เมื่อเฉียวสือเนี่ยนได้ฟัง ในใจพลันรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา อู๋เมิ่งเสวี่ยกล้าพูดเช่นนี้ หมายความว่าเด็กในท้องก็ต้องเป็นของคุณลุงจริง ๆ น่ะสิ?เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเธอก็ยิ่งต้องรีบแก้ไขสถานการณ์นี้โดยด่วนเฉียวกั๋วเซิ่งโมโหเป็นอย่างมาก “ที่เธอวางแผนมาอย่างดีแบบนี้ ก็เพราะอยากได้เงินไม่ใช่หรือไง เงินจำนวนเ
บ่ายวันต่อมา เฉียวสือเนี่ยนมาถึงยังซิการ์บาร์ตามที่ฮั่วหย่วนเจ๋อบอกอย่างตรงเวลามีการวางกล่องซิการ์หลากหลายประเภทไว้ในโซนแสดงสินค้า บนกำแพงโดยรอบก็ถูกแขวนไว้ด้วยภาพอันสวยงาม พอก้าวเท้าเข้ามาก็จะได้กลิ่นหอมจาง ๆ ที่ตลบอบอวลอยู่ด้านในพนักงานเดินนำเฉียวสือเนี่ยนไปที่ห้องรับรองวีไอพี ด้านในมีโซฟาหนังสี
ตอนนี้มาถูกคุณท่านฮั่วเอ่ยถึงเช่นนี้ เฉียวสือเนี่ยนจึงรู้สึกอีหลักอีเหลื่อเล็กน้อยเฉียวสือเนี่ยนรู้ว่าคุณท่านฮั่วมีเจตนา เขากำลังบอกเธออยู่ว่าคนสถานะอย่างเฉียวกั๋วเซิ่งไม่มีทางอยู่ในสายตาของเขา และเขาก็ไม่คิดจะลงมือด้วยตัวเองด้วยเฉียวสือเนี่ยนไม่ได้รู้สึกนึกรำคาญใจ เธอยังพูดด้วยท่าทางตรงไปตรงมาอีก
เมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้แล้ว ในใจของเฉียวสือเนี่ยนพลันเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีลู่เฉินหนานก็เคยพูดว่าในบริษัท ฮั่วเยี่ยนฉือกับคุณท่านฮั่วสู้กันอย่างดุเดือด ตอนนี้หากเขาต้องมาถูกจับผิดเพราะเรื่องคุณลุงอีกละก็ เกรงว่าคงเอาตัวรอดได้ยากแน่เรื่องครั้งก่อนที่บริษัทยาเหรินจี้ยังสามารถพูดได้ว่าคุณท่านฮั
เฉียวสือเนี่ยนกล่าว “ฉันขอเวลาคิดทบทวนสองสามวันนะคะ”ฮั่วหย่วนเจ๋อวางซิการ์ลงอีกครั้ง “เรื่องนี้ไม่มีผลเสียอะไรต่อเธอเลย เธอยังจะต้องพิจารณาอะไรอีก? ฉันว่าในใจเธอยังปล่อยวางเรื่องเยี่ยนฉือไม่ได้มากกว่า เธอไม่อยากขาดกับเขาใช่ไหม!”เฉียวสือเนี่ยนกำมือเล็กน้อย โดยไม่เปล่งเสียงใด“หรือเธอคิดว่าเรื่องของ
เฉียวสือเนี่ยนแวะกลับมาที่ตระกูลเฉียวสักหน่อยแม้ว่าเธอเพิ่งได้พบกับคุณตามาเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ตอนนี้เธอก็อยากจะเจอคุณตาอีกแล้ว เธอจึงมาอยู่กับเขา และคอยพูดคุยกับเขาคุณตาได้ทราบเรื่องของคุณลุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอบอกกับคุณตาตั้งแต่วันนั้นที่ออกมาจากบ้านของคุณลุงคุณตาย่อมโมโหแน่นอน แต่เธอบอกคุ
เมื่อมาถึงยังธนาคารเพื่อการลงทุนอี้หมิง เฉียวสือเนี่ยนก็เข้าร่วมการประชุมกับทุกคนอย่างเรียบง่ายจากนั้นเฉียวสือเนี่ยนได้โทรหาลู่เฉินหนาน เพราะอยากจะทราบว่าช่วงนี้ฮั่วเยี่ยนฉือจะไปที่ไหนบ้าง“สือเนี่ยน ฉันกำลังอยากจะโทรหาเธออยู่พอดี!”เสียงของลู่เฉินหนานฟังดูค่อนข้างเป็นกังวลใจ “สองสามวันนี้ฉันติดต่อ
ลู่เฉินหนานเร็วมาก เมื่อเฉียวสือเนี่ยนลงมาชั้นล่าง เขาก็ขับรถมาแล้วหลังจากรับเฉียวสือเนี่ยนและเห็นเธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ลู่เฉินหนานก็ถามอย่างกังวล “สือเนี่ยน ทำไม่เธอถึงขมวดคิ้วแบบนั้นล่ะ เธอเป็นห่วงพี่ฉือเหรอ?”รู้ว่าลู่เฉินหนานจงใจหยอกล้อ เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่มีอารมณ์จะสนใจ จึงเล่าเนื้อหาในโทรศัพท์ที
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั