เมื่อเห็นชื่อนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกเพียงว่าความสุขในใจพลันสลายหายไปกว่าครึ่ง ในดวงตาก็ฉายแววเกลียดชังอันล้ำลึกออกมาเช่นกัน“เนี่ยนเนี่ยนคิดอะไรอยู่ ทำไมไม่รับสายล่ะ?” คุณตาถามเฉียวสือเนี่ยนรีบกลับมายิ้มแย้มอย่างรวดเร็ว “ไม่มีอะไรค่ะคุณตา คุณตารอหนูสักเดี๋ยวนะคะ หนูขอลงรถไปรับสายก่อน”แม้เฉียวตง
“ตอนนี้เขาควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เดาว่าคงอยากแก้ไขด้วยตัวเอง ผ่านไปอีกไม่กี่วัน ถ้าสถานการณ์ร้ายแรงขึ้นจนเขาควบคุมต่อไปไม่ไหว เธอก็จะปิดเกมได้แล้ว” โม่ซิวหย่วนพูดนี่เป็นข่าวดีจริง ๆ !ถ้าฝั่งของหยวนหงจื้อล้มลงก็จะเริ่มจัดการกับป๋ายอีอีได้!“ลำบากคุณชายโม่แล้ว ถึงตอนนั้นฉันขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อนะ!”
ในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่ปี ฮั่วเยี่ยนฉือก็กลายเป็นผู้กุมอำนาจของฮั่ว กรุ๊ปอย่างแท้จริง ทุกการกระทำของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและกลิ่นอายของผู้ที่อยู่เหนือกว่าแม้จะไม่ได้ขัดใจเขาตรง ๆ แต่เรื่องที่คัดค้านการตัดสินใจของเขา ก็ถือเป็นเค้าลางที่ไม่ดีมากทีเดียวฮั่วหยวนเจ๋อรู้สึกตื่นตระหนกและเดือดดาลที่ฮั่ว
ฟู่เถียนเถียนตอบรับ “ได้”หลังพูดคุยกับฟู่เถียนเถียนจบ เฉียวสือเนี่ยนก็สั่งซื้อนมสดหลายสิบกล่องโดยวางแผนจะเอาไปให้คนรับใช้และคนขับรถแต่ละคนในบ้าน ทั้งได้สร้างความสุขทั้งได้สนับสนุนโจวหยางอิง ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหลังจากจัดการเรื่องเหล่านี้เรียบร้อย เฉียวสือเนี่ยนก็พูดคุยกับโม่ซิวหย่วนเรื่องจัดห
“คุณตา เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ?” เฉียวสือเนี่ยนถาม“เรื่องของ M•Q ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว”เฉียวตงไห่บอกว่าครั้งนี้ M•Q เกิดปัญหาเรื่องภาษีเพราะถูกคนรายงาน และคาดไม่ถึงว่าเนื้อหาที่รายงานดันเป็นเนื้อหาภายใน!ตอนนี้กรมสรรพากรตรวจพบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลปลอมและเป็นการใส่ความกัน ทำให้ลุงเฉียวกั๋วเซิ
เฉียวกั๋วเชิ่งยังมีไฟโทสะสุมอยู่เต็มท้อง แต่ก็ระบายออกมาไม่ได้เพราะพ่อเอ่ยปากเอง เขาจึงทำได้เพียงอดกลั้นเท่านั้น“เนี่ยนเนี่ยน เธอกับฮั่วเยี่ยนฉือหย่ากันแล้วจะแบ่งทรัพย์สินกันเมื่อไร?”ถานซูหงเก็บปัญหาเรื่องการหย่าไว้ก่อน และถามเรื่องทรัพย์สินกับเฉียวสือเนี่ยน“ซูถง เธอถามแบบนี้ทำไม?” เฉียวตงไห่ไม่พ
“แน่นอนว่าต้องมีปัญหาสิ ปัญหาใหญ่เลยด้วย!” เฉียวเล่อเยียนเสียงดังยิ่งกว่าเดิม“แม่ฉันบอกให้ฉันคอยไล่ตามฮั่วเยี่ยนฉือ เหมือนที่เธอเคยทำก่อนหน้านี้ และยังให้ฉันไปหาคุณนายใหญ่ฮั่วให้บ่อย ๆ ด้วย!”สมกับที่คุณป้าที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เป็นอันดับหนึ่ง พอรู้ว่าฝั่งเธอหมดหวังแล้วจึงไปผลักดันลูกสาวตัวเอ
เฉียวสือเนี่ยนพูด “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันกับฮั่วเยี่ยนฉือหย่ากันแล้ว เรื่องของเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันแล้ว หลังจากนี้คุณอย่าโทรหาฉันเพราะเรื่องของเขาอีกนะ”ลู่เฉินหนานได้ยินก็ชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่นานเขาก็หาสถานที่เงียบ ๆ ได้ “พี่สะใภ้ คุณว่ายังไงนะ? หย่าเหรอ?”ลู่เฉินหนานตกใจเป็นอย่างมาก “พี่ฉือจะห
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั