เมื่อเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของลู่เฉินหนานอยู่ตรงหน้า ร่างกายของฟู่เถียนเถียนก็แข็งทื่อและเกือบจะกลายเป็นหินลู่เฉินหนานออกมาทำไม!อีกอย่างดูท่าทางเขาแล้วคงจะได้ยินที่เธอพูดทำไมเธอจะต้องมาคุยเรื่องไร้สาระแบบนี้กับเฉียวสือเนี่ยนด้วยนะ!และเธอทำไมจะต้องพูดเสียงดังขนาดนั้นเธอต้องทำอย่างไรถึงจะไม่รู้สึก
เฉียวสือเนี่ยนพิจารณาเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่รอบหนึ่ง “เธอเป็นอะไร ไม่สบายหรือว่าอยากจะออกไปข้างนอก?”ฟู่เถียนเถียนส่ายหน้า “ก็รอพวกเธอเข้ามาน่ะสิ ฉันจะไปที่ไหนได้?”เฉียวสือเนี่ยนยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่ “อยู่ในบ้านเธอจะต้องรัดกุมขนาดนี้เลยเหรอ?”พูดจบ เฉียวสือเนี่ยนก็เหลือบไปเห็นรอยจูบที่บริเวณคอของฟู
เมื่อได้ยินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณนายเวิน ฟู่เถียนเถียนก็รู้สึกเกลียดชังโดยอัตโนมัติ“เธอจะทำฉันลำบากใจหรือไม่ นอกจากคุณขอโทษฉันแล้ว หรือว่ายังจะทำอะไรเธอได้อีก?”ฟู่เถียนเถียนส่งเสียงไม่พอใจ ”หมอเวิน ไหนคุณลองพูดมาสิ คุณสัญญากับฉันตั้งหลายครั้ง ว่าจะไม่ให้คุณแม่ของคุณมาหาเรื่องฉันอีก แต่มีสักครั้
ช่วงนี้ธนาคารเพื่อการลงทุนอี้หมิงได้ลงทุนหลายโปรเจกต์ ก็เป็นเพราะหมิงเหมาที่ผ่านมือของเธอออกสู่ตลาด ทำให้คนจำนวนมากเข้ามาขอให้ช่วยพวกเขาลงทุนเฉียวสือเนี่ยนกลัวว่าหากได้รับความสนใจมากเกินไปอาจจะก่อให้เกิดการอิจฉาตาร้อนจากสายงานเดียวกันได้ง่าย ๆ ซ่งม่านกลับไม่คิดแบบนี้ “หากมีคนอิจฉาตาร้อนจริง งานเลี
พวกผู้หญิงลำพองตัวและบอกว่าตอนที่ได้รับสินค้าไม่ได้ระวัง แต่ช่วงนี้ใช้แล้วถึงได้พบว่าสินค้าคุณภาพต่ำเกินไป จนทำให้ภาพลักษณ์ของพวกเธอเสียหาย จึงจำเป็นต้องคืน ไม่อย่างนั่นก็จะเปิดโปง M•Q“พี่จิ่งเฉิง”ตามเสียงกล่าวทักของเฉียวสือเนี่ยน คนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็มองมาทางเธอกันหมดบนใบหน้าของหญิงสาวหล
ดวงตากลมโตของหลีซูเหยียนสั่นไหว ท่าทางก็แฝงไปด้วยความรำคาญ แถมยังมีความรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย และดูเหมือนกลัวเฉียวสือเนี่ยนจะเข้าใจผิดมากด้วยถ้าไม่ใช่ว่าเฉียวสือเนี่ยนรู้จักด้านที่แท้จริงของหลีซูเหยียน เกรงว่าจะยังโดนการแสดงที่ยอดเยี่ยมนี้ของเธอหลอกเอาได้เฉียวสือเนี่ยนยิ้ม ๆ และไม่ตอบ แต่ถามกลับ “ค
ไม่กี่วันถัดมา เฉียวสือเนี่ยนค่อนข้างงานยุ่งงานเลี้ยงของธนาคารเพื่อการลงทุนอี้หมิงจัดขึ้นตามเวลาที่ซ่งม่านได้กำหนดเอาไว้งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ โจวหยางอิงเป็นฝ่ายเดินทางมายังสถานที่จัดงานด้วยตัวเอง เพื่อร้องเพลงสองเพลงให้ทุกคนได้ฟังในฐานะที่ตนเองเป็นแขกรับเชิญเปิดงานเดิมทีเฉียวสือเนี่ยนคิดว่าทำแบบนี
พอเงยหน้าขึ้น เฉียวสือเนี่ยนถึงได้เห็นว่าคนที่เป็นหัวหน้าแก๊งก็คือชายผอมแห้งคนที่จ้องจะขโมยของจากซ่งชิงชวนในบาร์เมื่อกี้นี้!สีหน้าของชายตัวผอมแห้งแดงก่ำแลดูเมามายอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ก็กำลังมองเธอด้วยหน้าตาอวดดี ทั้งข้างกายเขายังมีผู้ชายที่รูปร่างผอมแห้งไม่ต่างกันกับเขาและมีท่าทางเสเพลอีกสามคน!“น
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั