แววตาที่แข็งกร้าวก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงก่ำมากมายเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้พักผ่อนดีเท่าไรนักฮั่วเยี่ยนฉือลุกขึ้นนั่ง “คุณตา ผมมาถึงกลางดึกครับ โรงแรมห้องเต็มหมดแล้ว ผมจึงมานอนที่นี่”น้ำเสียงของฮั่วเยี่ยนฉือแหบพร่าเพราะความงัวเงีย“จะนอนที่นี่ได้ยังไง ทำไมไม่ไปนอนที่ห้องเนี่ยนเนี่ยน?” คุณตา
เฉียวสือเนี่ยนยังคงหลับตา เธอตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ก็สนิทอยู่ ก่อนหน้านี้เคยเจอกันครั้งหนึ่ง”ฮั่วเยี่ยนฉือพูดอย่างไม่พอใจ “เธอเรียกเขาว่าพี่?”เฉียวสือเนี่ยนลืมตาขึ้น เธอหันไปมองฮั่วเยี่ยนฉือด้วยสายตาสงสัย “มีปัญหาอะไร?”ฮั่วเยี่ยนฉือเม้มปากลง “ทำไมไม่เรียกชื่อเขา?”เฉียวสือเนี่ยน “เขาแก่กว่าฉันก็เ
แต่ตระกูลเฉียวไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร และยังต้องเพิ่งบารมีของตระกูลฮั่วอีกอย่างหากดูจากคุณสมบัติของฮั่วเยี่ยนฉือ เขาก็สามารถหาภรรยาที่ดีกว่านี้ได้หากพ่อฮั่วเยี่ยนฉือไม่ชอบเธอก็คงจะเป็นเรื่องปกติเฉียวสือเนี่ยนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากป้าหวังเดินเข้ามาบอกว่าอาหารเสร็จแล้ว สามารถไปรับประทานได้ฮั่วเยี่ยนฉื
ฮั่วเยี่ยนฉือไม่มองเฉียวสือเนี่ยน เขาเดินเข้าไปหาคุณย่า“แกบอกว่าที่บริษัทกำยังยุ่งไม่ใช่เหรอ ทำไมมาเช้าขนาดนี้ล่ะ คิดถึงเมียหรือไง?” คุณย่าฮั่วถามอย่างมีเลศนัยเฉียวสือเนี่ยนชิงพูดขึ้นก่อนที่ฮั่วเยี่ยนฉือจะตอบ “คุณย่าคะ หนูกับเยี่ยนฉือใกล้จะหย่ากันแล้ว คุณย่าอย่าพูดเล่นให้เขาอึดอัดแบบนี้สิคะ”คุณย่
ฮั่วหย่วนเจ๋อไม่ได้เถียงผู้เป็นแม่ เขาพยักหน้าและเดินเข้าห้องไป“เนี่ยนเนี่ยน ย่าได้ยินว่าเมื่อวานพ่อของเยี่ยนฉือไปที่บ้าน หนูคงจะถูกเขาจับผิดใช่ไหม?” คุณย่าฮั่วถามเฉียวสือเนี่ยนยิ้ม “ก็ไม่ถือว่าจับผิดอะไรหรอกค่ะ ทั้งหมดเป็นปัญหาของหนูจริง ๆ ”“ไม่ต้องไปสนใจเขา ฮั่วกรุ๊ปยิ่งใหญ่ได้เพราะเขา เขาสร้าง
เฉียวสือเนี่ยนมองคนที่เดินเข้ามา เขาคือผู้ชายตัวผอมที่ปิดปากเธอตอนที่กำลังลงรถเมื่อเห็นว่าเธอฟื้นแล้ว ชายคนนั้นก็หัวเราะหึหึออกมา “เถ้าแก่ เธอตื่นแล้ว”ระหว่างที่พูด เขาก็หลีกทางให้ใครบางคนเข้ามาจากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าของคนคนนั้นก้าวเข้ามาในห้อง เขาคือชายหนุ่มพุงพลุ้ยซึ่งสวมเสื้อคลุมสีเข้มเมื่อเห็
เดาว่าที่นี่คงจะเป็นบ้านร้างที่ไม่มีคนผ่านไปผ่านมา ตะโกนร้องออกไปก็ไม่มีประโยชน์“เลิกพยายามเถอะ ฉันแนะนำว่าให้เธอใจเย็น ๆ จะได้เจ็บน้อยลง!”ไม่รู้ว่าเซี่ยลี่สยงหยิบมีดออกมาจากไหน เขากดมันลงที่ใบหน้าของเฉียวสือเนี่ยน “ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีใบหน้าสวย ๆ อีกต่อไป”เฉียวสือเนี่ยนกลัวว่าเขาจะทำร้ายเธอจริ
“อ๊าก!”ลูกน้องของเซี่ยลี่สยงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ส่วนเฉียวสือเนี่ยนใช้จังหวะนี้วิ่งออกไปข้างนอกทันที“นังสารเลว ไปจับมันมา!”เซี่ยลี่สยงที่ได้สติกลับมา เขาทั้งเจ็บทั้งแค้น ตะโกนออกคำสั่งลูกน้องของเซี่ยลี่สยงที่รีบวิ่งตามไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่วิ่งตามหลังมา เฉียวสือเนี่ยนไม่กล้าแม้แต่จะห
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั