจะสู้ไม่ไหวเสียแล้ววันนี้เป็นวันแรกที่เธอเปิดร้านขายของ ร้านกาแฟและเบเกอรี่ที่เธอตั้งใจทำมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อหวังจะตั้งตัวที่นี่ให้เจ้าหนูน้อยที่จะกำลังลืมตามาดูโลกอีกไม่กี่เดือนนี้ไม่ลำบาก ต้องขอบคุณปรเมทหรือคุณปลื้มที่เป็นเจ้าของตึกแห่งนี้ และป้ายัชฟินที่ช่วยเป็นธุระให้ในหลายวันก่อนตอนแรกใยบัวคิดได้ว่าตัวเองอยากลองเปิดร้านกาแฟดู เพราะโดยปกติเธอเป็นคนชอบดื่มอยู่แล้ว ทว่าเธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาอุปกรณ์จากไหนมาลงทุนเพราะวัตถุดิบก็ค่อนข้างแพงโชคดีที่น้องสาวของปรเมทเธอเคยเปิดร้านกาแฟและต้องยกเลิกกิจการไป เพราะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ อุปกรณ์และเครื่องทำกาแฟต่างๆ ก็ยังไม่ได้ทิ้งไปไหน ใยบัวก็เลยขอผ่อนของพวกนี้โดยมีเจ้าของตึกอย่างปรเมทเป็นธุระให้อีกราย“หนูบัวจ๊ะ วันนี้เปิดร้านวันแรกป้าเลยมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาแสดงความยินด้วยน่ะ”ยัชฟินสาวมุสลิมสัญชาติไทยคน
Chapter 4[4/2]ใยบัวเดินกลับมาร้านของตัวเองที่ตอนนี้มีลูกค้าเริ่มจะเบาบางลงบ้างแล้ว ให้ตายเถอะ.... ฟ้ากำลังกลั่นแกล้งเธออยู่หรืออย่างไร ถึงได้หนีไม่พ้นใครคนนั้น“อ้าว! บัว... ไปซะนานเชียวที่ร้านนั้นยุ่งหรอ?” ปรเมทถามเจ้าของร้านที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่“ค่ะคุณปลื้ม คนเต็มร้านเลยล่ะ”“ดีนะที่วันนี้เป็นวันหยุดผม ไม่อย่างนั้นบัวคงจะหนักมากเลย”“ขอบคุณคุณปลื้มมากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์มาช่วย”โชคดีที่ปรเมทหยุดงานทุกวันเสาร์อาทิตย์อยู่แล้ว เลยมีโอกาสได้แวะมาช่วยที่ร้านของใยบัว คิดไว้อยู่แล้วว่าที่ร้านจะต้องยุ่งเพราะทุกคูหาที่ตึกเช่าของเขา ต่างก็มีลูกค้าเข้าร้านเนืองแน่นไม่ขาดสายแล้วร้านป้ายัชฟินยิ่งแล้วใหญ่ รายนั้นเขาเป็นเจ้าถิ่นร้านติดดาวทุกเว็บไซต์ในโลกออนไลน์ ดีหน่อยที่ป้ายัชฟินแกจ้างลูกน้องช่วย ไม่อย่างนั้นก็คงจะเหนื่อยเหมือนใยบัวตอนนี้“เฮ้อ! เหนื่อยแบบนี้ก็คงต้องมีค่าแรงกันแล้วล่ะ”“ไม่ต้องห่วงค่ะ... บัวจ่ายแน่ๆ”“ผมไม่ได้หมายถึงเงินหรอกครับ ผมหมายถึงเป็นข้าวอร่อยๆ ซักมื้อต่างหาก”ตกเย็นในวันเดียวกันใยบัวแทบจะขยับตัวไปไหนไม่ได้เนื่องจากความเหนื่อยล้าทั้งวัน แถมยังอาการเหนื่อยง่ายจากการแพ้
Chapter 7[7/2]ตอนนี้ทุกคนก็กลับบ้านไปพักผ่อนกันหมดแล้ว จะเหลือเพียงแค่ใยบัวที่ยังต้องเฝ้านางฟ้าตัวน้อยของเธออยู่ ตั้งแต่ออกมาจากห้องผ่าตัดจนถึงตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็ยังไม่ทันได้รู้สึกตัวเลย คนเป็นแม่อย่างเธอได้แต่ภาวนาขอให้ลูกสาวหายไวๆเธอวาดฝันอนาคตของตัวเองและใยไหมไว้ต่างๆ นานา ถ้าลูกโตขึ้นกว่านี้เธอจะพาลูกไปเที่ยว ไปทานของอร่อยๆ กัน จะพาลูกไปเดินช้อปปิ้งแต่งตัวสวยๆ ให้ลูก เลือกโรงเรียนดีๆ ให้ลูกได้มีโอกาสเหมือนเด็กคนอื่นทุกอย่างที่ลูกอยากได้เธอจะพยายามสนับสนุนเขาเต็มที่ ถึงแม้ครอบครัวของเด็กคนอื่นอาจจะมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่เธอเองก็เชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำให้ลูกหรือแม้กระทั่งความรักที่มอบให้ใยไหม มันจะช่วยเติมเต็มสิ่งที่เขาขาดหายไปได้แกร่ก!“พี่ปลื้ม!?” เสียงประตูหน้าห้องเปิดออก พร้อมกับปรเมทที่รีบเดินเข้ามาในห้อง คุณแม่ลูกหนึ่งจึงต้องหันไปมองผู้มาใหม่“บัวพี่ลืมมือถือน่ะ จำได้ว่าวางไว้โต๊ะแถวนี้”“อ่อ... นี่ค่ะ บัวเก็บเอาไว้ให้” ร่างบางเดินไปหยิบโทรศัพท์ของอีกคนที่เธอเป็นคนเก็บเอาไว้ให้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา“ขอบคุณครับ งั้นพี่กลับก่อนนะ”“ขับรถดีๆ นะคะ”เมื่อได้
Chapter 7[7/1]@ภูเก็ต, ประเทศไทยเวลาล่วงเลยผ่านมาหนึ่งวันเต็มๆ แล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ ใยไหมจะต้องเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งคนเป็นแม่อย่างใยบัวมีความกดดันไม่น้อยเลย เธอไม่รู้ว่าผลการรักษาจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ก็ได้แต่ภาวนาขอให้นางฟ้าตัวน้อยของเธอปลอดภัย“คุณแม่และญาติรอน้องด้านนอกก่อนนะคะ” เสียงพยาบาลหน้าห้องผ่าตัดบอกทั้งสามคนให้รอด้านนอก“บัวกังวลจังเลยค่ะ”“เจ้าตัวเล็กของพวกเราจะไม่เป็นไรบัว อย่าคิดมากเลยนะครับ”ปรเมทเอื้อมมือมาจับใยบัวเอาไว้แน่น เขาอยากให้เธอไม่กังวลเรื่องการผ่าตัดเกินไป อย่างไรเสียก็ถึงมือหมอแล้ว เจ้าตัวเล็กของพวกเราจะต้องไม่เป็นอะไร“หนูบัว อย่าเครียดเลยนะลูก”“ขอบคุณทุกคนมากนะคะ”ป้ายัชฟินรู้จักกับใยบัวมาปีกว่า ถึงจะไม่มาก ทว่าเธอก็เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ให้สองแม่ลูก ถ้าหากเห็นใยบัวไม่สบายใจ เธอเองก็อดสงสารไม่ได้เลยจริงๆ20.00 น.ทั้งสามคนยังนั่งตั้งหน้าตั้งตาอยู่หน้าห้องผ่าตัด เป็นเวลาเกือบจะ 2 ชั่วโมงมากแล้วที่นางฟ้าตัวน้อยของพวกเขายังอยู่ด้านในนั้น และยังไร้วี่แววประตูจะเปิดออกมาเลย“น้องบัว.... หนูใยไหมเป็นยังไงบ้าง?” หญิงสาวผู้มาใหม่กึ่งวิ่งกึ่งเดินรีบมาหา
Chapter 6[6/2]@ภูเก็ต, ประเทศไทยสองแม่ลูกยังคงอยู่ที่ห้องพักของทางโรงพยาบาลจนถึงช่วงดึก คุณหมอเจ้าของไข้ของเด็กหญิงใยไหมมาบอกผู้เป็นแม่แล้วว่า การผ่าตัดสำหรับคืนนี้อาจจะต้องขอเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากทีมแพทย์ยังไม่ได้ข้อสรุปของแผนที่จะทำการผ่าตัดสอดท่อ สำหรับเด็กเล็กขนาดนี้ความเสี่ยงนั้นมีมากมาย ถ้าทุกสิ่งอย่างไม่เอื้ออำนวยหรือติดขัดอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะส่งผลอันตรายต่อเด็กมาเลยทีเดียวอีกทั้งยังต้องรอศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลร่วม ที่เก่งในเรื่องผ่าตัดเข้ามาช่วยอีกแรง ซึ่งคุณหมอวิเชษฎ์ยืนยันว่าหมอผ่าตัดคนนี้จะช่วยให้การรักษาของใยไหมดีขึ้น แต่ก็ต้องรอไปอีกจนถึงพรุ่งนี้ตอนค่ำเหมือนเดิม“แอ่กๆ แอร๋~”เด็กน้อยตัวเล็กยังนอนร้องไห้ในอกแม่ไม่หยุดเป็นระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาก็ยิ่งร้องมากเท่าไหร่ น้ำมูกก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น จนมันไปส่งผลกระทบทำให้หายใจลำบากขึ้นไปอีก“โอ๋ๆๆ ... คนดีของแม่ อย่าร้องไห้นะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณหมอคนเก่งก็มาหาหนูแล้วนะคะ ไม่ร้องๆ ลูก”ผู้เป็นแม่ปลอบลูกสาวตัวน้อยให้ไม่ร้องในอ้อมอกอุ่น ทว่ากลับเป็นเธอเสียเองที่ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาได้ด้วยความที่นึก
Chapter 6[6/1](หมอชลกันต์ ทอร์ค)“ฮึกก! ฮือออ~ หายไปไหนมา ฮึกก! คนใจร้าย หายไปไหนมา ฮืออ..”“คิดถึงไหม? คิดถึงพี่ เหมือนที่พี่คิดถึงเราไหม หยก....”“ไม่คิดถึง ฮึกก ฮืออ.... ไม่คิดถึงเลย”“หืม? จริงดิ่? ไม่คิดถึงแล้วร้องไห้ทำไม”ปึ่กๆ!!“เป็นห่วง ฮึกก เป็นห่วงจะตายอยู่แล้ว ฮืออ... กลัวไปหมด ฮึก! กลัวว่าพี่จะเป็นอะไรไป”“อย่างนั้นเลย?”“อื้มมม!! 0_0”ผมกำลังยืนดูฉากรักในหนังดราม่าน้ำเน่าอยู่ ขณะที่ทั้งสองคนยืนจูบกันอยู่ตอนนี้โดยที่ยังไม่รู้ตัวเลยว่ามีผมยืนอยู่ตรงนี้ด้วยคนรักเก่าของหยกกำลังกอดเธออยู่ในช่วงค่ำคืนงานนิทรรศการระดับโลก แสงไฟน้อยนิดที่สาดส่องจากด้านในอาคารที่จัดงานมายังสวนที่พวกเรายืนอยู่ เลยอาจจะทำให้พวกเขาไม่ได้สนใจคนมาใหม่อย่างผมถ้าหากหยกยังรู้สึกกับเขาอยู่หรืออยากกลับไปอยู่กับเขา ผมก็จะยอมน้อมรับความจริงและปล่อยเธอไป จะไม่หลอกตัวเองอีกแล้วแม้ว่าข้างในใจของผมมันจะอยากมีเธออยู่ด้วยก็ตาม“หยก”ผมตัดสินใจเรียกหยกท่ามกลางจังหวะที่ทั้งสองยังยืนกอดกันอยู่ ผมยืนอยู่และกำลังมองไปยังทั้งสองคนยอมรับว่าใจยังไม่แข็งพอที่จะพูดอะไรออกไป แต่ถ้าผมไม่ยอมจบตอนนี้ คนที่เสียใจอาจจะมีมากก
Chapter 5[5/2]@โรม, อิตาลี่(หมอชลกันต์ ทอร์ค)1 ปีกว่าแล้ว ที่ผมแต่งงานและได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ผมรัก ตอนนี้ผมและหยกมีเจ้าตัวน้อยที่ชื่อปกป้องเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของเราให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แต่จะเรียกว่าครอบครัวสมบูรณ์แล้วก็คงจะไม่เชิงหรอกเพราะถ้าให้สมบูรณ์แบบโดยวัดจากสิ่งที่คนทั่วไปมองก็คงต้องตอบว่าใช่ แต่ถ้าเอาตามจริงคำนิยามสำหรับผม ‘ครอบครัวสมบูรณ์แบบ’ ก็คงจะเป็นเรื่องของความรู้สึกรักกันของคนในครอบครัวมากกว่าซึ่งผมรับรู้แล้วก็สัมผัสได้มาโดยตลอดว่า แม่ของปกป้องก็ยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับเรื่องนี้แม้เวลาจะผ่านมานานมากแล้ว แต่ผมรู้ว่าปิ่นหยกยังคงมีความรู้สึกดีๆ ให้คนรักเก่า และถึงแม้ผมจะทำเป็นไม่สนใจไยดีสักแค่ไหน แต่ก็หนีไม่พ้นความจริงที่เจ็บปวดแบบนี้ได้เลยผมคงเป็นไอ้ขี้แพ้ที่ไม่กล้ายอมรับความจริง และเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากคนหนึ่งก็เท่านั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคิดอยู่เสมอว่าอนาคตอีก 10 ปี หรือ 20 ปี ระหว่างผมกับหยกเราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ได้จริงๆ หรอ ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้รักผมเลยด้วยซ้ำหลายวันก่อนผมเลยตัดสินใจพาปกป้องและปิ่นหยกมาเที่ยวที่อิตาลี่ โดยให้เหตุผลว่ามาเที
Chapter 5[5/1]9 เดือนต่อมา“อุแงงๆ .... แอ๊ะๆ ~~”“โอ๋ๆ หนูไม่ร้องนะคะ ชู่วๆๆ ~~”หลายเดือนผ่านไปจนถึงตอนนี้เด็กทารกตัวน้อยได้ลืมตามาดูโลกแล้ว 3 เดือนกว่า โดยมีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมือใหม่คอยดูแลอยู่เสมอมาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านถึงแม้กิจการร้านกาแฟของเธอจะไปได้ด้วยดี ทว่าพอถึงจุดอิ่มตัวจุดหนึ่งรายได้มันกลับไม่เหมือนเดิม หนำซ้ำยังต้องเจียดเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้กับเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้อีก‘ใยไหม’ เด็กน้อย 3 เดือน ที่เพิ่งลืมตามาดูโลกได้ไม่นาน หนำซ้ำยังต้องคลอดก่อนกำหนดอีก ทำให้สุขภาพของเด็กหญิงตัวน้อยของเราไม่ค่อยแข็งแรงมากนักวันนี้เป็นวันที่ใยบัวต้องยอมปิดร้าน 1 วัน เพื่อที่จะได้พาลูกมาหาหมอเพราะไม่สบาย“แง๊~~~~”“ไม่ร้องนะคะคนดี โอ๋ๆๆ ....ให้คุณอาหมอตรวจก่อนนะคะ”“เดี๋ยวคุณแม่นั่งรอข้างนอกก่อนนะคะ”ใยไหมเกิดก่อนกำหนดคลอด 1 เดือน ซึ่งตอนตั้งครรภ์ใยบัวก็พอทราบจากคุณหมอแล้วว่า ความเสี่ยงและความผิดปกติของลูกเธอนั้นมีมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากโรคทางพันธุกรรมพอมานั่งคิดไตร่ตรองดูดีๆ แล้วทางครอบครัวของเธอเองก็ไม่มีใครมีโรคประจำตัวด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าทำไมลูกของเธอถึงได้เป็นแบบนี้ทั้งๆ ที่เธอเอง
Chapter 4[4/2]ใยบัวเดินกลับมาร้านของตัวเองที่ตอนนี้มีลูกค้าเริ่มจะเบาบางลงบ้างแล้ว ให้ตายเถอะ.... ฟ้ากำลังกลั่นแกล้งเธออยู่หรืออย่างไร ถึงได้หนีไม่พ้นใครคนนั้น“อ้าว! บัว... ไปซะนานเชียวที่ร้านนั้นยุ่งหรอ?” ปรเมทถามเจ้าของร้านที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่“ค่ะคุณปลื้ม คนเต็มร้านเลยล่ะ”“ดีนะที่วันนี้เป็นวันหยุดผม ไม่อย่างนั้นบัวคงจะหนักมากเลย”“ขอบคุณคุณปลื้มมากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์มาช่วย”โชคดีที่ปรเมทหยุดงานทุกวันเสาร์อาทิตย์อยู่แล้ว เลยมีโอกาสได้แวะมาช่วยที่ร้านของใยบัว คิดไว้อยู่แล้วว่าที่ร้านจะต้องยุ่งเพราะทุกคูหาที่ตึกเช่าของเขา ต่างก็มีลูกค้าเข้าร้านเนืองแน่นไม่ขาดสายแล้วร้านป้ายัชฟินยิ่งแล้วใหญ่ รายนั้นเขาเป็นเจ้าถิ่นร้านติดดาวทุกเว็บไซต์ในโลกออนไลน์ ดีหน่อยที่ป้ายัชฟินแกจ้างลูกน้องช่วย ไม่อย่างนั้นก็คงจะเหนื่อยเหมือนใยบัวตอนนี้“เฮ้อ! เหนื่อยแบบนี้ก็คงต้องมีค่าแรงกันแล้วล่ะ”“ไม่ต้องห่วงค่ะ... บัวจ่ายแน่ๆ”“ผมไม่ได้หมายถึงเงินหรอกครับ ผมหมายถึงเป็นข้าวอร่อยๆ ซักมื้อต่างหาก”ตกเย็นในวันเดียวกันใยบัวแทบจะขยับตัวไปไหนไม่ได้เนื่องจากความเหนื่อยล้าทั้งวัน แถมยังอาการเหนื่อยง่ายจากการแพ้
Chapter 4[4/1]ใยบัวได้คุยกับเจ้าของอาคารพาณิชย์แล้ว เธอตัดสินใจจะเช่าเลย 1 คูหา ที่อยู่ถัดจากร้านอาหารของป้ายัชฟินที่ช่วยเธอหาที่เช่า เนื่องจากเจ้าของที่ปล่อยเช่านั้นใจดีให้ราคาถูกเป็นพิเศษ ตอนแรกใยบัวเองก็ตกใจกับราคาเช่า คิดว่าเธอจะสู้ไม่ไหวเสียแล้ววันนี้เป็นวันแรกที่เธอเปิดร้านขายของ ร้านกาแฟและเบเกอรี่ที่เธอตั้งใจทำมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อหวังจะตั้งตัวที่นี่ให้เจ้าหนูน้อยที่จะกำลังลืมตามาดูโลกอีกไม่กี่เดือนนี้ไม่ลำบาก ต้องขอบคุณปรเมทหรือคุณปลื้มที่เป็นเจ้าของตึกแห่งนี้ และป้ายัชฟินที่ช่วยเป็นธุระให้ในหลายวันก่อนตอนแรกใยบัวคิดได้ว่าตัวเองอยากลองเปิดร้านกาแฟดู เพราะโดยปกติเธอเป็นคนชอบดื่มอยู่แล้ว ทว่าเธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาอุปกรณ์จากไหนมาลงทุนเพราะวัตถุดิบก็ค่อนข้างแพงโชคดีที่น้องสาวของปรเมทเธอเคยเปิดร้านกาแฟและต้องยกเลิกกิจการไป เพราะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ อุปกรณ์และเครื่องทำกาแฟต่างๆ ก็ยังไม่ได้ทิ้งไปไหน ใยบัวก็เลยขอผ่อนของพวกนี้โดยมีเจ้าของตึกอย่างปรเมทเป็นธุระให้อีกราย“หนูบัวจ๊ะ วันนี้เปิดร้านวันแรกป้าเลยมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาแสดงความยินด้วยน่ะ”ยัชฟินสาวมุสลิมสัญชาติไทยคน
Chapter 3[3/2]เมื่อเข้าสู่เขตจังหวัดภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใยบัวตัดสินใจขับรถแวะเข้าไปทางย่านชุนชนเก่าแก่ของจังหวัดแห่งนี้ โดยที่เธอใช้ระยะเวลาในการเดินทางทั้งหมด 1 วัน กับอีก 15 ชั่วโมงเศษที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเธอต้องแวะพักผ่อนนอนค้างคืนโรงแรมที่เป็นทางผ่านก่อนจะถึงที่หมาย การขับรถที่กินระยะเวลานานมากขนาดนี้ถึงเป็นครั้งแรกของเธอทั้งๆ ที่ตอนนี้ใยบัวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาไกลถึงที่นี่ แต่เธอจำได้ว่าสมัยเด็กๆ เคยมาเที่ยวที่แห่งนี้กับแม่และพี่ชายอยู่บ่อยครั้ง เพราะมีเพื่อนของแม่อาศัยอยู่ที่นี่ชุมชนชิโนโปรตุกีส ชุมชนเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิคและเรอเนซองส์ ที่ตั้งโดดเด่นสวยงามเต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ มีบ้านเรือน ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ รวมอยู่ในนี้โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินรสเด็ดของทางภาคใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใยบัวไม่รอช้าที่จะได้ลิ้มรสร้านอาหารที่ขึ้นชื่อจากการที่เธอได้เสิร์ชหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาแล้วMini Cooper 3 door Hatch รถยนต์ลูกรักของเธอที่ยังผ่อนไม่หมด ถูกจอดเทียบหน้าร้านอาหารชื่อดังในย่านนี้ ก่อนที่เจ้าของรถคันเล็กนั้นจะออกมาจากรถ และเดินเข้าไปในร้