เมื่อถามจบ เฉียวสือเนี่ยนก็นึกถึงเรื่องบางอย่างของก่อนหน้านี้ขึ้นมาเธอ พี่ถูและฟู่เถียนเถียนที่ห้องโยคะ เธอรับประทานอาหารกับซ่งชิงชวนที่ร้านอาหาร โจวหยางอิงพาเธอไปคลินิกเพื่อดูมือที่โดนน้ำร้อนลวก พวกเธอไปฟาร์ม...และอีกมายมาย เธอล้วน ‘บังเอิญ’ เจอฮั่วเยี่ยนฉือกับอิ๋นเสี่ยวซือทั้งนั้นดังนั้นสิ่งเหล่
พอได้ยินคำถามของเฉียวสือเนี่ยน ฮั่วเยี่ยนฉือก็ไม่ได้รีบตอบอะไรกลับไป“ฉันพาเธอไปที่ที่หนึ่งก่อนแล้วกัน”สีหน้าของฮั่วเยี่ยนฉือดูเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างหาได้ยาก ราวกับว่ามีเรื่องยุ่งยากบางอย่างที่เขาไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ด้วยคำพูดแค่ไม่กี่ประโยคเห็นแบบนั้นแล้ว เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกเครียดขึ้นมาอย่
“ฉันต้องยอมตกเป็นของเล่นให้กับไอ้พวกผู้ชายพวกนั้นอย่างกับหมาตัวหนึ่ง เพื่อไต่เต้าขึ้นไปให้สูง เพื่อให้ประสบความสำเร็จ! แต่แล้วยังไงล่ะ!”ป๋ายอีอียังคงหัวเราะลั่นด้วยความบ้าคลั่ง!“ฉันอยากประสบความสำเร็จ อยากเป็นสูงส่งเหนือใคร เลยต้องชุบตัว แล้วก็ทำให้ตัวเองมีประสบการณ์ที่โดดเด่น ยายแก่ฮั่วจะได้ไม่ดู
“เนี่ยนเนี่ยน เป็นอะไรไป เธอรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”เห็นท่าทางขมวดคิ้วมุ่นของเฉียวสือเนี่ยนกอปรกับท่าทางราวกับคิดอะไรอยู่ของเธอแล้ว ฮั่วเยี่ยนฉือถึงเอ่ยถามออกไปเฉียวสือเนี่ยนบอกเรื่องที่ตนเองเคยได้รับโทรศัพท์สายนั้นให้ฮั่วเยี่ยนฉือฟังฮั่วเยี่ยนฉือเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วเช่นกัน “ดูท่าที่ฉันเ
เฉียวสือเนี่ยนไม่ได้พูดกับฮั่วเยี่ยนฉือด้วยท่าทางแบบนี้มานานแล้วไร้ซึ่งการโจมตี ไร้ซึ่งการจงใจทำเป็นเย็นชา และไร้ซึ่งเกราะป้องกันที่ห่อหุ้มตัวเองไว้อย่างแน่นหนา ต่อให้คำถามนั้นจะทำให้ฮั่วเยี่ยนฉือเจ็บปวด แต่เขาก็คิดว่านี่นับว่าเป็นเค้าลางของการเปลี่ยนแปลงที่ดีฮั่วเยี่ยนฉือพยักหน้าอย่างหนักแน่น “แน
ฮั่วเยี่ยนฉือยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ท่ามกลางความแปลกใจของเฉียวสือเนี่ยน “สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือลากไส้คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ออกมาให้ได้ แล้วก็เรื่องรับประกันความปลอดภัยของเธอ การที่ฉันต้องออกจาก ฮั่ว กรุ๊ป เป็นการชั่วคราวน่ะไม่มีผลเสียอะไรหรอก ฉันยังมีกำลังเหลืออยู่อีกเยอะ”ได้ย
แล้วก็เอ่ยถาม “ป้าจำได้ว่าแต่ก่อนคุณไม่เคยปวดท้องประจำเดือนมาก่อนนี่คะ? เป็นเพราะช่วงนี้ยุ่งเกินไปจนภูมิคุ้มกันตักหรือเปล่าคะ?”แน่นอนว่าเฉียวสือเนี่ยนไม่อาจบอกความจริงแก่ป้าหวังได้ เธอเลยพูดตามน้ำป้าหวังไป “คงจะเพราะยุ่งเกินไปนั่นแหละค่ะ”ทันทีที่ได้ยินแบบนั้นป้าหวังก็เกิดเป็นกังวลขึ้นมา “ต่อไปนี้ค
เมื่อเสียงกรีดร้องของหญิงสาวสิ้นสุดลง ต่อมาก็เป็นเสียงด่าทอหวีดแหลมของผู้หญิงวัยกลางคนอีกคนเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู เฉียวสือเนี่ยนกับฟู่เถียนเถียนก็มองตากัน“ฉันอยากไปดูละครสนุก” เฉียวสือเนี่ยนพูดอย่างกระตือรือร้นฟู่เถียนเถียน “ฉันเองก็อยากดู”ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงเข้าขากันเป็นอย่างดี วิ่งไปที่ประ
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั