แต่สิ่งที่เฉียวสือเนี่ยนสงสัยก็คือ ฮั่วเยี่ยนฉือไปเจอเธอนอนหลับอยู่บนดาดฟ้า เขาไม่เพียงไม่ยอมปลุกเธอให้ตื่นแถมยังเอาเสื้อมาคลุมให้เธออีกด้วยเหรอ? “คุณผู้หญิงคะ โจ๊กพุทราของคุณยังอุ่นอยู่ ขนมงาดำวอลนัทก็พร้อมแล้ว สามารถกินได้ทุกเมื่อเลยนะคะ” ป้าหวังเอ่ยขึ้น “โอเคค่ะ ฉันขอตัวไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อย
เฉียวสือเนี่ยนส่งสายตาเย็นชากลับไปให้ฮั่วเยี่ยนฉือจะมีใครอีก มีแต่นายเท่านั้นแหละ! ทั้งเอาแฟลชไดรฟ์ของเธอไป ทั้งยังไม่ยอมรับสายเธอ ฮั่วเยี่ยนฉือมองออกว่าเฉียวสือเนี่ยนไม่พอใจ เขาจึงอดกลั้นความโกรธของเขาเอาไว้ “ฉันได้อ่านโครงการของหมิงเหมาแล้ว ดูตั้งใจทำดีหนิ” “ด้วยความพยายามของเธอ ฉันจะให้โอกาสเ
แม้ว่าหมิงเหมาไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นโครงการใหญ่พิเศษอะไร แต่เป็นโครงการแรกที่ฮั่ว กรุ๊ปเข้าซื้อกิจการเพื่อการลงทุนป๋อโจว บริษัทจึงต้องเตรียมพร้อมทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ และกะจะสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองตั้งแต่ครั้งแรก ดังนั้นเหล่านักลงทุนจึงกำลังเขียนโครงการกัน และครั้งนี้บริษัทได้ตั้งรางวัลโบนัสเพื่อ
โม่ซิวหย่วนมองไปทางเฉียวสือเนี่ยนด้วยความเหยียดหยามเล็กน้อย“คุณคิดว่าในสถานการณ์ที่ป๋อโจวไม่มีการเสนอราคา หมิงเหมาจะทิ้งเนื้อชิ้นใหญ่ขนาดนี้ แล้วมาร่วมมือกับเราเหรอ?”เฉียวสือเนี่ยนเอ่ย “สถานการณ์ปกติก็คงไม่ แต่ถ้ามีคนกระตุ้น ก็ไม่แน่ค่ะ”“โอ้?” โม่ซิวหย่วนจัดท่านั่ง และสนใจที่จะฟังเฉียวสือเนี่ยนพู
โทรศัพท์น่าจะเปิดลำโพง ไม่นานน้ำเสียงเสียใจของคุณย่าก็ดังขึ้น“เนี่ยนเนี่ยน หรือว่าเพราะเธอโกรธเจ้าเด็กเยี่ยนฉือ จนไม่ยินดีแม้แต่จะไปกับย่าแล้วเหรอ?”เฉียวเนี่ยนทนฟังน้ำเสียงแบบนี้ของคุณย่าไม่ไหว จึงรีบเอ่ย “หนูยินดีไปกับคุณย่าแน่นอน——”“งั้นก็ตกลงตามนี้แล้วนะ พรุ่งนี้ฉันจะให้คนขับรถไปรับพวกเธอ!”ไม
ฮั่วเยี่ยนฉือทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว “เฉียวสือเนี่ยน เล่นตัวนานขนาดนั้นก็พอแล้ว! เธอใช้เวลาทั้งหมดไปกับการทำแผนธุรกิจอย่างไร้เหตุผล หรือว่าเป็นแค่การเล่นสนุก?”เฉียวสือเนี่ยนเค้นเสียงเย็น “คุณยุ่งอะไรด้วย ถึงอย่างไรมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”ฮั่วเยี่ยนฉือมองใบหน้าเล็กที่เรียบเฉยของเฉียวสือเนี่ยน เอ่ยอย่างเย
เฉียวสือเนี่ยนเข้าใจความหมายที่คุณย่าฮั่วพูด แต่เธอไม่อยากหลอกตัวเองและคนอื่น “คุณย่า ท่านไม่ต้องปลอบใจหนูหรอกค่ะ ทัศนคติของฮั่วเยี่ยนฉือหนูรู้ดี”ไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังคงเกลียดเธอ แม้จะเปลี่ยนความคิดจริง ๆ เธอก็ไม่อาจมีความคิดเพ้อฝันกับเขาได้อีกต่อไปความสัมพันธ์และสัญญาลับระหว่างเขากับป๋ายอีอี ชาต
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว! ดื่มเหล้าแล้วมันจะทำไม? เธอคิดว่าที่ตัวเองใช้โทรศัพท์แพงขนาดนั้น และสวมเสื้อผ้าดี ๆ แบบนี้ได้ เงินมาจากไหนล่ะ? เอาใจประธานเซี่ยแล้ว เธอจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในอนาคต! ”เมื่อได้ยินว่าประธานเซี่ยสองคำนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็เหลือบตาไปทางห้องที่พวกเขาเข้าไปโดยไม่รู้ตัวตอนนี้ประต
เท่าที่เฉียวสือเนี่ยนจำความได้ แม่เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองและใช้ความรู้สึกร่วมกับเหตุผล ต่อให้ในตอนนั้นแม่จะโกรธมากแค่ไหน หลังจากนั้นก็ต้องไปถามหลีพัวถิงให้ชัดเจนดังนั้น เรื่องนี้สาเหตุหลักไม่ได้มาจากการที่แม่ขอเลิกแน่ ๆอีกอย่างการที่แม่หา “คนรักเก่า” มาเป็นข้ออ้างเพื่อขอเลิก ต้องเป็นเพราะมีเหตุผลส
ผลตรวจดีเอ็นเอไม่พลิกผัน หลีซูเหยียนกับหลีพัวไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดตั้งแต่นั้นมา หลีพัวถิงก็เก็บซ่อนเรื่องนี้ไว้ในเบื้องลึกของหัวใจ ป่าวประกาศกับคนภายนอกว่าหลีซูเหยียนคือลูกสาวของเขา และเลี้ยงดูเสมือนเป็นลูกแท้ ๆ “ในเมื่อคุณเชื่อว่าแม่ฉันโกหก เด็กก็ไม่ใช่ลูกของคุณ แล้วทำไมคุณยังต้องเลี้
หลีพัวถิงพยักหน้าเล็กน้อยและจมอยู่ในความทรงจำต่อไปหนุ่มสาวมากความสามารถที่อายุน้อย แถมอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก หัวใจทั้งสองดวงจึงใกล้ชิดกันอย่างรวดเร็วหลังรู้จักกันได้ไม่นาน ในวันที่แสงแดดเจิดจ้าเช่นเดียวกัน หลีพัวถิงสารภาพรักกับเมิ่งจินเหยียนท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม และทั้งสองก็กลายเป็นคู่รักอ
แม้หลีซูเหยียนจะพูดอย่างจริงใจ แต่หลีพัวถิงก็ยังคงปฏิเสธ “ซูเหยียน ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว และทำตามที่พ่อบอก ลูกไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศซะ”เดิมทีหลีซูเหยียนคิดว่าตัวเองมั่นใจต่อข้อเสนอนี้มาก ถึงอย่างไรทางด้านคุณลุงก็พร้อมจะลงมือ แถมครั้งนี้ยังเกิดเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นลักพาตัวอีก เธอยินยอมกลายเป็นเป้
พอเฉียวสือเนี่ยนได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสับสนมึนงงเข้าไปใหญ่ สิ่งที่ฮั่วเยี่ยนฉือพูดมามันเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ?ไม่เคยมีคุณแม่แท้ ๆ ของหลีซูเหยียนอยู่ทั้งนั้น หลีซูเหยียนเข้าใจผิดไปเองว่ามารดาที่ให้กำเนิดตัวเองมีความรักลึกซึ้งกับหลีพัวถิง?คนที่หลีพัวถิงรักมาตลอดชั่วชีวิตมีเพียงคุณแม่ของเฉียวสือเนี
หลีซูเหยียนกับตระกูลรองของตระกูลหลีนั้นถือว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันในเรื่องของผลประโยชน์ พวกเขาจะไปร่วมมือกันได้อย่างไร?บางทีฮั่วเยี่ยนฉือก็อาจจะคิดถึงจุดนี้เหมือนกันเลยไม่ได้พูดอะไรแต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉียวสือเนี่ยนก็ฉุกคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่ายของคุณแม่กับคุณผู้หญิง
พูดจบ หนิงเสี่ยวเยว่ก็ตัดสายวิดีโอคอลเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกว่าหนิงเสี่ยวเยว่ดูแปลก ๆ อยู่บ้าง แต่พอคิด ๆ ดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะหล่อนใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศมานาน เลยค่อนข้างเปิดเผยความรู้สึกไปบ้างสินะเวลาล่วงเลยไปอีกสองวันวิดีโอและรูปภาพเกี่ยวกับเฉียวสือเนี่ยนและซ่งชิงชวนทั้งหลายบนอินเทอร์เน็ตนั้นค้
เฉียวสือเนี่ยนยิ้มพลางบอกว่าไม่ได้รบกวน ทั้งยังถามหนิงเสี่ยวเยว่ว่าโทรมาหาเธอมีธุระอะไรหรือเปล่าหนิงเสี่ยวเยว่ชี้แจงแถลงไขให้ฟังอย่างเก้อเขินเล็กน้อยว่า วันนี้เธอไปช็อปปิ้งที่ร้านน้ำหอมของ M•Q แล้วชอบน้ำหอมรุ่นลิมิเต็ดนั่นมาก แต่ก็ได้รับแจ้งว่าสินค้าหมดเสียแล้ว“ฉันได้ยินว่าคุณเป็นคำปรุงน้ำหอมรุ่นน
ซ่งชิงชวนแกะมือมารดาออกด้วยใบหน้าเรียบเฉยแล้วหมุนตัวจากไป คล้อยหลังเขา หลีซูเหยียนก็กอบกุมลำคอที่เจ็บระบมของตนเอง ร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางกล่าว “ป้าเซิ่ง เมื่อกี้นี้ป้าเซิ่งไม่เห็นสายตาของประธานซ่งเหรอคะ? เขาคิดจะบีบคอหนูให้ตายจริง ๆ นะคะ เขาน่ะเกลียดที่หนูลงมือกับเฉียวสือเนี่ยนชัด ๆ !”เซิ่งจวงฮุ่ยหั