ซ่งชิงชวนมองใบหน้าเล็กของเฉียวสือเนี่ยนที่ดูเย็นชา และเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “จุดประสงค์ของผมชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ผมตามจีบคุณมานานขนาดนี้ และตอนนี้พวกเราก็มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันแล้ว แน่นอนว่ามาขอคุณแต่งงานน่ะสิ”ขณะเอ่ย ซ่งชิงชวนดูเหมือนจะจัดปกเสื้อของตัวเองด้วยความไม่ได้ตั้งใจ เฉียวสือเนี่ยน
ข่าวใหญ่เกี่ยวข้องกับซ่งกรุ๊ปที่เมืองไห่เฉิงโปรเจกต์ประจำปีที่สำคัญของตระกูลซ่งจู่ ๆ ก็เกิดปัญหาที่ร้ายแรงขึ้น ถ้าจัดการไม่ทันเวลามีความเป็นไปได้มากว่าจะทำให้ตระกูลซ่งตกอยู่ในวิกฤตห่วงโซ่การจัดหาเงินทุนได้แต่ตอนนี้ซ่งชิงชวนให้ความร่วมมือในการสอบสวนที่สถานีตำรวจจึงไม่สามารถปลีกตักออกมาได้ และผู้บริ
พอรู้ว่าคนที่โทรศัพท์เข้ามาเป็นใคร สีหน้าของซ่งชิงชวนก็หน่ายระอาขึ้นมาทันที เขากดรับสายแล้วกรอกเสียงลงไป “ครับ คุณแม่”“นี่แกเป็นอะไรไป? เกิดเรื่องใหญ่กับซ่งกรุ๊ปขนาดนั้น แล้วแกยังจะนั่งอยู่ในสถานีตำรวจไม่ยอมออกมาอยู่ได้!” เซิ่งจวงฮุ่ยเดือดดาลตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดเรื่องจ้างวานคนทำร้ายร่างกาย
“แกมั่นใจนะว่าทำให้เฉียวสือเนี่ยนยอมอยู่ในโอวาทได้?” เซิ่งจวงฮุ่ยยังคงไม่เชื่อเขาเท่าไรซ่งชิงชวนกล่าวเสียงเย็น “เธอไม่ได้มีแค่ตัวคนเดียวเสียหน่อย หรือว่าคุณแม่ไม่รู้ว่าเบื้องหลังเธอมีใครอยู่? ถ้าบีบคั้นคงอื่นเกินไป จนเสียหายกันทั้งสองฝ่าย ใครจะได้ประโยชน์ล่ะ?”เซิ่งจวงฮุ่ยชะงักไปเล็กน้อย ชั่งน้ำหนั
ฮั่วหย่วนเจ๋อพูดเรื่องที่ให้เขาไปขอหลีซูเหยียนแต่งงานมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้วฮั่วเยี่ยนฉือไม่เข้าใจจริง ๆ เขาหัวเราะเยาะเล็กน้อยแล้วพูดว่า “คุณพ่อบอกว่าเฉียวสือเนี่ยนคุณสมบัติไม่ดีพอ งั้นหลีซูเหยียนดีพอเหรอ? เรื่องพวกนั้นที่หล่อนทำลงไปมีเรื่องไหนบ้างที่ไม่แย่ไปกว่าเฉียวสือเนี่ยนบ้าง? คุณพ่อถูกใจ
สำหรับในใจของเฉียวสือเนี่ยนนั้น การฉลองวันเกิดเลยกลายเป็นอะไรที่ห่างไกลและไม่คุ้นเคยไปแล้ว“ยังไง วันเกิดปีนี้วางแผนไว้ว่ายังไง คิดจะฉลองวันเกิดที่ไหน?” ฟู่เถียนเถียนเอ่ยถามเฉียวสือเนี่ยนมองเอกสารในมือ “ก็แค่วันเกิดเอง ไม่มีอะไรใหญ่โตสักหน่อย ไม่ต้องเสียเวลาไปฉลองหรอก ไว้รอให้ฉันจัดการเรื่องในมือให
วันต่อมา เฉียวสือเนี่ยนได้รับสายโทรศัพท์จากคุณตาตั้งแต่เช้าคุณตาอวยพรสุขสันต์วันเกิดให้เธอด้วยความรักใคร่เอ็นดู ทั้งยังบอกอีกว่าที่บ้านเตรียมของที่เธอกินไว้มากมาย ให้เธอรีบกลับมาเร็วหน่อยความรู้สึกที่มีคนคอยห่วงใยและคิดถึงแบบนี้ช่างดีเหลือเกินเฉียวสือเนี่ยนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่าตัวเองจะ
เห็นเขาดึงดันแบบนี้แล้ว เฉียวสือเนี่ยนเลยพยักหน้า “ได้”สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขาพูดออกมาด้วยความดีอกดีใจ “งั้นเย็น ๆ หน่อยฉันโทรมาหาเธอนะ”......เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน เฉียวสือเนี่ยนก็เห็นว่าคุณลุงคุณป้า เฉียวเล่อเยียนและอวี๋จิ่งเฉิงมาถึงกันครบแล้วพอเห็นเธ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั