"แก! นังตัวดี!""ฉันแนะนําให้คุณให้เกียรติฉันหน่อยนะ จริงสิ เมื่อกี้ตอนที่พวกคุณกรอกเหล้าฉัน ฉันได้ถือโอกาสอัดคลิปไว้แล้ว ตอนนี้คลิปอยู่กับเพื่อนร่วมหอของฉัน ถ้าหากฉันไม่ปรากฏตัวในหอพักตรงเวลา พรุ่งนี้การอัดเสียงเหล่านี้จะกลายเป็นประเด็นร้อนฮอตเซิร์ทแน่ พวกคุณทํางานหนักมาสิบกว่าปีกว่าจะประสบความสําเร็จในตอนนี้ คงไม่อยากถูกทําลายเพราะฉันหรอกนะ?"ทั้งสามคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ก็ไม่ถึงกับหวาดกลัวจนเกินไปหนึ่งในนั้นยิ้มเยาะ "วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลอง เราให้เกียรติอาจารย์ใหญ่จึงมาเข้าร่วม การดื่มฉลองเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้เรายังสามารถพูดได้ว่าเธอบอกเป็นนัยว่าให้เราสามารถลงมือกับเธอได้"อีกคนหนึ่งยิ้มและพูดว่า "เธอดูเสื้อผ้าที่เธอใส่สิ เห็นได้ชัดว่าตั้งใจมาล่อลวงเรา! คนออนไลน์ไม่ชอบดูผู้หญิงถูกรังแก สิ่งที่พวกเขาชอบดูมากที่สุดคือเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของผู้หญิงที่เต็มใจที่จะเสื่อมทรามต่างหาก”คนสุดท้ายพูดว่า "เรามีสามปาก เธอคิดว่าผู้คนบนอินเทอร์เน็ตจะเชื่อเธอที่เป็นคนที่เพิ่งมาเข้าสังคมและขายร่างกายเพื่ออนาคต หรือเชื่อว่าคนดังสามคนของเราถูกล่อลวงหลังจากดื่มเหล้ากัน? ข่มขืนยังพ
ณ โรงพยาบาลเมื่อหลินจืออี้ตื่นขึ้นมา เพราะความตกใจ ภาพตรงหน้าจึงมืดสนิท แต่เธอรู้สึกได้ว่ามีคนกําลังเดินอยู่ข้างหน้า"ใครกัน!""ใคร!"เสียงของเธอแหบแห้งและคว้าทุกอย่างที่เธอสามารถสัมผัสได้และโยนมันออกไปท่าทางบ้าคลั่งทําให้คนทั้งวอร์ดตกตะลึงได้ยินเพียงเสียงสะอึกสะอื้น ร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามา“จืออี้ จืออี้ เป็นอะไรไป? นี่แม่เองนะ!"หลิวเหอเข้าใกล้หลินจืออี้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตามือของหลินจืออี้กลับชะงักค้างกลางอากาศ ลมหายใจของเธอสั่นเทิ้ม "แม่ แม่... อยู่ที่ไหน? ทําไมฉันถึงมองไม่เห็นแม่ล่ะ?”ลูกตาของหลิ่วเหอหดเล็กลง แม้แต่ร้องไห้ก็ไม่มีเวลาไปสนใจแล้ว "จืออี้! แกอย่าทําให้แม่ตกใจนะ!”หลินจืออี้มองตําแหน่งที่ว่างเปล่าด้วยสายตาว่างเปล่า พูดเสียงสั่นว่า "แม่..."ในห้องเงียบกริบหลิวเหอระเบิดเสียงร้องไห้ พูดเสียงดังว่า "หมอ! คุณหมอ!"คนสุดท้ายที่มาคือหมอเป็นเพื่อนของกงเฉินหลังจากการตรวจสอบ สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คําพูดบางอย่างเขาไม่ได้พูดอย่างชัดเจนเขาแค่ปลอบใจว่า "ผมจะจัดการตรวจสอบบางอย่างก่อน รอรายงานออกมา เราค่อยดูกันอีกที"พูดจบก็ชําเลืองมองกง
เมื่อมองดูชายสองคนที่มันเยิ้มและหยาบคาย เธอไม่กล้าจินตนาการรถึงจุดจบของผู้หญิงที่ตกอยู่ในมือของพวกเขาหลิ่วเหอเน้นย้ำกับตํารวจว่า "เราต้องการให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด!"ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของชายทั้งสองก็ซีดลง ยิ่งขับให้รอยช้ำบนใบหน้ายิ่งเด่นชัดขึ้น ดูดุร้ายน่ากลัวแม้ว่าพวกเขาจะมีชื่อเสียงเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบกับตระกูลกงแล้วแม้แต่มดก็นับไม่ได้ แล้วจะไปสู้ได้ยังไง?พวกเขาสองคนสบตากัน กัดฟันคิดว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เลยถือโอกาสพูดว่า "คุณนายรอง เราเป็นผู้ชาย แถมยังดื่มเหล้าอีกด้วย จะทนการยั่วเย้าได้ยังไง ถึงได้ทําผิด เพื่อชื่อเสียงของทุกคน ขอให้คุณให้อภัยด้วย"หลิ่วเหอเบิกตาโพลง พูดเสียงแหลมว่า "ยั่วเย้าเหรอ? แกกําลังจะบอกว่าลูกสาวฉันไปล่อลวงพวกแกทั้งสามเหรอ?”ผู้ชายสองคนพยักหน้าอย่างลําบากใจ "เป็นความคิดของคุณหลินจริงๆ ไม่อย่างนั้นเราจะกล้าได้ยังไง?"เพื่อรักษาชื่อเสียงของตัวเอง ทั้งสองได้โยนความผิดทั้งหมดใส่หลินจืออี้พวกเขาไม่ได้ขอโทษแต่กลับมาสร้างข่าวลือให้ผู้หญิงคนหนึ่งแทนเช่นเดียวกับคําพูดตอนที่พวกเขาจับหลินจืออี้ไว้ในห้องส่วนตัว การข่มขืนในโลกนี้ล้วนเป็นความผิดของผู้หญิงทั้ง
ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร?หลินจืออี้ยิ้มเยาะ หลุบตาลงพูดว่า "คุณตํารวจ พวกคุณก็ได้ยินแล้ว พวกเขาไม่ยอมรับทุกอย่างที่ทําไป นอกจากนี้คุณซ่งก็เป็นพยานแทนพวกเขาด้วย ฉันในฐานะผู้ร้องเรียนขอให้พวกเขาสามคนแสดงหลักฐานออกมา เพื่อโต้แย้งหลักฐานที่ฉันให้ไว้""ใช่แล้ว โดยเฉพาะหลักฐานที่ทั้งสองคนพูดว่าฉันล่อลวงและยั่วยุ""แล้วก็... คุณซ่งให้คํามั่นสัญญาอย่างหนักแน่นว่าฉันจะใช้ทางลัดเพื่อขึ้นครองตําแหน่ง”"พวกคุณเป็นตํารวจ จัดการคดีล้วนต้องเปิดเครื่องบันทึกคดี ตอนนี้พวกเขาสามคนคงเปลี่ยนคําพูดไม่ได้แล้วมั้ง?"พูดจบ ทั้งสามคนก็ตกตะลึงจนตาค้างโดยเฉพาะซ่งหว่านชิว สายตาที่ภาคภูมิใจของเธอเปลี่ยนเป็นตกตะลึงทันทีเดิมทีเธอนั่งนิ่งๆ สบายๆ ไม่ต้องทําอะไรอยู่แล้ว แต่เธอคิดว่าตัวเองฉลาดตอนนี้อย่าคิดจะหนีแม้แต่คนเดียวตํารวจพยักหน้าและพูดว่า "เครื่องบันทึกคดีเปิดอยู่เสมอและสิ่งที่พวกเขาพูดก็ถูกบันทึกไว้แล้ว คุณมีหลักฐานใดๆ ที่จะพิสูจน์สิ่งที่คุณพูดหรือเปล่า?"ซ่งหว่านชิวหาไฟใส่ตัวแท้ๆ ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงได้สติ เธอหันตัวกลับไปนั่งข้างกงเฉิน เอ่ยด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า "คุณชายสาม ฉันแค่อยากช่วยตระกูลกงให้จัดการเ
เธอเช็ดน้ำตาพลางขยับตัวไปพิงกงเฉิน สายตาที่จ้องมองทั้งสองกลับแฝงแววเตือนดูให้ชัดๆว่าเธอเป็นผู้หญิงของใครแล้วค่อยพูดจา!ทั้งสองหายใจติดขัดและอดคิดถึงเพื่อนอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่ได้พวกเขายอมตายดีกว่าไปล่วงเกินกงเฉิน ไม่อย่างนั้นชีวิตต้องแย่ยิ่งกว่าตายแน่ๆทั้งสองทําได้แค่ก้มหัวขอโทษ "ขอโทษครับ! คุณหลิน เราดื่มมากเกินไปจนหื่นกามเอง พวกเราผิดไปแล้ว โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ!""ไม่ปล่อย" หลินจืออี้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "วันนี้ปล่อยพวกแกไป พวกแกก็จะนึกว่าโชคดี ต่อไปก็ไม่รู้ว่าใครจะประสบความหายนะอีก ทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้เป็นพวกแกเป็นคนตัวเอง คําพูดของใครก็ฟังไปหมด ถือว่าสมน้ำหน้าพวกแกแล้ว"การเยาะเย้ยถากถางนี้ทําให้ซ่งหว่านชิวโกรธจนหน้าจะเกร็งอยู่แล้ว แต่เธอกล้าแค่โกรธแต่ไม่กล้าพูดอีกสองคนไม่เต็มใจที่จะถูกทําลายเช่นนี้และรีบวิ่งไปหาหลินจืออี้เพื่อขอความเมตตาโดยไม่คํานึงถึงการขัดขวางของตํารวจ"คุณหลิน..."แต่ทั้งสองคิดไม่ถึงเลยว่า คําพูดขอความเมตตายังไม่ทันพูด หลินจืออี้ก็ทําตัวเหมือนคนบ้าแล้ว"กรี๊ด! น่ากลัวจัง! น่ากลัวจังเลย! อย่าเข้ามา อย่าเข้ามาใกล้ฉัน”เธอคว้าเอาน้ำเดือด
แก้มของซ่งหว่านชิวยิ่งแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้าก็ไม่กล้าไหลลงมาแต่เธอไม่กล้าโกรธ พยายามเค้นสายตาคับอกคับใจออกมา ยื่นมือไปดึงกงเฉินกงเฉินยกมือขึ้นจัดแขนเสื้อ หลบมือของเธออย่างไม่ใส่ใจ"คุณชายสาม ฉันเป็นว่าที่ภรรยาของคุณนะ" ซ่งหว่านชิวกล่าวด้วยดวงตาแดงก่ำกงเฉินชําเลืองตามองเธอแวบหนึ่ง เอ่ยเสียงเรียบว่า "อืม ก็แค่ว่าที่"สีหน้าของซ่งหว่านชิวเปลี่ยนไปทันทีและยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเขาก้มตัวลงเล็กน้อย "เธอยังเป็นแค่คนนอก แต่หลินจืออี้เป็นคุณหนูรองของตระกูลกงตามกฎหมาย ไม่ว่าจะแย่แค่ไหน ก็ไม่มีทางที่คนนอกจะรังแกได้ ส่วนเรื่องระหว่างเรา เธอและฉันรู้ดีอยู่แก่ใจ”พูดจบ กงเฉินก็ยัดกระดาษหมายเลขใส่มือซ่งหว่านชิว แล้วหันหลังเดินจากไปดวงตาของซ่งหว่านชิวเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เธอลุกขึ้นหมายจะขวางกงเฉินอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ถูกเฉินจิ่นยกมือขึ้นเพื่อปิดกั้นเธอ"คุณซ่ง เชิญนั่งครับ""คุณชายสาม...คุณชายสาม..."ซ่งหว่านชิวไม่สามารถผลักเฉินจิ่นออกไปได้ ได้แต่กัดฟันกลับไปนั่งที่เก้าอี้เธอก้มหัวลงและพบว่ากระดาษหมายเลขนั้นว่างเปล่า!ทำให้เธอต้องมาฝืนทนทรมานอยู่ที่นี่แบบนี้!ซ่งหว่านชิวไม่สามารถควบค
เธอไม่โทษเฉินซู่หลานหรอก"พี่ใหญ่ ช่วงนี้อากาศค่อนข้างแปรปรวน คุณนายใหญ่สุขภาพไม่ดีมาตลอด พี่รีบกลับไปดูเถอะ"หลินจืออี้คิดเหตุผลไว้เรียบร้อยแล้วด้วยซ้ำกงเยี่ยนมองเธอ ยิ้มเจื่อนๆ "งั้นฉันไปก่อนนะ""บ๊าย บายค่ะพี่"หลังจากส่งกงเยี่ยนไปแล้ว หลินจืออี้ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นที่โชยเข้ามาในปากตัวเองเหล้าในชั่วข้ามคืนผสมกับบัวลอยไส้เหล้า พอสะอึกทีก็เกือบจะทำให้เธออ้วกออกมาแม้ว่าบนตัวจะเปลี่ยนเป็นชุดผู้ป่วยแล้ว แต่กลิ่นของซุปและน้ำบนโต๊ะอาหารก็เหม็นมากเมื่อเวลาผ่านไปโชคดีที่เธอเคยมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้มาก่อนและเข้าใจรูปแบบในห้องเป็นอย่างดีหลินจืออี้ค่อยๆ ลงจากเตียง เดินไปข้างหน้าสองก้าวก็คลําถึงประตูตู้ เปิดตู้ออกก็เจอเสื้อผ้าที่หลิ่วเหอนํามาให้เธอจากนั้นก็เดินตามตู้เข้าไปในห้องน้ำอีกเธอเปิดฝักบัว ลูบผม ก้มตัวลงเตรียมสระผมก่อนแต่มันไม่สะดวกสําหรับเธอตอนที่เธอเอื้อมมือไปสัมผัสฝักบัว แขนข้างหนึ่งก็ทะลุผ่านด้านหลังของเธอ และหยิบฝักบัวให้เธอหลินจืออี้ยืดตัวตรงอย่างตื่นตัว เพราะความตึงเครียด ศีรษะจึงกำลังจะกระแทกเข้ากับอ่างล้างมือ แต่สุดท้ายเธอกลับกระแทกเข้ากับหลังมือที่อบอุ่นเท
ผมยาวของหลินจืออี้ถูกดันไปด้านหลังหน้าผากอย่างยุ่งเหยิง ใบหน้าเปื้อนน้ำ ขาวๆ ซีดๆ ริมฝีปากสีชมพูที่ปกคลุมด้วยไอน้ำเหมือนองุ่นที่เพิ่งถูกล้างสะอาดหยดน้ำไหลลงมาตามกระแส ทําให้ชุดผู้ป่วยของเธอเปียกชุดผู้ป่วยลายทางสีฟ้าและสีขาวแนบแน่นกับผิวของเธอในสถานที่ที่เธอไม่สามารถมองเห็นได้เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่สวยงามและความอวบอิ่มภายใต้ชุดชั้นในที่มีสีผิวอ่อนหลินจืออี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แค่รู้สึกว่าลมหายใจของชายตรงหน้าหนักขึ้นเธอถอยหลัง เขาก็เข้ามาใกล้สุดท้ายเธอก็ไม่มีทางถอยแล้วเขาอยู่ตรงหน้า สายตาที่เผด็จการอย่างไม่ปิดบัง ราวกับสัตว์ป่ากําลังมองเหยื่ออยู่เขายกมือขึ้น หลินจืออี้หยุดหายใจ กําแหวนในมือแน่นทันใดนั้น ผ้าขนหนูแห้งๆ ผืนหนึ่งก็ตกลงบนศีรษะของเธอ"ไปแล้ว" เสียงของเขาแหบแห้งจนไม่เป็นสําเนียง"อาเล็ก แหวนของอา"หลินจืออี้หยิบแหวนออกมากงเฉินกุมมือของเธอไว้ แล้วยืมมือของเธอสอดแหวนเข้าไปในนิ้วหัวแม่มือของเขาหลินจืออี้ไม่เข้าใจว่านี่หมายความว่าอะไร แค่รู้สึกว่ามีลมพัดผ่านตรงหน้า จากนั้นเสียงปิดประตูก็ดังขึ้นเธอไม่ได้คิดอะไรมาก คลําเข้าไปในห้องอาบน้ำ เมื่อยกมือขึ
หลินจืออี้ตกใจเล็กน้อยและมองไปที่กงสือเหยียนด้วยความประหลาดใจ ”คุณอา ทําไมคุณอาถึงทําแบบนี้คะ?”กงสือเหยียนยิ้มอย่างกว้างๆ "คุณท่านมีความคับข้องใจต่อเธอเสมอ ถ้าเขารู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเธอ เขาจะโกรธมากขึ้น ""คุณอา ฉันขอโทษนะคะ" หลินจืออี้ตําหนิตัวเอง"ไม่เป็นไร อย่าเก็บมาใส่ใจเลย" กงสือเหยียนลูบหัวเธอหลิ่วเหอกวักมือเรียก "ที่รักคะ เมื่อกี้ฉันยังกินไม่อิ่ม เราไปดูที่ห้องครัวกันดีกว่าว่ายังมีอะไรกินอีกไหมกันดีกว่า""ไปสิ"สองสามีภรรยาจูงมือเดินออกไปหลินจืออี้รู้สึกอบอ้าวเล็กน้อย จึงไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ก็ปรากฏร่างสีดําขึ้นด้านหน้าเป็นกงเฉินเขายืนสูบบุหรี่อยู่ข้างสระ นิ้วมือเรียวยาวเหมือนหยกท่ามกลางแสงไฟแสงแดดส่องกระทบผิวทะเลสาบ น้ำในทะเลสาบเปล่งประกายสีทอง สะท้อนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาด้วยแสงจางๆสายลมเย็นพัดผ่านใบหน้า เป่าผมที่หน้าผาก เผยให้เห็นดวงตาลึกล้ำดุจหมึกหลินจืออี้บีบมือ รู้สึกว่าจําเป็นต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้กับโรงพยาบาลให้ชัดเจนเพิ่งเดินไปได้สองก้าว เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของกงเฉินก็ขัดจังหวะฝีเท้าของเธอกงเฉิน
ฉันสนใจแต่ผลลัพธ์เท่านั้น น้ำเสียงของกงเฉินเหมือนกําลังพูดกับลูกน้อง "จะจัดการกับผลลัพธ์ยังไง ให้ฉันสอนเธอไหม?"ความสุขของซ่งหว่านชิวยังไม่จางหายไปจากใบหน้า แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พยักหน้าอย่างแข็งกระด้าง "ฉัน ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะขอโทษและชดเชยให้ค่ะ""อืม"กงเฉินรับคําแล้วหันหลังเดินจากไปร่างกายของซ่งหว่านชิวอ่อนปวกเปียก ล้มไปข้างหลัง โชคดีที่ฉินซวงประคองเธอไว้"หว่านชิว เธอเกิดเรื่องไม่ได้ คุณชายสามไม่ได้ตัดขาดความสัมพันธ์ ทุกอย่างยังมีโอกาส""เขาไม่ได้ตัดขาดความสัมพันธ์ก็จริง แต่เขาไม่สนใจฉันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว""แล้วยังไงล่ะ? เขารับปากว่าจะแต่งงานกับเธอก็ได้แล้ว ถึงเวลานั้นเธอก็สามารถจัดการผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาได้อย่างชอบธรรมแล้ว ถึงเวลานั้น หลินจืออี้จะต้องตายยังไง้ที่กลบฝังอย่างแน่นอน!"ฉินซวงกุมคอที่มีเลือดออก กัดฟันด้วยความโกรธซ่งหว่านชิวพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา "หลินจืออี้ เราจะได้เห็นดีกันแน่"ในเวลานี้ แม่บ้านเดินผ่านมาเห็นทั้งคู่ก็แอบหัวเราะกันทั้งสองได้แต่รีบๆ จากไป……กลับไปถึงเรือนหลิ่วเหอก็รีบให้คนชงชาให้เธอหนึ่งกาทันที ก่อนจะดื่มไปถึงครึ่งกาถ
เหอะ ยังบริสุทธิ์อยู่เหรอ?"คุณหนูซ่ง หลังจากแจ้งความแล้ว คุณจะบอกตํารวจยังไงล่ะ? บอกว่าฉันถูกกระตุ้นให้เป็นบ้าและเกือบจะฆ่าคุณนายซ่ง? แล้วฉันถูกกระตุ้นได้ยังไง? โดนใครกระตุ้นล่ะ?"เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนจึงมองไปที่คุณท่านกงอย่างระมัดระวังไม่ใช่ว่าคุณท่านกงตําหนิกงสือเหยียนและหลิ่วเหอต่อหน้าสาธารณชนเพื่อแม่ลูกตระกูลซ่งหรอกหรือ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หลินจืออี้เป็นบ้าน่ะ?ซ่งหว่านชิวตกตะลึงเพิ่งเข้าใจว่าตั้งแต่การโทรครั้งนั้น หลินจืออี้ก็วางแผนไว้แล้วเมื่อกี้พวกเขาทั้งครอบครัวทำตัวน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะรอคุณท่านกงเอ่ยปากเท่านั้น!แล้วเธอแจ้งความจะมีความหมายอะไร?ให้เธอเป็นพยานชี้ความผิดคุณท่านกงหรือ?"พอแล้ว!" คุณท่านกงตําหนิอย่างเคร่งขรึม "พวกเจ้าสองแม่ลูกดื่มมากเกินไปแล้ว ดื่มจนเมาจนเป็นแบบนี้ รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ""คุณท่าน..."ซ่งหว่านชิวมองคุณท่านกงอย่างไม่อยากจะเชื่อคุณท่านกงเรียกแม่บ้านมาและส่งกล่องที่บรรจุดาบกลับไป"ดาบนี้ไม่เหมาะกับฉัน พวกเธอเอากลับไปเถอะ ใครก็ได้ ส่งแขก”ซ่งหว่านชิวและฉินซวงรู้สึกไม่ยอม ยังอยากจะช่วงชิงอีกประโยคต่อไปของคุณท่านกงตัดความคิดของพว
ซ่งหว่านชิวกัดฟันและปฏิเสธที่จะพูดใบมีดนั้นกรีดลงบนผิวของฉินซวงโดยตรงฉินซวงกรีดร้อง "หว่านชิว! ช่วยแม่ด้วย! เธอบ้าไปแล้ว!”ซ่งหว่านชิวกัดริมฝีปาก ร้องไห้และเปลี่ยนเรื่อง "หลินจืออี้ เธออย่าทําแบบนี้เลย ฉันรู้ว่าความจริงมันยากสําหรับเธอที่จะยอมรับ แต่แม่ของฉันเป็นผู้บริสุทธิ์นะ"แก้มของเธอแดงก่ำและร้องไห้อย่างเสียใจแต่ก็ไม่ยอมรับผิดแทนแม่เห็นได้ชัดว่าเธอเสแสร้งแค่ไหนทุกคนรู้จักซ่งหว่านชิวมานานกว่าสามปีแล้ว และได้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเธอ พวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดีในเวลานี้ คุณท่านกงพูดเสียงดังขึ้นมา"หลินจืออี้ เธอบ้าไปแล้วเหรอ? ปล่อยคุณนายซ่งไป เธอคิดว่าแค่ทําเทปบันทึกเสียงปลอมก็สามารถหลอกลวงทุกคนได้หรือ?”คําพูดเหล่านี้ไม่ได้ทําร้ายจิตใจของหลินจืออี้ แต่เป็นกงสือเหยียนเขาอายุปูนนี้แล้ว เมื่อได้ยินว่าพ่อยอมเชื่อคนอื่นมากกว่าเชื่อทุกอย่างที่ตัวเองได้รับ ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีคล้ำทันที"พ่อ! นี่เป็นเรื่องจริงทั้งหมด!”"หุบปาก! ทำตัวเหมือนอะไรกัน! ให้หลินจืออี้ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!" คุณท่านกงไม่ฟังเขาพูดอะไรเลยหลินจืออี้ยิ้มหยัน "หึ คุณท่าน ไม่เชื่อขนาดนี้เลยหรือ
เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนอยากอาเจียนออกมา แต่ก็อาเจียนไม่ออกหลินจืออี้พูดเสียงดังว่า "ฉันให้พวกเธอสองคนพูดจาเหลวไหล! ชอบอาหารเหลือและข้าวบูดไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวฉันป้อนให้พวกเธอเอง!”กิริยาของเธอเร็วมาก คว้าเอาน้ำที่ผู้อาวุโสคนหนึ่งแช่ฟันปลอมแล้วสาดใส่ปากฉินซวงที่กรีดร้องไม่หยุดทันทีเสียงร้องนี้ยิ่งโหยหวนมากขึ้นผู้อาวุโสคนนั้นรีบลุกขึ้นและกวักมือพูดอย่างตะกุกตะกัก "เฮ้ย เฮ้ย อย่ากลืนฟันปลอมของฉันนะ!"หลินจืออี้ถลึงตาใส่เขา เขาถึงได้สติ สาดใส่พวกเธอแล้วก็สาดใส่ฉันไม่ได้สินะคุณท่านกงเคยเห็นฉากแบบนี้ที่ไหนกัน ตกใจอยู่นาน ถึงได้พูดอย่างโมโหว่า "หลินจืออี้! เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”หลินจืออี้ยืนอยู่บนโต๊ะ มองคุณท่านกงจากที่สูง แล้วตะโกนด้วยน้ำเสียงที่โกรธยิ่งกว่าเขา "ทําไมคุณท่านถึงด่าคุณอาโดยไม่ถามเหตุผลเลย? หลายปีมานี้ คุณท่านด่าเขาโดยไม่คํานึงถึงกาลเทศะเลย ว่าเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้! คุณท่านเคยคิดบ้างไหมว่าทัศนคติของคุณท่านเป็นตัวกําหนดทัศนคติของคนอื่นที่มีต่อเขา?”"ที่พูดเพราะเขาเป็นคุณชายรองตระกูลกง แต่ข้างนอกใครๆ ก็เหยียบหัวเขาได้ แม้กระทั่งแม่ลูกคู่นี้ก็ยังกล้าเหยียบย่ำศักดิ์ศรีขอ
ฉินซวงอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุด มันกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนและมองไปที่กงสือเหยียนและหลิ่วเหอหลิ่วเหอหน้าซีดเผือด ขับให้ริมฝีปากแดงก่ำผิดปกติเมื่อกงสือเหยียนจับมือของเธอไว้ ใบหน้าที่ซื่อสัตย์ของเขาก็ดูน่าอายเล็กน้อยเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างมาก แต่เมื่อวานเขาเมาจนไม่ได้สติ เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นล้วนเป็นหลิ่วเหอบรรยายไม่มีหลักฐาน ไม่มีพยาน พูดออกมาก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดีในเวลานี้ หลินจืออี้มองไปที่เขา ส่งสายตาเป็นสัญญาณกงสือเหยียน ตอบกลับด้วยเสียงเบาๆว่า "ไม่เป็นไรครับ""งั้นก็ดีแล้ว ไม่งั้นฉันคงรู้สึกผิดจริงๆ แล้วล่ะค่ะ" ฉินซวงตบหน้าอกอย่างเอาจริงเอาจังได้ยินดังนั้น คุณท่านกงก็ขมวดคิ้วถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"ฉินซวงทําหน้าลําบากใจ "ได้ยินว่าคุณชายรองมีลูกค้าที่อยากร่วมงานด้วยมาตลอด ฉันก็เลยออกมาเชิญทั้งสองฝ่ายมาทานข้าวด้วยกัน ใครจะรู้ว่าคุณชายรองกับคุณนายรองดื่มกันเพลินเกินไป ฉันก็เลยทําได้แค่ส่งลูกค้าออกไปก่อน""นึกไม่ถึงว่าคุณนายรองพาคุณชายรองตกลงไปในห้องทิ้งขยะของห้องครัวด้านหลัง ได้ยินว่าสถานที่แบบนั้นเต็มไปด้วยยุงและแมลงวัน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่
กงเฉินเงยหน้าขึ้นอย่างสบายๆ แม้ว่าจะดูเหมือนไม่แยแส แต่ความแข็งแกร่งและการครอบครองในดวงตากลับไม่ปิดบังเลยสักนิดหลินจืออี้สวมชุดกระโปรงสีแดง สวมเข็มขัดสีน้ำตาล ผิวพรรณเนียนละเอียด รูปร่างสมส่วนลําคอที่ขาวเนียนมีสร้อยแพลตตินั่มที่ละเอียดอ่อนและเพรียวบาง แสงที่จางๆ ดูคล้ายเปล่งออกมาจากผิวหนังดึงดูดสายตาของผู้คนทันทีคุณนายซ่ง ฉินซวงหลังจากสังเกตเห็นสายตาของกงเฉินแล้ว เธอก็วางถ้วยชาลงอย่างแรงเล็กน้อย และดึงดูดความสนใจของทุกคนด้วยเสียงเอี๊ยดฉินซวงรวบผ้าคลุมไหล่ลายสก็อตผ้าไหมแท้บนไหล่ เอียงหน้ามองหลิ่วเหอพลางยิ้มอย่างสง่างาม แต่ดวงตาเรียวยาวกลับฉายแววเยาะเย้ย"คุณนายรอง ลําบากคุณจริงๆ ต้อนรับพวกเราอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่ได้รบกวนการพักผ่อนของพวกคุณเมื่อคืนใช่ไหมคะ?"พอพูดถึงเมื่อคืน หลิ่วเหอก็ตัวสั่นเล็กน้อย รู้สึกทนไม่ไหว กําลังจะพูดอะไรบางอย่างก็ถูกหลินจืออี้ดึงไว้หลินจืออี้ยิ้มกว้างรับสายตาอาฆาตแค้นของฉินซวง"คุณนายซ่งและคุณหนูซ่งต่างก็แต่งตัวอลังการแบบนี้ ตระกูลกงของเราก็ต้องแต่งตัวอลังการเหมือนกันสิคะ ถึงยังไงตระกูลกงของเราก็ให้ความสําคัญกับวิธีการต้อนรับแขกมาก ไม่อย่างน
หลินจืออี้ไม่สนใจคําถามของหลี่ฮวนและอธิบายจุดประสงค์ของการมาโดยตรงใบหน้าของหลี่ฮวนเต็มไปด้วยความประหลาดใจและเป็นใบ้ไปทันทีผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงพูดอย่างลังเลว่า "เธอแน่ใจหรือ?""อืม""ได้"หลินจืออี้ได้ของที่ตัวเองต้องการแล้วก็ไปแล้วหลี่ฮวนปิดประตูและโทรหากงเฉินทันที"กงเฉิน หลินจืออี้มาหาฉัน""อืม" กงเฉินตอบเบาๆหลี่ฮวนอึ้งไป "นายเดาออกตั้งนานแล้วเหรอ?""อืม""เฮอะ" หลี่ฮวนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ หมุนปากกาเซ็นชื่อ แล้วพูดอย่างสบายๆ ว่า"หลานสาวตัวน้อยของนายต่อกรกับนายไม่ไหว แต่นายไม่กลัวเธอจะทําเรื่องวุ่นวายหรือ?""ไม่เป็นไร"อารมณ์ของกงเฉินนั้นสบายมาก จนฟังดูแล้วรู้สึกเหมือนอยากจะสนับสนุนคนอื่นหลี่ฮวนเบ้ปาก "ได้ๆ หลานสาวบ้านใครบ้านใครดูแล แต่นายก็ไม่ควรขายฉันนะ?""ขายอะไรกัน?""นายบอกเธอว่าฉันชื่อหลี่ฮวนฮวนใช่ไหม? น่าโมโหชะมัดเลย!”"ฉันไม่ได้พูด" กงเฉินเก็บลมหายใจปากกาในมือของหลี่ฮวนตกลงบนพื้นทันที และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วเขามองไปรอบๆ และพูดว่า "ฉันจะบอกให้นะ พรุ่งนี้ฉันวางแผนที่จะไปไหว้พระกับแม่ฉันบนภูเขาสักหน่อย!""นายเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?"“
หลินจืออี้หันตัวกลับไป ก็สบเข้ากับดวงตาที่เย็นชาของกงเฉิน“ห้ามแจ้งความ”น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยพลังที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ดวงตาสีดําภายใต้แสงไฟสะท้อนให้เห็นถึงใบหน้าที่หล่อเหลาและอันตรายของเขา เย็นชาและดุดันหลินจืออี้กําหมัดทั้งสองข้าง ไหล่สั่นเทิ้ม ใบหน้าขาวซีดจนเขียวคล้ำ ใช้แรงทั้งหมดที่มีเค้นถามประโยคนั้นออกมา "ทําไม? เพียงเพราะเป็นคนของตระกูลซ่ง? เราก็สมควรแล้วหรือ?"“ทําไมคนที่เสียสละหลังจากเกิดเรื่องถึงต้องเป็นฉันเสมอ?”"หนึ่งครั้ง สองครั้ง..."กงเฉินเงียบและสายตาของเขาก็สงบมากหลินจืออี้กลับเหมือนคนบ้าที่บ้าคลั่ง เธอก้มหน้าลง จ้องไปที่ปลายรองเท้าของเธอทั้งสองรองเท้ากีฬาคู่หนึ่งและรองเท้าหนังแฮนด์เมดชั้นยอดคู่หนึ่ง มันถูกกําหนดไว้แล้วว่าพวกเขาไม่ควรมีปฏิสัมพันธ์กันเธอยิ้มเยาะตัวเอง หัวเราะตัวเองที่เอาไข่ไปกระทบหิน ไม่เจียมตัวเอาซะเลย"ได้ ไม่แจ้งความ หวังว่าอาเล็กจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจในวันนี้ตลอดไป”เธอคว้าโทรศัพท์มือถือของเธอกลับมาและเดินเข้าไปในวอร์ด จากนั้นปิดประตูอย่างแรงหลินจืออี้ที่เห็นเฉินจิ่นจากไป ขมวดคิ้วเดินไปข้างหน้า "คุณชายสาม จะอธิบายให้คุณหลินฟ