ความใจเย็นของหลินจืออี้เหนือเกินกว่าความคาดหมายของทุกคนนี่คือคนที่ไร้อำนาจที่สุดในตระกูลกง แต่กลับไม่ขี้ขลาด และไม่ก้มหน้าก้มตาพูดอีกต่อไปเธอยืนอยู่บนแท่นเวที ยืนหยัดเพื่อตัวเองสายตาของเธอใสสะอาดและแน่วแน่ กวาดมองใบหน้าราบเรียบแฝงอันตรายของกงเฉิน ไร้ซึ่งท่าทีถดถอยครั้นเห็นสถานการณ์พลิกผัน กล้องทั้งหมดจึงจ่อไปที่นักข่าวเฉินและซ่งหว่านชิวแทนนักข่าวเฉินที่ไม่แน่ใจ เผลอมองซ่งหว่านชิวอย่างลืมตัวซ่งหว่านชิวขมวดคิ้ว ส่งสายตาตอบทันทีนักข่าวเฉินโต้เสียงดังลั่น “คุณหลิน แค่เพราะผมถามคำถามไม่กี่ข้อ คุณจะมาสาดสีใส่ฉันกับคุณหนูซ่งแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?”ซ่งหว่านชิวดวงตาแดงก่ำ “จืออี้ ฉันรู้ว่าการที่โรงเรียนแย่งโควตาการแข่งมาให้ฉันทำให้เธอโกรธมาก ฉันก็แค่อยากได้คำขอโทษคำเดียวเท่านั้น ฉันคุยและอธิบายกับตำรวจหมดแล้ว ถ้าเธอดึงดันจะทำแบบนี้ งั้นฉันจะถอยเอง ฉันขอแค่เธอหยุดก่อเรื่อง แบบนี้จะทำให้ตระกูลกงกับนายท่านสามลำบากใจมาก”ถอยเพื่อให้ได้เข้าใกล้ คือวิธีการที่ซ่งหว่านชิวใช้บ่อยที่สุดประกอบกับดวงหน้ารูปไข่สวยงามอ่อนโยนแล้ว มักกระตุ้นให้อยากปกป้องได้อยู่เสมอผู้นรอบด้านเริ่มมองซ่งหว่านชิ
กระนั้น สายตาสงสัยของฝูงชนรอบด้านแทบทำเอาซ่งหว่านชิวรู้สึกจมน้ำ ถ้าเธอไม่ให้เหตุผลสักข้อ ภาพลักษณ์ที่เธอรักษามาต้องจบสิ้นแน่ซ่งหว่านชิวเม้มปาก แววตาหม่นแสงลง ก่อนเอ่ยโน้มน้าว “จืออี้ เธอลืมเรื่องหนึ่งไปแล้วเหรอ ที่เราคุยกันตอนนี้คือเรื่องที่เธอยุงยงคนอื่นมาทำร้ายฉัน ฉันให้โอกาสเธอมายืนขอโทษตรงนี้ ก็เพื่อปรับความเช้าใจกัน ปรับความเข้าใจคนดีกันแล้วเธอถึงจะไม่เป็นไร”แสร้งน้อยใจไม่ได้ ตอนนี้เริ่มข่มขู่แล้วสินะแต่น่าเสียดายที่เธอพลาดอีกครั้งหลินจืออี้มองตำรวจหญิง ตำรวจหญิงเอ่ยอย่างเข้มงวด “คุณหนูซ่ง เราตรวจสอบชายที่วางแผนทำร้ายคุณแล้ว เขาไม่เคยมีประวัติอาชญากรแม้แต่น้อย แค่ต้องการเงินไปรักษาลูกสาวเท่านั้น ฉันตรวจสอบบัญชีเขาแล้ว จำนวนเงินที่สอดคล้องกับค่าธรรมเนียมการผ่าตัดถูกหักจากบัญชีต่างประเทศ การตรวจสอบว่าบัญชีนั้นเป็นของใครติดปัญหาเดียวคือเวลา แต่เราสามารถบอกทุกท่านได้ชัดเจนว่า ภายใต้ชื่อคุณหลินไม่มีบัญชีต่างประเทศใดๆทั้งสิ้น”“ดังนั้น คุณหลินจึงเป็นฝ่ายถูกใส่ร้าย”ครั้นประโยคนี้ดังขึ้น ซ่งหว่านชิวก็หมดคำพูดต่อ ทำได้เพียงกัดปากแน่นสุดท้าย เธอกันมองจ้าวเฉิงอย่างไม่พอใจจ้า
“คุณท่านกง”“เขาเชื่อมั่นว่าฉันบริสุทธิ์ ถึงได้เตรียมงานแถลงให้ฉัน”“แม้ว่าฉันจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับตระกูลกง แต่ตระกูลกงปฏิบัติติกับฉัน...เหมือนลูกหลาน ไม่มีวันทำร้ายฉัน”“ขอบคุณ ขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง”หลินจืออี้โค้งคำนับให้คุณท่านกงต่อให้คุณท่านกงโกรธแต่ก็ต้องเป็นใบ้ไปชั่วขณะ ทำได้เพียงพยักหน้ายิ้มให้เหล่าผู้คนแต่ต้องพูดว่าการทำแบบนี้ ถือเป็นการแก้วิกฤติข้อครหาให้ตระกูลกงได้เร็วที่สุดแล้วงานแถลงจบลงหลินจืออี้เดินเร็วตามร่างตำรวจหญิง ก่อนกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหาหลักฐานจ้าวเฉิงเจอ ฉันคง...”ตำรวจหญิงให้เพื่อนร่วมงานพาคนขึ้นรถไปก่อน แล้วมองหลินจืออี้ด้วยความลำบากใจ“ไม่ใช่ฉันหรอก แต่เป็นความคิดของนายท่านสาม เด็กผู้หญิงพวกนั้นนายท่านสามเป็นคนหาเองหมด เขาใช้เวลาหนึ่งคืน ก่อนหน้านี้ที่เราตามหาพวกเธอ ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องตระกูลจ้าวทั้งนั้น”“คุณว่าไงนะ?” หลินจืออี้ตกตะลึงจนแทบลืมหายใจ“ที่จ้าวเฉิงถูกจับกุมตัวในวันนี้ ถูกตัดสินลงโทษไม่มีทางรอด ครั้งนี้ตระกูลจ้าวก็ช่วยคุ้มหัวเขาไม่ได้แล้วเหมือนกัน”น้ำเสียงตำรวจหญิงแฝงความหมายล้ำลึกเธออยากบอกว่าจ
ซ่งหว่านชิวหน้าซีด ยามกงเฉินยกมือขึ้น เธอชิงฉกแฟลชไดร์ฟในมือไปก่อน จากนั้นไม่ระวังทำร่วงลงพื้น สุดท้ายโดนรองเท้าส้นสูงเหยียบใส่จนแหลกเธอทำหน้ารู้สึกผิด “ขอโทษค่ะ นายท่านสาม ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่จะเอามาให้คุณแทนเท่านั้น”หลินจืออี้มองแฟลชไดร์ฟที่แหลกละเอียด ก่อนหันกายกลับกงเฉินจะดูเนื้อหาหรือไม่ไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งสำคัญคือซ่งหว่านชิวกินปูนร้อนท้องซึ่งทุกคนได้เห็นแล้ว เท่านี้ก็เพียงพอแล้วเมื่อเดินออกมาจากห้องโถง หลิวเหอก็เดินตามออกมา“แกบ้าไปแล้วเหรอ ถึงเอาหลักฐานให้ซ่งหว่านชิว”“แม่ คิดจริงๆเหรอว่าเราจะปกป้องหลักฐานได้จริง?” หลินจืออี้ถามกลับ“เมื่อกี้แกเล่นวิดีโอเปิดเสียงก็ได้แล้วนี่ ถึงเวลานั้นทุกคนย่อมได้รู้ถึงหน้าตาแท้จริงของซ่งหว่านชิว”“แม่ไม่อยากมีชีวิตอยู่กับคุณอาในตระกูลกงแล้วเหรอ? คิดว่านายท่านสามจะปล่อยเราไปเหรอ?”หลิ่วเหอดูถูกความรักที่กงเฉินมีต่อซ่งหว่านชิวน้อยไปแล้วชาติก่อนเธอก็ตายด้วยฝีมือของความรักนี่แหละกงเฉินปกป้องซ่งหว่านชิวต่อหน้าคุณท่านกงยังทำได้ ทำไมจะต้องปล่อยให้พวกเธอสองแม่แกทำลายภาพพจน์ซ่งหว่านชิวด้วย?พวกเธอหาเรื่องกงเฉินไม่ได้หรอกหลิ่วเห
ตอนหลินจืออี้ตื่นขึ้นอีกครั้ง เจ้าตัวก็อยู่โรงพยาบาลแล้วแม้ดวงตากำลังขยับ แต่สติกลับยังเลือนราง เธอได้ยินเสียงพูดดังขึ้นข้างๆเตียง“เป็นไงบ้าง?”เสียงทุ้มต่ำ ทั้งคุ้นเคยแต่แฝงเร้นด้วยอันตรายเช่นกัน“นายท่านสาม ไม่เป็นไรแล้ว ฉันขอใช้อาชีพตัวเองเป็นประกัน ว่ามือของคุณหลินต้องหายดีแน่นอน”มือ?เมื่อได้ยินคำนี้ หลินจืออี้ค่อยๆตื่นขึ้น สายตาจดจ้องไปยังป้ายบนอกเสื้อขาวที่แขวนไว้‘ผู้อำนวยการประสาทวิทยา อู๋เฟิง’ชื่อคุ้นจังเธอนึกออกแล้ว ชาติก่อน ซ่งหว่านชิวทำอาหารแต่มือได้รับบาดเจ็บ กงเฉินห่วงมากจนเรียกผู้อำนวยการประสาทวิทยาที่ดีที่สุดมาตรวจซ่งหว่านหลิววันนั้น หลินจืออี้ได้โอกาสออกแบบอัญมณีอีกครั้ง แต่กลับถูกอันธพาลโผล่ออกมาตัดเส้นประสาทข้อมือเธอขอร้องให้โรงพยาบาลช่วยหาหมอด้านประสาทวิทยาที่ดีที่สุมาให้ แต่ทางโรงพยาบาลกลับบอกว่าหมอถูกพาตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บเล็กๆของซ่งหว่านชิวเธอโทรหากงเฉินเพื่อขอร้องอ้อนวอน แต่กงเฉินพูดว่า “เวลาหว่านชิวเคลื่อนไหวทำอะไร เธอหยุคลั่งแบบนี้ได้ไหม? หลินจืออี้ เธอไม่เหนื่อยเหรอ?”เขาวางสาย แต่เธอเสียความหวังและโอกาสทั้งหมดไปแล้วชั่วเวลานั้น หน
เมื่อกลับมาถึงโรงเรียนหลินจืออี้ผลักประตูหอเปิดออก พวกเพื่อร่วมหอไม่อยู่เหมือนเดิม เหมือนจะบอกในกลุ่มว่าไปสัมภาษณ์เธอเปิดลิ้นชักของตัวเอง มองของที่อยู่ข้างใน เธอหรี่ตาอยู่ครู่หนึ่งในขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปจับของ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง “จืออี้”หลินจืออี้ปล่อยมือ หมุนตัวกลับไป เสิ่นเยียนก็พุ่งเข้ามาตบตัวเองอย่างรุนแรงต่อหน้าเธอ “จืออี้ ฉันขอโทษ” “ต้องโทษที่ฉันกลัวความยากจน นักข่าวเฉินบอกว่าแค่ใช้บัญชีเธอเขียนไม่กี่ประโยคเท่านั้น ฉันก็เชื่อแล้ว” “เธอก็รู้แม่ฉันไม่ชอบเสียเงินค่าเทอมฉันมาตลอด ฉันถึงได้ติดกับ เธอสงสารฉันเถอะนะ”เสิ่นเยียนตบตัวเองไปพลาง อ้างศีลธรรมต่อหลินจืออี้ไปพลางหลินจืออี้ไม่สนใจ แสร้งทำเป็นนิ่งอึ้ง มองดูเสิ่นเยียนตบตัวเองไปหลายครั้งเสิ่นเยียนกล้าโมโหแต่ไม่กล้าหยุดจวบจนหน้าเธอแดงก่ำ หลินจืออี้ถึงหยุดห้าม“หยุดตบได้แล้ว พูดตอนนี้มันสายไปแล้ว”เธอหลุบตาลง สัมผัสมือที่บาดเจ็บของเธอพลันดวงตาเสิ่นเยียนเป็นประกายขึ้นมา "จืออี้ เธอเป็นอะไร? มือเธอบาดเจ็บจนแข่งขันไม่ได้ใช่ไหม?"หลินจืออี้กวาดตามองเธอ พลางจงใจถอนหายใจ“คุณหมอบอกว่ามือของฉันยาก
เสียงล็อคประตูดังกึกๆ หลินจืออี้ยังไม่ทันหันไปก็รู้ว่าใครกําลังเข้ามาใกล้ กระป๋องใบชาในมือตกลงบนพื้นกลิ้งออกไปกระป๋องใบชากลิ้งไปรอบๆ และในที่สุดก็หยุดลงที่หน้ารองเท้าหนังผู้ชายคู่หนึ่งหลินจืออี้รีบหยิบขึ้นมา แต่มือทั้งสองกลับโอบเอวจากด้านหลังเธอ ราวกับงูพิษที่เย็นเยือก ยิ่งรัดยิ่งแน่นสุดท้ายขังเธอไว้ที่หน้าโต๊ะน้ำชา ความร้อนจากเหนือศีรษะค่อยๆ กระจายไปถึงหู ทําให้ลมหายใจของเธอสับสนวุ่นวายตามไปด้วยริมฝีปากของเขาแนบชิดกับหูของเธอ น้ำเสียงทุ้มต่ําแฝงไว้ด้วยความสนุกสนาน“ชอบถูกจูงมือขนาดนี้เลยเหรอ?”ความร้อนที่หายใจออกเหมือนขนนกถูกับหูของหลินจืออี้ รู้สึกจั๊กจี้เธออยากหนีมาก แต่พอขยับตัวเล็กน้อย แรงกดดันด้านหลังก็ยิ่งน่ากลัว กดทับลงไปลมหายใจโอบล้อมจากด้านหลังของหลินจืออี้ หลินจืออี้สามารถรู้สึกได้ว่าหน้าอกของเขาร้อนผ่าวแค่ไหนผ่านเสื้อเชิ้ตเธอยังคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะปีนติ่งหูขึ้นสีแดงผู้ชายที่อยู่ข้างหลังเขาจ้องมองเธออย่างยับยั้งชั่งใจและขี้อาย ดวงตาสีเข้มเข้มเหมือนกลางคืน มองเธออย่างเงียบๆ มือที่ตกลงบนเอวของเธอลูบเบาๆร่างกายของหลินจืออี้สั่นเทิ้ม กระซิบกระซาบดิ้นรน “อา
พอสัมผัสก็รู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าช็อตไปทั่วร่าง สั่นไหวเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่ได้หลังจากกงเฉินสังเกตเห็น แววตาลึกล้ำ ก้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อเข้าใกล้เธอ น้ำชาบนปกเสื้อหยดลงบนท้องหลินจืออี้ตัวสั่นเทิ้มอย่างเห็นได้ชัดนัยน์ตาของกงเฉินมีสีเข้มขึ้น เขาจ้องมองหลินจืออี้โดยตรง ดวงตาลึกล้ำไม่ปิดบังความปรารถนาของตัวเองแม้แต่น้อย“อ่อนไหวเหมือนคืนนั้นเลยนะ”“เปล่าสักหน่อย” หลินจืออี้โต้กลับ"จริงเหรอ? คืนนั้นเธอไม่ได้พูดแบบนี้นี่”เขาหัวเราะเสียงต่ำ สีหน้าแฝงไว้ด้วยความชั่วร้ายนิ้วหัวแม่มือที่สวมแหวนอยู่ถูกับหยดน้ำในช่องท้องของหลินจืออี้ หยกที่อบอุ่นมีอุณหภูมิที่พิเศษ สบายและแปลกมากหน้าท้องของหลินจืออี้หดเล็กลง หอบเสียงเบาๆ ท่วงทํานองที่เหลือถูกกงเฉินตัดออกไปอีกครั้ง“อืม...”กงเฉินบ้าไปแล้ว!ถ้าถูกคนในตระกูลกงพบเข้า เธอต้องตายแน่แต่แรงของหลินจืออี้สู้เขาไม่ได้ เธอถูกเขาหิ้วขึ้นมาจูบทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้น“จืออี้ เธออยู่ข้างในหรือเปล่า?”เป็นกงเยี่ยนหลินจืออี้ตกตะลึงไปทั้งร่างใครจะรู้ว่า กงเฉินกลับหรี่ตาและอุ้มเธอเดินไปที่ประตูหลินจืออี้ตกใจจนทําได้เพียงกอดเขาไว้แน่
เธอมีความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ได้เหมือนกับว่า เด็กคนนี้ควรจะเป็นความโชคดีของเธอ เป็นคนที่จะนำพาทุกอย่างที่เธอปรารถนามาให้แต่ตอนนี้เธอเองก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมสิ่งที่ควรจะได้มาง่ายๆ กลับค่อยๆ ห่างไกลออกไปจากตัวเองทุกที เพราะแบบนี้ ซ่งหว่านชิวที่ไม่ยอมแพ้จึงแต่งหน้าแต่งตัวอย่างดีแล้วมาที่ตระกูลกง เธอคิดจะเดิมพันครั้งสุดท้าย ถ้าวันนี้สามารถได้ตัวกงเฉินสำเร็จ เด็กในท้องเกิดก่อนกำหนดแค่เดือนกว่าๆ ก็ยังพออธิบายได้ว่าเป็นเรื่องธรรมชาติแต่เธอไม่คิดเลยว่าจะได้ยินข่าวที่ทำให้เธอช็อกขนาดนี้มือที่วางอยู่บนหน้าท้องของซ่งหว่านชิวค่อยๆ กำแน่นขึ้น จนความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างดูท่าลูกคนนี้เธอคงเก็บไว้ไม่ได้แล้ว คืนนี้กงเฉินไม่มีทางแตะต้องเธอแน่นอนถ้าอย่างนั้น...ลูกของหลินจื้ออี้ก็ต้องตายไปพร้อมกับลูกของเธอแบบนี้กงเฉินก็ไม่มีเหตุผลอะไรไปขัดคำสั่งของคุณท่านที่ต้องแต่งงานกับหลินจื้ออี้แล้วซ่งหว่านชิวลดมือลง หยิบแป้งพัฟขึ้นมาปัดแต่งหน้าเติมเล็กน้อยก่อนจะถอดต่างหูจากใบหูใส่ลงกล่องเครื่องประดับเล็กๆ ที่พกติดตัวมาด้วยเธอรีบเดินเข้าห้องรับแขก ก่อนที่กงเฉินจะกลับมารีบเข้าไปทักทายทุกคนก่อน
หลินจื้ออี้เข้าไปในห้องน้ำแล้วก็อาเจียนออกมาอย่างหนัก แม้จะบ้วนปากด้วยน้ำยารสผลไม้ถึงสามรอบแต่ในปากก็ยังขมอยู่ดีทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำก็มีเงาหนึ่งมายืนขวางทางไว้เธอพูดด้วยเสียงอ่อนล้า “หลบไปหน่อย”กงเฉินจ้องมองเธอ “ยังรู้สึกไม่สบายตรงไหนอีกหรือเปล่า?”หลินจื้ออี้ได้ยินคำพูดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ“อาเล็กดูแลฉันดีแบบนี้เพราะฉันท้องเหรอ?อย่าลืมสิตอนนั้นอาบอกว่าถ้าฉันท้องก็ให้ไปเอาเด็กออกไม่ใช่เหรอ?”“...”สีหน้าของกงเฉินมืดมนลงทันทีหลินจื้ออี้นึกถึงคำเตือนของคุณท่านเมื่อครู่แล้วก็อดนึกถึงชาติที่แล้วไม่ได้ ตอนที่คุณท่านปฏิบัติต่อซิงซิงซิงซิงเป็นเด็กผู้หญิงแถมยังเป็นลูกที่ไม่มีใครต้องการ คุณท่านก็ไม่เคยยอมรับเลยว่าเธอเป็นหลานสาวของตระกูลกงแต่เมื่อซ่งหว่านชิวกลับมาพร้อมกับลูกชาย โลกออนไลน์ก็เต็มไปด้วยข่าวว่าเขารักหลานชายคนนั้นมากแค่ไหน ถึงกับประกาศว่าลูกชายของซ่งหว่านชิวคือลูกเพียงคนเดียวของกงเฉินทุกคนต่างหัวเราะเยาะเธอกับลูกสาวของเธอว่า พยายามแทบตายสุดท้ายก็ได้แต่ความว่างเปล่าตอนนี้คุณท่านก็คงจะสมหวังแล้วในเมื่อไม่มีเธอคอยขวางทาง ก็คงต้องดูว่าซ่งหว่านชิว
หลินจื้ออี้มองดูโต๊ะกลมขนาดใหญ่ เธออดคิดไม่ได้ว่าครั้งก่อนที่กินข้าวที่นี่คือเหตุการณ์ที่เธอเคยระเบิดใส่แม่ลูกตระกูลซ่งหว่านชิวคุณท่านกงซึ่งนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะแต่งตัวด้วยสูทเรียบร้อยสีหน้าเคร่งขรึมตามแบบฉบับเพราะคำนึงถามมารยาท หลินจื้ออี้จึงเอ่ยทักอย่างนอบน้อม “คุณท่าน”“อืม นั่งกินข้าวเถอะ”เขาโบกมือเชิญทุกคนเริ่มกินอาหารหลินจื้ออี้มองอาหารทะเลเต็มโต๊ะแล้วกลืนน้ำลายเบาๆ แต่เพราะมีคุณท่านอยู่เธอจึงคีบแค่เนื้อวัวตรงหน้าเท่านั้นเธอไม่ได้เป็นตัวแทนแค่ตัวเองแต่ยังเป็นตัวแทนของหลิ่วเหอด้วยพอคิดถึงเรื่องที่หลิ่วเหอยังต้องใช่ชีวิตอยู่ในตระกูลกงนี้ต่อไป ทุกการกระทำของเธอในฐานะลูกสาวจึงมีความสำคัญมากขณะกำลังคิดอยู่นั้น หลิ่วเหอก็คีบอาหารทะเลให้เธอหลายอย่าง ทั้งปลาดิบ เนื้อหอยสังข์ และยังตักโจ๊กกุ้งล็อบสเตอร์ชามใหญ่ให้ด้วยหลิ่วเหอพูดเบาๆอย่างแนบเนียนว่า “กินก่อนนะ เดี๋ยวถ้าโต๊ะหมุนมาถึง ฉันจะหยิบหอยเป๋าฮื้อดำ ไส้กุ้งในหอยเชลล์ แล้วก็กุ้งทะเลย่างให้เธอ”หลินจื้ออี้พยักหน้ารัวๆ พูดในใจว่า ขอบคุณนะแม่เมื่อก่อนเธอไม่กินอาหารทะเลเพราะรู้สึกว่ามันคาว แต่หลังจากได้ลองอาหารทะเลฝีมือพ่อ
“ฉัน…เธอท้องแล้ว!ฉันขอตั้งสติก่อนนะ ผู้หญิงคนนี้หลอกฉันทุกทางเลยเหรอเนี่ย? ทั้งที่ฉันยังอุตส่าห์ช่วยทำใบรับรองว่าเธอมีปัญหาทางจิตใจให้!”หลี่ฮวนแทบกรี๊ดออกมา เขาถูกหลินจืออี้หลอกเต็มๆ!“พูดมา”กงเฉินยกมือถือออกห่างจากหูด้วยสีหน้ารำคาญใจ“ภาวะเสี่ยงแท้งส่วนใหญ่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ อาหารการกินก็ต้องระวัง โดยเฉพาะห้ามทำงานหนัก” หลี่ฮวนตอบ“อืม”“แล้วนายจะทำยังไง?เมื่อก่อนตอนที่มีข่าวลือ เธอยอมรับว่าคืนนั้นเธออยู่กับนาย นายก็อ้างกระแสสังคมแต่งงานกับเธอได้เลย คุณท่านก็คงจะพูดอะไรไม่ได้ แต่นี่เธอกลับไม่ยอม นายบอกฉันตามตรงนะ ตอนนั้นนายยอมร่วมมือกับคุณท่านกดดันเธอเพราะนายเองก็มีใจใช่ไหมล่ะ?”หลี่ฮวนหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์กงเฉินก้มหน้าลงเล็กน้อย “วางสายละ”หลี่ฮวนรีบร้องห้ามเสียงดัง “นายนี่มันปากไม่ตรงกับใจชัดๆ นายต้องโชว์ข้อดีตัวเองบ้างนะ!”“โชว์ไปแล้ว”“อะไรนะ…” … ตู้ดๆๆ…ฝั่งนู้นสายตัดไปแล้วทิ้งให้หลี่ฮวนงงเป็นไก่ตาแตกโชว์ไปแล้ว?โชว์อะไรของมันวะ?.......หลังจากที่เฉินซู่หลานตรวจร่างกายเสร็จ กงเฉินก็ช่วยประคองเธอเดินออกจากตึกพอขึ้นรถมาด้วยกัน เฉินซู่หลานก็ยิ้มหวานแล้วพูดว่า
“ฮะ? ฉัน...” หลินจืออี้ชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะรู้ว่าหมอเข้าใจผิดว่าเธอเป็นคนอื่น“ตั้งครรภ์ระยะแรกนะมีเลือดออกนิดหน่อยต้องพักผ่อนให้มาก อย่ากระโดดโลดเต้นและอาหารการกินก็ต้องระวัง”“ไม่ใช่ค่ะคุณหมอ ฉัน...”“พอแล้ว คนต่อไป” หมอขีดปากกาลงใบตรวจแล้วเรียกคนถัดไปผู้หญิงคนต่อไปก็เปิดประตูเข้ามาเรียบร้อยหลินจืออี้เห็นว่าไม่มีเหตุผลจะต้องอธิบายต่อก็รีบถอยออกมาพอหันตัวกลับ ตึบ! ก็ชนเข้ากับใครบางคนเธอก้มหน้าลงขอโทษ “ขอโทษค่ะ”กำลังจะเดินหนีไปอยู่แล้วข้อมือของเธอกลับถูกคว้าไว้อย่างแรง“เธอโกหกฉัน?เธอท้องอยู่เหรอ”เสียงที่มักจะสงบนิ่งเยือกเย็นตอนนี้กลับปะทุไปด้วยความโกรธหลินจืออี้เงยหน้าขึ้นถึงพบว่าคนตรงหน้าก็คือกงเฉินเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?หรือว่ามากับซ่งหว่านชิว?แต่เห็นชัดๆ ว่าซ่งหว่านชิวมาก็เพื่อทำแท้งไม่ใช่เหรอ?หลินจืออี้ยังไม่ทันได้คิดอะไรให้ชัดเจนข้อมือของเธอก็ยิ่งเจ็บขึ้นเธอร้องเบาๆ “ปล่อยนะ ฉันเจ็บนะ แล้วฉันก็ไม่ได้ท้อง!”กงเฉินหรี่ตามองความโกรธในดวงตายิ่งเพิ่มขึ้นแต่แรงที่มือก็คลายลงนิดหน่อยพร้อมกับเธอเข้าไปในห้องตรวจ“อาการของเธอเป็นยังไง?”หมอขยับแว่นมองห
แผนกสูตินรีเวชก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ปัญหาก็คือหลินจืออี้เห็นแผ่นหลังที่คุ้นตาซ่งหว่านชิวถึงแม้ว่าเธอจะแต่งตัวมิดชิดแค่ไหนแต่แผ่นหลังนี้ก็ฝังอยู่ในหัวของหลินจืออี้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว เธอจะลืมได้อย่างไรกัน?แต่ซ่งหว่านชิวมาทำอะไรที่แผนกสูตินรีเวชล่ะ?“จืออี้ เป็นอะไรไป?” เฉินซู่หลานที่ยืนอยู่ข้างหน้าก็หันมาส่งเสียงเรียกเธอ“ไม่มีอะไรค่ะ มาแล้ว”หลินจืออี้ก็รีบเดินตามไป แต่พอเธอหันกลับไปมองอีกที ซ่งหว่านชิวก็หายไปแล้วเฉินซู่หลานดึงแขนเธอไว้ แล้วชี้ไปที่บันไดข้างหน้า “ขึ้นทางนี้ก็ได้นะ”หลินจืออี้ได้สติกลับมาและพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินขึ้นไปพร้อมกับเธอแบบเหม่อลอยหรือว่าที่ซ่งหว่านชิวเดินทะลุผ่านแผนกสูตินรีเวชเพราะว่าสะดวก?พอขึ้นไปถึงข้างบนหลินจืออี้ก็ช่วยเฉินซู่หลานจัดที่นั่งเพื่อรอคิวตรวจ หมอผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลนี้เป็นเพื่อนของเฉินซู่หลาน เธอไว้ใจเขามากเป็นพิเศษเธอยอมรอก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาลเอกชนเปลี่ยนหมอคนใหม่ตรวจหลินจืออี้เข้าใจดีคนมีเงินก็มักจะเลือกหมอที่ตัวเองไว้ใจได้และไม่ค่อยยอมเปลี่ยนคนคงกลัวข้อมูลสุขภาพของตัวเองจะรั่วไหลกงเฉินก็เป็นแบบนั้น การตรวจร่างกายทุกค
“แก... แกอิจฉาฉันจริงๆ ด้วย แม้แต่ผู้ชายก็รั้งไว้ไม่ได้!” เฉินฮวนทุบกล่องในมือ“เหอะ” เซวียมั่นยิ้มเยาะและเดินออกไปทันที เธอขี้เกียจเกินไปที่จะตอบคําถามที่น่าเบื่อแบบนี้"แกหมายความว่ายังไง? แกพูดมาให้ชัดเจนนะ”เฉินฮวนรีบวิ่งไปที่เซวียมั่น แต่ถูกขวางโดยผู้ช่วยเบลล่าเบลล่ารีบเอ่ย "รปภ.พาคนออกไปเร็วเข้า อ้อ แล้วก็ขยะของมันด้วย"แล้วเฉินฮวนก็ถูกโยนออกไปหลินจืออี้ไม่ได้รู้สึกสงสารอะไรเลย ทั้งหมดนี้เป็นเฉินฮวนทำตัวเองทั้งนั้นเมื่อก้มหน้าทํางาน เธอก็เห็นซ่งหว่านชิวที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งพอดีซ่งหว่านชิวเอามือปิดปากเหมือนรู้สึกไม่สบายมาก จากนั้นก็ฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนไม่ทันสังเกตลุกขึ้นและออกจากที่นั่งไปหลินจืออี้รู้สึกแปลกใจ กําลังจะดูให้ละเอียด โทรศัพท์ก็สั่น“พรุ่งนี้ฉันอยู่บ้าน แกจะมาไหม?”“อืม”“งั้นฉันจะทําอาหารที่แกชอบ มาอยู่เป็นเพื่อนฉันเร็วๆ หน่อย”“ได้”หลินจืออี้ยิ้มเมื่อเห็นข่าว เธอวางแผนว่าจะถือโอกาสพักผ่อนพรุ่งนี้ไปบ้านตระกูลกงเพื่อย้ายของที่เหลือไปที่คอนโดจริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรมากหรอกเมื่อก่อนตอนที่อยู่บ้านตระกูลกงเธอก็ใช้ชีวิตอย่างหวาดผวา ดังนั้นหลังจากพักอย
บนรถกงเฉินและซ่งหว่านชิวเพิ่งนั่งได้มั่นคนขับรถที่สวมถุงมือสีขาวอยู่แถวหน้าก็หันมามองกงเฉินอย่างประหม่า“คุณผู้ชาย ถ้าไม่ไปบริษัท งั้นผมก็จะไปถนนลี่หัวแล้วนะครับ”“อืม”กงเฉินตอบรับเบาๆ แล้วหลับตาพักผ่อนซ่งหว่านชิวเพิ่งพบว่าคนขับไม่ใช่คนที่คุ้นเคยมาก่อน จึงถามอย่างสงสัยว่า “ทําไมเปลี่ยนคนขับกะทันหันล่ะคะ? ทางก็ไม่คุ้นเคยแล้ว”กงเฉินหลับตาลงและพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่คุ้นเคยทางขับไปเดี๋ยวก็คุ้นเคยเอง แค่คนที่แยกนายจ้างไม่ออกก็ไม่จําเป็นต้องเก็บไว้แล้ว”ได้ยินดังนั้น หน้าของซ่งหว่านชิวก็เหมือนมีรอยร้าวและเล็บที่เพิ่งทําใหม่ก็จิกลงไปในเบาะหนังแท้โดยตรงแต่ใบหน้าของเธอยังคงยิ้มอยู่ "ค่ะ"จากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคุยกันอีกพอไปถึงบ้านตระกูลซ่ง ซ่งหว่านชิวไม่กล้ารั้งกงเฉินไว้ พูดคําอําลาแล้วลงจากรถเหมือนวิ่งหนีกงเฉินก็ไม่ได้อยู่ต่อ เขาจากไปทันทีไม่รู้ว่าเธอเก็บกดเกินไปหรือเปล่า ซ่งหว่านชิวรู้สึกหมดแรง กระเพาะอาหารเริ่มปั่นป่วนอีกครั้งเธอผลักคนรับใช้ที่หิ้วชายกระโปรงราตรีให้เธอออก แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำและเริ่มอาเจียน"อ้วก... แหวะ...”ในเวลานี้ รถของฉินซวงก็จอดอยู่ที่ปร
ซ่งหว่านชิวเป็นทางลัดที่เร็วที่สุดสําหรับเสิ่นเยียนที่จะเข้าใกล้วงการชนชั้นสูง ยอมทิ้งไปเพื่อคนอย่างเฉินฮวนมันไม่คุ้มค่าเลยดังนั้นเสิ่นเยียนจะต้องถือโอกาสบอกแผนการกับซ่งหว่านชิวแน่นอนซ่งหว่านชิวและเธอร่วมมือกันทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งสองก็สามารถหลบหนีได้อย่างรวดเร็วน่าเสียดายที่เฉินฮวนเข้าใจช้าเกินไป เธอมองหลินจืออี้อย่างไม่เต็มใจ “แกเปลี่ยนเบอร์ห้อง แกมั่นใจได้ยังไงว่าฉันจะมาที่นี่?”“เธอมั่นใจเกินไปแล้ว ตั้งแต่เธอจงใจวางรูปคู่กับสามีของประธานเซวียไว้ในตําแหน่งที่โดดเด่นที่สุดบนโต๊ะทํางาน ฉันก็รู้ว่าเธอจะต้องมาชื่นชมผลงานชิ้นเอกของเธอแน่นอน” หลินจืออี้อธิบาย"ฉันแพ้แล้ว แต่แกก็ไม่ได้ชนะเหมือนกัน” เฉินฮวนพูดอย่างแค้นเคืองถึงยังไงก็ยังมีซ่งหว่านชิวและเสิ่นเยียนที่เป็นอุปสรรคขัดขวางอยู่หลินจืออี้เดินไปที่ประตู ชะงักไปครู่หนึ่ง มองเธออย่างเย็นชา “เธอไม่เคยเป็นเป้าหมายของฉันเลย”พูดจบเธอก็เดินจากไป...ณ ห้องจัดเลี้ยงเมื่อหลินจืออี้เข้าประตูมา ห้องทั้งห้องก็มืดลงซ่งหว่านชิวยืนอยู่กลางห้องโถงอย่างตื่นเต้นพร้อมกับกงเฉิน รอของขวัญลึกลับในตํานานหลินจืออ