สำหรับในใจของเฉียวสือเนี่ยนนั้น การฉลองวันเกิดเลยกลายเป็นอะไรที่ห่างไกลและไม่คุ้นเคยไปแล้ว“ยังไง วันเกิดปีนี้วางแผนไว้ว่ายังไง คิดจะฉลองวันเกิดที่ไหน?” ฟู่เถียนเถียนเอ่ยถามเฉียวสือเนี่ยนมองเอกสารในมือ “ก็แค่วันเกิดเอง ไม่มีอะไรใหญ่โตสักหน่อย ไม่ต้องเสียเวลาไปฉลองหรอก ไว้รอให้ฉันจัดการเรื่องในมือให
วันต่อมา เฉียวสือเนี่ยนได้รับสายโทรศัพท์จากคุณตาตั้งแต่เช้าคุณตาอวยพรสุขสันต์วันเกิดให้เธอด้วยความรักใคร่เอ็นดู ทั้งยังบอกอีกว่าที่บ้านเตรียมของที่เธอกินไว้มากมาย ให้เธอรีบกลับมาเร็วหน่อยความรู้สึกที่มีคนคอยห่วงใยและคิดถึงแบบนี้ช่างดีเหลือเกินเฉียวสือเนี่ยนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่าตัวเองจะ
เห็นเขาดึงดันแบบนี้แล้ว เฉียวสือเนี่ยนเลยพยักหน้า “ได้”สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขาพูดออกมาด้วยความดีอกดีใจ “งั้นเย็น ๆ หน่อยฉันโทรมาหาเธอนะ”......เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน เฉียวสือเนี่ยนก็เห็นว่าคุณลุงคุณป้า เฉียวเล่อเยียนและอวี๋จิ่งเฉิงมาถึงกันครบแล้วพอเห็นเธ
คนใช้บอกเฉียวสือเนี่ยนว่ามีคุณผู้ชายแซ่หลีมาหา คุณตาจึงให้เธอเข้าไปข้างในคุณผู้ชายแซ่หลี หลีพัวถิงงั้นเหรอ?ไม่ใช่ว่าหลีพัวถิงกลับไปจัดการเรื่องตระกูลที่เมืองกั่งเฉิงแล้วเหรอ เขามาที่เมืองไห่เฉิงตั้งแต่ตอนไหน แล้วทำไมถึงเลือกมาที่บ้านคุณตาล่ะ?เฉียวสือเนี่ยนกลับเข้ามาในห้องโถงรับแขกด้วยความสงสัยหล
พวกเขาอยู่ใกล้กันมาก จนเฉียวสือเนี่ยนสามารถมองเห็นลูกตาดำขลับของฮั่วเยี่ยนฉือ ซึ่งในนั้นสะท้อนภาพของเธอกลิ่นความเป็นชายเฉพาะตัวของฮั่วเยี่ยนฉือโชยเข้ามาในจมูก เฉียวสือเนี่ยนพลันรู้สึกหายใจลำบากเล็กน้อยเฉียวสือเนี่ยนหันหน้าหนีอย่างเร็ว แล้วถามอย่างระแวง “ฮั่วเยี่ยนฉือ คุณจะทำอะไร?”ฮั่วเยี่ยนฉือหัว
ฟู่เถียนเถียนดูเหมือนจะยังไม่เชื่อสนิทใจ พี่ถูยิ้มแต่ไม่พูดอะไร โจวหยางอิงก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ส่วนซ่งม่านกลับรู้สึกซาบซึ้งใจ เธอผลักเฉียวสือเนี่ยนออกไปเบา ๆ “ที่แท้ประธานฮั่วก็ชอบเธอมานานแล้วสินะ”สำหรับเรื่องที่ว่าเขา “ชอบ” เธอ เฉียวสือเนี่ยนไม่ได้รู้สึกแปลกใจเท่าไรนัก เพราะตอนที่เธอถามฮั่วเยี
เฉียวสือเนี่ยนเช็ดหางตาที่เปียกชื้นของตัวเองเงียบ ๆ เธอยิ้มและกล่าวขึ้น “คุณโม่อย่าล้อเล่นแบบนี้สิ ฉันเพิ่งออกมาเพราะรับโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ด้วย”“จริงเหรอ?” โม่ซิวหย่วนดูเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อเธอ“ผมแค่มาเที่ยวเล่นกับเพื่อน ถ้าคุณ…”“อาหย่วน!”เฉียวสือเนี่ยนพูดยังไม่ทันจบ ก็มีผู้หญิงผมสั้น
เมื่อเฉียวสือเนี่ยนหันหลังไป ก็เห็นว่าคนที่เรียกเธอคือผู้หญิงผมสั้นที่เจอตรงทางเดินเมื่อครู่ ซ่งม่านบอกว่าเธอแซ่หนิงข้าง ๆ เธอมีโม่ซิวหย่วนยืนอยู่ เขายังคงใส่แว่นกันแดด มือสองข้างกำลังล้วงกระเป๋า เขามีท่าทางที่ดูสบาย ๆฮั่วเยี่ยนฉือไม่ได้เข้าไปนั่งในรถ มือของเขายังจับประตูรถอยู่ เมื่อหันไปเห็นโม่ซิ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั