แชร์

บทที่ 31 : เบาะแส?

ผู้เขียน: MIN-G
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-15 16:46:25
บทที่ 31 : เบาะแส?

“ถ้าเป็นแบบนั้น... ผมก็คงไม่ต้องกินมันแล้วล่ะครับ ข้าวน่ะ” ว่าแล้วอาคุมุก็สร้างวงแหวนเวทขึ้นมานับสิบวง ซึ่งแต่ละวงนั้นอยู่ห่างจากตัวเขาออกไปไม่มากนัก

“แสงอัสนีบาต!!”

ทักษะแสงอัสนีบาตที่ออกมาจากวงแหวนเวทได้พุ่งตรงไปยังรอบทิศ ทั้งบนฟ้า ด้านหน้า และบนพื้น จนเกิดแรงปะทะและเสียงที่ดังสนั่น

ตู้มมม!!!

“หึหึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แหม ๆ นึกว่าจะมีอะไรมากกว่านี้ซะอีกนะเนี่ย นายนี่จะทำให้ฉันขำไปอีกนานแค่ไหนกัน ที่พูดออกมานั่นทำเอาฉันตกใจเลยนะ”

‘คาดเดาไม่ได้เลยว่าไอ้หมอนี่มันซ่อนตัวยังไง ไม่รู้วิธีที่จะออกไปจากของแบบนี้ด้วยสิ บ้าชะมัด’ ในตอนนี้อาคุมุได้พบกับวิกฤตอย่างแท้จริง เพราะเขตแดนพลังเวทนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน การที่จะทำลายมันนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าสามารถทำได้ด้วยวิธีใด แม้แต่หาตัวตนของผู้ใช้งานก็ยังทำไม่ได้ ข้อมูลเกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์แบบนี้เป็นศูนย์

‘ฝืนโจมตีไปก็มีแต่จะผลาญพลังเวทไปเสียเปล่า’

“ออกมาสู้กันตรง ๆ จะไม่ดีกว่าเหรอครับ? หรือสู้กับเด็กก็ยังต้องใช้วิธีนี้น่ะ? ปอดแหกมากเลยนะครับ” อาคุมุพูดออกไปอย่างนั้น เพราะตัวเขาเองก็คิดหาทางที่จะเอาชนะศัตรูไม่ได้เลยแม้แต่อย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 32 : นายน้อย?

    บทที่ 32 : นายน้อย?“เบาะแสเกี่ยวกับพ่อเนี่ยนะ?”“อืม” ชายคนนั้นยังคงอยู่ข้างบนและไม่ได้ลงมาข้างล่างเพื่อพูดคุยกับอาคุมุแต่อย่างใด รวมถึงเวทป้องกันของเขาก็ยังไม่คลายออก“คนที่จู่ ๆ ก็มาลอบโจมตีกันแบบนี้จะมาบอกว่ารู้ข้อมูลเกี่ยวกับพ่อของผม… ต้องทำยังไงถึงจะเชื่อลงล่ะครับ” อาคุมุพูดออกไปด้วยความสงสัย“ถึงจะทำให้นายเชื่อได้ยาก…”“เอ๋?”ในขณะที่ชายคนนั้นกำลังพูด เวทป้องกันที่อาคุมุสัมผัสอยู่ก็ค่อย ๆ จางลง“ลุงคิดจะทำอะไร?”พร้อมกับตัวผู้ใช้พลังเวทที่ลงมาคุกเข่าข้างหนึ่งที่พื้นตรงหน้าอาคุมุ แต่แน่นอนว่าอาคุมุก็ยังคงไม่เห็นหน้าของชายคนนั้นอย่างชัดเจน‘เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เลย ไม่สิ ฉันรู้สึกว่าหมอนี่มันบ้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว’“ถึงจะเจอกันครั้งล่าสุดตอนที่ท่านยังไม่ถือกำเนิด แต่สบายดีใช่ไหมครับ… นายน้อย” ชายคนนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราวกับว่ามีความในใจอยู่มากมาย น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี ไร้กังวลแต่เป็นทางด้านของอาคุมุเองที่ไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน พร้อมกับทิ้งระยะห่างออกจากชายคนนั้น“นายน้อยเนี่ยนะ?! นี่ลุงจะงัดไม้ตายแบบนี้มาหลอกล่อผมเหรอ?!! แสงอัสนีบาต!!” วงแหวนเวทห้าวงได้ปรากฏขึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 33 : ผู้แข็งแกร่ง

    บทที่ 33 : ผู้แข็งแกร่ง“ลุงน่ะแค่ทำภารกิจตามที่ได้รับสั่งมาสินะครับ” อาคุมุถามกลับไป“ใช่ครับนายน้อย”‘ถึงจะเชื่อยาก แต่รู้สึกว่าเขาไม่ได้มีความคิดที่จะเล่นงานฉันเลยนะ แต่เอาเถอะ ระวังตัวไว้ก่อนคงจะดีที่สุด’ในตอนนี้ อาคุมุทำได้แค่เพียงเชื่อในสิ่งที่คาเอเกะนั้นบอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาคนนี้นั้นเป็นเหมือนกับมือขวาของอิซามุมาก่อน เรื่องที่อิซามุนั้นยังไม่ตาย หรือแม้แต่เรื่องการทำภารกิจที่ได้รับมาจากองค์จักรพรรดิด้วยความต่างของระดับพลัง ซึ่งถ้าจะให้เค้นถามสิ่งที่อยากรู้หรือถามหาความจริงด้วยพละกำลัง แน่นอนว่าคงเป็นไปไม่ได้สำหรับตัวอาคุมุในตอนนี้‘จะว่าไปแล้ว ยังไม่เห็นออร่าพลังเวทของลุงนี่เลยแฮะ’ นั่นคือสิ่งที่อาคุมุคิดและเขาเพิ่งจะนึกขึ้นได้ เพราะรอบ ๆ ตัวของคาเอเกะนั้นไม่มีออร่าพลังเวทออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย มีเพียงออร่าความมืด เป็นการควบคุมไม่ให้เห็นออร่าพลังเวท แต่เผยให้เห็นออร่าสีดำแทน การที่จะรู้ถึงระดับพลังของคาเอเกะนั้นก็คงจะเป็นไปไม่ได้เช่นกัน‘แต่ถึงยังไง ตาลุงนี่ก็แข็งแกร่งเกินกว่าที่ฉันจะรับมือไหว ให้มาอยู่ใต้บัญชาของฉันก็คงจะดีไม่ใช่น้อย’“บางที นายน้อยอาจจะยังคงไม่เชื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 34 : เปิดฉากการต่อสู้

    บทที่ 34 : เปิดฉากการต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่งของศัตรูที่อยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าไม่มีทางที่อาคุมุและคาเอเกะจะสามารถหนีไปได้โดยง่าย สิ่งที่เลือกได้ในตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และในตอนนี้ซาบาราชิก็ยังคงลอยค้างอยู่ในอากาศ ไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่เปิดฉากโจมตีต่อจากเมื่อครู่“ถ้าไม่สู้ ก็คงไม่ใช่เราใช่ไหมครับนายน้อย?”“แต่ว่าระดับพลังต่างกันขนาดนี้ ถ้าผมเลือกได้ขอเอาตัวรอดก่อนดีกว่า ผมยังอยากใช้ชีวิตอยู่นะ แต่ในเมื่อมันเลือกไม่ได้ก็ต้องสู้อย่างเดียวครับ โค่นตาเฒ่านั่นให้ได้นะครับลุงคาเอเกะ”“เอ๋… นายน้อยนี่มีอารมณ์ขันจริง ๆ เลยนะครับ”แต่ในขณะที่อาคุมุพูดอยู่นั้น เขาก็ได้ทำบางอย่างไปพร้อม ๆ กันด้วย“หมดเวลาสนทนา เลิกคุยกันแบบไม่เห็นหัวฉันสักที!” ซาบาราชิระเบิดพลังออกมาด้วยความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด“เจอแล้ว! แสงอัสนีบาตยักษ์!!!” วงแหวนเวทสีฟ้าปรากฏขึ้นที่ข้อมือของอาคุมุ และวงแหวนเวทสีฟ้าเข้มขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่พื้นทางใต้ในจุดที่ซาบาราชินั้นลอยเหนืออยู่ตู้มมม!!!เสียงระเบิดดังลั่นจากการโจมตีในครั้งนี้ ควันจากการโจมตีก็กระจายไปทั่วอาคุมุได้เปิดฉากการต่อสู้ในครั้งนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 35 : การต่อสู้ระดับสูง

    บทที่ 35 : การต่อสู้ระดับสูงทักษะโจมตีของซาบาราชิที่ระเบิดออกนั้นทำให้เกิดควันคลุ้งทั่วบริเวณ อาคุมุยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าคาเอเกะจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ที่มากไปกว่านั้นคือผลกระทบจากเขตแดนพลังเวทของซาบาราชินั้นได้เกิดขึ้นแล้ว‘นี่ฉันกำลังรู้สึกร้อน? แต่ลุงคาเอเกะเนี่ยสิ โดนเข้าไปเต็ม ๆ เลยนะ’“แฮ่ก! อึ่ก… บ้าเอ๊ย” คาเอเกะยังคงยืนอยู่เช่นเดิม แต่ที่ร่างกายนั้นปรากฏให้เห็นร่องรอยบาดแผลไฟไหม้อย่างเห็นได้ชัด“นี่มันแค่การโจมตีเดียวจริง ๆ เหรอเนี่ย?!” อาคุมุที่เห็นอย่างนั้นก็ตกใจอย่างสุดขีด เพราะระดับพลังนั้นแตกต่างกันมากกว่าที่เขาเคยพบเจอมาโดยสิ้นเชิง“ไม่ต้องห่วงนะครับนายน้อย กระผมจะไม่เป็นอะไรไปง่าย ๆ ครับ วางใจได้” คาเอเกะหันมาพูดพร้อมกับยิ้มให้ด้วยใบหน้าที่พยายามจะบอกว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมากมาย“แต่สภาพดูไม่สู้ดีเลยนะครับ”“ฮ่า ฮ่า! มันเพิ่งจะเริ่มน่ะครับนายน้อย ต่อจากนี้นายน้อยศึกษาไว้ให้ดี ๆ นะครับ การต่อสู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านได้แน่นอน” คาเอเกะพูดและเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้“เอาล่ะ… จงออกมา” ซาบาราชิพูดขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วมาทางคาเอเกะ ลุกไฟจำนวนนับสิบปรากฏขึ้นรอบตัวของซาบาราชิ“ควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 36 : “นายน้อยต้องมีชีวิตต่อไปนะครับ…”

    บทที่ 36 : “นายน้อยต้องมีชีวิตต่อไปนะครับ…”การโจมตีของอาคุมุทำให้เกิดกลุ่มควันมากมายกระจายเต็มไปหมด ขณะนี้เขายังไม่เห็นการเคลื่อนไหวของซาบาราชิแต่อย่างใด‘จะทำยังไงให้ลุงคาเอเกะหลุดออกมาจากมือของมันได้กันนะ’อาคุมุนั้นคิดโจมตีเพื่อที่จะช่วยให้คาเอเกะหลุดจากฝ่ามือและทักษะพันธนาการของซาบาราชิเพียงเท่านั้น“ยังอยู่ในท่าเดิมจริง ๆ สินะ… เอ๊ะ? หรือว่าจะใช้ได้เหรอ?” ควันจากการระเบิดเริ่มเบาบางลง ค่อย ๆ เผยให้เห็นซาบาราชิที่จับบริเวณคอของคาเอเกะไว้เช่นเดิม แต่ที่แปลกไปคือออร่าพลังที่เคยมีมากกลับลดน้อยลง รวมถึงทักษะพันธนาการที่ดูเหมือนจะถูกคลายแล้ว“ทำไม?... ทำไมแกถึงกล้าโจมตีเข้ามาล่ะเจ้าหนู?” ซาบาราชิเอ่ยปากถามกับอาคุมุ“ก็… มันมีข้อจำกัดบางอย่างหรือเปล่าล่ะครับ? ลุงถึงต้องอยู่ในท่าเดิมแบบนั้นตลอด” อาคุมุตอบกลับไป“นี่แก…”“ลุงน่ะยังคงใช้ทักษะเขตแดนพลังเวทอยู่ ลอยค้างอยู่ในอากาศตลอดเวลา แล้วก็ใช้ทักษะพันธนาการตลอดเวลา ที่ผมพูดถึงข้อจำกัดมันอาจจะไม่เกี่ยวกัน แต่การใช้พลังเวทอยู่ตลอดนี่ผมคิดถูกไหมครับ?” อาคุมุพูดและถามกลับไปตามความคิดของเขา“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! แน่นอน แล้วก็ที่ฉันไม่ใช้ทักษะโจมตีขน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 37 : เรื่องราวที่เกิดขึ้น

    บทที่ 37 : เรื่องราวที่เกิดขึ้น“อะ… โอ๊ย แสบตาชะมัด แล้วนี่?...” อาคุมุค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเขานั้นอยู่บนเตียงนอนภายในห้องของเขาเอง“เอ๋? ลุงคาเอเกะ?... ห๊า?! ลุงคาเอเกะเหรอ?!!” อาคุมุหันไปทางประตูห้องก็ได้เห็นคาเอเกะนั้นนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ไม้‘หรือว่าฉันจะตาฝาด?’ อาคุมุคิดอยู่ในใจพร้อมกับขยี้ตาครั้งแล้วครั้งเล่า“นี่ลุงคาเอเกะจริง ๆ เหรอเนี่ย?!!... แอ่ก! แค่ก! โอ๊ย… เจ็บท้องเป็นบ้า”“เย้ย?! นายน้อยตื่นแล้วเหรอครับ? อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้างครับ? พอจะดีขึ้นได้บ้างไหมครับนายน้อย?” คาเอเกะที่ตกใจตื่นขึ้นและเห็นอาคุมุฟื้นแล้วก็พรวดพราดเข้ามาหาอาคุมุในทันที“เอ่อ… คนที่ควรถามน่าจะต้องเป็นผมมากกว่านะครับ นี่ลุงคาเอเกะ… ยังไม่ตายใช่ไหมครับ?”“เอ๋?” คาเอเกะที่ได้ยินคำถามจากอาคุมุก็งุนงงไปในทันที“อืม… หรือว่าที่ยืนอยู่นี่มีแค่ร่างหรือเปล่า? หรือว่านี่จะเป็นแค่วิญญาณ? แต่ตอนพูดก็เหมือนลุงคาเอเกะตัวจริงเลยนะครับ”“เอ่อ… แหะ ๆ นี่กระผมจริง ๆ ครับนายน้อย ไม่ได้เป็นร่างไร้วิญญาณหรือวิญญาณที่ไม่มีร่างหรอกนะครับ ฮ่า ฮ่า ได้ยินแบบนี้กระผมก็รู้สึกโล่งใจที่นายน้อยไม่ได้รับผลกระทบมากจากก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 38 : เริ่มต้นการฝึกฝนจากมือขวา

    บทที่ 38 : เริ่มต้นการฝึกฝนจากมือขวาในตอนนี้ อาคุมุและคาเอเกะนั้นอยู่ในสถานที่ฝึกลึกลับขององค์ชายชูยะที่อากิระนั้นเคยพามา เพื่อที่จะใช้เวลาอีก 2 วันที่เหลือสำหรับการฝึกฝนทักษะต่าง ๆ“เราจะเริ่มด้วยวิธีไหนเหรอครับลุงคาเอเกะ?” อาคุมุกล่าวถามกับคาเอเกะ“สิ่งแรกเลย นายน้อยคงจะต้องหยิบยกหัวข้อขึ้นมา ซึ่งก็คือทักษะทั้ง 3 รูปแบบ โจมตี ป้องกันและเคลื่อนที่ครับ”“นั่นสินะครับ ในตอนนี้สำหรับทักษะที่ใช้ในการโจมตีผมมีแค่ทักษะเดียว ก็คือแสงอัสนีบาต” อาคุมุตอบกลับไป ซึ่งคำตอบนี้ทำให้คาเอเกะนั้นตกใจอยู่พอสมควร“ถ้ามองไม่ออกจริง ๆ จะคิดว่าใช้หลายทักษะเลยนะครับ ถึงจะเป็นชื่อเดียวกันเมื่อตอนนั้นแต่เป็นการประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย รวมทั้งเป็นทักษะโจมตีที่เดาทางยากมากเลยล่ะครับ” คาเอเกะกล่าวถึงการใช้ทักษะแสงอัสนีบาตของอาคุมุที่นำมาใช้ควบคู่กับวงแหวนเวท ทำให้การโจมตีแต่ละครั้งนั้นคาดการณ์ล่วงหน้าได้ยากพอสมควร“ผมตั้งใจให้มันรับมือได้ยากนี่แหละครับ เพราะผมมีทักษะโจมตีเพียงอย่างเดียว ที่ใช้ไปนั่นก็วางตำแหน่งขณะต่อสู้จริงทุกครั้ง”“แล้วก็ทักษะป้องกัน… ใช่ครับ! นี่คือสิ่งที่ผมต้องการล่ะครับ ที่ผมได้รับบาดเจ็บหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 39 : ความแปลกใหม่ของทักษะ

    บทที่ 39 : ความแปลกใหม่ของทักษะ“ทักษะพันธนาการ… จุดประสงค์ของทักษะนี้ก็เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของคนอื่น ในการต่อสู้จริงจะเป็นประโยชน์อย่างมาก แต่ถ้าสามารถทำให้ทักษะพันธนาการนี้ใช้โจมตีเพื่อสร้างบาดแผลได้ด้วยก็จะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า” คาเอเกะพูดขึ้นมา“การโจมตีในขณะเดียวกันกับการพันธนาการ…”คำพูดของคาเอเกะนั้นทำให้อาคุมุนึกถึงทักษะพันธนาการขององค์ชายชูยะ ซึ่งก็คือทักษะผลึกน้ำแข็งพันธนาการ เป็นทักษะที่พันธนาการศัตรูไว้ด้วยกรงน้ำแข็ง มากไปกว่านั้นคือสามารถจบชีวิตของผู้ที่ถูกพันธนาการด้วยแท่งน้ำแข็ง สามารถหยุดการเคลื่อนไหวและโจมตีได้ในทักษะเดียว “พลังเวทมังกรสายฟ้าของฉัน อืม… ใช้สายฟ้าเพื่อพันธนาการ ทำให้ร่างกายขยับไม่ได้จากการถูกช็อตด้วยสายฟ้า? ดูธรรมดาชะมัด” อาคุมุบ่นพึมพำ“แต่กระผมรู้สึกว่านั่นเป็นสิ่งที่ใช้ได้จริงนะครับ เพราะสำหรับพลังเวทของนายน้อย การที่ใช้สายฟ้าโจมตีแล้วทำให้ร่างกายของผู้ที่ถูกโจมตีเกิดอาการชาจนขยับไม่ได้ ถือเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งมากเลยนะครับ” คาเอเกะตอบกลับแนวคิดของอาคุมุ“การใช้สายฟ้าโจมตี? หรือลุงคาเอเกะจะบอกว่าถ้าผมฝึกดี ๆ ก็สามารถทำให้การโจมตีด้วยพลังเวทไม่ว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 60 : มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]

    บทที่ 60 : มอบรางวัลด้วยเลือด [จบเล่ม 2]การต่อสู้จบลง สนามประลองแบบจำลองก็ได้หายไป อาคุมุลืมตาขึ้นมาก็พบว่าเขาอยู่ที่สนามประลองของจักรวรรดิไดจิเสียแล้ว เขามองไปรอบ ๆ ขณะเดียวกันกับเสียงตอบรับที่ดังมาจากผู้ชมทั่วทั้งสนามประลองอย่างครึกครื้น“อาคุมุชนะจริง ๆ ด้วย?!!”“เขาสู้แบบนั้นได้ยังไงกันนะ? โดนรุมนั่นน่ะ”“เจ้าเด็กคนนี้ต้องแข็งแกร่งขนาดไหนกันเนี่ย?! แน่ใจนะว่าไม่ใช่นักเวทของจักรวรรดิ?”“ตามดูเจ้าหนูนี่มาตั้งแต่วันแรก ไม่ทำให้ผิดหวังเลย!”…“ในรอบนี้เราสามารถหาผู้ชนะเลิศได้เลยล่ะครับทุกท่าน! ผู้ชนะการประลองของจักรวรรดิไดจิในครั้งนี้คือ… คาอิคะ อาคุมุ!!!” ผู้คุมสนามประกาศออกไปอย่างเป็นทางการด้วยผลการต่อสู้ที่เป็นเอกฉันท์กลางสนามประลองที่มีผู้ชมเป็นจำนวนมาก คู่ต่อสู้ทั้งหกคนของอาคุมุนั้นนอนบาดเจ็บอยู่ที่พื้น โดยมีอาคุมุยืนอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น แม้การบาดเจ็บจะไม่ได้สาหัสมากนัก แต่ร่องรอยบาดแผลตามที่เห็นคงต้องใช้เวลาพอสมควร‘ไม่มีใครตายเพราะเมื่อพลังชีวิตแบบจำลองหมดไปก็จะถูกส่งออกมาทันทีสินะ’ อาคุมุที่ไม่ได้เข้าใจเกี่ยวกับทักษะสร้างภาพลวงตาของราชันจอมเวทอาวุโสนี้มากนัก ทำได้เพียงวิเ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 59 : หนึ่งรุมหก

    บทที่ 59 : หนึ่งรุมหกการโจมตีที่รุนแรงและรวดเร็วของรินนั้นทำให้ฮิบาริไม่สามารถหลบหลีกหรือป้องกันได้ทั้งหมด ทำให้เขาต้องรับการโจมตีไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งพลังชีวิตแบบจำลองเป็นศูนย์ในตอนนี้ฮิบาริได้ถูกคัดออกจากการประลองแบบกลุ่มแล้ว ซึ่งทำให้กลุ่มของอาคุมุนั้นเหลือเพียงสามคน และภายในทักษะหมอกเพลิงสีชาดของรินนี้… เหลือเพียงอาคุมุและรินเท่านั้น“นายจะทำยังไงดีล่ะเจ้าหนูอาคุมุ? สู้กับฉันตัวต่อตัวไหวไหมนะ? อืม… ฉันมีสมาชิกอยู่ข้างล่างทั้งหมด 5 คนเนี่ยสิ คงจะเอาชนะฉันได้ไม่ง่ายหรอกมั้ง” รินพูดขึ้นมา ซึ่งนั่นทำให้อาคุมุแปลกใจในทันที“ว่าไงนะ? ทั้งหมดห้าคนนี่หมายความว่าอะไร?” อาคุมุถามกลับไป“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! นายนี่น่าขำจริง ๆ เลย คิดว่าเจ้าพวกที่เหลืออยู่จะมั่นใจในตัวนายแล้วไม่สนผลประโยชน์หรือไงกัน?” รินตอบกลับมา“หรือว่านั่นคือ…”“ใช่แล้วล่ะ! ฉันแค่เสนอให้พวกมันมาร่วมมือกับฉัน ข้อแลกเปลี่ยนคือการเข้าร่วมกลุ่มจันทราแดง ถึงจะถูกคัดออกและไม่ชนะเลิศในการประลอง แต่มีเงินใช้ง่าย ๆ ต่อจากนี้… ใครจะไม่ชอบกันล่ะ ลองดูนั่นสิ” รินพูดจนจบและชี้ลงไปยังข้างล่าง ซึ่งสิ่งที่เห็นนั้นคือสมาชิกกลุ่มของอาคุมุที

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 58 : ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรก

    บทที่ 58 : ผู้ที่ถูกคัดออกคนแรกในตอนนี้ สถานการณ์ของอาคุมุและฮิบารินั้นไม่สู้ดีนัก พวกเขาถูกปิดล้อมไปด้วยทักษะหมอกเพลิงสีชาดของริน อีกทั้งยังถูกล้อมไปด้วยสมาชิกคนอื่น ๆ ในกลุ่มของรินจากภายนอก ซึ่งสามารถโจมตีเข้ามาได้โดยตรง เรียกได้ว่าถูกบีบให้จนมุมทั้งอย่างนั้น‘ซวยจริง ๆ แล้วไง’“ออกไปเฉย ๆ ไม่ได้เลย!” ฮิบาริกำลังพยายามจะดันตัวเองออกไปจากทักษะของริน‘ไอ้บ้านี่มันแกล้งทำเป็นไม่รู้เหรอ?’“ถ้าออกไปได้ง่าย ๆ เขาจะสร้างขึ้นมาทำไมล่ะครับคุณฮิบาริ?” อาคุมุถามกลับไป“พวกนายฟังฉันนะ! ทักษะหมอกเพลิงสีชาดนี้จะสามารถใช้ได้ 30 นาที หลังจากนั้นจะสามารถใช้ทักษะนี้ได้อีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปอีก 30 นาที” รินพูดขึ้นมา“แล้ว... บอกทำไมเหรอครับ?” อาคุมุที่ได้ยินอย่างนั้นจึงถามกลับไป“เพราะว่า... ฉันสามารถเอาชนะพวกนายได้ใน 30 นาทีนี้ไงล่ะ!! กระสุนเพลิงสีชาด!!!” รินตอบกลับมาพร้อมกับยิงกระสุนเพลิงเข้าใส่อาคุมุและฮิบาริด้วยความเร็ว“ตาข่ายอัสนี!”ตู้มมมม!!!“อึ่ก! บ้าจริง”ถึงแม้อาคุมุจะใช้ทักษะป้องกันไว้ได้ทัน แต่ความเสียเปรียบนั้นปรากฏขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะตาข่ายอัสนีของอาคุมุนั้นถูกทำลายได้โดยการ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 57 : ความได้เปรียบเป็นศูนย์

    บทที่ 57 : ความได้เปรียบเป็นศูนย์รินและสมาชิกอีกสามคนได้มาถึงที่ตำแหน่งของอาคุมุ ซึ่งรินนั้นปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับอาวุธคู่กายอย่างปืนพกเช่นเดิม ส่วนอีกสามคนนั้นก็คือนักเวทชุดขาวเป็นผู้ชายสองคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน โดยทุกคนนั้นมีกระเป๋าสะพายอยู่ข้างหลัง“อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดเลยล่ะครับ... ทุกอย่างเลย” สิ่งที่อาคุมุคิดไว้นั้นเป็นจริงทุกอย่าง ซึ่งก็คือการที่นักเวทชุดขาวทั้งสามนั้นเปลี่ยนชุดก่อนจะเข้ามายังสนามประลองแบบจำลองนี้“แต่ว่า... จะทำไปเพื่ออะไรเหรอครับ? เตรียมชุดมาเปลี่ยนตอนเข้ามาในนี้แล้วเนี่ย?” อาคุมุถามออกไป“ก็ถ้าพวกฉันอยู่ในบทบาทของนักเวทชุดขาวตั้งแต่ตอนที่อยู่ข้างนอกล่ะก็... คงจะโดนประท้วงพอดีน่ะสิ” หนึ่งในนักเวทชุดขาวตอบกลับมา“ฉันควรจะแนะนำตัวอีกครั้งไหมนะ? ฉันคือ อากาเนะ ริน เป็นเพียงคนที่กำลังจะได้เป็นจอมเวทระดับ 3 แล้วล่ะนะ!!” รินพูดขึ้นมาพร้อมกับจับปืนพกทั้งสองกระบอกไว้แน่น ลมจากแรงของพลังเวทปะทะเข้ากับร่างของอาคุมุโดยตรง‘กำลังจะได้เป็นจอมเวทระดับ 3 งั้นเหรอ? สีของออร่าพลังเวทกำลังจะเป็นสีแดงแล้วสินะ แข็งแกร่งขึ้นมากจริง ๆ ด้วย’“สุดยอดไปเลยนะครับ สมแล้วกับตำแหน่งรอ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 56 : เริ่มการประลองแบบกลุ่ม

    บทที่ 56 : เริ่มการประลองแบบกลุ่มในตอนนี้ ผู้คุมสนามได้ทำการสร้างสนามประลองแบบจำลองเสร็จสิ้นแล้ว เป็นทักษะที่มีความเหมือนจริงเป็นอย่างมาก ถึงได้ชื่อว่าเป็นภาพลวงตา และด้วยความแข็งแกร่งระดับราชันจอมเวทอาวุโส การที่สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ก็คงจะไม่เกินจริงนัก...ที่สนามประลอง ภายนอกทักษะภาพลวงตา“สิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่ตรงหน้านี้... คือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในนั้นครับ” เสียงของผู้คุมสนามได้ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามประลองด้วยทักษะพลังเวทของพิธีกร เสียงตอบรับจากคนดูก็เกิดขึ้นในทันที“น... นี่เหมือนฉันดูการประลองผ่านจอเลยนะ”“ข้างในนั้นจะไม่เป็นอะไรแน่เหรอ?”“ดูนั่นสิ! อาคุมุอยู่นั่นล่ะ!!”“ที่นั่นมันคือจำลองเมืองไหนหรือเปล่า? ที่ไหนในจักรวรรดิหรือเปล่านะ?”...สิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่ตรงหน้านั้น คือลูกบาศก์ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยออร่าของพลังเวทสีม่วง ลอยอยู่ในอากาศตรงกลางสนามประลอง ทั้งสี่ด้านนั้นเผยให้เห็นภาพจากมุมมองของแต่ละคนและมุมมองภาพรวมภายในนั้น ราวกับว่ากำลังดูผ่านจอขนาดยักษ์“สถานที่ภายในนั้นคือเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจักรวรรดิ มีชื่อว่าเมืองชิโตเสะครับ... ขอให้ทุกคนเพลิดเพลินไปกับการประลองในครั้ง

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 55 : ราชันจอมเวทอาวุโส?

    บทที่ 55 : ราชันจอมเวทอาวุโส?กฎและกติกาการแข่งขันในรอบ 8 คนสุดท้ายนั้น ได้ถูกเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันโดยไม่ได้มีการประกาศล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้ารอบหรือผู้ชมทั่วทั้งสนามประลอง ไม่เคยมีใครคิดไว้ว่าจะถูกเปลี่ยนเป็นการประลองแบบกลุ่ม“เริ่มจากการจัดกลุ่ม กลุ่มที่ 1 จะมีผู้ชนะจากสายการต่อสู้เดิมก็คือสาย A, B, C และ D ส่วนกลุ่มที่ 2 ก็จะมีผู้ชนะจากสายการต่อสู้เดิมคือสาย E, F, G และ H ครับ”พิธีกรได้ประกาศวิธีการแบ่งกลุ่มให้กับทั้ง 8 คน‘ฉันพอเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงแบ่งกลุ่มง่าย ๆ แบบนี้...’‘...เพราะรินอยู่ในกลุ่มที่ 2 สินะ? การคาดเดาของฉันถูกต้องอย่างแน่นอน!’สิ่งที่อาคุมุคิดไว้นั้นมีเพียงความได้เปรียบของฝั่งตรงข้าม ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด และในสถานการณ์ตรงหน้านี้ ความได้เปรียบที่ว่าก็คงจะหนีไม่พ้นการที่กลุ่มนั้นมีคนอย่างรินอยู่ด้วยนั่นเอง“ก่อนที่จะเข้าสู่ลำดับถัดไป...” พิธีกรพูดยังไม่ทันจบประโยค เสียงจากแท่นด้านบนก็ดังขึ้นมาในทันทีตึ้ง!!ซึ่งเป็นเสียงขององค์จักรพรรดิที่ใส่พลังเวทเข้าไปในแท่นข้าง ๆ ตัว สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ทำให้ทุกคนต่างก็ตกใจกันไปตาม ๆ กัน“องค์จักร

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 54 : รอบ 8 คนสุดท้าย

    บทที่ 54 : รอบ 8 คนสุดท้ายอาคุมุนั้นเก็บชัยชนะไปได้อีกครั้ง ทุกรอบของการลงสนาม อาคุมุได้สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน แต่จากการที่สามารถเอาชนะผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ ทำให้ทั่วทั้งเมืองหลวงแห่งนี้ได้รับรู้และได้สัมผัสแล้ว... ...ว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นเป็นเช่นไรโดยไร้ข้อกังขาวันต่อมาในเวลาเดิม อาคุมุและคาเอเกะก็เดินไปยังสนามประลอง วันนี้เขาได้สะพายกระเป๋าและเตรียมเสื้อคลุมยาวใส่ไว้ในกระเป๋าด้วย แน่นอนว่าของสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือดาบแห่งราชันสิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังคงเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งก็คือเหล่าผู้คนที่เข้าหาล้อมหน้าล้อมหลัง‘เฮ้อ! ฉันล่ะเหนื่อยจริง ๆ เลย ในช่วงอาคุมุพบปะประชาชนเนี่ย’“ยินดีต้อนรับท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย!! ไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าแข่งขัน หรือผู้ที่ชื่นชอบในการประลอง วันนี้... เราเดินทางมาถึงวันสุดท้ายในการประลองของจักรวรรดิไดจิแล้วครับ!!!”ผู้เป็นพิธีกรกล่าวขึ้นมาเพียงเท่านั้น กระแสตอบรับของผู้คนต่างก็แตกออกเป็นสองเสียง ทั้งคนที่ดีใจกับการจะได้เห็นรอบชิงชนะเลิศ และคนที่เสียใจกับการจบลงของการประลองอันแสนดุเดือดนี้“ใกล้จะได้ดูรอบชิงแล้วโ

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 53 : คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด

    บทที่ 53 : คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดการโจมตีของอาคุมุในครั้งนี้นั้นรุนแรงยิ่งกว่าการโจมตีของดาอิเสียอีก ทั้งยังทำให้ดาอิต้องถอยร่นออกไปเพื่อรับมือกับการโจมตีนี้‘ถึงจะบอกว่าลบล้างสิ่งชั่วร้าย แต่ไอ้หมอนี่ดูจะไม่ใช่คนชั่วร้ายแบบนั้นเลยนะ หมายความว่ายังไงกันแน่เนี่ย? ฉันล่ะไม่เข้าใจกับดาบเล่มนี้เลยจริง ๆ แฮะ’อาคุมุยังคงครุ่นคิดกับสิ่งที่มังกรผู้เป็นเจ้าของดาบแห่งราชันได้บอกไว้“แต่... ดาบฉัน? มันไม่ได้อยู่ในมือนี่?!” นั่นคือสิ่งที่อาคุมุเพิ่งจะรู้สึกตัวได้“ความรู้สึกนายนี่มันช้าจริง ๆ เลยนะ” ดาอิพูดและเดินเข้ามาหาอาคุมุอย่างช้า ๆ พร้อมกับดาบแห่งราชันที่อยู่ในมือดาอินั้นสามารถหลบการโจมตีที่รุนแรงของอาคุมุได้เพียงบางส่วน ซึ่งเขาได้รับบาดเจ็บมากพอสมควร“แล้วมันไปอยู่ที่คุณได้ยังไงกัน? แล้วก็สภาพแบบนั้น...”“การโจมตีของนายมันรุนแรงจนดาบนายหลุดมือมาทางนี้เลยล่ะ ฉันแค่โดนเฉียด ๆ ยังเละขนาดนี้ ถ้าฉันรู้สึกตัวช้าอีกหน่อยคงละเอียดจนเป็นผงไปแล้ว” ดาอิตอบกลับมาพร้อมกับโยนดาบแห่งราชันของอาคุมุไปยังทางด้านหลังของตัวเขาเอง จุดที่ดาบตกอยู่นั้นคือขอบของสนามประลองพอดี“ปล่อยมันไว้แบบนั้นก่อนก็แล้ว

  • เกิดใหม่ทั้งที ไม่เป็นคนดีแล้วนะโว้ย!   บทที่ 52 : พลังที่แท้จริง?

    บทที่ 52 : พลังที่แท้จริง?“ลุกขึ้นมาซะ!! ผมบอกแล้วไง... ว่าผมกำลังต้องการคู่ซ้อมน่ะ” อาคุมุพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ใครเห็นต่างก็คงต้องขนลุกไปตาม ๆ กัน“นี่แก... เป็นบ้าไปแล้วรึไง?! ชนะขาดลอยขนาดนี้แล้วยังจะเอาอะไรอีกห๊ะ?!!” ดาอิตอบกลับมา“ขาดลอย?”ดาอิที่ได้ยินอย่างนั้นก็แปลกใจ“อะไรของแก?”“ผมถามอะไรคุณหน่อยสิ คุณผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์... หากได้ชัยชนะมาแบบนี้นี่คุณภูมิใจเหรอครับ? ทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ใช้พลังเลยเนี่ยนะ? ผมไม่เอาด้วยหรอกนะครับ” อาคุมุถามกลับไปดาอิที่ได้ยินอย่างนั้นก็ชะงักไปในทันที“อึ่ก... แต่ตอนนี้เราแค่ประลองกันนี่! จะเล่นเอาตายเลยหรือไง?!! แกคิดจะรบเร้าฉันไปถึงไหน?”“ถ้าผมตายขึ้นมาจริง ๆ ล่ะก็... คนที่ได้ผลประโยชน์คือคุณไม่ใช่เหรอครับ? แข็งแกร่งขึ้นมาทันตาเห็นเลยนะ เป็นจอมเวทระดับ 3 เลยสิเนี่ย? ระดับพลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยแฮะ...” อาคุมุพูดแล้วจึงหยุดไป“ฮ่า! แก... ไม่สิ นายนี่ทำให้ฉันนึกถึงสิ่งที่ลืมคิดไปได้ยังไงกันนะ? หาแรงจูงใจมาให้ฉันจนได้!!” ดาอิพูดพร้อมกับใช้หอกดันตัวขึ้น ออร่าพลังเวทได้ถูกแผ่ออกมาจากรอบ ๆ ตัวเขา “ไม่ธรรมดาจริง ๆ เลย ต้องแบบนี้สิครั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status