ในตอนบ่าย คุณตาถามเธอไปแล้วเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฮั่วเยี่ยนฉือ เฉียวสือเนี่ยนไม่คิดว่ามีอะไรต้องปิดบัง เฉียวสือเนี่ยนพยักหน้า “ใช่ค่ะ ฮั่วเยี่ยนฉือได้ยินว่าพวกเราประสบอุบัติเหตุ เขาจึงมาหาหนูที่โรงพยาบาล และไปสถานีตำรวจพร้อมหนูอีกด้วย”เฉียวตงไห่ไม่ได้หยอกล้อหรือแสดงความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติ
เมื่อได้ยินคำถามของเฉียวสือเนี่ยน ฮั่วเยี่ยนฉือก็ถึงกับกระแอมออกมาเบาๆ “ขอโทษที ฉันปากไวไปหน่อยน่ะ”“เดี๋ยวคุณหลีก็คงจะลงมาแล้ว เราไปรอเขาในรถกันเถอะ”ระหว่างที่พูด ฮั่วเยี่ยนฉือก็เปิดประตูรถให้เฉียวสือเนี่ยนเฉียวสือเนี่ยน “…”หลีพัวถิงไม่ได้ใช้เวลานานมากนัก เมื่อเขาขึ้นมาบนรถ อารมณ์ของเขาก็ดูสงบลง
เมื่อเฉียวสือเนี่ยนได้ยินเช่นนั้น ความรู้สึกเกลียดต่อคุณนายเวินก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น“ความทุกข์ในชีวิตแต่งงานของเธอ ครึ่งหนึ่งมาจากคุณนายเวิน ต่อให้จะเปลี่ยนมาเป็นหนีม่านเหยาที่ตัวเองเป็นคนเลือกก็ยังมีปัญหาวุ่นวายมากมาย หมอเวินเจอแม่แบบนี้ก็ซวยไป” เฉียวสือเนี่ยนบ่นฟู่เถียนเถียนเห็นจนชินตา “คุณนายเวินช
ซ่งม่านรู้สึกว่าเฉียวสือเนี่ยนตีตนไปก่อนไข้“ซีรีส์น้ำหอมที่สั่งทำเป็นพิเศษก่อนหน้านี้ของ M•Q ทำได้ดีมากทีเดียว น้ำหอมที่เปิดตัวตอนนี้จะได้รับความสนใจก็เป็นเรื่องปกติ” ซ่งม่านพูด“เธออาจจะไม่รู้ว่าร้านในห้างสรรพสินค้าพวกนั้นมีมูลค่ามากแค่ไหน แบรนด์หรูทั่วไปเช่าไม่ได้แน่นอน แล้วทำไมถึงได้มาเสนอให้ M•
เสียงของชายคนนั้นทุ้มต่ำแหบพร่า ฟังแล้วเหมือนเป็นการสอบถาม แต่กลับยิ่งยั่วยวนกันมากกว่าเดิมเฉียวสือเนี่ยนทั้งหงุดหงิดทั้งร้อนรุ่ม จนไม่อาจแยกแยะใบหน้าได้ว่าเป็นใคร เธอรู้แค่ว่าตัวเองถูกคนวางแผนร้าย และตอนนี้เธอก็ตกอยู่ในอันตรายความรู้สึกอึดอัดในร่างกายทำให้เฉียวสือเนี่ยนรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย ความ
เมื่อเห็นเนื้อหาในนั้น หน้าผากของเฉียวสือเนี่ยนก็เต้น ‘ตุบ ตุบ’ ขึ้นมาหลายครั้งข่าวเด่นในโทรศัพท์คือ ‘ความรักของซ่งชิงชวนผู้นำตระกูลซ่งแห่งเมืองเป่ยเฉิงถูกเปิดเผยแล้ว’หากมีแค่พาดหัวข่าวนี้คงไม่เป็นไร แต่ด้านล่างกลับมีภาพสองภาพด้วยรูปถ่ายทั้งสองรูปค่อนดูข้างคลุมเครือภาพหนึ่งเผยให้เห็นซ่งชิงชวนซึ่
แม้ฮั่วเยี่ยนฉือรับปากว่าจะเว้นระยะห่างกับเธอ แต่ลึก ๆ แล้วตัวเขาเป็นคนที่ดื้อรั้นและบ้าอำนาจ แถมยังมีความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบผู้ชายด้วยเมื่อคืนเธอถูกวางยาและอยู่กับซ่งชิงชวนหลายชั่วโมง ตอนนี้ซ่งชิงชวนปล่อยข่าวแบบนี้ออกมาอีก ดังนั้นในใจของฮั่วเยี่ยน ฉือคงรู้สึกไม่ดีทว่าจนถึงตอนนี้ฮั่วเยี่ยนฉือยั
ซ่งชิงชวนมองใบหน้าเล็กของเฉียวสือเนี่ยนที่ดูเย็นชา และเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “จุดประสงค์ของผมชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ผมตามจีบคุณมานานขนาดนี้ และตอนนี้พวกเราก็มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันแล้ว แน่นอนว่ามาขอคุณแต่งงานน่ะสิ”ขณะเอ่ย ซ่งชิงชวนดูเหมือนจะจัดปกเสื้อของตัวเองด้วยความไม่ได้ตั้งใจ เฉียวสือเนี่ยน
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั