“เป็นฝ่าบาทที่รู้จักนางมากกว่าใครข้าน้อยไม่กล้าออกความเห็น แต่อย่างไรเสียจะเอามาเป็นกังวลคงมิได้ เรามีงานใหญ่ให้ต้องเร่งจัดการ เหอหลงนั่งบัลลังก์เพียงไม่กี่วันกับสังหารผู้คนมากมาย แม้จะเป็นคนของตงเฉิง แต่คนที่ถูกสังหารก็เป็นคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทั้งเด็ก และคนชราเสียส่วนมาก เหอหลงและไทฮองไทเฮาไม่เคยเห็นด้วยกับการปกครองแผ่นดินในแบบของฝ่าบาท เขาต้องการขยายดินแดนและขูดรีดทั้งขุนนางและชาวบ้านเพื่อนำเงินที่ได้เก็บเข้าคลังหลวงที่ร่อยหรอส่งเสริมกองทัพ ฝ่าบาทไม่ตัดสินใจกระทำการใดแผ่นดินนี้คงไร้ซึ่งความสงบ”หยางหลงครุ่นคิดตามคำพูดของโหวหยางจื้อเพียงไม่กี่วันสังหารคนไปใช่น้อย แม้กระทั่งไทเฮาเหอหลงเขายังประทานผ้าขาวให้นางต่อไปหากใครทำเรื่องใดให้ไม่พอใจ คงไม่สามารถมีชีวิตรอดเหอหลงนับเป็นผู้ที่ใจคอเหี้ยมโหดคนหนึ่งที่เดียว เขาเองหากไม่หนีมาเช่นนี้ก็คงหาชีวิตไม่ไปแล้ว“ข้าได้ยินลี่มี่บอกว่า เหอหลงจะแต่งตั้ง เฟยลี่ในอีกสิบวันข้างหน้าไม่ขาดไม่เกิน วันนั้นเราสามารถนำกำลังโอบล้อมเมืองหลวง ถึงเวลานั้นท่านอา พ่อของซีหลิวคงสับเปลี่ยนกำลังเป็นคนของเราจนสิ้น”“ฝ่าบาทถึงเราจะมีกำลังองครักษ์ในวังหลวงจะเป็น
กิริยาอ่อนช้อยกว่านักนางเองจึงไม่ต่างจากแพรวา“ลี่เซียนเออร์ ยั้งมือด้วย”หย่าจิ้ง ในอาภรณ์สีทึ่มเดินมาเผชิญหน้า“ท่านอา”ลดธนูลงข้างตัว หยางหลงและโหวหยางจื้อกระโดดลงจากหลังม้า“หยางหลงและโหวหยางจื้อคารวะท่านป้า ไม่ทราบว่าท่านมาได้อย่างไร”หย่าจิ้งเมียงมองเหมือนต้องการเอยคำถามใด“ไยท่านมาเพียงสอง เฟยลี่นางไปไหนเสีย”“หย่าจิ้งเป็นห่วงนางเยี่ยงนี้ คงยังมิทันได้ข่าวเรื่องการแต่งตั้งฮองเฮาในวังหลวง”โหวหยางจื้อเอ่ยขึ้นบ้าง หยางหลงใบหน้าสลดลงทันที“ท่านอา ท่านผู้นี้เป็นใคร”ลี่เซียนอดไม่ได้ที่จะถามตามประสาคนที่ค่อนข้างอยู่ไม่สุข นิสัยนางเป็นเด็กเสียสามในสี่ส่วน“ทั้งสองคือแขกคนสำคัญของท่านอา ลี่เซียนเอ่อร์อาต้องไหว้วานเจ้าให้บอกพ่อของเจ้าแล้วว่าแขกคนสำคัญมาถึงแล้วตามที่เขาคาดการณ์”หย่าจิ้งพยายามที่จะกันลี่เซียนเอ่อร์ออกไปจากการสนทนา เพียงแวบเดียวที่สายตาสบตากับหยางหลงเหมือนหญิงสาวทั่วไปที่ประทับใจในรูปโฉมที่แตกต่างจากบุรุษทั่วไป“ข้าจะบอกท่านพ่อเดียวนี้เชิญท่านอาคุยกับแขกของท่านไปก่อน ลี่เซียนเอ่อร์จะเร่งทำตามประสงค์”ร่างอ้อนแอ้นแต่การก้าวเดินเหมือนบุรุษหนุ่ม“ท่านป้า ท่านเองก็ไม่อาจอยู่
หยางหลงตะลึงไม่เคยรู้มาก่อนว่าหย่าจิ้งมีความสัมพันธ์ใดกับท่านข่าน เท่าที่รู้แต่เพียงว่านางเป็นหญิงงามจากชนเผ่าเท่านั้น“ท่านพี่ข้าคาดการณ์ว่าท่านคงต้องมาแต่ไม่คิดว่าจะมาด้วยตัวเอง”หย่าจิ้งเอ่ยปากหลังจากที่เงียบมานาน“อย่างนั้นหลานคงต้องขอบคุณท่านป้าอย่างที่สุดที่ทำให้หลานไม่ต้องเอ่ยคำใดให้มากความ”ประสานมือโค้งคำนับหย่าจิ้งด้วยท่าทีอ่อนน้อม“กำลังทหารของเราแม้จะไม่มากแต่ก็ไม่น้อยเมื่อทั้งท่านและหย่าจิ้งลงแรงขอร้องอีกทั้งข้าไม่อาจดูดายต่อคำขอของหย่าจิ้ง และป้องกันไม่ให้แผ่นดินลุกเป็นไฟในภายภาคหน้าจึงเต็มใจที่จะมอบกองทหารฝีมือดีของเราในการยกทัพกอบกู้บัลลังก์คืนมามอบให้แก่ท่าน”โหวหยางจื้อยิ้มพอใจไม่คิดว่าเรื่องที่ยากกลับกลายมาง่ายดายเช่นนี้ กองกำลังของท่านข่านนับว่ายิ่งใหญ่ทีเดียวและเป็นที่เลื่องลือเรื่องการรบที่ไม่เป็นรองใคร“หลาน ต้องขอบคุณท่านลุงที่เมตตาหลาน หากมีสิ่งใดที่หลานจะทำเพื่อท่านได้”“555 เรื่องที่ท่านหยางหลง จะทำเพื่อเรานะหรือมีเพียง”ชำเลืองมองลี่เซียนด้วยแววตาเอ็นดู“ข้ามีเพียงสิ่งเดียวที่ห่วงใย ลี่เซียนยกน้ำชา”ลี่เซียนยกน้ำชาเดินออกมายืนเบื้องหน้าหยางหลง“ลูกสาวคนเดีย
ป้ายหยกติดตัวถูกยกขึ้นมาดู“ป้ายหยกอันนี้ของเซี้ยนตี้ให้ไว้กับหยางหลงหยกชิ้นเล็กไปหน่อย ข้าจะหาชิ้นที่ใหญ่และสวยกว่านี้มอบให้เจ้าเฟยลี่” แพรวายิ้มบางบาง ความจริงใจที่ส่งผ่านแววตาและน้ำเสียงไม่อาจมองเป็นอื่น“อีกไม่กี่วัน เรา ...ข้าและเจ้าก็จะเข้าพิธีสำคัญ ในวันนั้นข้าอยากให้เจ้างดงามที่สุดทั้งผ้าไหมและเครื่องประดับถูกคัดสรรมาอย่างดีเพื่อเจ้าเท่านั้นเฟยลี่”มือเรียวบางเหมือนมือผู้หญิงกุมมือแพรวาไว้แน่น แพรวาไม่มีคำกล่าวใดใดหลุดออกมาเนื่องด้วยก้อนแข็งๆที่จุกที่คอหอยเหอหลงปรายตามองแพรวา“ยังจำได้ครั้งเมื่อข้าพบเจ้าครั้งแรก ข้าก็โมโหที่เจ้าทำให้ท่านพี่หยางหลงเสื่อมเกียรติ”แววตาหม่นลงเมื่อพูดถึงหยางหลงในฐานะพี่ชายอย่างที่เขาเคยเรียกนับตั้งแต่ได้รู้ใจตัวเองว่าคิดกับแพรวาอย่างไรชินอ๋องก็แทบจะไม่ได้เอ่ยปากเรียกหยางหลงว่าท่านพี่อีกเลย“เจ้าคงจะโกรธเกลียดข้าน่าดูตอนนั้น”“ไม่เลยฝ่าบาทตรงกันข้าม ตอนนั้นฝ่าบาททรงเป็นหนุ่มน้อย ที่พยายามสร้างภาพให้ดูดุดันทั้งทั้งที่เป็นคนที่อ่อนโยน”แพรวาคิดอย่างนั้นจริงจริงคงเป็นเพราะเหอหลงที่ต้องนำทัพตั้งแต่ยังเล็กจึงทำให้สร้างเกราะขึ้นมาป้องกันตัวเอง ว่าเป็น
ลี่มี่ยกมือแพรวาให้เกาะ แขนตัวเองสาวใช้คลี่ผ้าคลุมหน้าสีแดงลงมาปิดใบหน้าสวยลี่มี่เดินช้าช้าชายผ้าด้านหลังยาวเรี่ยดิน สาวใช้ ถึงสิบสองคนที่ช่วยกันจับชายผ้าก่อนจะเดินตามเป็นแถวยาวแพรวาไม่ได้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของตัวเองหากแต่รู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปช้าเหลือเกิน เหอหลงในชุดแดงยืนรออยู่ก่อนแล้ว หน้าแท่นพิธี ไทฮองไทเฮานั่งอยู่ตรงกลาง เหล่าขุนนางสองฟากฝั่งมากมายจนไม่อาจนับจำนวน แพรวาเดินผ่านช่องแคบตรงกลางเหมือนประหนึ่งว่าเป็นเจ้าหญิงในนิยาย ใบหน้าหล่อเหลาของเหอหลงหันกลับมามองดวงสายตาเปี่ยมสุข เมื่อเห็นว่าแพรวาเดินมาเกือบจะถึงเขาฝ่ามือขาวเหมือนผู้หญิงยื่นส่งออกมารับมือของแพรวาที่ยังสงบนิ่ง ลี่มี่สะกิดเบาเบาแพรวามองมือบางขาวของเหอหลงที่ส่งมาพร้อมกับสายตาวิงวอน ยื่นมือเย็นเฉียบไปช้าช้าเสียงโห่ร้องดัง ก้องมาแต่ไกล เหล่าขุนนางหันรีหันขว้าง เหอหลงกระชากร่างแพรวาเข้าสู่อ้อมแขน องครักษ์หลายนายวิ่งวุ่นชักกระบี่ออกมาในท่าเตรียมพร้อมเข้าห้อมล้อมเหอหลงและไทฮองไทเฮาไว้บุรุษชุดดำหลายคนทะยานลงมาจากเบื้องบน ราวกับเหาะเหินได้ก็ไม่ปาน แพรวาเปิดผ้าคลุมหน้าออกจ้องมองไปทั่วแต่ไม่พบสิ่งที่ต้องการ“คุ้มกันฝ่าบาท
แม้คราวนี้จะไม่ถือว่าเพี้ยงพล้ำแต่มีโอกาสพ่ายแพ้ถึงเก้าในสิบส่วนเลยทีเดียวด้วย กำลังองครักษ์ที่ยืนคุมเชิงอยู่ด้านล่างนั้นหากว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่รัดกุมแล้วหยางหลงอาจหามีชีวิตไม่ แพรวาใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อคิดถึงครั้งเมื่อบิดาของเธอถูกเซี้ยนตี้ปลิดชีพด้วยคมกระบี่ในมือเหตุการณ์เหมือนจะดำเนินมารอยเดิมซ้ำซ้ำหยางหลงปล่อยให้แรงโน้มถ่วงพาร่างร่วงหล่นลงพื้นเหอหลงตามลงมาฟัดฟันกระบี่ใส่ไม่หยุด เนื่องด้วยการต่อสู้ที่ทั้งคู่มีวรยุทธ์ที่ไม่ด้อยกว่ากันนั้นหากแต่เหอหลงที่รูปร่างค่อนข้างสำอางกว่านั้นกำลังก็น้อยกว่าตามไปด้วย จึงเป็นฝ่ายเพี้ยงพล้ำก่อนถูกหยางหลงตวัดคมกระบี่กรีดผิวชุดสีแดงไม่อาจมองเห็นรอยเลือดปลายกระบี่จ่ออยู่ที่คอหอยในท่าที่นอนหงายสิ้นแรงแพรวาถอนใจโล่งอก“ฆ่าข้าเสีย ไม่อย่างนั้นอาจเป็นเจ้าที่ต้องตาย”“เสือไม่กินลูก พี่ไม่ฆ่าน้อง เพียงเจ้าปล่อยข้าและคนของข้าไปเหอหลงเราก็ไม่ติดค้างกันอีกปล่อยพวกเขา”เหอหลงมองพี่ชายด้วยสายตาเจ็บแค้น“ปล่อยพวกเขา”ทหารองครักษ์ถอยห่างจากโหวหยางจื้อหย่าจิ้งและซีหลิวตวัดปลายกระบี่ลงข้างลำตัวหันหลังเดินกลับ แต่ประเมินเหอหลงผิดไปเหอหลงยันกายลุกยกแขนตั้งฉา
“ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านข้าดีใจที่ท่านรู้เสียทีว่าข้าคือเย่วถิงข้าอยากกอดท่านมานานแล้ว”หย่าจิ้งหยุดชะงักหันกลับมามองแพรวาด้วยหยาดน้ำตาท่วมตาสวมกอดแพรวา แต่ยิ่งทำให้แพรวาเจ็บปวด เลือดสดสดยังไหลออกจากปากบางเป็นสีเดียวกับชาดทาปาก“ข้ารู้ว่าเจ้ากลับมาเพื่อที่จะจากข้าไปอย่างนี้ ข้าขอแค่มีเจ้ายังอยู่ในความทรงจำมีหวังว่าสักวันเยว่ถิงน้อยจะกลับมาก็พอ”“ท่านแม่มีพบต้องมีจาก บัดนี้เยว่ถิงรู้แล้วว่าท่านแม่รักเยว่ถิงแค่ไหนแค่นี้ก็เพียงพอแล้วขอเพียงอย่าเศร้าโศกกันอีกเลยวาสนาของเยว่ถิงมีพียงเท่านี้”แพรวารู้ว่าตัวเองต้องทนความเจ็บปวดแทบขาดใจได้อีกไม่นานหันมายิ้มเศร้าๆกับหยางหลง“หมดเวลาแล้ว ข้าเพียงแต่ไม่อยากจากท่าน โดยที่ท่านต้องรอข้าบัดนี้ข้าสบายใจเสียทีว่าท่านไม่ต้องรอข้า และข้าก็จะไม่ต้องจดจำท่านได้อีกต่อไป”หยางหลงปล่อยน้ำตาร่วงรินแพรวาหมายถึงการที่ตัวเองต้องข้ามภพไปยังปัจจุบันที่ทำให้หยางหลงคิดว่าแพรวาหายไปไหนอย่างน้อย ตอนนี้หยางหลงก็รู้ว่าแพรวา ได้ตายจากไปแล้วและแพรวาก็หมดสิ้นความรักความคิดถึงเมื่อร่างและวิญญาณแหลกสลาย“หมอหลวง หมอหลวง โหวหยางจื้อหมอหลวงอยู่ไหนเจ้าตามหมอหลวงที”แพรวาฝืนยิ้ม
“เป็นข้าที่ไม่อาจปกป้องนางใช่ไหมโหวหยางจื้อ ข้ายอมให้เหอหลงขึ้นนั่งบัลลังก์และพาเฟยลี่ไปลำบากข้างนอกนั่น จนนางทนไม่ไหวต้องยอมรับตำแหน่งฮองเฮาและพบจุดจบเช่นนี้”“เฟยลี่นางกลัวว่าฝ่าบาทจะเสียทีแก่เหอหลงจึงพยายามแจ้งข่าวเรื่องการแต่งตั้งฮองเฮา และปฏิเสธฝ่าบาทความจริงนางมีใจที่รักและภักดียิ่งกว่าผู้ใด กลัวว่าฝ่าบาทจะมีภัยยอมเสียสละเพื่อฝ่าบาท”หยางหลงยิ่งเศร้าสลดเมื่อได้ยินความจริงเหมือนอย่างที่เขาคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นอย่างนั้นแต่กลับหลอกตัวเองเพราะจะได้เศร้าโศกน้อยลงแต่โหวหยางจื้อเหมือนยิ่งมาตอกย้ำความคิดของเขาหยางหลงนั่งนิ่งปล่อยความคิดล่องลอยไปกับ สายลมพัดเบาเบาใช้มือข้างหนึ่งลูบปรอยผมสลวยของร่างไร้วิญญาณ“ฝ่าบาท ...พี่ใหญ่...ข้าไม่บังอาจเรียกท่านอย่างนี้นานแล้ว นางไปสบายแล้วครานี้มีเพียงสิ่งสุดท้ายที่เราจะทำได้คือ อยู่ด้วยความสุขเพื่อนางอยู่บนสวรรค์นั่นจะเห็นว่าเราไม่ทุกข์เหมือนอย่างที่นางต้องการ”หยางหลงพยักหน้ายอมให้ ขันทีและนางในหลายคน พาร่างไร้วิญญาณของแพรวาออกไปจากตักของหยางหลงท้องฟ้าเริ่มหม่นแสงลงเมื่อเวลาใกล้พลบค่ำความเศร้าโศกยิ่งทวีคูณหย่าจิ้งเอาแต่เศร้าโศกไม่แตะต้องอาหารห
มือใหญ่เชยคางมนให้สบตา ก้มลงจูบหนักหน่วงที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง เขาไม่อาจหักใจหากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ริมฝีปากอ่อนหนุ่มกลิ่นกายหอม ผิวเนื้ออ่อนละมุน ซุกอยู่กับอกกว้างถอนริมฝีปากออก“เราเคยรักกันมาก่อนใช่ไหม ที่ไหน เมื่อไหร่ บอกข้ามาก่อนที่ข้าจะกลืนกินเจ้าไป”สายตาคาดคั้น“ฝ่าบาทเชื่อเรื่องการเดินทางผ่านกาลเวลาไหม”หยางหลงขมวดคิ้ว“เช่นไร”“ข้ากับท่านเราเคยพบกัน ก่อนที่ข้าจะหายไปจากฝ่าบาทและกลับมาอีกครั้ง”หยางหลงครุ่นคิดภาพที่เขาเห็นนั้นเล่าชัดเจนแจ่มชัดในความทรงจำ เหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้น“เจ้าใช้เวทมนตร์ใช่ไหม”“ไม่ใช่เวทมนตร์แต่มันคือเรื่องประหลาดที่ข้าไม่อาจอธิบายได้ และข้าเองมิได้กำหนดว่าจะมาจะไปตอนไหน สวรรค์เป็นผู้กำหนดเหมือนที่หมอหลวงบอกข้า ข้าเพียงแต่ไปมาตามแต่สวรรค์ต้องการ”“แล้วหมอหลวงทำไมถึงรู้ว่าเจ้าจะมา”“ท่านหมอบอกข้าว่าเขาเองไม่อาจเปิดเผยบัญชาสวรรค์ตัวเขาเองมีหน้าที่เพียง เป็นผู้แจ้งข่าว”ข้างนอกนั่น“ลี่มี่ เจ้าแน่ใจแล้วรึว่าฝ่าบาท ประทับอยู่ในห้องของแม่นางเฟยลี่”เหอหลงเอ่ยปากถาม“ ข้าเห็นมากับตา ฝ่าบาททรงหายเข้าไปในห้องของพี่สาวข้าจึงรีบมาแจ้งข่าวกับท่าน”เหอหลงยิ้มมี
“หา”แพรวาเผลอยกมือขึ้นกระชับคอเสื้อที่หลุดหลุ่ยเผยให้เห็นผ้าคาดอกสีอ่อนเกือบจะเห็นเนินอกสวย“ข้าหมายถึง แก้ผ้าพันแผลของข้าออก”แพรวาย่นจมูก เอื้อมมือแกะผ้าพันแผลออกหยางหลงกัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวดแผลไม่ลึกนักทว่ารอยแผลยาวเหยียดแพรวาโรยยาจนทั่วแผลก่อนจะเป่าเบาๆที่แผลของหยางหลงอย่างอ่อนโยน“เพี้ยง หายไวไวนะ”หยางหลงมองแพรวาด้วยสายตาลึกซึ้งความอ่อนโยนที่แพรวามอบให้เขาไม่เคยได้รับจากผู้ใด แพรวาเงยหน้าขึ้นพบกับสายตานั้นความเขินอายกับเกิดขึ้นกับแพรวาอย่างช่วยไม่ได้ หยางหลงเองก็เผลออมยิ้มกับอาการเขินอายนั้น“ทหารจัดเวรยามให้มากกว่านี้ ถ้าหากยังไม่อยากหัวหลุดจากบ่า คืนนี้ข้าจะค้างที่นี่”เสียงตะโกนจากในห้องออกไปแพรวาขยับตัวลุกจากแท่นนอน หยางหลงฉุดมือด้วยแขนข้างที่ไม่เจ็บไว้แพรวาหันมามองประสานสายตาแววตาลึกซึ้งแววตาที่แพรวาเคยเห็นกลับมาแล้ว“ข้าพระองค์กำลังจัดที่บรรทมให้ฝ่าบาท คืนนี้อากาศหนาวนัก”“ไม่เป็นไร เพียงแค่...มีเจ้าร่วมหมอน”แพรวาอายม้วน เฮ้อไม่น่าเชื่อว่าคำพูดของหยางหลงยังสามารถทำเอาแพรวาเขินอายได้“ฝ่าบาทนอนเสียเถิด”แพรวาเสมองไปที่ผ้าห่มที่เคยห่มคลุมกายของตัวเองบัดนี้กลับถูกห่มคล
“ไม่ไม่ อย่าทำแบบนี้เลย แบบนี้เลย (เพลงพี่ป้างดังแทรกขึ้นมาในคลื่นสมองของแพรวา) ”เหอหลงยิ้มมีเลศนัย นัยน์ตาเป็นประกายวาววับ“อ้า ถ้าอย่างนั้นท่านพอจะบอกข้าได้ไหมถึงแผนการที่ท่านวาดไว้”แพรวาอ้อนวอน“ข้าคิดว่าไม่บอกจะดีกว่าเพราะ...หลอกศัตรูต้องหลอกมิตรให้ตายใจ”"คือถ้าท่านบอกแผนการข้าก่อนอย่างน้อยข้าก็พอที่จะทำตามแผนรับมือสิ่งที่จะเจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ”แพรวาพยายามยกแม่น้ำทั้งห้า“ข้าเห็นต้องไปเสียทีแล้ว รั้งอยู่ที่นี่เสียนานเดี๋ยวความแตก”เหอหลงไม่สนใจแพรวา ขยับตัวหลบยังมุมมืดจากไปทันที แพรวาหันไปทางเสี่ยวโอ“เจ้ารู้ใช่ไหม”เสียวโอหันหลังเดินหนีเช่นกัน ลี่มี่ยิ้มอย่างรู้ทัน“พี่สาวข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”ออกตัวไว้ก่อน“ข้ารู้แล้ว”“ดีแล้วค่ะพี่สาวแต่ว่าท่านรู้ว่าอย่างไรคะ”“ก็รู้ว่า ทุกคนปิดบังข้า”“พี่สาวเราทั้งหมดเพื่อบ้านเมืองแล้วเราพร้อมที่จะทำทุกอย่าง แต่สำหรับข้า ชินอ๋องและเสี่ยวโอ เพื่อฝ่าบาทและพี่สาวเรายอมทำทุกวิถีทางเพราะเราเชื่อว่าท่านหมอพูดไว้ไม่ผิดเรื่องพี่สาวอยากให้พี่สาวเชื่อใจเถิดว่าข้าเสี่ยวโอและชินอ๋องหวังดีต่อฝ่าบาทและพี่สาวด้วยความจริงใจ”แพรวาซาบซึ้งในน้ำใจของ ท
คำพูดที่ออกมาจากใจของแพรวาน้ำตาเอ่อล้นตา หยางหลงรู้สึกเศร้าใจตามไปด้วย“เจ้าจะไปที่แห่งใดใครอนุญาตให้เจ้าไป”เสียงทรงอำนาจเหมือนจะออกอาการหงุดหงิดกับการจะจากไปของแพรวาหยางหลงจ้องมองที่แพรวาเหมือนจะค้นหาคำตอบ“ไม่อยากอยู่แล้วท่านหมอ”แพรวายังคงหลบตา หยางหลงหันไปมองหมอหลวงสายตาดุดัน หมอหลวงประสานมือถอยห่างออกไป“ข้าพระองค์ขอตัว ข้าขอตัวแม่นางเฟยลี่ไว้เจ้าคิดให้ดีแล้วข้าจะให้คำตอบ”แพรวาหลับตาไล่หยาดน้ำตาที่หยดริน ฮ่องเต้หนุ่มรู้สึกสงสารหญิงสาวตรงหน้ายิ่งนัก หยาดน้ำตาของนางสร้างความปวดร้าวแก่เขาเหลือเกิน ใจคิดถึงคำพูดของสนมฮุ่ยนางพูดสิ่งใดก่อนที่จะผลักเฟยลี่ลงจากสะพาน ครั้นจะคาดคั้นสนมฮุ่ยก็ตั้งครรภ์ต้องได้รับการดูแลอย่างดี“ข้า...จะปกป้องเจ้าเอง หากมีเรื่องใดในวังหลวงแห่งนี้ทำให้เจ้าลำบากใจขอเพียงบอกข้า”แพรวาร้องไห้โฮอย่างสุดจะกลั้น“มิไยต้องลำบากฝ่าบาท หม่อมฉันโหวหยางจื้อยินดีปกป้องนางด้วยชีวิต”โหวหยางจื้อเข้ามา เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ หยางหลงมองโหวหยางจื้อด้วยความแปลกใจ“เจ้า... นะหรือโหวหยางจื้อ”น้ำเสียงเยาะหยัน แพรวาอดขำไม่ได้ทั้งๆที่น้ำตายังเปรอะเปื้อนใบหน้าโหวหยางจื้อทำหน้าเหลอหลา
แพรวาน้ำตารื้นขอบตา มาช่วยเธอทำไม เพียงครู่เดียวแพรวาก็สิ้นสติในอ้อมแขนของหยางหลง ร่างเปียกปอนกับชุดบางเบา สนมฮุ่ยยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้น“ฝ่าบาท”เรียกหยางหลงเหมือนรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปผิดมหันต์ แต่ไม่แน่ใจว่าหยางหลง มาทันตอนที่ผลักแพรวาลงไปหรือไม่หยางหลงเพียงแต่หันไปมองด้วยสายตาตำหนิ แต่ไม่ได้เอ่ยคำใดอุ้มแพรวาที่สิ้นสติกลับเข้าไปในตำหนักลี่มี่ถือถาดน้ำชาเดินมาเห็นเข้าพอดีรีบกุลีกุจอตามหยางหลงฮ่องเต้ไปทันที“ลี่มี่ลำบากเจ้าแล้วเปลี่ยนชุดให้นางด้วยน้ำค่อนข้างเย็น”หยางหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกใดใดหากแต่ในใจกลับรู้สึกสงสารแพรวาจับใจ ในวังหลวงหากใครเป็นที่โปรดปรานย่อมได้รับการเกลียดชังเขารู้นิสัยของสนมฮุ่ยดีว่าเป็นเช่นไร นางถูกเขาช่วยเข้ามาในตำหนักถึงสองครั้งสองคราแล้วไหนจะคำทำนายของหมอหลวงนั่นอีกไม่แน่นางจะสามารถเอาชีวิตรอดจากการปองร้ายของสนมฮุ่ย ใครกันเล่าจะอาจหาญมาปกป้องนางจากสนมคนโปรดถ้าไม่ใช่เขาหยางหลงเลี่ยงออกมา เสี่ยวโอนำอาภรณ์ชุดใหม่มาเปลี่ยนให้ฮ่องเต้หนุ่ม“ส่งองครักษ์เฝ้าหน้าห้องเฟยลี่ไว้”เสี่ยวโอยิ้มออกคำสั่งทันทีเสียงดังลั่นเหมือนจงใจให้สนมฮุ่ยที่เด
ลี่มี่ยังคงทำหน้าสงสัยใคร่รู้ หากแต่รู้ว่าแพรวาต้องเสียใจอะไรบางอย่างควรปล่อยให้ได้ระบาย ลูบหลังลูบไหล่“ข้าเพียงแต่อยากกลับมา แต่เมื่อทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้วข้าควรจะกลับไป”“พี่สาวจะกลับไปได้อย่างไรเล่า”ลี่มี่เพียงแต่พูดปลอบใจ แต่แพรวากลับคิดได้จริงสิแพรวาน่าจะกลับได้ด้วยวิธีเดิม ...กระโดดน้ำ“พี่สาวอย่าคิดมากเลย ทุกอย่างมีทางแก้ไขตอนนี้ก็ค่ำมากแล้วพี่สาวพักผ่อนเสียเถอะ อ๋อจริงสิพี่สาวไม่ต้องไปคอยปรนนิบัติสนมฮุ่ยใกล้ชิดฝ่าบาทตามแผนหรืออย่างไร”พูดเสียแทงใจดำ“ไม่จำเป็นหรอกลี่มี่ตอนนี้สนมฮุ่ยมี หลายคนคอยรับใช้ฐานะนางต่างจากเดิมแล้ว”“พี่สาวหมายความว่านาง...”“ใช่นาง นำข้าไปอีกก้าวแล้วนางกำลังตั้งครรภ์”“พี่สาวข้าเหมือนเห็นแววตาเปี่ยมด้วยความรักในตัวฝ่าบาทของพี่สาว ข้าสงสารท่านด้วยความจริงใจ”แพรวายังคงสะอื้นไห้“ลี่มี่ข้าอยากได้สุราเลิศรสเจ้าพอจะนำมันมาให้ข้าได้ไหม”แพรวาถามหาเพื่อนที่ดีที่สุดยามนี้ ลี่มี่มองแพรวาด้วยความสงสารจับใจพยักหน้าช้าๆไหสุราถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะกลางห้องพร้อมถ้วยสุรา แพรวารินสุราจากไหใส่ถ้วยครั้งแล้วครั้งเล่าปล่อยมันให้หายวับไปในลำคอ ใบหน้าแดงระเรื่อกลิ่นสุรา
“อย่างนั้นข้าน้อยโหวหยางจื้อขอทูลลา ข้าไปก่อนแม่นางเฟยลี่ หวังอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสชมดอกไม้กับแม่นางอีกในไม่ช้า”หยางหลงยืนนิ่ง แต่เมื่อโหวหยางจื้อเดินจากไป หยางหลงหันกลับมามองแพรวาเต็มตากวาดตามองแบบไม่สนใจว่าสายตาจะดุดันเช่นไร“ได้เวลาต้อง กลับไปกับข้าอีกแล้ว”แพรวายิ้ม เอาวะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ขยับตัวไปยืนเคียงข้างสอดแขนเข้าไปในวงแขนแข็งแรงอย่างไม่เคอะเขินหยางหลงมองแขนของแพรวาที่เกี่ยวเกาะกับแขนของตัวเอง“ไปเพคะ ข้าพระองค์พร้อมแล้ว”“บังอาจ”“ไหนว่าข้าพระองค์เป็นสมบัติของฝ่าบาทอย่างไรเล่า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะโมโหไปไย”ฮ่องเต้หนุ่มฮึดฮัดแต่แพรวาก็ไม่ยอมปล่อย จนต้องจำยอมในที่สุดปล่อยให้แพรวาคล้องแขนเดินอยู่อย่างนั้นสนมฮุ่ยในชุดฮั่นฝูสีฟ้าใสอ่อนหวานเยื้องย่างจากทางเดินทอดยาวจากตำหนักหนึ่งสู่อีกตำหนักหนึ่งผู้ติดตามเกือบสิบคน เดินตามคอยยกชายชุดฮั่นฝูที่ยาวรุมร่ามฉับพลันนั้นเองร่างระหงกับมีอาการเซถลาคล้ายทรงตัวไม่อยู่ หญิงรับใช้หลายคนถลาเข้าประคองอย่างรวดเร็ว แต่ร่างบางกลับหมดสติ อย่าง ไม่มีใครได้ทันคาดเดาต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเสียงวี้ดว้ายดังระงม ทหารองครักษ์วิ่งวุ่นวายเหล่าขันทีที
เมื่อมาถึงตำหนักใหญ่ผลักร่างแพรวาเซถลาลงไปกองกับพื้น เสี่ยวโอคุกเข่าลงข้างๆ“ฝ่าบาท ถนอมพระวรกายด้วย อย่าทรงกริ้วนักเลย”ใบหน้าถมึงทึงหันไปมองเสี่ยวโอ“ธุระกงการอะไรของเจ้า ถอยไปแล้วปิดประตูคอยฟังคำสั่ง”เสี่ยวโอหดตัวถอยห่างออกมาปิดประตูเบามือ ส่งสายตาแสดงความเห็นใจมาให้แพรวาฮ่องเต้หนุ่มหันไปหาแพรวา“เจ้าช่าง ทำข้าขายหน้านัก”แพรวาทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจอะไรอีกทีนี้“เฟยลี่ไม่บังควร สุดแล้วแต่ฝ่าบาทจะกล่าวโทษ”“นี่เจ้าหาว่าข้ากล่าวโทษเจ้าลอยๆ รึ”แพรวาหันหน้าหนีส่ายหน้าช้าๆ ฮึอย่าให้แพรวาโมโหมาบ้างนะชักจะไม่มีเหตุผลไปกันใหญ่“ก็แล้วแต่ฝ่าบาทจะคิด ข้าพระองค์ไม่อาจโต้แย้งอย่างไรเสียข้าพระองค์ก็เป็นเพียงลูกแกะ ฝ่าบาทเป็นหมาป่าเจ้าอำนาจ”ไม่ทนแล้วยอมมาเยอะแล้วแม่จะแผลงฤทธิ์ให้ดูทีว่าใครจะแจ๋วกว่ากัน“เจ้านี่คงไม่พ้นจะโดนลงทัณฑ์จากข้า”“ใครกลัวเพคะ”ฮ่องเต้หนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์“ข้าคิดแล้วอย่างเจ้าไม่กลัวการลงทัณฑ์เป็นแน่ ถึงได้จงใจปลอมตัวเป็นฮุ่ยเหนียงทำข้าสับสนอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ทัน ไหนๆก็ปลอมตัวเป็นสนมของข้าแล้ว อย่างนั้นไม่สู้เจ้ามาแสดงให้มันจบไปเลยดีกว่า”เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แพรวาถอยจน
บรรจงจุมพิตที่แก้มนวล แพรวาหลับตาลงช้าๆ เหมือนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ คิดถึงอดีตที่เคยอยู่ข้างกายหยางหลง“ฮุ่ยเหนียงเจ้ามารอข้าถึงนี่เลยหรืออย่างไร”แพรวาเบิกตาโพลงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับ หยางหลงเต็มตาฮ่องเต้หนุ่มจ้องมองแพรวา ที่สวยหวานปานหยาดน้ำผึ้งอย่างตะลึงงันสักพักก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งชี้มือมาที่แพรวาด้วยมือสั่นระริก“เจ้า เจ้าบังอาจ นำชุดของสนมฮุ่ยมาสวมใส่ใครก็ได้มาจับนางไว้”เสี่ยวโอรีบวิ่งมาคุกเข่าแพรวานิ่งคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะตาลปัตรขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว ทหารองครักษ์สองนายวิ่งมายืนขนาบข้างกดแพรวาให้คุกเข่าแพรวาไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แต่อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลริน“ฝ่าบาท ทรงสอบสวนก่อน”เสี่ยวโอแย้งขึ้นทันทีเมื่อเห็นน้ำตาแพรวา"ไม่มีการสอบสวนใดใดทั้งสิ้น นำนางไปจองจำไว้”องครักษ์หิ้วแขนสองข้างของแพรวาขึ้นมาทันที“ไทฮองไทเฮาเสด็จจจจจจจจจจจจจจจจ”เสียงดังกังวานทำเอาทุกคนหยุดทุกการกระทำ“ฮ่องเต้ ใยเจ้ากล่าวโทษนาง ย่ามองไม่เห็นว่านางจะมีความผิดแต่อย่างใด”น้ำเสียงปราศจากความยโสเหมือนที่แพรวาเคยได้ยินแต่น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความปรานี“เสด็จย่านางนำอาภรณ์ของสนมฮุ