หลายวันมานี้ เขาส่งคนสะกดรอยตามที่อยู่ของเหล่าหลินอยู่ตลอด เพราะคิดอยากจะสืบผู้บงการเบื้องหลังของเขาออกมา ตอนนี้ในที่สุดก็มีข่าวคราวแล้ว“นายจัดเตรียมคนควบคุมเขาเอาไว้ก่อน เรื่องที่เหลือพรุ่งนี้ค่อยจัดการ”โจวเทียนเฉิงลังเลเล็กน้อย และเอ่ย “ประธานฮั่ว คุณยังคงแวะมาที่บริษัทหน่อยเถอะครับ”คิ้วเข้มของ
ยุ่งเรื่องของเขาทำไมเฉียวสือเนี่ยนปิดม่านหน้าต่างลง แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน......ตอนที่ฮั่วเยี่ยนฉือมาถึงห้องทำงาน โจวเทียนเฉิงก็รอเขาอยู่แล้ว“ทางฝั่งเหล่าหลินมันยังไงกัน คนล่ะอยู่ที่ไหน?” ฮั่วเยี่ยนฉือถาม“ประธานฮั่ว คุณดูอันนี้หน่อยครับ” โจวเทียนเฉิงส่งข้อมูลฉบับหนึ่งให้ฮั่วเยี่ยนฉือด้วยสีหน้
คุณแม่ของฮั่วเยี่ยนฉือไม่ตอบกลับถามแทน “สือเนี่ยน ร่างกายของเธอฟื้นฟูเป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?”“เกือบจะหายดีแล้วค่ะ คุณหมอจะให้ยาฉันและกายภาพบำบัดทุกวัน”เฉียวสือเนี่ยนเอ่ย “อีกสองวันฉันยังคิดว่าจะไปเยี่ยมท่านกับคุณย่า คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเข้ามาหาด้วยตัวเองแล้ว”“ร่างกายไม่เป็นอะไรก็ดีแล
เขาดูเหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืน หางตาของเขาแดงเล็กน้อย ท่าทางต่างเมื่อก่อนเล็กน้อย แต่เฉียวสือเนี่ยนก็บอกไม่ถูกว่าต่างกันตรงไหน“เยี่ยนฉือ ลูกเข้ามาเยี่ยมสือเนี่ยนเหรอ? คุณแม่ของฮั่วเยี่ยนฉือถามอย่างสบาย ๆ ฮั่วเยี่ยนฉือเรียก ‘คุณแม่’ ด้วยน้ำเสียงที่ห่างเหินเล็กน้อย และตอบกลับ “ผมเข้ามาหาคุณตาเพื่อคุย
“ถือว่าเป็นขยะแล้วทิ้งมันทั้งหมดเลยแล้วกัน”เฉียวสือเนี่ยนพูดจบก็หมุนตัวเข้าไปในบ้านฮั่วเยี่ยนฉือมองแผ่นหลังของเฉียวสือเนี่ยนโดยไม่ขยับตอนที่เฉียวสือเนี่ยนพูดเมื่อกี้ว่าสิ่งของที่อยู่ในวิลล่าหลงเถิงถือเป็นขยะ ฮั่วเยี่ยนฉือก็มีความรู้สึกหดหู่ว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในขยะที่เธอไม่ต้องการ……เ
ห้องทำงานของหยวนหงจื้อสวยงามและมีสไตล์ ด้านในยังมีต้นไม้และดอกไม้กวักทรัพย์ที่วางประดับอย่างหรูหราอยู่เป็นจำนวนมากตอนที่เฉียวสือเนี่ยนมาถึง พนักงานของหยวนหงจื้อกำลังรายงานการทำงานให้กับเขาอยู่ น่าจะเป็นเรื่องที่จัดการยากอย่างมาก สีหน้าของหยวนหงจื้อถึงดูแย่นัก‘ก๊อก ก๊อก’เฉียวสือเนี่ยนเคาะประตูห้อง
ในที่สุด หยวนหงจื้อก็รู้แล้วว่าวันนี้เฉียวสือเนี่ยนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เขามองเฉียวสือเนี่ยนด้วยแววตามืดครึ้ม “คิดไม่ถึงว่าพี่จะแอบตรวจสอบผม”“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็ไม่จำเป็นต้องปิดบัง! ฐานะในบ้านใหญ่ของผมไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ป๋ายอีอียอมให้โอกาสคนอย่างผม อีกไม่นานผมก็จะทำสำเร็จ แล้วกลายเป็นบุคคลที่ป
ตอนนี้หยวนหงจื้อกับป๋ายอีอียังไม่ตัดขาดกัน เขาหลีกเลี่ยงการเลือกข้างก่อนเริ่มการปะทะกันไม่ได้ เฉียวสือเนี่ยนเลยไม่พูดถึงเป้าหมายเป็นอย่างแรก แต่กลับเอาเงินมาล่อเขาแทนหยวนหงจื้อเป็นคนละโมบคนหนึ่ง กับเงินที่เหมือนให้เปล่าก้อนนี้ แน่นอนว่าเขาไม่มีเหตุผลอะไรให้บอกปัดเมื่อเคยได้ลิ้มลองผลประโยชน์อันหอมห
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั