ซ่งม่านยังคงไม่ค่อยยินยอมเท่าไรนัก เธอเบะปากพลางเอ่ย “ไม่ต้องการให้เธอสอนสักหน่อย ในบริษัทไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว คนที่เก่งและมีประสบการณ์มากกว่าเธอมีเยอะแยะไป!”“ไม่รู้จักน้ำใจคน!”เวลานี้ โม่ซิวหย่วนเดินเข้ามา เขาเหลือบสายตาอันเย็นชามองไปทางซ่งม่าน “ในเมื่อเธอไม่ยอมรับเฉียวสือเนี่ยน งั้นก็ไม่จำเป็นต
เมื่อวานเธอไปรับประทานอาหารกับพวกพี่ถู พนักงานบอกว่ามีกิจกรรมจับฉลากครบรอบหนึ่งปี แต่เฉียวสือเนี่ยนไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย คิดไม่ถึงว่าเธอจะถูกรางวัลที่หนึ่ง?อีกฝ่ายแจ้งให้ทราบต่อไปว่า รางวัลที่หนึ่งคือทริปสองวันที่ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าสำหรับสองคน ไม่เพียงแค่ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับเท่านั้น บัตรผ่าน
เมื่อเห็นเธอ ฮั่วเยี่ยนฉือที่เดิมสีหน้าตึงเครียดก็อ่อนลงเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัดแล้ว“รบกวนพวกคุณแล้ว แค่ตื่นตูมไปก่อนเท่านั้นเอง ภรรยาของผมไม่เป็นอะไร” ฮั่วเยี่ยนฉือหันกลับไปเอ่ยกับคนที่อยู่ด้านหลังเฉียวสือเนี่ยนเพิ่งเหลือบไปเห็นพนักงานของโรงแรมหลายคนที่ยังยืนอยู่ในห้องโถงพนักงานเห็นเธอไม่เป็นอะไร
คำพูดของฮั่วเยี่ยนฉือยังติดอยู่ในลำคอ สีหน้าก็เปลี่ยนจากมีความสุขกลายเป็นผิดหวัง“ไม่ต้องเป็นห่วง พนักงานมาทำความสะอาดทุกวัน บนพื้นไม่สกปรกหรอก อีกอย่างยังปูด้วยผ้านวมอีกนะ!”เมื่อเห็นฮั่วเยี่ยนฉือแค่นั่งไม่พูดจา เฉียวสือเนี่ยนยังเอ่ยอีก “ถ้าคุณไม่อยากปูฟูกนอนพื้นก็ได้ ห้องที่อยู่ตรงข้ามห้องนั้นคุณย
เดิมทีคิดว่าฮั่วเยี่ยนฉือจะออกไปแล้ว แต่รอให้เฉียวสือเนี่ยนล้างหน้าแปรงฟันออกมาเสร็จ ในห้องรับแขกก็ได้กลิ่นหอมโชยมาเมื่อเฉียวสือเนี่ยนเดินออกไปดู ก็เห็นฮั่วเยี่ยนฉือจะกำลังจัดวางอาหารเช้าอยู่อย่างคาดไม่ถึงบนโต๊ะไม่เพียงมีแค่ของหวาน และอาหารคาวอย่างโจ๊กเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะยังมีอาหารตามข้างทางอย่
เมื่อสายวางไปแล้ว เธอก็ขี้เกียจจะโทรไปโดนสั่งสอนอีกหลังจากนั้นแม่สามีก็โทรศัพท์มาหาอีกครั้ง ฟู่เถียนเถียนเมื่อจะทำแล้วต้องทำให้ถึงที่สุด เธอจึงปิดเครื่องไปเลยคาดว่าแม่สามีจะมาตำหนิถึงที่บ้าน ฟู่เถียนเถียนจึงหยิบกระเป๋าและออกไปดูหนังตั้งแต่แต่งงานมา เธอไม่ค่อยมีกิจกรรมผ่อนคลายอะไรนอกจากจะรวมตัวช้
หลังจากนั้นพวกเพื่อนของลู่เฉินหนานก็มาถึง และดื่มด้วยกันอีกหลายแก้วดูเวลาดึกแล้ว ฟู่เถียนเถียนจึงขอตัวออกมา“ฉันให้คนขับรถไปส่งเธอนะ”กลัวเธอปฏิเสธ ลู่เฉินหนานจึงอธิบาย “เธอเป็นผู้หญิงคนเดียว และดึกขนาดนี้อีก ให้คนขับรถไปส่งจะปลอดภัยกว่า”ฟู่เถียนเถียนพนักหน้าขอบคุณหลังส่งฟู่เถียนเถียนขึ้นรถ ลู่เฉ
ฟู่เถียนเถียนถอยไปด้านหลัง และหลบฝ่ามือของคุณแม่หมอเวินไปแต่เธอสะดุดถังขยะที่อยู่ตรงปลายเท้า จนล้มลงไปนั่งบนที่นั่งทำจากไม้ลูกแพร์ และหลังศีรษะก็กระแทกเข้ากับพนักพิงไม้ฟู่เถียนเถียนเจ็บจนเอามือกุมศีรษะ“แม่ อย่าทำแบบนี้สิครับ!” เมื่อเห็นว่ามารดาคิดจะลงมือ หมอเวินก็รีบห้ามปราม“จิ๋งหลี่ ลูกยังจะปกป
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั