เฉียวสือเนี่ยนพยักหน้า วงการบันเทิงก็เป็นเช่นนี้จริง ๆ คนเขาอยู่ดี ๆ ก็อยากจะให้เกิดเรื่องกับเขาให้ได้ แต่พอเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ พวกคนที่คอยแย่งงานอยู่ก็ตั้งตารอที่จะเหยียบย่ำคนอื่นเพื่อให้ตัวเองก้าวหน้าขึ้นกันทั้งนั้นโจวหยางอิงเคยเป็นพรีเซนเตอร์ให้หมิงเหมา เฉียวสือเนี่ยนจึงขอหมายเลขโทรศัพท์ของผู
เฉียวสือเนี่ยนกับซ่งม่านมาถึงยังบาร์บรรยากาศที่นี่เปิดดนตรีแนวสบาย ๆ บรรยากาศก็ถือว่าผ่อนคลายพอสมควรหลังจากเฉียวสือเนี่ยนดื่มเบียร์ไปสองสามอึก เพลิงโกรธในใจก็นับว่าถูกบรรเทาไปได้ไม่น้อยเพียงแต่เธอยังคงรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมากเหมือนว่าหากใครเข้าใกล้เธอ คนคนนั้นก็จะต้องเจอกับเรื่องซวยทันทีก่อนห
เธอเอ่ย “คุณซ่ง โจวหยางอิงไม่ใช่คนมุทะลุ เรื่องนี้จะต้องมีคนจงใจใส่ร้ายเขาแน่นอน”ซ่งชิงชวนจิบเหล้าอีกหนึ่งอึก ก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นธรรมชาติว่า “คุณเฉียวรู้สึกว่าคุณโจวถูกใครใส่ร้ายเหรอครับ?”เฉียวสือเนี่ยนเม้มริมฝีปากอันแดงระเรื่อ เธอไม่ตอบคำถามของเขา แต่พูดกลับไปแทนว่า “โจวหยางอิงถูกฉันลากให้ต้
เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งชิงชวน เฉียวสือเนี่ยนก็หันหน้ากลับมาแล้วมองสบตากับซ่งชิงชวนแสงไฟด้านนอกสาดส่องเข้ามา จึงทำให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาและสง่างามของเขาเป็นระยะ ๆ ในชั่วขณะหนึ่งเฉียวสือเนี่ยนแยกไม่ออกว่าเขากำลังถามถึงเรื่องของโจวหยางอิง หรือว่าพูดถึงเรื่องที่เธอคอยอยู่เป็นเพื่อนซ่งม่านกันแน่เฉียวสือเ
เธอจึงเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาบ้างว่า “ดังนั้นคุณซ่งคิดว่าฉันท้องกับโม่ซิวหย่วนแล้ว และเพื่อที่คุณจะได้ขจัดปัญหาแทนซ่งม่าน คุณก็เลยให้พี่เฉินลงมืองั้นเหรอ?”ซ่งชิงชวนมองเฉียวสือเนี่ยน ใบหน้ารูปงามของเขาเหมือนมีความรู้สึกจนใจฉายวาบขึ้นมาเล็กน้อย“ผมนึกว่าแค่พาคุณเฉียวไปพบพี่เฉิน แล้วจัดการกับธุรกิจตระกูลป
เมื่อเห็นฮั่วเยี่ยนฉือ เพลิงโทสะของเฉียวสือเนี่ยนที่ติดต่อเขาไม่ได้เมื่อตอนกลางวันก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้งเธออยากจะพุ่งเข้าไปด่าเขาสักยก!แต่หากทะเลาะกันขึ้นมาก็คงจะจบได้ยากทางด้านของโจวหยางอิง ซ่งชิงชวนได้รับปากแล้วว่าจะช่วยเหลือ และเฉียวสือเนี่ยนก็ไม่อยากที่จะโต้เถียงกับฮั่วเยี่ยนฉือในสถานที่แบบนี้ด
“ดังนั้นเธอยังไม่ได้ตรวจสอบเลยด้วยซ้ำ ก็มั่นใจว่าเป็นฉันซะแล้ว?” ฮั่วเยี่ยนฉือกอบกุมใบหน้าของเฉียวสือเนี่ยนไว้ แล้วพูดด้วยท่าทางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเฉียวสือเนี่ยนที่ถูกจับหน้าอยู่รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก เธอจึงพยายามหันหน้าหนีอย่างสุดแรง “ถ้าไม่ใช่คุณก็เป็นอิ๋นเสี่ยวซือนั้นแหละ แล้วมันจะต่างกันตรงไหน
เมื่อตระหนักได้ถึงเจตนาของฮั่วเยี่ยนฉือ จิตใจของเฉียวสือเนี่ยนก็ร้อนรนอย่างถึงที่สุด เมื่อฮั่วเยี่ยนฉือกดตัวเอง เธอจึงก้มศีรษะและกัดข้อมือของฮั่วเยี่ยนฉืออย่างแรงฮั่วเยี่ยนฉือไม่ทันได้ระวังว่าเฉียวสือเนี่ยนจะทำแบบนี้ เขาเป่าปากออกมาด้วยความเจ็บปวดครั้งหนึ่ง ขณะที่คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันเฉียวสือเนี
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั