เฉียวสือเนี่ยนสาวเท้าเดินไปเบื้องหน้าฮั่วเยี่ยนฉืออย่างรวดเร็ว และดึงกระดาษออกมาจากมือของเขา“ทำไมคุณถึงมาดูของฉันตามใจชอบแบบนี้! คุณมีสิทธิ์อะไร!”เมื่อเผชิญหน้ากับเฉียวสือเนี่ยนที่มีท่าทีเกรี้ยวกราดและความระแวดระวัง ทำให้ในดวงตาของฮั่วเยี่ยนฉือเต็มไปด้วยความสับสน “ก็แค่ใบปลิวโฆษณาทำไมจะดูไม่ได้?”
เฉียวสือเนี่ยนปฏิเสธกลับไปตรง ๆเธอต่างหากที่ควรจะอารมณ์ไม่ดี ยังไม่ได้เซ็นชื่อในหนังสือสัญญาหย่าก็แล้วไปเถอะ ทว่าห้องที่โครงการจวินหลินหัวฝู่ก็หลุดลอยไปด้วยยิ่งไปกว่านั้นในท้องยังมีระเบิดเวลาที่ต้องจัดการอีกในวันจันทร์เฉียวสือเนี่ยนได้ผ่านขั้นตอนการเข้ารับตำแหน่งที่หย่วนเจิง กรุ๊ปแล้วโม่ซิวหย่วน
ซ่งชิงชวนกล่าวปฏิเสธ “ไม่ดีกว่า ฉันยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการอยู่”โม่ซิวหย่วนพูดอย่างไม่ยี่หระ “ถ้าอย่างนั้นไว้ค่อยนัดกันคราวหน้าก็ได้”ซ่งชิงชวนมองไปทางเฉียวสือเนี่ยน ก่อนจะถามโม่ซิวหย่วน “อาหย่วน ม่านม่านเล่าให้ฉันฟังหลายครั้งว่านายตกหลุมรักผู้หญิงคนอื่น เป็นคุณเฉียวคนนี้เหรอ?”เห็นได้ชัดว่าซ่งชิ
“ประธานฮั่ว คุณพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ” คำพูดของโม่ซิวหย่วนแฝงความยั่วยุ “วันนี้แผนกของพวกเรามาสังสรรค์กัน ผู้จัดการเฉียวในฐานะพนักงานคนหนึ่งของหย่วนเจิง จะเป็นคนแปลกหน้าได้ยังไง?”“แต่ถ้าประธานฮั่วเป็นห่วงภรรยาจะมาร่วมสังสรรค์กับพวกเราก็ได้ ถ้าต้องดื่มตามมารยาท คุณก็ดื่มแทนเธอเป็นยังไงล่ะ?”โม่ซิวหย่วน
“ซ่า!”เหล้าของชายคนนั้นยังไม่ทันถูกเทลงมา ชาดอกไม้ในมือของเฉียวสือเนี่ยนก็ถูกสาดใส่หน้าเขาไปแล้ว!อีกฝ่ายคาดไม่ถึงว่าเฉียวสือเนี่ยนจะลงมือก่อนก้าวหนึ่ง เขาถูกสาดน้ำใส่จนตกใจทำแก้วเหล้าในมือหล่นลงพื้น“นังบ้านี่ กล้าสาดน้ำใส่ฉันเหรอ!”ชายหัวล้านโกรธเกรี้ยวยกมือขึ้นมา คิดจะตบหน้าของเฉียวสือเนี่ยน!“ห
เป็นธรรมดาที่โม่ซิวหย่วนจะไม่คัดค้านไม่นานพวกเพื่อนร่วมงานในห้องส่วนตัวก็จากไปกันหมด เฉียวสือเนี่ยนก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอตัวลา”โม่ซิวหย่วนไม่พอใจ “ลาอะไร วันนี้ตั้งใจฉลองต้อนรับเธอ ต้องทำให้งานนี้สมบูรณ์สิ ฉันจะเรียกคนมาดื่มต่อ!”เฉียวสือเนี่ยน “ขอบคุณการต้อนรับของประธานโม่มากค่ะ
“อยากให้ฉันเรียกรถพยาบาลมารอไว้ก่อนไหม?” เฉียวสือเนี่ยนถามถ้าทำแบบนั้นหากมีใครล้มลงไปก่อน ก็จะส่งไปโรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงทีแต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสนใจความปรารถนาดีของเธอฮั่วเยี่ยนฉือนั่งตัวตรงถือแก้วเหล้าด้วยนิ้วเรียวยาว ขณะที่กระดกเข้าปากอย่างไม่ยี่หระ ราวกับทำการแสดงงานศิลปะบางอย่างอยู่โม่ซ
ว่ากันตามจริง ชายหัวล้านครึ่งหัวทำงานในหยวนเจิ่ง เป็นพนักงานเก่าที่ทั้งขยันทำงานและสร้างคุณงามความดีอย่างใหญ่หลวง นั่นก็ไม่ควรจะล่วงเกินโม่ซิวหย่าวนครั้งแล้วครั้งเล่าบวกกับท่าทางที่เขาหวาดกลัวอำนาจของฮั่วเยี่ยนฉือเขาซึ่งโดนไล่ไปแล้วก็ควรจะทำตัวซื่อสัตย์ ทำไมถึงไม่กลัวถูกเอาคืน แถมยังพาคนจำนวนมากขน
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั