Share

บทที่ 1130

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ครืน ครืน ครืน!”

เฉินฝานสะดุ้งตื่นเพราะเสียง เขาเด้งตัวตื่นอย่างไม่มีเงื่อนไข

“ฟ้าผ่าแล้ว ฝนตกลง รีบเก็บเสื้อผ้าเร็วเข้า!”

“ปั้ง!”

ประตูห้องพักถูกคนเปิดจากด้านนอกอย่างแรง

ร่างใหญ่ปรากฏตัวตรงหน้าเฉินฝาน “ฟ้าผ่าอะไรกัน ข้าเอง ข้ากลับมาแล้ว!”

จากนั้น เฉินฝานก็รู้สึกตัวเบาหวิว ร่างใหญ่ยื่นมือข้างหนึ่งออกมา คว้าตัวเฉินฝานขึ้น

“เขยรักของข้า เจอข้าแล้วเจ้าดีใจหรือไม่?”

“...” เฉินฝานพูดไม่ออก “ขืนท่านยังไม่ปล่อย คอของเขยรักท่านจะหักแล้ว”

“อ๊า! ข้าลืมไปเสียสนิท!” อ๋องตวนวางเฉินฝานลงทันที

“...” เฉินฝานที่ล้มก้มกระแทกพื้นยิ่งหมดคำจะพูด

“เขยรักของข้า เจ้าเป็นอะไรหรือไม่” ใบหน้าขนาดใหญ่อวัยวะทั้งหน้าชัดเจนของอ๋องตวน ยื่นมาตรงหน้าเฉินฝาน ห่างกับใบหน้าของเฉินฝานไม่ถึงหนึ่งมิลลิเมตร

เขานิ่งงันเช่นนี้ ทำให้เฉินฝานตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง

“อ๊าก!”

เฉินฝานผลักอ๋องตวนอย่างแรง

ให้ตายสิ ไม่ช้าก็เร็วเขาคงตายด้วยน้ำมือของพ่อตา

“อยากให้ข้าตาย บอกตั้งแต่แรกสิขอรับ ข้าหาเชือกมาแขวนคอตัวเองได้” เฉินฝานพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“ไม่เอาๆๆ ลูกเขยของข้าอายุยืนยาว จะตายได้อย่างไร”

“ไม่อยากให้ข้าตาย เช่นนั
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1131

    “ข้าขอเตือนเจ้า อย่ามั่นใจเกินตัว วันก่อนเจ้าเองก็เห็นแล้วว่าเฉินฝานช่วยคนตายเหล่านั้นให้รอดชีวิตได้ หากเฉินฝานถอนพิษหญ้าไส้ขาดได้แล้ว ข้าสามารถสร้างหุบเขาร้อยบุปผาให้เจ้าได้ ก็เผาหุบเขาร้อยบุปผาของเจ้าได้เช่นกัน”เสิ่นหมิงหยวนทำสีหน้าอำมหิตและเฉียบคม ไป่ชงซานรีบเอ่ยสาบานทันทีว่า “ใต้เท้า ท่านวางใจได้ขอรับ พิษหญ้าไส้ขาดของหุบเขาร้อยบุปผาของข้า ต่อให้เป็นบัวหิมะภูผาสวรรค์หรือโสมพันปีก็ไม่มีประโยชน์” เมื่อเห็นท่าทีสาบานอย่างหนักแน่นของไป่ชงซาน สีหน้าของเสิ่นหมิงหยวนก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย เขาหันหน้าไปถามหลี่ชิ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่ง“ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าให้พวกเขาขนตัวยากลับมาได้อย่างราบรื่น? เหตุใดหงอิงกับอ๋องตวนถึงเข้าเมืองได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น?” หลี่ชิ่งรีบตอบกลับว่า “ลูกน้องรายงานมาว่า สิ่งที่หงอิงกับอ๋องตวนนำกลับมาจากแคว้นหลู่ไม่ใช่ตัวยา ดังนั้นพวกเขาเลยไม่ได้ลงมือขอรับ” เสิ่นหมิงหยวนอึ้งไป “สิ่งที่ขนกลับมาไม่ใช่ตัวยา?”เสิ่นหยวนเลี่ยงเองก็รู้สึกประหลาดใจมาก “ไม่ขนตัวยากลับมา เช่นนั้นพวกเขาขนสิ่งใดกลับมา?”หลี่ชิ่งกำลังคิดจะตอบกลับ ฉินเย่ว์เหมยก็เดินเข้ามาจากปลายถนนอี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1132

    เฉินฝานยิ้มบาง ๆ “ไม่มีสิ่งใดที่ไม่อาจให้เห็นได้ ฝ่าบาทกับใต้เท้าเสิ่นอยากดู เช่นนั้นก็ดูเถิด”เสิ่นหมิงหยวนก็รอคำพูดประโยคนี้ของเฉินฝาน เสียงพูดของเฉินฝานยังไม่ทันจบ หลี่ชิ่งก็แหวกม่านบนรถม้าออกภายใต้การบอกเป็นนัยของเขา ???!!!เมื่อผ้าม่านเปิดออก ผู้คนมากมายล้วนตะลึงงัน“ของพวกนี้ถือเป็นตัวยาอันใดกัน?”“ใต้เท้าเฉิน มีผู้ได้รับพิษมากมายถึงเพียงนั้น เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต ท่านไม่อาจทำเป็นเล่นได้นะ” มุมปากของเสิ่นหมิงหยวนจะฉีกยิ้มถึงหูแล้วครั้งนี้เขาอยากดูว่าเฉินฝานจะอธิบายอย่างไรของที่อยู่บนรถม้าไม่ใช่ตัวยาทั่วไปจริง ๆ แต่เป็นนมวัวและถั่วเขียวจำนวนมาก รวมถึงดอกพลับพลึงแมงมุมที่มีพิษไม่น้อยด้วย“นำของพวกนี้กลับมา ไม่ใช่ว่าจะให้ผู้ได้รับพิษรอความตายหรือไร?”“ก่อนหน้านี้เห็นว่าเขาช่วยชีวิตคนมากมายถึงเพียงนั้น อีกทั้งยังเฝ้าอยู่ที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ทั้งวันทั้งคืน ยังนึกว่าเขาตั้งใจช่วยเหลือคนจริง ๆ”“ข้ารู้ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ หากเขาอยากช่วยเหลือคนจริง ๆ ก็คงไม่วางยาพิษหรอก”“โชคดีที่ท่านอัครเสนาบดีเบื้องขวาคอยยืนกรานจะดูของบนรถ ไม่เช่นนั้นพวกเราก็คงโดนเขาหลอกลวงเช่นนี้ไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1133

    “แต่ว่า...” ฉินเย่ว์เหมยยังคงทำสีหน้ากังวลใจ “อาหารอย่างถั่วเขียวกับนมพวกนี้จะเป็นยาได้อย่างไรแถมยังมีดอกพลับพลึงแมงมุมนั้นอีก...”“ดอกพลับพลึงแมงมุม นั่นมันดอกพลับพลึงแมงมุม!” คำพูดของฉินเย่ว์เหมยถูกเสียงตะโกนแหลมสูงกลบไว้ มีคนในหมู่ชาวบ้านจำดอกพลับพลึงแมงมุมได้ เมื่อเสียงของคนผู้นั้นดังขึ้นก็ทำให้เกิดความตื่นตระหนกขึ้นมาทันที“ดอกพลับพลึงแมงมุม?” “ดอกพลับพลึงแมงมุม!”“นั่นมันดอกไม้พิษไม่ใช่หรือ? ได้ยินว่าพิษร้ายแรงมาก หลังจากเผลอทานเข้าไปจะอาเจียนหนักไม่หยุดเป็นเวลานาน เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าไม่ได้ดูผิดไป?”“ไม่มีทางดูผิดอย่างแน่นอน ข้าไปแคว้นหลู่บ่อย ๆ แคว้นหลู่มีดอกพลับพลึงแมงมุมมากที่สุด”“ตอนแรกก็หญ้าไส้ขาด ตอนนี้ก็เป็นดอกพลับพลึงแมงมุม เฉินฝานยังไม่ยอมรับอีกหรือว่าเขาสมคบคิดกับแคว้นหลู่ทำร้ายต้าชิ่งของพวกเรา”“เขาอยากจะยกแคว้นต้าชิ่งของเราให้แคว้นหลู่! เขาคือคนขายชาติ!”“คนขายชาติเช่นนี้ ฝ่าบาทยังจะปกป้องเขาอีกหรือ?”ประชาชนเดือดดาล ไม่ว่าคำพูดอะไรล้วนมีหมด แน่นอนว่าคนที่ตะโกนเสียงดังเหล่านั้น ส่วนมากล้วนจงใจปลุกปั่น พวกเขาถึงขนาดที่ชี้ปลายหอกไปยังฉินเย่ว์เหมยด้วยชาวบ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1134

    เมื่อเข้ามาในศูนย์บรรเทาทุกข์ เฉินฝานสั่งหมอหลี่ทันที “ให้หมอและพยาบาลเหล่านั้นขนของบนรถม้าด้านนอกเข้ามา” หลังจากสั่งหมอหลี่แล้ว เฉินฝานก็หันหน้าไปพูดกับหวงหวั่นเอ๋อร์อีกว่า “รบกวนแม่นางหวงคุ้มครองพวกเขาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาขนของมาที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ได้อย่างปลอดภัย” หวงหวั่นเอ๋อร์ไม่ได้ส่งเสียงพูด นางทะยานออกจากศูนย์บรรเทาทุกข์ดังฟิ้วอีกครั้ง ก่อนจะนั่งแกว่งเท้าบนกิ่งไม้เมื่อครู่นี้แล้วก้มหน้าชมเหตุการณ์คึกคักต่อ“พวกเรารออีกหน่อยก็ได้ กองทัพลาดตระเวนของเหอจื่อหลินจะมาถึงวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ค่อยขนก็ได้” ฉินเย่ว์เหมยกล่าวเวลานี้หงอิงคุ้มครองพวกเขาก็กินแรงมากแล้ว หากหวงหวั่นเอ๋อร์ไม่ยอมช่วยเหลือ หมอและพยาบาลของศูนย์บรรเทาทุกข์ออกไปขนของบนรถม้าจะต้องโดนขัดขวางอย่างแน่นอน เฉินฝานเหลือบมองหวงหวั่นเอ๋อร์ที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้อยากชมความคึกคักเท่านั้น “แม่นางหวงจะต้องช่วยเหลือแน่นอน”เฉินฝานพูดพลางเร่งหมอหลี่อีกครั้ง “อย่ามัวชักช้า รีบพาคนไปเสีย!” ผู้ป่วยมากมายได้รับพิษนานเกินสามวันแล้ว หากไม่รักษาอีก พิษแทรกซึมเข้าสู่กระดูกก็จะหมดหนทางช่วยเหลือแล้วจริง ๆเป็นอย่างที่เฉินฝานพู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1135

    “ใต้เท้า ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” นัยน์ตาของหมอหลี่จู่พลันเปล่งประกาย “ท่านใช้ดอกพลับพลึงแมงมุมขจัดพิษในร่างของผู้ได้รับพิษใช่หรือไม่”เฉินฝานยิ้มพลางพยักหน้า“วิธีการนี้ มีเพียงใต้เท้าเท่านั้นที่กล้าใช้” หมอหลี่ทอดถอนใจ “เมื่อขจัดพิษส่วนใหญ่แล้ว ข้าค่อยใช้สมุนไพรอย่างชะเอมกับดอกสายน้ำผึ้งไปขจัดพิษที่เหลืออยู่ก็ได้แล้ว ดี ดีเลย!” “ไม่ดี!” เฉินฝานส่ายหน้า “ตอนนี้หากไปหาชะเอมกับดอกสายน้ำผึ้งจะเสียเวลามาก ใช้ถั่วเขียวไปเลย ตอนนี้เจ้าให้หมอกับพยาบาลครึ่งหนึ่งไปต้มน้ำแกงถั่วเขียว” “น้ำแกงถั่วเขียว?”“ใช่ ยามนี้ไม่มีเวลามาอธิบายให้เจ้าฟัง เจ้ารีบไปทำเถิด นมก็ต้องอุ่นไว้ด้วย อาเจียนแล้วดื่มน้ำแกงถั่วเขียว ผ่านไปครึ่งชั่วยามค่อยป้อนนมให้กิน” เฉินฝานกล่าวไม่มีเวลาแล้วจริง ๆ เสียงพูดของเฉินฝานเพิ่งจะสิ้นสุดลง ภายในศูนย์บรรเทาทุกข์ก็เริ่มมีเสียงอาเจียนดังออกมามากมาย“สวรรค์ เถี่ยหนิวของบ้านข้าอาเจียนแล้ว ดูเหมือนจะอาเจียนปอดออกมาเลย!”“ลูกชายข้าก็อาเจียนรุนแรงเหมือนกัน” เมื่อผู้ได้รับพิษอาเจียน ด้านนอกก็ยิ่งโกลาหล ผู้คนมากเกินไป พวกทหารรักษาพระองค์เริ่มต้านไม่ไหวแล้ว ก่อนจะเห็นคนเหล่านั้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1136

    “ถึงอย่างไรข้าก็เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ข้าเชื่อใจใต้เท้าขอรับ!”ชายที่ชื่อเถี่ยนิวผู้นั้นเป็นคนแรกที่คลานกลับมาที่เตียงผู้ป่วยของตนเอง“ข้าก็เชื่อใจใต้เท้า!”“ข้าก็เชื่อใจเหมือนกัน”บรรดาผู้ได้รับพิษคลานกลับไปที่เตียงผู้ป่วยของตนเองติดต่อกัน สามวันแล้ว เสียงเอะอะโวยวายด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์ไม่เคยหยุดเลยชั่วขณะที่ประตูใหญ่ของศูนย์บรรเทาทุกข์เปิดออกนั้นเหมือนกับกดปุ่มหยุดชั่วคราวก็ไม่ปาน เสียงเอะอะด้านนอกหยุดลงในพริบตา เถี่ยนิวเป็นคนแรกที่เดินออกมาจากศูนย์บรรเทาทุกข์ มารดาและภรรยาของเขาดึงเด็กพุ่งมาตรงหน้าเขา มองเขาด้วยนัยน์ตาเบิกโต แต่ไม่กล้าส่งเสียง “ท่านแม่ เสี่ยวฟาง!”เถี่ยนิวเดินไปหามารดาและภรรยาของตนด้วยความตื่นเต้น ทว่ามารดาและภรรยาของเขากลับอุ้มลูกพลางถอยหลังติดต่อกัน“ท่านแม่ เสี่ยวฟาง พวกท่านถอยไปข้างหลังเพราะเหตุใด ข้าคือเถี่ยนิวอย่างไรเล่า!” จางเถี่ยนิวเดินเข้าไปด้วยความร้อนใจเล็กน้อยมารดาของจางเถี่ยนิวหยุดชะงักเป็นคนแรก ภายในดวงตาที่จ้องมองจางเถี่ยนิวอย่างพิจารณามีความหวาดกลัวเล็กน้อย “จะ เจ้าเป็นคนหรือเป็นผี?”“ได้ยินเซียนบอกว่า คนที่ได้รับพิษร้ายแรงจนตายแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1137

    ราวกับมีแม่น้ำขวางกั้น ด้านในศูนย์บรรเทาทุกข์เต็มไปด้วยความครึกครื้น ส่วนด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์กลับเงียบสงัดอย่างยิ่งนอกจากครอบครัวของผู้ได้รับพิษเหล่านั้นแล้ว คนอื่น ๆ ต่างก็ตะลึงงันพิษของหญ้าไส้ขาดแก้ได้จริง ๆ หรือ?!“ว้าว ว้าว!”เสียงที่เหมือนกับระฆังใหญ่ของอ๋องตวนทำลายความเงียบสงัดด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์ อ๋องตวนตะโกนลั่นพลางวิ่งไปหาเฉินฝาน“ลูกเขยสุดที่รักของข้า เจ้ายอดเยี่ยมเกินไปแล้วจริง ๆ”“ฝ่าบาท! ใต้เท้าทำได้แล้ว เขาทำได้แล้วจริง ๆ!”หงอิงที่ปกติเคร่งขรึมเย็นชาและไม่ชอบยิ้มหรือพูดก็ตื่นเต้นไม่หยุดเช่นกัน“ใช่แล้ว เขาทำได้แล้ว” สายตาของฉินเย่ว์เหมยมองไปตามร่างของเฉินฝาน ปากก็ส่งเสียงพึมพำ รู้สึกภาคภูมิใจควบคู่ไปกับรักใครสุดซึ้งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อประตูศูนย์บรรเทาทุกข์เปิดออก เฉินฝานก็มองหาร่างของฉินเย่ว์เหมยเป็นอันดับแรก สายตาของทั้งสองสบกันโดยไม่คาดคิดเช่นนี้เอง สายตาของเจ้ากับข้าเปลี่ยนจากความกังวลมาเป็นความรักใคร่สุดซึ้ง สุดท้ายฉินเย่ว์เหมยก็หน้าแดงระเรื่อแล้วหันหน้าหนีไป หวงหวั่นเอ๋อร์ที่นั่งเอ้อระเหยแกว่งขาชมความคึกคักอยู่บนต้นไม้มาตลอด สีหน้าของดว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1138

    เสิ่นหมิงหยวนที่ไม่เคยเหลือบแลอ๋องตวน วันนี้โต้เถียงกับอ๋องตวนไม่หยุด ทั้งคู่โต้เถียงกันตั้งแต่เที่ยงตรงจนพระอาทิตย์คล้อยต่ำ“ข้าว่าเสิ่นหมิงหยวนจงใจทำ หงอิง เจ้าไปลากอ๋องตวนกลับมาเถิด” ฉินเย่ว์เหมยสั่งหงอิง“เจ้าว่าตอนนี้เสิ่นหมิงหยวนกำลังทำเรื่องอะไรลับหลังอยู่ใช่หรือไม่ ดังนั้นตอนนี้เลยจงใจทะเลาะกับอ๋องตวน เบนสายตาของพวกเรา” ฉินเย่ว์เหมยเดินไปหาเฉินฝาน แล้วเอ่ยด้วยความกังวลใจเล็กน้อยเฉินฝานที่กำลังตรวจอาการของผู้ได้รับพิษที่ยังไม่ได้หายสนิท เงยหน้าเหลือบมองออกไปด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์เสิ่นหมิงหยวนยังคงโต้เถียงกับอ๋องตวน แต่ว่ามีหลายครั้งที่อ๋องตวนอยากไป เสิ่นหมิงหยวนก็จะพูดขึ้นมาอย่างเรียบนิ่ง คำพูดของเขามักโจมตีจุดตายของอ๋องตวนได้อย่างแม่นยำ ด้วยเหตุนี้เองอ๋องตวนถึงได้เดือดดาลมากขึ้น หันไปขวางหน้าเสิ่นหมิงหยวนอีกครั้ง “ชายชราเคราขาวข้างกายเสิ่นหมิงหยวนจากไปตั้งแต่เมื่อไร?” เฉินฝานถาม “ชายชราเคราขาว?” ฉินเย่ว์เหมยอึ้งไป “มีชายชราข้างกายเสิ่นหมิงหยวนด้วยหรือ?”“ใต้เท้า ฝ่าบาท!”ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ก็มีคนที่เปื้อนเลือดเต็มตัววิ่งกระเสือกกระสนเข้ามาหาเฉินฝานและฉินเย่ว์เหมย

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1302

    หวนนึกถึงภาพเพื่อนสนิทที่ถูกเสือฉีกร่างทั้งเป็น ฉินเย่วฉินดวงตาแดงก่ำ แววตาแน่วแน่“ได้!” เฉินฝานขานรับน้ำเสียงเด็ดขาดอย่างมากในขณะเดียวกันที่เฉินฝานออกเดินทาง โจวอวี่ก็พามือปืนหนึ่งพันคนของเขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน เดินทางจากอีกฝั่งของเมืองเช่นกันวันนี้คนบนท้องถนนมีจำนวนมากเป็นพิเศษ รถม้าของเฉินฝานต้องหยุดหลายครั้งเมื่อรถม้าหยุดอีกครั้ง ฉินเย่ว์ฉินกล่าวด้วยความหงุดหงิด “เจ้าเป็นท่านอัครเสนาบดีที่ตำแหน่งอำนาจสูงส่งมิใช่หรือ? ไฉนคนเดินเท้าบนท้องถนนจึงกล้าขวางทางรถม้าเจ้า”“ขวางทางอันใดกัน? พวกเราใต้เท้ามิใช่ขุนนางกังฉินที่วางอำนาจตามอำเภอใจไปทั่ว ใต้เท้าต้องรักและดูแลราษฎร วันนี้คนที่ออกจากเมืองค่อนข้างเยอะ พวกเราเพียงหยุดเพื่อหลีกทางให้ฝูงชนเท่านั้น อีกอย่างบัดนี้พวกเรามิได้นั่งรถม้าของอัครเสนาบดีเสียหน่อย”หลี่จู้นายพลประจำกายคนใหม่ของเฉินฝานที่ติดตามอยู่ด้านนอกรถม้าเริ่มปริปากตำหนิฉินเย่ว์ฉิน ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่โรงมหรสพจวบจนบัดนี้ เขาคิดมาตลอดว่าเป็นความผิดของฉินเย่ว์ฉิน หากมิใช่เพราะนาง เฉินฝานก็คงจะมิตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายบัดนี้เฉินฝานยังเป็นอัครเสนาบดีที่ ‘ตายไปแล้ว’

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1301

    “ถูกต้อง คนของตำหนักเซียวเหยาส่วนใหญ่ล้วนมีวรยุทธ์ติดตัวและวางยาพิษเป็น และมีคนที่สามารถควบคุมงูได้เช่นกัน ทว่าสตรีที่ทำอันใดมิเป็นสักอย่างมีเยอะกว่าเสียอีก ทุกคนล้วนหน้าตาค่อนข้างดี พวกนางจะแยกย้ายกันไปแต่ละแคว้นในแผ่นดินใหญ่ ใช้ประโยชน์จากความงามของตนดึงดูดบุรุษ หลังจากที่ตั้งท้องได้สำเร็จแล้วก็จะตีตัวออกห่างหายไปอย่างเงียบ ๆ”“เดิมทีสตรีก็มีฐานะต่ำต้อยอยู่แล้ว ผนวกกับการที่พื้นที่ส่วนใหญ่ทั้งแคว้นหญิงเยอะชายจำนวนน้อย การจากไปของพวกนางมิเพียงแต่มิได้ทำให้ชายเหล่านั้นเสียใจเท่านั้น ชายส่วนใหญ่กลับรู้สึกยินดี อย่างไรเสียก็คงมิมีชายใดที่อยากให้สตรีที่ตนเองได้ร่วมอภิรมย์แล้วจากไปโดยมิบอกกล่าว”ตอนที่ฉินเย่ว์ฉินพูด ใช้สายตาถมึงทึงมองไปที่เฉินฝานเฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินก็มีความสงสัยเช่นนี้กับเขาเช่นกัน เขามิได้แก้ตัว แก้ตัวไปก็ไร้ประโยชน์ เรื่องเช่นนี้มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะสามารถพิสูจน์ได้และที่นางพูดก็เป็นเรื่องจริงชายที่ถูกดึงดูดได้อย่างง่ายดายปานนั้น ย่อมมิยอมรับผิดชอบเป็นแน่“จากนั้นล่ะ หลังจากนั้นพวกนางอุ้มท้องแล้วก็กลับไปที่ตำหนักเซียวเหยาเช่นนี้รึ?”“ถูกต้อง” ฉินเย่ว์ฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1300

    เฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินหวาดระแวง “มิต้องสงสัยหรอก ข้าเชื่อเจ้าจริง ๆ”“ทำไมล่ะ?”“เพราะเจ้าเป็นพี่สาวของเย่ว์เจียว”อีกหนึ่งเหตุผลหนึ่งคือ ฉินเย่ว์ฉินออกมาเสี่ยงชีวิตช่วยเขาและฉินเย่ว์เจียวโดยมิห่วงความปลอดภัยตนเองแม้แต่น้อย“เพียงแค่นี้งั้นรึ?” ฉินเย่ว์ฉินสีหน้ามิเชื่อ“และเพราะว่าเจ้าเป็นภรรยาของข้า” เฉินฝานมิได้พูดเล่นหนังสือทางการที่เขาครอบครองอยู่ ตราบใดที่เขามิเขียนใบหย่า ฉินเย่ว์ฉินย่อมเป็นคนของเขาตลอดไป“แต่ข้ามิชอบเจ้า”“แล้วอย่างไรต่อ? ชีวิตของเจ้าเป็นข้า ตายไปแล้ววิญญาณก็เป็นของข้า” มิว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือท่าทางของเฉินฝานล้วนแน่วแน่และเอาแต่ใจอย่างมากวินาทีที่ฉินเย่ว์ฉินกลับมา เฉินฝานก็มิได้คิดจะปล่อยให้นางจากไปตามกฎหมายของต้าชิ่ง ในฐานะที่เป็นสามี เขามีหน้าที่ดูแลนาง นางทำความผิด เขาก็มีหน้าที่อบรมสั่งสอนนางเช่นกันฉินเย่ว์ฉินใจเต้นจากคำพูดจี้ใจดำของเฉินฝานมิใช่รู้สึกหวั่นไหวเฉินฝานตอนที่อยู่หมู่บ้านซานเหอช่วงแรกมักพูดเสียงดังน้ำเสียงดุร้ายเสมอ ทว่าตอนนั้นฉินเย่ว์ฉินมิได้รู้สึกหวาดกลัวอย่างแน่นอน ถึงขั้นรู้สึกรำคาญอย่างมาก เฉินฝานในตอนนี้มิได้พูดเสียงดัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1299

    ฉินเย่ว์ฉินเช็ดน้ำตาด้วยความรีบร้อน “อย่ามาพูดจาเหลวไหล ข้ามิได้ร้องไห้เสียหน่อย เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตาเท่านั้น”“อ๋อ ๆ พี่รองมิได้ร้องไห้ เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตา”ระหว่างที่พูด ฉินเย่ว์เจียวก็จูงมือเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน “พวกพี่มิเป็นไรก็ดีแล้ว ในที่สุดพวกเราเหล่าพี่น้องก็พร้อมหน้าพร้อมตากันได้เสียที พวกเราจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปกว้านซื้อประทัดมาเยอะ ๆ เสียงประทัดต้องดังทั้งวันทั้งคืน”“ไม่!”เฉินฝานและฉินเย่ว์ฉินพูดออกมาพร้อมกัน“ข้าจะมิกลับไปกับพวกเจ้า” น้ำเสียงฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา นางยังคงมิยอมรับในตัวเฉินฝาน“จะจุดประทัดมิได้ บัดนี้ข้ามิสามารถกลับไปได้ชั่วคราว กลับไปเช่นนี้มิได้” เฉินฝานกล่าว“พี่รอง ข้ารู้ว่าพี่คิดอันใดอยู่ พี่มิอยากกลับไป ข้าก็คิดไว้อยู่แล้ว แต่...” ฉินเย่ว์เจียวถามเฉินฝานด้วยความสงสัย “นายท่าน ไฉนท่านจึงมิกลับ?”“พี่มิเพียงแต่กลับไปมิได้เท่านั้น และยังมิสามารถ ‘มีชีวิตอยู่’ ได้”“ใต้เท้าพูดถูก บัดนี้ใต้เท้ามิสามารถมีชีวิตอยู่ได้” ไป่เผยหรานที่อยู่ด้านข้างเข้าใจความหมายแฝงในประโยคที่เฉินฝานพูดทันทีขอเพียงเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน‘เสียชีวิต’ ผู้ชักใยอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1298

    เหอจื่อหลินและไป่เผยหรานพากองกำลังขยายอาณาเขตในการขุดค้น ทว่าหาอยู่นานก็ยังมิพบอยู่ดีมิรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร“นายท่าน พี่รอง!”ฉินเย่ว์เจียวที่โดยปกติแล้วมีนิสัยดุดันตรงไปตรงมา บัดนี้ร้องไห้จนแทบจะหมดสติเหอจื่อหลินและไป่เผยหรานกำลังจะจัดแจงคนให้พานางกลับไป ปรากฏว่าเพิ่งจะปริปาก ฉินเย่ว์เจียวก็ถูกสิ่งของกระทบใส่อย่างรุนแรง“ตุ้บ!”ฉินเย่ว์เจียวถูกขว้างก้อนหินใส่“เจ้าคนหน้าไหนรนหาที่ตาย บังอาจขว้างหินใส่ข้า”“เจ้าเอะอะโวยวายปานนี้ และยังทุบตีคนที่ช่วยข้าอย่างรุนแรง เจ้ากลัวว่าพี่จะตายช้าไปหรือกระไร?”......!!!!ทุกคนล้วนตกตะลึงไปครู่ใหญ่ จึงได้สติกลับมาคือเฉินฝาน นี่คือเสียงของเฉินฝาน“นายท่าน ๆ”“ใต้เท้า ๆ”ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวเข้าหาคนแรก ทว่ามินานนางก็รู้สึกงุนงง ได้ยินเสียงเฉินฝานแล้ว แล้วตัวเขาอยู่ที่ใด“นายท่าน ๆ ท่านอยู่ที่ใด?” ฉินเย่ว์เจียวร้อนรนใจจนกระทืบเท้า“เจ้าหยุดกระทืบเท้าได้แล้ว ถ้ายังกระทืบเท้าข้าคงได้ตายจริง ๆ แล้ว!”ได้ยินเช่นนี้ ฝูงชนมองใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวตามสัญชาตญาณเฉินฝานอยู่ใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวจริง เขาถูกโต๊ะตัวหนึ่งทับร่างไว้ เพราะโต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1297

    “ข้ารู้ว่าเจ้ามีข้อสงสัยมากมาย แต่อย่าเพิ่งมาถามตอนนี้ รีบตามข้ามา !”ฉินเย่ว์ฉินลากฉินเย่ว์เจียวไปทันที ดูจากท่าทางของนางแล้ว คงจะเป็นสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานจริง ๆฉินเย่ว์ฉินมุ่งหน้ากลับไปเรือนที่นางออกมาเมื่อครู่“ไปทางนั้นมิได้!” เฉินฝานตะโกนดังลั่นจู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นดินปืนจำนวนมาก จากประสบการณ์ในยุคปัจจุบันของเขา ดินปืนนี้จวนจะระเบิด“เย่ว์เจียวเย่ว์ฉิน อ๋องตวน อีกมินานที่แห่งนี้จะระเบิดแล้ว จงล่าถอยไปด้านนอก!”สองสามปีมานี้ฉินเย่ว์เจียวและอ๋องตวนมักจะติดตามอยู่ข้างกายเฉินฝานเสมอ เฉินฝานมักจะทำการทดลองระเบิดอยู่บ่อยครั้ง พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เฉินฝานพูด และเข้าใจผลที่ตามมาของการระเบิดดินปืนในยุคนี้เป็นสินค้าหายาก เพราะดินปืนมีอานุภาพทำลายที่รุนแรง ดังนั้นดินปืนจึงเป็นสินค้าที่ทางการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยปกติแล้วราษฎรมิสามารถครอบครองได้ แม้ฉินเย่ว์ฉินจะอยู่ในกลุ่มตำหนักเซียวเหยาที่แข็งแกร่งปานนั้นก็มิแน่เสมอไปว่าจะเคยสัมผัสกับดินปืนมากก่อน ผนวกกับการที่นางรู้สึกมิดีกับเฉินฝาน นางจึงมิฟังคำพูดของเขา นางมิได้ล่าถอยตามฉินเย่ว์เจียวไปด้านนอก ยังคงยืนกรานจะไปที่เรือนหลังนั้น“ไปม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1296

    “พี่รอง!” ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวไปกอดฉินเย่ว์ฉินไว้แน่น ทั้งร่ำไห้และตะโกน “สองสามปีที่ผ่านมานี้พี่ไปอยู่ที่ใดมา ไฉนพี่มิกลับมาเยี่ยมพวกเราบ้าง พี่ใหญ่และนายท่านส่งไปคนมากมายไปตามหาพี่ ก็ยังมิเจอพี่อยู่ดี พี่รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงพี่เพียงใด?”ฉินเย่วเจียวร้องไห้ไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มบ่นฉินเย่ว์ฉิน “ไฉนพี่จึงใจดำเช่นนี้ ยังมีชีวิตอยู่แท้ ๆ ไฉนจึงมิยอมกลับมา ไฉนมิยอมมาเจอหน้าพวกเรา? จำพวกเรามิได้แล้วงั้นรึ? และยังมีเรื่องของนายท่านอีก บัดนี้เขามิใช่นายท่านแบบเมื่อก่อนแล้ว ข้ามิเชื่อหรอกว่าพี่จะมิเคยได้ยินเรื่องที่เขาเปลี่ยนตัวเอง พี่จะต้องเคยได้ยินมาอย่างแน่นอน และพี่ก็รู้ด้วยว่าพวกเราเป็นห่วงเพียงใด แต่ก็ยังมิยอมกลับมาอยู่ดี พี่ช่างเป็นคนที่ใจดำอำมหิตเสียจริง”รู้สึกว่าบ่นไปก็มิได้ผล ฉินเย่ว์เจียวก็เริ่มชกต่อยฉินเย่ว์ฉิน นางนำความถวิลหา ความกังวลใจ ความคับแค้นใจที่มีต่อฉินเย่ว์ฉินทั้งหมดรวมเข้ามาไว้ในกำปั้นตนเองฉินเย่ว์ฉินมิได้ต่อต้าน มิได้เถียงกลับ ทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้นให้ฉินเย่ว์เจียวระบายอารมณ์ ตอนที่ฉินเย่ว์เจียวกล่าวถึงเฉินฝาน ฉินเย่ว์ฉินหันไปมองเฉินฝาน ทว่าเป็นชำเลืองมองเพียงครู่เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1295

    มิถึงเวลาหนึ่งถ้วยชา ผู้ฟังทั่วบริเวณล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งหมด คนส่วนใหญ่ล้วนถูกงูฉกตาย ส่วนคนที่ถูกฉกแต่ยังมิสิ้นลม ใบหน้าดำคล้ำสติเลือนรางเพราะพิษงูมีผู้ฟังที่ล้มลงกับพื้นตรงประตูทางออกมากที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่คิดที่จะหนีออกไป ทว่าประตูทางออกใหญ่ปิดล็อกไปตั้งแต่ตอนที่พวกเฉินฝานเข้ามาแล้ว“ให้ตายสิ!” อ๋องตวนตะโกนลั่น “แม้ทั้งชีวิตข้าจะทำเรื่องเลวทรามมาเยอะ เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องตายอย่างน่าสังเวช ทว่าต่อจะให้น่าสังเวชเพียงใด ข้าก็มิอยากถูกงูฉกตายเช่นนี้!”อ๋องตวนที่ปกติมิเกรงกลัวสิ่งใด บัดนี้กลับเกิดความหวาดกลัวอย่างแท้จริง เขาหวาดกลัวงูที่สุด ตัวลื่น ๆ เนื้อสัมผัสเย็น ๆรูปลักษณ์ภายนอกน่าขยะแขยงเพียงแค่คิดก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าแล้ว นับประสาอันใดกับการเห็นและถูกฉกด้วยตาตนเอง“ท่านอ๋อง ท่านมายืนด้านหลังข้า” ฉินเย่ว์เจียวกล่าวจบ ก็มองไปทางเฉินฝาน เฉินฝานพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเฉินฝานอนุญาต ฉินเย่ว์เจียวยื่นมือไปที่เอวทันทีฉินเย่ว์เจียวยังมิทันได้หยิบขลุ่ยไม้ไผ่ตรงเอวขึ้นมา ด้านนอกก็เสียงดนตรีที่เนิบนาบดังขึ้นเมื่อเสียงดนตรีนั้นดังขึ้น งูที่แต่เดิมโจมตีคนอย่างบ้าคลั่ง จู่ ๆก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1294

    วินาทีที่เห็นสตรีนางนั้น หลี่อวี้ไห่ตาเบิกกว้าง องครักษ์หญิงด้านหลังเขาเหล่านั้นก็มีสีหน้าเช่นเดียวกัน ตกตะลึงเหลือเชื่อ และหวาดกลัว!สตรีผู้นั้นหยุดฝีเท้าตรงหน้าหลี่อวี้ไห่ กะพริบตาเล็กน้อย น้ำเสียงเนิบนาบ “พวกเราโรงมหรสพเซียนยินทำการค้า ขอเพียงมิฝ่าฝืนกฎหมายต้าชิ่ง ก็ต้องเติมเต็มความต้องการของแขกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”หลี่อวี้ไห่ยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ทั้ง ๆ ที่เป็นคนวัยกลางคนผ่านโลกมามากมายแล้ว บัดนี้กลับทำอันใดมิถูก“หืม?” สตรีนางนั้นเลิกคิ้วขึ้นเลิกเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงเนิบนาบ ทว่ากลับแฝงด้วยรังสีเย็นยะเยือกที่ทำให้คนอกสั่นขวัญผวา นางยกมือเรียวยาวของนางขึ้น ปัดไรผมบนหน้าผากตนเองเบา ๆ กำไลข้อมือรูปงูสีทองเปล่งประกายสะท้อนแสง “หูใช้การมิได้แล้วงั้นรึ?”เหงื่อเย็นหลายเม็ดผุดขึ้นหน้าผากหลี่อวี้ไห่ทันที “เร็วเข้าสิ รีบนำสุรามาให้ท่านอ๋อง”ตอนที่หลี่อวี้ไห่เหงื่อเย็นไหลออกมา อ๋องตวนก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิได้ นับตั้งแต่วินาทีที่สตรีนางนั้นออกมา เขาก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิอยู่แล้ว ทว่าเฉินฝานห้ามเขาไว้ตอนที่สาวใช้ยกสุราผ่านหน้าสตรีไป สตรีนางนั้นก็ยื่นมือเรียวยาวออกมาอีกครั้ง “เอาม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status