“แม้ว่าเธอจะเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์แล้วติดต่อกับสองคนนั้น และไม่ได้ว่าจ้างอย่างเปิดเผยตัวตน แต่ทางตำรวจซักถามสองคนนั้นจนได้เรื่องแล้วว่า รับเงินมาจากที่ไหน”เฉียวสือเนี่ยนเอ่ย “ตอนเธอไป เธออำพรางตัวด้วยการสวมหน้ากากกับหมวก แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก ทางตำรวจมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถตรวจสอบด้วยวิธีสารพ
เฉิงหว่านซินกลับทำร้ายเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ที่งานเลี้ยงของตระกูลฮั่ว เธอพาเธอไปยังเบื้องหน้าของผู้หญิงพวกนั้น และให้เธอฟังคำเสียดสีเหน็บแนมของพวกเธอ เพื่อที่จะได้ใส่ร้ายตระกูลเฉียว เฉิงหว่านซินใช้แผนแสดงความอ่อนแอต่อเธอและคุณตาไม่สำเร็จ จึงหันไปเข้าหาป้าสะใภ้แทน เธอเค้นสมองหาวิธีสารพัดแบบนี้ เพี
ได้ยินดังนั้น ฮั่วเยี่ยนฉือพลันหันไปมองเฉียวสือเนี่ยน สีหน้าของเธอยังคงนิ่งเรียบ ราวกับไม่ได้ถูกคำพูดเหล่านี้ของเฉิงหว่านซินทำให้รู้สึกเสียใจหรือโกรธแค้นเลย “ป๋ายอีอีให้ผลประโยชน์เธอ และให้เธอจัดการเฉียวสือเนี่ยนกับตระกูลเฉียวเหรอ?” ฮั่วเยี่ยนฉือถามเฉิงหว่านซินเฉิงหว่านซินมองไปยังฮั่วเยี่ยนฉือ ก่อ
“จะเพราะอะไรได้อีกล่ะ ก็ต้องเพราะเป็นห่วงเธอน่ะสิ” โม่ซิวหย่วนพูดด้วยท่าทางเอ้อระเหยลอยชายเฉียวสือเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะมองค้อนใส่เขา “คุณช่วยหยุดล้อเล่นสักทีจะได้ไหม เห็นฉันเป็นเครื่องมือในการยั่วอารมณ์ฮั่วเยี่ยนฉือหรือไง?”โม่ซิวหย่วนมองเธอด้วยท่าทางเกียจคร้านและชั่วร้าย “ไม่ได้ ใครใช้ให้เธอใช้ได้ผล
“ในเมื่อพี่สะใภ้ชอบของพวกนี้ งั้นพี่ก็สนองตอบความต้องการของเธอสิ!”ลู่เฉินหนานช่วยออกความคิด “พาพี่สะใภ้บินไปที่ศูนย์อนุรักษ์แพนด้าที่มีชื่อเสียงที่สุด แพนด้าน้อยที่นั่นสามารถทำการจองล่วงหน้าเพื่อเข้าไปเล่นกับน้องได้ ถึงแม้ว่ามันจะแพงและมีเวลาจำกัด แต่เรื่องนี้ไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับพี่หรอก”“พี่ลองคิ
เฉียวสือเนี่ยนถูกคำพูดของโม่ซิวหย่วนทำให้พูดไม่ออก “คุณชายโม่ คุณช่วยเลิกยกเรื่องฮั่วเยี่ยนฉือขึ้นมาพูดทุกสามประโยคเสียทีได้ไหมคะ? ฉันเริ่มจะสงสัยแล้วว่าคุณมีความรักต่อเขาอย่างลึกซึ้งจนกลายเป็นความแค้นหรือเปล่า!”“เฉียวสือเนี่ยน เธอทำให้ฉันคลื่นไส้นะ!”โม่ซิวหย่วนโกรธจนยื่นมือไปคิดจะเขกศีรษะของเฉียว
“แล้วตกลงเธอโทรหาฉันมีเรื่องอะไร?” เฉียวสือเนี่ยนดื่มน้ำอีกครั้งฟู่เถียนเถียนบอกเฉียวสือเนี่ยนเรื่องที่ลู่เฉินหนานโทรหาเธอ“พวกเธอหย่ากันแล้ว เธอไม่แม้แต่จะอยากพูดหรืออยากนึกถึงเขาด้วยซ้ำ แต่ฮั่วเยี่ยนฉือกลับวางแผนพาเธอกลับไป คงจะยังเห็นว่ามีความหวังกับเธอหรือเปล่า?” ฟู่เถียนเถียนถามความหวังกับผีส
เฉียวสือเนี่ยน “ฉันอยากกินไก่เผ็ด ปลาต้มผักกาดดอง เต้าหู้เหม็น ส่วนจานหลักคือเส้นหมี่ซุปหอยขม”ฮั่วเยี่ยนฉือจู้จี้เรื่องอาหารมาก หากเป็นอาหารรสจัด รสเผ็ด มีกลิ่นแรง ไม่สดใหม่ และไม่ดีต่อสุขภาพ ก็จะไม่แตะเลยอยากให้เธอไปกินข้าวเป็นเพื่อน ไหนดูหน่อยเถอะว่าเขาจะกินของพวกนี้ได้ไหม!เรื่องคำขอของเธอ ฮั่ว
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั