พริ้งพลอยพาตัวเองมาที่ร้านตั้งแต่เช้า หลังจากตั้งใจว่าจะตรวจการตั้งครรภ์เสียหน่อย ทว่ากลับได้รับโทรศัพท์จากมารดาว่าตอนนี้อยู่ที่ร้าน จึงต้องรีบอาบน้ำแต่งตัว โดยไม่ลืมจะหยิบที่ตรวจครรภ์ใส่กระเป๋ามาด้วย“แม่มาที่นี่ได้ยังไง”นั่นคือเรื่องที่พริ้งพลอยแปลกใจ เมื่ออยู่ดีๆ ผู้เป็นแม่ก็มาโผล่ที่ร้าน มิหนำซ้ำยังมีร่องรอยฟกช้ำอยู่ตามใบหน้า“ไอ้สาน ไอ้สานมันตีแม่พริ้ง” เสียงพูดสั่นเครือ เมื่อเอ่ยถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ“เอ้า! ก็ไหนแม่บอกว่าเลิกกับมันแล้วไง” เพ็ญลอบกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อถูกลูกสาวเอ่ยถามถึงเรื่องนี้ ที่ตัวเองเคยพูดเมื่อครั้งก่อน“มันกลับมาขอคืนดี แม่ก็เลยให้โอกาส แต่แม่ก็ไม่คิดว่ามันจะทำแบบนี้กับแม่อีก มันมีผู้หญิงคนอื่นพริ้ง...อึก...แม่จับได้ แม่โวยวายมัน...อึก...มันก็เลยตบตีแม่”พริ้งพลอยมองผู้เป็นแม่ด้วยสายตาจับพิรุธ ว่าท่านมาแสดงละครอะไรให้เธอดูอีกหรือไม่แต่เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อย ที่มีหยาดน้ำตาไหลออกมา ไหนจะรอยฟกช้ำบนใบหน้าอีก พริ้งพลอยก็คิดว่าเธอคงคิดในแง่ร้ายมากไป ท่านคงไม่ลงทุนให้ไอ้สานต่อย เพื่อมาเล่นละครตบตาเธอหรอกมั้ง“แล้วแม่เป็นอะไรมากหรือเปล่า เจ็บมากไหม ไปหาหมอไหม
ส่วนคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อคน ตอนนี้มีแขกมาเยือนที่บ้านตั้งแต่เช้า ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน อดีตเพื่อนเคยสนิทอย่างเสี่ยป้อหากถามว่าแปลกใจไหมที่เสี่ยป้อมาที่บ้าน ก็คงตอบว่าแปลกใจมาก เพราะตั้งแต่มีเรื่องเข้าใจผิดสมัยเป็นวัยรุ่น เสี่ยป้อก็ไม่เคยมาเหยียบที่บ้านเฮงอีกเลย“สวัสดีครับลุงฮวด” ฮวดยิ้มให้คนที่ตนเองรักเหมือนลูกอีกคนแม้เสี่ยป้อจะไม่ได้มาคลุกคลีอยู่ที่บ้านเหมือนสมัยก่อน แต่ตนก็ยังเอ็นดูอยู่เหมือนเดิม ส่วนเรื่องของเด็กๆ ตนแก่แล้วไม่ขอเข้าไปยุ่ง“เป็นไงมาไงล่ะ ถึงมาบ้านลุงได้ ลุงคิดว่าป้อจะไม่มาเหยียบที่นี่แล้วซะอีก”“สำหรับลุง ผมยังนับถือลุงเหมือนเดิมนะครับ”“ลุงเองก็เหมือนกัน ยังเอ็นดูป้อเหมือนเดิม ส่วนเรื่องของวัยรุ่นลุงไม่เข้าไปยุ่งหรอก”“เฮงอยู่ไหมครับลุง”“อยู่สิ น่าจะอยู่หลังร้าน เดี๋ยวลุงไปเรียกมาหาแล้วกัน ป้อก็หาที่นั่งเอาตามสบายเลยนะ”“ขอบคุณครับลุงฮวด” ฮวดพยักหน้ารับ เดินกลับเข้าไปยังหลังร้าน เพื่อบอกลูกชายว่าอดีตเพื่อนรักมาหาเฮงเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าป้อจะมาที่นี่เช่นกัน นั่นแสดงว่าการที่ชายหนุ่มมาที่นี่ คงมีเรื่องที่สำคัญมากแน่ๆ“น้ำจะท่วมร้านกูไหมเนี่ย อยู่ดีๆ เสี่ยป้อก็
ภายในบ้านของฮวดตอนนี้ มีเพียงฮวด เฮงและพริ้งพลอยเท่านั้น บรรยากาศตอนนี้มีแต่ความเงียบงันเฮงมองคนที่นั่งข้างกันเป็นระยะ พริ้งพลอยนั่งเงียบไม่ได้หันมองหน้าเฮงด้วยซ้ำสุดท้ายฮวดที่เป็นผู้ใหญ่ และยังเป็นพ่อของเฮงที่ไปทำลูกสาวคนอื่นท้อง ก็ต้องเป็นคนเริ่มเปิดสนทนาขึ้นมาก่อน“หนูพริ้ง หนูพริ้งท้องกับเฮงจริงๆ ใช่ไหมลูก”“ค่ะ” เฮงใจเต้นแรงกับคำตอบยืนยันที่ได้ยินจากปากพริ้งพลอย คล้ายกับความรู้สึกดี ตื่นเต้น อัดกระแทกที่หัวใจ ทว่าเพียงไม่นานความรู้สึกก็มลายหายไป เมื่อได้ยินประโยคต่อไปที่พริ้งพลอยเอ่ยออกมา“แต่พริ้งไม่ได้ต้องการให้พี่เฮงมารับผิดชอบพริ้งกับลูกหรอกนะคะ”“ได้ที่ไหนกัน นั่นก็ลูกพี่เหมือนกัน” คราวนี้พริ้งพลอยหันขวับมองหน้าเฮงตาขวาง“ลูกที่พี่ชนะการพนันมา พี่ยังอยากจะรับผิดชอบอยู่อีกเหรอ” มันเจ็บมากนะ ที่ต้องเอ่ยประโยคนี้ออกมา กับความจริงที่เธอเพิ่งได้รับรู้มาสดๆ ร้อนๆ“พริ้ง พี่ขอโทษ” เสียงเข้มอ่อนลง กับความจริงที่พริ้งพลอยสาดใส่หน้า แต่เขาพร้อมจะรับผิดชอบพริ้งพลอยกับลูกจริงๆ“หนูพริ้งไม่อยากให้เฮงรับผิดชอบจริงๆ เหรอลูก” ฮวดถามย้ำอีกครั้ง“ไม่ค่ะ ลูกชายคุณลุงเขาเคยพูดกับพริ้งไว้ ว่าพ
“อะ อ้วก...” เสียงอาเจียนดังออกมาจากในห้องน้ำ ร่างบางยืนโก่งคออาเจียนจนแทบไร้เรี่ยวแรงพริ้งพลอยมองหน้าของผู้หญิงที่สะท้อนในกระจกตรงหน้า ใบหน้าของผู้หญิงที่เธอเห็นซีดเซียวไร้เลือดฝาด นัยน์ตาแดงก่ำเอ่อคลอด้วยน้ำตา ขอบตาบวมช้ำ ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาจากดวงตาเศร้าหมอง อาบแก้มทั้งสองข้าง พร้อมกับก้อนสะอื้นที่วิ่งมาจุกที่ลำคออีกรอบ“อ้วก...”ตั้งแต่กลับมาจากบ้านของเฮง พริ้งพลอยก็ร้องไห้จนอาเจียน อาเจียนเสร็จก็ออกมานั่งร้องไห้ พยายามฝืนไม่ให้ตัวเองอ่อนแอ แต่น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องวิ่งเข้าวิ่งออกในห้องน้ำจนหมดเรี่ยวแรงครั้งที่เฮงพูดใส่หน้าว่าไม่รักกัน พริ้งพลอยรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เจ็บเท่าครั้งนี้เลยด้วยซ้ำอาจจะเป็นเพราะ เธอรู้แล้วว่าเขาเข้าหาเธอทำไม และรู้ความจริงที่เฝ้าถามมาตลอดว่าทำไมอยู่ดีๆ เขาถึงบอกเลิกเธอ ทั้งที่ก่อนหน้ายังรักกันดีๆ ไม่มีปัญหา เหตุเพราะเขาชนะพนันแล้วนี่เอง“พ่อเขาไม่ได้รักเรา เรารักกันเองสองคนก็ได้เนาะ” น้ำตาเม็ดโตกลิ้งลงบนแก้มอีกครั้ง มือบางวางลงบนหน้าท้องและลูบไปมา เมื่อเอ่ยบอกลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่รับความรับผิดชอบจากผู้
พริ้งพลอยแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นเฮงยืนรออยู่ที่ร้านของไข่ คิดว่าชายหนุ่มจะเข้าใจที่เธอพูดเมื่อวานแล้วซะอีก ถึงได้ไม่ไปดักรอที่บ้าน ที่ไหนได้มารอที่ร้านไข่นี่เอง“ผัวมารอมึงตั้งนาน” ไข่กระซิบบอก เมื่อเพื่อนสาวยื่นรายการของให้“ไม่ใช่ผัว”“แต่เป็นพ่อของลูก”“ใครบอกมึง”“ก็พ่อของลูกมึงเขาเป็นคนพูดเองกับปาก บอกว่าต่อไปนี้จะมาช่วยมึงซื้อของ เพราะมึงกำลังท้อง ไม่อยากให้ยกของหนักหรือเดินหิ้วของพะรุงพะรัง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากขับรถมาให้มึงด้วยซ้ำ แต่กลัวมึงไม่อนุญาต”“วุ่นวายชะมัด”“ไม่ดีใจเหรอที่เขาอยากดูแลรับผิดชอบ” ไข่ที่ยังไม่รู้เรื่องราว ที่พริ้งพลอยได้รับรู้สดๆ ร้อนๆ มาเมื่อวานก็เอ่ยถาม“ถ้ามึงรู้เรื่องที่เขาทำกับกู มึงจะเข้าใจ ว่าทำไมกูถึงไม่ต้องการให้เขามาดูแลรับผิดชอบ”“เรื่องอะไรวะ”“เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง”“พริ้งของขึ้นรถเสร็จแล้ว” เฮงเดินมาบอก เมื่อยกของใส่หลังรถกระบะให้หญิงสาวเสร็จเรียบร้อย“ไปแล้วนะ แล้วค่อยคุยกัน” พริ้งพลอยไม่ได้สนใจเฮงเลยสักนิด หันมาพูดกับไข่ จากนั้นก็เดินไปยังรถตัวเอง เฮงจึงรีบเดินตามหญิงสาวไป“เสร็จจากซื้อของตรงนี้ ไปร้านเส้นก๋วยเตี๋ยวก
“หนูพริ้งเป็นยังไงบ้างล่ะ” เมื่อเห็นลูกชายเดินเข้ามาภายในร้าน ฮวดก็เอ่ยถามขึ้น เพราะไฮบอกว่าเฮงออกไปหาพริ้งพลอยตั้งแต่เช้ามืด“ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าครับป๊า ผมก็แค่ไปช่วยพริ้งตอนไปซื้อของที่ตลาดครับ”“แล้วเรื่องลูกคุยกันหรือยัง”“คุยครับ วันนี้พริ้งยอมให้ผมรับผิดชอบลูก บอกผมว่าต่อไปนี้ก็คุยกันแค่เรื่องลูกก็พอ” ฮวดพยักหน้ารับคิดเอาไว้อยู่แล้ว ว่าการที่ลูกชายจะกลับไปสานสัมพันธ์กับพริ้งพลอยคราวนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทำกับพริ้งพลอยเอาไว้มาก“ก็ยังถือว่าหนูพริ้งใจดีกับเฮงมากนะลูก ที่ยอมให้เฮงทำหน้าที่พ่อ เป็นผู้หญิงบางคน เขาอาจจะไม่ให้เฮงเจอหน้าลูกเลยก็ได้”เฮงยิ้มบางออกมา มันก็ดีอย่างที่ผู้เป็นพ่อว่านั่นแหละ แต่เขาก็ไม่ได้อยากทำแค่หน้าที่พ่อของลูกเท่านั้น“แต่ผมก็อยากรับผิดชอบทั้งพริ้งแล้วก็ลูกนะครับ”“ป๊ารู้ แต่เฮงก็ต้องให้เวลาน้องหน่อยสิ ของแบบนี้ต้องใช้เวลาลูก อย่าลืมนะว่าเฮงก็ทำให้หนูพริ้งเจ็บมากเหมือนกัน เฮงเอาความรู้สึกของหนูพริ้งมาเป็นของเดิมพัน คิดกลับกันสิ ถ้าหนูพริ้งทำแบบนี้กับลูก ลูกจะรู้สึกยังไง จะเสียใจแค่ไหน จะเจ็บปวดและแตกสลายแค่ไหน” เฮงยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง สิ่งที่ผู้
อาการแพ้ท้องในช่วงเช้ายังเป็นเช่นเดิม พริ้งพลอยตื่นขึ้นมาอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงตั้งแต่เช้า ใบหน้าซีดเซียวลงเล็กน้อย แต่กลับมีรอยยิ้มบางประดับบนใบหน้า“ไปซื้อของกันนะเด็กดี” ลูบท้องไปมาบอกลูกน้อยในครรภ์ จากนั้นก็ฉวยกระเป๋าออกมาจากนอกห้อง ในเวลาเช้าตรู่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้าด้วยซ้ำและก็เป็นอีกวันที่เห็นเฮงยืนรออยู่รั้วหน้าบ้าน แต่พริ้งพลอยก็ไม่ได้เอ่ยอะไรทั้งนั้น เดินไปไขกุญแจรั้วเพื่อเปิดประตูเอารถออก เฮงจึงรีบเดินเข้ามาช่วยหญิงสาว เลื่อนประตูรั้วบ้านออกให้“พริ้งขับรถออกมาเลย เดี๋ยวพี่ปิดให้เอง”พริ้งพลอยไม่ได้พูดอะไรตอบกลับ เดินไปขึ้นรถและขับออกมา จากนั้นก็ขับต่อไปไม่ได้รอเฮงแต่อย่างใดเฮงจึงรีบปิดประตูบ้าน และขับรถตามพริ้งพลอยไปตลาด ช่วยหญิงสาวหยิบนั่นหิ้วนี่ จนแม่ค้าพ่อค้าในตลาดเอ่ยแซวกันยกใหญ่ พาให้พริ้งพลอยหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย“เดี๋ยวพี่ตามไปที่ร้านนะ” ไม่รอให้พริ้งพลอยเอ่ยอะไรตอบกลับ เฮงก็เดินไปขึ้นรถตัวเอง“เห้อ” เมื่อทำอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมาเท่านั้นเมื่อมาถึงร้านเฮงก็จัดการยกของลงจากรถ โดยมีจอยเข้ามาช่วยอีกแรง ส่วนพริ้งพลอยก็นำโครงไก่ที่ซื้อมาไปล้าง เพื่อนำ
ตลอดเวลาช่วงบ่าย ตั้งแต่กลับมาจากร้านพริ้งพลอย เฮงก็แทบไม่เป็นอันทำงาน เอาแต่นั่งหาข้อมูลคลินิกฝากครรภ์ที่ดีที่สุดในตัวจังหวัดเข้าไปอ่านรีวิวของคุณแม่ที่ไปฝากครรภ์ถึงบริการและเครื่องมือที่ทันสมัย และที่สำคัญคลินิกที่ดีที่สุดต้องมาพร้อมกับหมอที่เป็นผู้หญิงด้วยเช่นกันเมื่อได้คลินิกที่เลือกแล้วว่าดีที่สุด เฮงก็ส่งข้อความไปบอกพริ้งพลอยว่าคลินิกที่เลือกคือคลินิกไหน จัดการโทรนัดหมายทางคลินิกที่เข้าไปฝากครรภ์เย็นนี้ เพราะไม่อยากไปนั่งรอนาน จากนั้นก็เดินไปหาผู้เป็นพ่อที่นั่งพักอยู่“ป๊าครับ วันนี้ผมเลิกงานเร็วหน่อยนะ จะพาพริ้งไปฝากท้องน่ะ”“ได้สิ แล้วหนูพริ้งแพ้ท้องบ้างไหมล่ะ”“น่าจะแพ้อยู่ครับ ผมสังเกตเห็นพริ้งดมยาดมปล่อยๆ แล้วก็พูดกับลูกว่าเวลาเห็นหน้าผมแล้วหงุดหงิด มันมีด้วยเหรอครับป๊าแบบนี้”“มีสิ ตอนม้าท้องเฮง ป๊าเข้าหาม้าได้ที่ไหน เอาแต่ไล่ให้ออกไปไกลๆ บอกว่าเหม็น เห็นหน้าป๊าแล้วจะอ้วก ทีแรกป๊าก็คิดว่าม้าพูดเล่น ก็เลยเดินเข้าไปหาม้าใกล้ๆ สุดท้ายม้าแกอ้วกแตกอ้วกแตนงอนให้ป๊าตั้งหลายวันแนะ” เมื่อกล่าวถึงอดีตที่ผ่านมา ใบหน้าของฮวดก็ยิ้มแย้มมีความสุข พลอยให้เฮงยิ้มตามไปด้วย“แล้วรู้สึกยังไ
“น้องแพรวไม่วิ่งค่ะเดี๋ยวล้ม”“น้องแพรวคะ ม้าบอกว่าไม่ให้วิ่งยังไงล่ะคะ”“วิ่งเลยครับลูก วิ่งมาหาป๊าเร็ว ป๊ารอตรงนี้”นั่งคือประโยคของสองสามีภรรยาที่ดังขึ้นไล่เลี่ยกัน เพื่อบอกลูกสาวที่กำลังวิ่งเล่นในสวนของดอกทานตะวันนับสิบไร่ เหลืองอร่ามสวยงามในช่วงเช้า ที่พระอาทิตย์ทอแสงแดดอ่อนๆ ยังไม่แรงกล้าจนร้อนระอุแพรวพลอยในวัยสองขวบกว่า ถูกพามาเที่ยวที่ไร่ทานตะวัน ไม่ใช่ความต้องการของหนูน้อย แต่เหมือนจะเป็นความต้องการของผู้เป็นพ่อมากกว่า ที่อยากพาครอบครัวมาที่นี่ และนี่ก็นับว่าเป็นครั้งแรกในการเที่ยวต่างจังหวัดของครอบครัว“เฮียก็ชอบตามใจลูกตลอด” อดไม่ได้ที่จะดุให้สามี ที่ชอบตามใจลูกสาว ส่วนเธอก็คือนางร้ายในสายตาลูกสาวไปแล้ว ที่ชอบขัดใจอยู่เสมอ“เฮียไม่ได้ตามใจครับ เฮียก็แค่อยากให้ลูกได้วิ่งเล่นเฉยๆ เฮียรักพริ้งนะ”พริ้งพลอยจะด่าก็ด่าไม่ได้ เพราะเฮงรู้จุดอ่อนชอบบอกรักเธอเป็นการปิดท้าย ทำให้ประโยคที่เตรียมจะต่อว่ากลืนหายไปในลำคอ“ตลอดเลยนะ”“ก็เฮียรักพริ้งจริงๆ นี่น่า”“ปาค่า” เสียงเล็กของลูกน้อย พร้อมกับมือเล็กๆ ที่จับชายเสื้อผู้เป็นพ่อและดึงเบาๆ ทำให้เฮงต้องย่อตัวลงนั่งให้อยู่ในระดับเดียวกันกั
การมีภรรยาสวยนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปสินะ ยิ่งเป็นคนสวยอัธยาศัยดียิ่งไม่ดีเข้าไปใหญ่ เพราะพวกผู้ชายหน้าหม้อจ้องจะมาอ้อล้ออยู่บ่อยๆแม้จะรู้อยู่เต็มอก เห็นอยู่เต็มตา ว่าผัวเขานั่งอยู่ตรงนี้ ก็ยังไม่วายจะพูดกับภรรยาเขาเสียงอ่อนเสียงหวาน ตาหวานเยิ้มมันน่าเดินไปควักลูกตาออกซะจริงๆ“พริ้งจ๋า ลูกคิดถึงแล้วครับ” เฮงร้องตะโกนไปขัดจังหวะ เมื่อการสนทนาระหว่างภรรยาคนสวย กับเสี่ยไร้อ้อยอย่างเสี่ยบำรุงกำลังออกรสออกชาติพริ้งพลอยหันมาถลึงตาใส่เฮง ด้วยรู้ดีว่าเฮงหึงตัวเองมากแค่ไหน เห็นเธอคุยกับเสี่ยบำรุงหรือลูกค้าผู้ชายนานๆ ก็ออกอาการหึงหวงจนขึ้นหน้า เข้ามาขัดจังหวะแบบนี้ทุกที“ถ้าอย่างั้นเสี่ยกลับก่อนนะ วันหน้าจะพาคนงานมาอุดหนุนใหม่”“ได้เลยค่ะเสี่ย พริ้งยินดีต้อนรับเสมอค่ะ”“งั้นเสี่ยไปล่ะ”“จ้า” พริ้งพลอยยิ้มให้ลูกค้าเจ้าประจำ ที่เดินออกจากร้านไป จวบจนเสี่ยบำรุงขึ้นรถ จึงได้หุบยิ้มและหันมามองหน้าสามี ที่นั่งหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์อยู่ที่โต๊ะ“จะยิ้มอะไรนักหนา” ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้งแสนงอน พริ้งพลอยเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า“ก็เสี่ยเขาเป็นลูกค้านี่คะ ก็ต้องยิ้มให้ลูกค้าสิ”“แต่เสี่ยนั่นไม่ได้อยากเป
อยากโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนแบบนี้ตลอดไป อยากตื่นมาแล้วเห็นหน้าเธอเป็นคนแรก อยากทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีให้ทั้งเธอและลูกสาว นั่นคือสิ่งที่เฮงปรารถนามากที่สุดในชีวิตเพราะกว่าจะมีวันนี้ได้ ชายหนุ่มก็ต้องเรียนรู้อะไรหลายอย่าง จากหลายเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา จนเกือบทำให้เขาต้องเสียภรรยาและลูกสาวที่น่ารักไปสุดท้ายเฮงก็ยังอยากขอบคุณพริ้งพลอยอยู่ทุกวัน ที่มอบโอกาสครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่นี้ให้ ขอบคุณที่เธอยอมให้เขารักเธออีกครั้ง“ปะปา ปะปา” เสียงเล็กเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อ ร่างจ้ำม่ำของหนูน้อยวัยขวบเศษคลานเข้ามาหาผู้เป็นพ่อที่นั่งเล่นอยู่บนโซฟาเฮงยิ้มให้ลูกสาวสุดที่รัก ขยับตัวลงนั่งที่พื้นด้านล่าง ยื่นมือไปด้านหน้า พร้อมรับลูกสาวที่กำลังคลานเข้ามาหา“ว่าไงครับคนเก่งของปะป๊า มาครับมาหาป๊าเร็ว” หนูน้อยได้ยินเสียงที่คุ้นเคยตั้งแต่อยู่ในท้อง ก็ยิ่งรีบคลานเข้ามาใกล้ สุดท้ายก็พาร่างจ้ำม่ำเข้ามาสู่อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อได้สำเร็จ และยังได้รางวัลเป็นหอมฟอดใหญ่ทั้งแก้มซ้ายและขวา“แก้มลูกสาวป๊าหอมที่สุดเลยค่ะ หอมๆๆ” เฮงฟัดจมูกลงบนแก้มนิ่มนั้นอีกครั้งอย่างมันเขี้ยว หนูน้อยก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจเสียงหัวเราะและประ
ให้โอกาสยังไม่ทันไร ไอ้ผัวเฮงซวยก็ทำตัวมีพิรุธให้เห็นซะแล้ว ท่าทางลับๆ ล่อๆ มีลับลมคมใน เหมือนมีอะไรปิดปังไม่อยากให้รู้ ยิ่งทำให้พริ้งพลอยอยากรู้มากขึ้นจากเดิมจากที่ต้องมารับกลับไปส่งที่บ้านหลังจากเก็บร้านเสร็จ ก็บอกให้พริ้งพลอยกลับบ้านเองไปก่อน เป็นแบบนี้มาสามวันแล้วไหนจะเวลากลางคืนที่อยู่ด้วยกันที่บ้าน หลังจากพาลูกสาวเข้านอน เฮงก็ชอบมานั่งดูโทรศัพท์ที่โซฟาด้านนอก เมื่อเห็นเธอเดินเข้าไปหา ก็ทำตัวมีพิรุธน่าสงสัย ครั้นถามว่าทำอะไรก็บอกว่าไม่มี แบบนี้ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่“นี่อย่าบอกนะ ว่ามึงตัดสินใจผิดอีกแล้วอีพริ้ง เห้อ!”“บ่นอะไรพี่พริ้ง” จอยเอ่ยถาม เมื่อได้ยินพริ้งพลอยพึมพำอะไรออกมาสักอย่าง ในระหว่างที่ช่วยกันเก็บร้าน“ก็เฮยน่ะสิจอย พี่ว่าเฮียดูมีพิรุธยังไงก็ไม่รู้”“ยังไงพี่”“ก็ชอบทำตัวลับๆ ล่อๆ ดูแต่โทรศัพท์พอเห็นพี่ก็รีบวาง หรือว่าเฮียจะแอบคุยกับผู้หญิงคนไหนอีก”“ไม่หรอกมั้งพี่พริ้ง กว่าพี่เฮงจะทำให้พี่ใจอ่อนได้ ใช้เวลาเกือบปี นี่เพิ่งจะกลับไปคืนดีกันได้แค่เดือนกว่า จะหาผู้หญิงคนใหม่คุยแล้วอย่างนั้นเหรอ ไม่ใช่มั้ง”“แล้วทำไมเฮียถึงทำตัวมีพิรุธล่ะ”“คำถามนี้ พี่พริ้งก็ต้องเป็น
“ลูกหลับแล้วเหรอคะ” เฮงเดินเข้ามานั่งลงข้างแม่ของลูกส่งยิ้มบางให้“ใช่ เหนื่อยไหม” คำนี้ต้องเป็นพริ้งพลอยหรือเปล่าที่เอ่ยถามเฮง แต่เฮงกลับเป็นฝ่ายถามเธอทุกวันว่าเธอเหนื่อยไหมทั้งที่เขาทำงานหนักมากกว่าเธอมากนัก ไหนจะงานที่ร้านรับซื้อของเก่า งานที่ร้านก๋วยเตี๋ยว และยังต้องมาช่วยเธอเลี้ยงลูกอีก กว่าจะได้นอนพักก็ดึกดื่น ยังต้องตื่นแต่เช้าไปซื้อของให้เธอที่ตลาด“พี่” เฮงเลิกคิ้วขึ้นมองหน้าคนที่เรียกตัวเอง ก็เห็นถึงแววตาประหม่าที่มองมายังเขา“พี่เหนื่อยไหม” เพียงแค่คำถามง่ายๆ แต่ทำให้เฮงน้ำตารื้นขอบตาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ไหนจะก้อนแข็งๆ ที่วิ่งมาจุกที่ลำคออีก จึงได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ“พี่จะร้องไห้เหรอ” เพราะเห็นน้ำตาคลอเบ้าและนัยน์ตาแดงก่ำของเฮงทันทีที่สิ้นเสียงถาม น้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหลลงมาอย่างกลั้นไม่ไหว ดึงพริ้งพลอยเข้ามากอดเอาไว้ไม่อยากให้หญิงสาวเห็นน้ำตาของตัวเอง รีบใช้มือเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าแต่พริ้งพลอยก็ผละตัวออกห่าง มองหน้าที่เปื้อนด้วยน้ำตาของเฮงด้วยความไม่เข้าใจ ว่าเขาร้องไห้ด้วยเรื่องอะไร“พี่ร้องไห้ทำไม” เฮงรีบใช้หลังมือปาดน้ำตาออกลวกๆ ส่งยิ้มให้คนตรงหน้า“เฮียแค่...เฮีย
“ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่ามึงจะใจแข็งได้มากขนาดนี้ ใจแข็งตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง จนตอนนี้ลูกออกมาลืมตาดูโลก ก็ยังไม่ใจอ่อนให้พ่อของลูกอีก”ไข่ลากเก้าอี้มานั่งข้างเพื่อนสาว ที่นั่งพับผ้าอ้อมที่โซฟาภายในบ้าน ส่วนลูกน้อยก็ถูกคุณพ่อของแกพาเข้านอนในห้องพริ้งพลอยคลอดลูกสาว ร่างกายแข็งแรงจ้ำม่ำ ด้วยน้ำหนักสามโลกว่าออกมาได้เดือนเศษแล้วและคนที่มาคอยช่วยเลี้ยงคงหนีไม่พ้นพ่อของลูก ที่หยิบจับงานทุกอย่างแทนเธอไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน อาหารการกิน รวมไปถึงซักเสื้อผ้าลูกน้อยรวมทั้งของเธอ อาบน้ำ พาเข้านอน เฮงทำเป็นหมดทุกอย่างซึ่งพริ้งพลอยเองก็ยังแปลกใจ และเพิ่งมารู้ความจริงจากไฮ ว่าเฮงไปเข้าคอร์สเรียนสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ก่อนที่เธอจะคลอด“ก็ไม่ได้ใจแข็งอะไรนะ”“ไม่ได้ใจแข็ง แต่ก็ไม่ยอมกลับไปคืนดีกับพ่อของลูกเนี่ยนะ”“และที่ให้มาวุ่นวาย เดินเข้าเดินออกภายในบ้านได้แบบนี้ ไม่เรียกว่าใจอ่อนอีกเหรอ”“ก็แค่ทำหน้าที่พ่อไง แกกูรู้ว่าพี่เฮงเขาอยากทำหน้าที่ผัวด้วย”“ผัวที่ดีคือผัวใหม่” ไข่เบะปากใส่เพื่อนรักไปหนึ่งที“ไม่ใช่ผัวเก่าคนโปรดเหรอ ถึงได้ไม่เปิดใจให้ใครสักที”“ตอนนั้นท้องโย่ขนาดนั้น ใครจะมาสนใจ”“ตอนนี้ก็
ร่างสูงดีดตัวขึ้นนั่งในทันทีราวกับติดสปริง เมื่อเห็นพริ้งพลอยยืนอยู่ในห้องนอน รีบลงจากเตียงนอนเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะหยุดชะงักและถอยหลังออกไปไกล เมื่อคิดได้ว่าตัวเองไม่สบาย“พริ้งออกไปก่อนได้ไหม เดี๋ยวติดไข้จากเฮีย แมสอยู่ไหน เฮียไม่มีแมส” เมื่อไม่มีหน้ากากอนามัย เฮงจึงใช้เสื้อตัวเองนี่แหละมาปิดจมูก“ออกไปก่อนนะ เดี๋ยวเฮียตามไป เฮียไม่ได้ไล่นะ แต่เฮียกลัวพริ้งกับลูกติดไข้จากเฮียด้วยไง” พริ้งพลอยพยักหน้ารับ หมุนตัวเดินออกไปจากห้องเฮงรีบหาหน้ากากอนามัย ที่ไม่รู้เลยว่าอยู่ที่ไหนมาใส่ปิดจมูกด้วยความตื่นเต้นดีใจ จนทำอะไรแทบไม่ถูกมือไม้สั่นไปหมด ไม่คิดว่าพริ้งพลอยจะมาหาตัวเองที่บ้าน จากนั้นก็รีบออกมาจากห้องนอน ก็เห็นว่าพริ้งพลอยยืนรออยู่ที่หน้าห้อง“มาหาเฮียถึงบ้านแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า” แม่งโคตรตื่นเต้นเลยเชื่อไหม เพราะตั้งแต่วันนั้นที่พริ้งพลอยมาได้ยินเขากับไอ้ป้อคุยกัน เธอก็ไม่ได้มาที่นี่อีกเลย“ไฮบอกว่าพี่ไม่สบาย และยังไม่ยอมกินยาอีก แล้วเมื่อไหร่จะหาย” เฮงไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองหรอก ว่าตัวเองกำลังถูกพริ้งพลอยดุเพราะว่าเป็นห่วง แต่ตอนนี้มันยิ้มกว้างอยู่ภายใต้หน้ากากอนามัยแล้ว“ก็เฮียไม่ช
สองเดือนต่อมาเวลายังเดินไปไม่รั้งรอ ทุกคนล้วนมีหน้าที่เป็นของตัวเอง แต่วันนี้คนที่ทำหน้าที่ไปซื้อของที่ตลาด ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะเอาของมาที่ร้าน ทั้งที่เวลาล่วงเลยมาแล้วเกือบหนึ่งชั่วโมงพริ้งพลอยเหลือบสายตามองนาฬิกาที่แขวนอีกครั้ง เกือบเจ็ดโมงเช้าแล้วทำไมเฮงยังไม่มา ปกติชายหนุ่มจะมาถึงร้านไม่เกินหกโมงครึ่งนี่น่า“พี่พริ้ง ทำไมวันนี้พี่เฮงยังไม่มาอีกพี่” จอยที่เห็นถึงความผิดปกติก็เอ่ยถามขึ้น พลางชะเง้อคอมองออกไปถนนเป็นระยะ“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”“หรือว่าพี่เฮงเป็นอะไรหรือเปล่า พี่ลองโทรหาแกดูไหม” พริ้งพลอยคว้าโทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้ กำลังจะกดโทรหาเฮงตามที่จอยบอก และก็เป็นจังหวะเดียวกับรถยนต์ของเฮงแล่นเข้ามาจอดพอดีแต่วันนี้คนที่ขับรถมากลับไม่ใช่เฮงอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับเป็นไฮและโซน“พี่เฮงไปไหนจ๊ะ ทำไมพี่ไฮกับพี่โซนถึงได้ไปซื้อของแทน” เป็นจอยที่เอ่ยถามตรงกับสิ่งที่พริ้งพลอยอยากรู้พอดิบพอดี“วันนี้เฮียไม่สบายน่ะ นอนซมอยู่ร้าน ก็เลยไหว้วานให้ผมกับเฮียโซนออกไปซื้อของให้ซ้อ ที่จริงก็อยากจะไปเองนั่นแหละ แต่ผมกับป๊าห้ามไว้” ไฮหันมาพูดกับพริ้งพลอย เช่นเดียวกับโซน“เพื่อนพี่มันบ้า บทมันจะดื้
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้น ถามว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่ สำหรับเฮงเอง ก็คงต้องบอกว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก ชายหนุ่มก็ยังไม่ได้รับโอกาสจากพริ้งพลอย แม้เวลาจะผ่านมาอีกสองเดือนแล้วก็ตามแต่เฮงก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีทีเดียว เพราะอย่างน้อยเฮงก็ได้ทำหน้าที่ดูแลพริ้งพลอยกับลูกมากขึ้นยิ่งพริ้งพลอยท้องโตขึ้น เฮงเองก็ยิ่งอยากเข้าไปดูแลมากขึ้น และก็ต้องขอบคุณพริ้งพลอยที่ไม่กีดกันหรือปิดกั้นและเฮงยังรู้สึกว่า เธอเปิดใจให้เขามากขึ้นจากเดิมอีกนิด ให้ชายหนุ่มได้ดูแลมากขึ้น ด้วยการไปช่วยพริ้งพลอยเก็บร้านในตอนบ่าย และช่วงเช้าเฮงก็อาสาทำหน้าที่ไปจ่ายตลาดเองคนเดียว ให้พริ้งพลอยมาเตรียมของที่ร้านในส่วนของพริ้งพลอย หญิงสาวคิดว่าตอนนี้เธอมีความสุขดี ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร ส่วนในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฮง ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามกาลเวลาเธอไม่ได้เร่งรีบ เธอไม่ได้ต้องการ และอีกอย่างเธอก็อยากรู้เช่นกัน ว่าคนที่บอกว่ารักเธอทุกวัน ส่งข้อความมาบอกรักและยังบอกด้วยตัวเองต่อหน้า จะมีความอดทนสักแค่ไหน ในการทำเพื่อคนที่เขาบอกว่ารักครั้งหนึ่งเธอเคยถูกหลอกจากคนที่เธอรักมาก เธอถูกทำลาย