ลี่มี่ยกมือแพรวาให้เกาะ แขนตัวเองสาวใช้คลี่ผ้าคลุมหน้าสีแดงลงมาปิดใบหน้าสวยลี่มี่เดินช้าช้าชายผ้าด้านหลังยาวเรี่ยดิน สาวใช้ ถึงสิบสองคนที่ช่วยกันจับชายผ้าก่อนจะเดินตามเป็นแถวยาวแพรวาไม่ได้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของตัวเองหากแต่รู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปช้าเหลือเกิน เหอหลงในชุดแดงยืนรออยู่ก่อนแล้ว หน้าแท่นพิธี ไทฮองไทเฮานั่งอยู่ตรงกลาง เหล่าขุนนางสองฟากฝั่งมากมายจนไม่อาจนับจำนวน แพรวาเดินผ่านช่องแคบตรงกลางเหมือนประหนึ่งว่าเป็นเจ้าหญิงในนิยาย ใบหน้าหล่อเหลาของเหอหลงหันกลับมามองดวงสายตาเปี่ยมสุข เมื่อเห็นว่าแพรวาเดินมาเกือบจะถึงเขาฝ่ามือขาวเหมือนผู้หญิงยื่นส่งออกมารับมือของแพรวาที่ยังสงบนิ่ง ลี่มี่สะกิดเบาเบาแพรวามองมือบางขาวของเหอหลงที่ส่งมาพร้อมกับสายตาวิงวอน ยื่นมือเย็นเฉียบไปช้าช้าเสียงโห่ร้องดัง ก้องมาแต่ไกล เหล่าขุนนางหันรีหันขว้าง เหอหลงกระชากร่างแพรวาเข้าสู่อ้อมแขน องครักษ์หลายนายวิ่งวุ่นชักกระบี่ออกมาในท่าเตรียมพร้อมเข้าห้อมล้อมเหอหลงและไทฮองไทเฮาไว้บุรุษชุดดำหลายคนทะยานลงมาจากเบื้องบน ราวกับเหาะเหินได้ก็ไม่ปาน แพรวาเปิดผ้าคลุมหน้าออกจ้องมองไปทั่วแต่ไม่พบสิ่งที่ต้องการ“คุ้มกันฝ่าบาท
แม้คราวนี้จะไม่ถือว่าเพี้ยงพล้ำแต่มีโอกาสพ่ายแพ้ถึงเก้าในสิบส่วนเลยทีเดียวด้วย กำลังองครักษ์ที่ยืนคุมเชิงอยู่ด้านล่างนั้นหากว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่รัดกุมแล้วหยางหลงอาจหามีชีวิตไม่ แพรวาใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อคิดถึงครั้งเมื่อบิดาของเธอถูกเซี้ยนตี้ปลิดชีพด้วยคมกระบี่ในมือเหตุการณ์เหมือนจะดำเนินมารอยเดิมซ้ำซ้ำหยางหลงปล่อยให้แรงโน้มถ่วงพาร่างร่วงหล่นลงพื้นเหอหลงตามลงมาฟัดฟันกระบี่ใส่ไม่หยุด เนื่องด้วยการต่อสู้ที่ทั้งคู่มีวรยุทธ์ที่ไม่ด้อยกว่ากันนั้นหากแต่เหอหลงที่รูปร่างค่อนข้างสำอางกว่านั้นกำลังก็น้อยกว่าตามไปด้วย จึงเป็นฝ่ายเพี้ยงพล้ำก่อนถูกหยางหลงตวัดคมกระบี่กรีดผิวชุดสีแดงไม่อาจมองเห็นรอยเลือดปลายกระบี่จ่ออยู่ที่คอหอยในท่าที่นอนหงายสิ้นแรงแพรวาถอนใจโล่งอก“ฆ่าข้าเสีย ไม่อย่างนั้นอาจเป็นเจ้าที่ต้องตาย”“เสือไม่กินลูก พี่ไม่ฆ่าน้อง เพียงเจ้าปล่อยข้าและคนของข้าไปเหอหลงเราก็ไม่ติดค้างกันอีกปล่อยพวกเขา”เหอหลงมองพี่ชายด้วยสายตาเจ็บแค้น“ปล่อยพวกเขา”ทหารองครักษ์ถอยห่างจากโหวหยางจื้อหย่าจิ้งและซีหลิวตวัดปลายกระบี่ลงข้างลำตัวหันหลังเดินกลับ แต่ประเมินเหอหลงผิดไปเหอหลงยันกายลุกยกแขนตั้งฉา
“ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านข้าดีใจที่ท่านรู้เสียทีว่าข้าคือเย่วถิงข้าอยากกอดท่านมานานแล้ว”หย่าจิ้งหยุดชะงักหันกลับมามองแพรวาด้วยหยาดน้ำตาท่วมตาสวมกอดแพรวา แต่ยิ่งทำให้แพรวาเจ็บปวด เลือดสดสดยังไหลออกจากปากบางเป็นสีเดียวกับชาดทาปาก“ข้ารู้ว่าเจ้ากลับมาเพื่อที่จะจากข้าไปอย่างนี้ ข้าขอแค่มีเจ้ายังอยู่ในความทรงจำมีหวังว่าสักวันเยว่ถิงน้อยจะกลับมาก็พอ”“ท่านแม่มีพบต้องมีจาก บัดนี้เยว่ถิงรู้แล้วว่าท่านแม่รักเยว่ถิงแค่ไหนแค่นี้ก็เพียงพอแล้วขอเพียงอย่าเศร้าโศกกันอีกเลยวาสนาของเยว่ถิงมีพียงเท่านี้”แพรวารู้ว่าตัวเองต้องทนความเจ็บปวดแทบขาดใจได้อีกไม่นานหันมายิ้มเศร้าๆกับหยางหลง“หมดเวลาแล้ว ข้าเพียงแต่ไม่อยากจากท่าน โดยที่ท่านต้องรอข้าบัดนี้ข้าสบายใจเสียทีว่าท่านไม่ต้องรอข้า และข้าก็จะไม่ต้องจดจำท่านได้อีกต่อไป”หยางหลงปล่อยน้ำตาร่วงรินแพรวาหมายถึงการที่ตัวเองต้องข้ามภพไปยังปัจจุบันที่ทำให้หยางหลงคิดว่าแพรวาหายไปไหนอย่างน้อย ตอนนี้หยางหลงก็รู้ว่าแพรวา ได้ตายจากไปแล้วและแพรวาก็หมดสิ้นความรักความคิดถึงเมื่อร่างและวิญญาณแหลกสลาย“หมอหลวง หมอหลวง โหวหยางจื้อหมอหลวงอยู่ไหนเจ้าตามหมอหลวงที”แพรวาฝืนยิ้ม
“เป็นข้าที่ไม่อาจปกป้องนางใช่ไหมโหวหยางจื้อ ข้ายอมให้เหอหลงขึ้นนั่งบัลลังก์และพาเฟยลี่ไปลำบากข้างนอกนั่น จนนางทนไม่ไหวต้องยอมรับตำแหน่งฮองเฮาและพบจุดจบเช่นนี้”“เฟยลี่นางกลัวว่าฝ่าบาทจะเสียทีแก่เหอหลงจึงพยายามแจ้งข่าวเรื่องการแต่งตั้งฮองเฮา และปฏิเสธฝ่าบาทความจริงนางมีใจที่รักและภักดียิ่งกว่าผู้ใด กลัวว่าฝ่าบาทจะมีภัยยอมเสียสละเพื่อฝ่าบาท”หยางหลงยิ่งเศร้าสลดเมื่อได้ยินความจริงเหมือนอย่างที่เขาคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นอย่างนั้นแต่กลับหลอกตัวเองเพราะจะได้เศร้าโศกน้อยลงแต่โหวหยางจื้อเหมือนยิ่งมาตอกย้ำความคิดของเขาหยางหลงนั่งนิ่งปล่อยความคิดล่องลอยไปกับ สายลมพัดเบาเบาใช้มือข้างหนึ่งลูบปรอยผมสลวยของร่างไร้วิญญาณ“ฝ่าบาท ...พี่ใหญ่...ข้าไม่บังอาจเรียกท่านอย่างนี้นานแล้ว นางไปสบายแล้วครานี้มีเพียงสิ่งสุดท้ายที่เราจะทำได้คือ อยู่ด้วยความสุขเพื่อนางอยู่บนสวรรค์นั่นจะเห็นว่าเราไม่ทุกข์เหมือนอย่างที่นางต้องการ”หยางหลงพยักหน้ายอมให้ ขันทีและนางในหลายคน พาร่างไร้วิญญาณของแพรวาออกไปจากตักของหยางหลงท้องฟ้าเริ่มหม่นแสงลงเมื่อเวลาใกล้พลบค่ำความเศร้าโศกยิ่งทวีคูณหย่าจิ้งเอาแต่เศร้าโศกไม่แตะต้องอาหารห
"ฝ่าบาทหมอหลวงขอเข้าพบ"หยางหลงฮ่องเต้นั่งนิ่งเหมือนรูปปั้นไม่มีความรู้สึกใดใดถ้าหาก เร่งเวลาให้ผ่านไปได้แต่ละวันหากความทรงจำยังคงอยู่ที่นั่น“ข้าน้อย ถวายพระพรฝ่าบาท” คุกเข่าลงเบื้องหน้าด้วยแววตามุ่งมั่น“มีเรื่องใดหรือท่านหมอ”“เรื่องนี้ถือว่า เป็นการคาดเดาของข้าพระองค์หาได้มีสิ่งใดยืนยันชัดเจนได้ไม่ แต่ด้วยความที่ข้าพระองค์ทรงเห็นฝ่าบาท ทรงทุกข์ตรมเป็นระยะเวลาที่ยาวนานความเป็นข้าไม่อาจเห็นนายทุกข์ตรมได้เช่นนั้น และหวังว่าฝ่าบาทจะประทานโอกาสให้ข้าน้อยได้ลองดูสักครา”“เชิญท่านหมอ กล่าวมาว่าต้องจัดการเรื่องใด”“แพรวา แม่นางเฟยลี่นางยังมิอาจแตกดับได้เพียงแต่...”หยางหลงฮ่องเต้ดวงตาเป็นประกายดวงความสงสัยและตื่นเต้น“ท่านอย่ามาล้อข้าเล่นไม่เช่นนั้นกี่หัวก็ไม่พอให้ตัด”หมอหลวงขยับตัว จากท่าที่ตึงเครียดให้ผ่อนคลายกว่าเดิมเพราะว่ารู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่พูด ยากที่จะทำให้ใครเข้าใจได้นอกจากคนผู้นั้นจะประสบด้วยตัวเอง“ฝ่าบาทเพียงแค่เปิดใจให้กว้างรับรู้ ว่าในแผ่นดินกว้างใหญ่มีหลายเรื่องราวที่เราไม่อาจหาคำตอบได้ว่าจริงหรือเท็จ”“เรื่องใดจริงเรื่องใดเท็จข้าเพียงใช้ตา และสมองไตร่ตรอง”“ฝ่าบาท ขอเพียง
“คนไข้ เป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกมีอะไรผิดปกติไหม”หมอหนุ่มเอ่ยปากถามแพรวาส่ายหน้ายังคงจ้องมอง หมอหนุ่มตาไม่กะพริบ“คุณคนไข้ สลบไปนานที่เดียวหมอคิดว่าทุกอย่างปกติเพียงแค่คุณยังไม่พร้อมที่จะตื่นขึ้นมา หมอจึงแนะนำญาติให้ใช้เครื่องช่วยหายใจและคิดว่าอย่างไรเสียคนไข้ต้องฟื้นมาแน่นอนเพราะสัญญาณชีพทุกอย่างปกติ เดี๋ยวหมอจะให้พยาบาลติดต่อญาติของคุณให้เขาทราบว่าคุณฟื้นแล้ว”“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”“คุณประสบอุบัติเหตุ รถชนราวสะพานจมน้ำไปทั้งรถทั้งคน ดีที่มีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์และช่วยคุณไว้ได้ทัน”แพรวาพยักหน้างั้นสิ่งที่เธอเห็นและสัมผัสเป็นเพียงความฝันหรืออย่างไร“ฉันอยู่ที่นี่ตลอดเลยหรือ”พยาบาลที่มีใบหน้าเหมือนลี่มี่ชิงตอบคำถามบ้าง“อยู่ในห้องไอซียู พักหนึ่งค่ะ แล้วก็ออกมาอยู่ห้องซีซียูค่ะด้วยคุณหมอลงความเห็นว่าคุณเป็นผู้ป่วยวิกฤติของระบบหัวใจและดิฉันเป็นผู้ดูแลคุณในฐานะพยาบาลพิเศษที่คุณแม่คุณจ้างค่ะ”อย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันคือความฝันในเมื่อแพรวาไม่ได้หายไปไหนยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่นี่แพรวาเหม่อมองไปยังฝ้าเพดานห้องที่ลวดลายสวยงามเหมือน รูปมังกรจีนโบราณ ความฝันที่พานพบอาจเป็นเพียงเ
“คุณคนไข้ หลับไปนานมากอาจจะสับสนเหมือนที่คุณคิดนั่นล่ะครับมีหลายกรณีที่เป็นแบบคุณ ความจริงคือคุณยังอยู่ตรงนี้ร่างกายของคุณยังอยู่ตรงนี้อาจมีบ้างที่สติของคุณหลุดลอยไปสู่กับหลับลึก และจะทำให้คุณรู้สึกว่าความฝันนั้นเหมือนความจริง หมอจะยกตัวอย่างอย่างเวลาที่คุณเผลอนอนหลับไปในตอนกลางวันเพราะความเหนื่อยล้าและหลับลึกจนถึงกับฝัน ความฝันในช่วงนั้นของคุณจะเหมือนกับมันเกิดขึ้นจริงจริง จนคิดว่าเป็นเรื่องจริง และจะรู้สึกว่าเรื่องราวต่างเหมือนจริงทั้งทั้งที่คุณเผลอหลับไปไม่กี่นาทีเพราะว่าคุณสามารถจำความฝันได้แม่นยำไม่เหมือนช่วงกลางคืนที่คุณใช้เวลาในการนอนหลับที่ยาวนาน ความฝันในแต่ละคืน มีหลายเรื่องราวจนจำไม่ได้และรู้ว่ามันคือความฝันแต่ถ้าหากความฝันนั้นเป็นฝันที่มันกระตุ้นจิตใต้สำนึกหรือความอ่อนไหวในจิตใจคุณเช่นเรื่องเศร้าที่ทำให้ร้องไห้ หรือเรื่องที่ต้องสูญเสียยิ่งจะทำให้คุณคิดว่าเป็นเรื่องจริง อย่างนั้นหมอไม่อยากให้คุณกังวล เพราะอาการแบบนี้เกิดขึ้นได้ในทุกคนที่หมดสติ และอยู่ในช่วงวิกฤต จะทำให้เกิดความฝันแปลกแปลก และรู้สึกแปลกไปเมื่อฟื้นขึ้นมาอีกไม่นานอาการเหล่านั้นก็จะหายไปเอง”แพรวาคิดตามทุกคำพูด
แพรวายิ้มเศร้า อยากขอบคุณเขาสักครั้งอย่างน้อยเขาก็ทำให้เธอได้พบเจอสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามแม้จะต้องพลัดพรากกันก็ตาม อย่างน้อยแพรวาก็ได้รู้ว่าแม้จะเคยรักกันต์มากแค่ไหน ก็ไม่เท่ากับที่แพรวามีรักให้แก่ฮ่องเต้นามหยางหลงถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงความฝันก็ตามทีบัดนี้แพรวาเริ่มมีความเชื่อเก้าในสิบส่วนแล้วว่าสิ่งที่พบเจอมาเป็นเพียงความฝัน จากสิ่งแวดล้อมที่ประกอบกันขึ้นมาทำให้เธอฝันแบบนั้นไม่ว่าจะเป็นพยาบาลพิเศษ หรือหมอเจ้าของไข้ หรืออาจจะแม้กระทั่งคนที่ช่วยเธอขึ้นจากน้ำเหล่านั้นอาจเป็นส่วนประกอบที่ทำให้กลายเป็นความฝันที่เหมือนจริงขึ้นมาได้แม่ของแพรวาคว้าโทรศัพท์มากดหาเลขหมายที่ต้องการก่อนจะกรอกคำพูดลงไป แพรวาเดาว่าคุณแม่ของเธอต้องคุยกับเลขาของคนที่ช่วยชีวิตเธอ“เขาบอกอีกสองสามวันจะนัดเขาให้หนู ไปขอบคุณเพราะงานเขาค่อนข้างยุ่ง กำลังสร้างโรงงานเกี่ยวกับแผงโซล่าเซลล์ในไทย ความจริงเขาก็บอกปัดแม่มาแล้วว่าเข้าใจว่าหนูอยากขอบคุณเขาแต่นายของเขาไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ไม่ค่อยให้ความสำคัญ ออกจะไปรบกวนเขาด้วยซ้ำ แต่แม่ยืนยันว่าเป็นธรรมเนียมของไทย เขาถึงยอมแต่บอกว่าต้องรอให้นายเขาว
มือใหญ่เชยคางมนให้สบตา ก้มลงจูบหนักหน่วงที่ริมฝีปากบางอีกครั้ง เขาไม่อาจหักใจหากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ริมฝีปากอ่อนหนุ่มกลิ่นกายหอม ผิวเนื้ออ่อนละมุน ซุกอยู่กับอกกว้างถอนริมฝีปากออก“เราเคยรักกันมาก่อนใช่ไหม ที่ไหน เมื่อไหร่ บอกข้ามาก่อนที่ข้าจะกลืนกินเจ้าไป”สายตาคาดคั้น“ฝ่าบาทเชื่อเรื่องการเดินทางผ่านกาลเวลาไหม”หยางหลงขมวดคิ้ว“เช่นไร”“ข้ากับท่านเราเคยพบกัน ก่อนที่ข้าจะหายไปจากฝ่าบาทและกลับมาอีกครั้ง”หยางหลงครุ่นคิดภาพที่เขาเห็นนั้นเล่าชัดเจนแจ่มชัดในความทรงจำ เหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้น“เจ้าใช้เวทมนตร์ใช่ไหม”“ไม่ใช่เวทมนตร์แต่มันคือเรื่องประหลาดที่ข้าไม่อาจอธิบายได้ และข้าเองมิได้กำหนดว่าจะมาจะไปตอนไหน สวรรค์เป็นผู้กำหนดเหมือนที่หมอหลวงบอกข้า ข้าเพียงแต่ไปมาตามแต่สวรรค์ต้องการ”“แล้วหมอหลวงทำไมถึงรู้ว่าเจ้าจะมา”“ท่านหมอบอกข้าว่าเขาเองไม่อาจเปิดเผยบัญชาสวรรค์ตัวเขาเองมีหน้าที่เพียง เป็นผู้แจ้งข่าว”ข้างนอกนั่น“ลี่มี่ เจ้าแน่ใจแล้วรึว่าฝ่าบาท ประทับอยู่ในห้องของแม่นางเฟยลี่”เหอหลงเอ่ยปากถาม“ ข้าเห็นมากับตา ฝ่าบาททรงหายเข้าไปในห้องของพี่สาวข้าจึงรีบมาแจ้งข่าวกับท่าน”เหอหลงยิ้มมี
“หา”แพรวาเผลอยกมือขึ้นกระชับคอเสื้อที่หลุดหลุ่ยเผยให้เห็นผ้าคาดอกสีอ่อนเกือบจะเห็นเนินอกสวย“ข้าหมายถึง แก้ผ้าพันแผลของข้าออก”แพรวาย่นจมูก เอื้อมมือแกะผ้าพันแผลออกหยางหลงกัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวดแผลไม่ลึกนักทว่ารอยแผลยาวเหยียดแพรวาโรยยาจนทั่วแผลก่อนจะเป่าเบาๆที่แผลของหยางหลงอย่างอ่อนโยน“เพี้ยง หายไวไวนะ”หยางหลงมองแพรวาด้วยสายตาลึกซึ้งความอ่อนโยนที่แพรวามอบให้เขาไม่เคยได้รับจากผู้ใด แพรวาเงยหน้าขึ้นพบกับสายตานั้นความเขินอายกับเกิดขึ้นกับแพรวาอย่างช่วยไม่ได้ หยางหลงเองก็เผลออมยิ้มกับอาการเขินอายนั้น“ทหารจัดเวรยามให้มากกว่านี้ ถ้าหากยังไม่อยากหัวหลุดจากบ่า คืนนี้ข้าจะค้างที่นี่”เสียงตะโกนจากในห้องออกไปแพรวาขยับตัวลุกจากแท่นนอน หยางหลงฉุดมือด้วยแขนข้างที่ไม่เจ็บไว้แพรวาหันมามองประสานสายตาแววตาลึกซึ้งแววตาที่แพรวาเคยเห็นกลับมาแล้ว“ข้าพระองค์กำลังจัดที่บรรทมให้ฝ่าบาท คืนนี้อากาศหนาวนัก”“ไม่เป็นไร เพียงแค่...มีเจ้าร่วมหมอน”แพรวาอายม้วน เฮ้อไม่น่าเชื่อว่าคำพูดของหยางหลงยังสามารถทำเอาแพรวาเขินอายได้“ฝ่าบาทนอนเสียเถิด”แพรวาเสมองไปที่ผ้าห่มที่เคยห่มคลุมกายของตัวเองบัดนี้กลับถูกห่มคล
“ไม่ไม่ อย่าทำแบบนี้เลย แบบนี้เลย (เพลงพี่ป้างดังแทรกขึ้นมาในคลื่นสมองของแพรวา) ”เหอหลงยิ้มมีเลศนัย นัยน์ตาเป็นประกายวาววับ“อ้า ถ้าอย่างนั้นท่านพอจะบอกข้าได้ไหมถึงแผนการที่ท่านวาดไว้”แพรวาอ้อนวอน“ข้าคิดว่าไม่บอกจะดีกว่าเพราะ...หลอกศัตรูต้องหลอกมิตรให้ตายใจ”"คือถ้าท่านบอกแผนการข้าก่อนอย่างน้อยข้าก็พอที่จะทำตามแผนรับมือสิ่งที่จะเจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ”แพรวาพยายามยกแม่น้ำทั้งห้า“ข้าเห็นต้องไปเสียทีแล้ว รั้งอยู่ที่นี่เสียนานเดี๋ยวความแตก”เหอหลงไม่สนใจแพรวา ขยับตัวหลบยังมุมมืดจากไปทันที แพรวาหันไปทางเสี่ยวโอ“เจ้ารู้ใช่ไหม”เสียวโอหันหลังเดินหนีเช่นกัน ลี่มี่ยิ้มอย่างรู้ทัน“พี่สาวข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”ออกตัวไว้ก่อน“ข้ารู้แล้ว”“ดีแล้วค่ะพี่สาวแต่ว่าท่านรู้ว่าอย่างไรคะ”“ก็รู้ว่า ทุกคนปิดบังข้า”“พี่สาวเราทั้งหมดเพื่อบ้านเมืองแล้วเราพร้อมที่จะทำทุกอย่าง แต่สำหรับข้า ชินอ๋องและเสี่ยวโอ เพื่อฝ่าบาทและพี่สาวเรายอมทำทุกวิถีทางเพราะเราเชื่อว่าท่านหมอพูดไว้ไม่ผิดเรื่องพี่สาวอยากให้พี่สาวเชื่อใจเถิดว่าข้าเสี่ยวโอและชินอ๋องหวังดีต่อฝ่าบาทและพี่สาวด้วยความจริงใจ”แพรวาซาบซึ้งในน้ำใจของ ท
คำพูดที่ออกมาจากใจของแพรวาน้ำตาเอ่อล้นตา หยางหลงรู้สึกเศร้าใจตามไปด้วย“เจ้าจะไปที่แห่งใดใครอนุญาตให้เจ้าไป”เสียงทรงอำนาจเหมือนจะออกอาการหงุดหงิดกับการจะจากไปของแพรวาหยางหลงจ้องมองที่แพรวาเหมือนจะค้นหาคำตอบ“ไม่อยากอยู่แล้วท่านหมอ”แพรวายังคงหลบตา หยางหลงหันไปมองหมอหลวงสายตาดุดัน หมอหลวงประสานมือถอยห่างออกไป“ข้าพระองค์ขอตัว ข้าขอตัวแม่นางเฟยลี่ไว้เจ้าคิดให้ดีแล้วข้าจะให้คำตอบ”แพรวาหลับตาไล่หยาดน้ำตาที่หยดริน ฮ่องเต้หนุ่มรู้สึกสงสารหญิงสาวตรงหน้ายิ่งนัก หยาดน้ำตาของนางสร้างความปวดร้าวแก่เขาเหลือเกิน ใจคิดถึงคำพูดของสนมฮุ่ยนางพูดสิ่งใดก่อนที่จะผลักเฟยลี่ลงจากสะพาน ครั้นจะคาดคั้นสนมฮุ่ยก็ตั้งครรภ์ต้องได้รับการดูแลอย่างดี“ข้า...จะปกป้องเจ้าเอง หากมีเรื่องใดในวังหลวงแห่งนี้ทำให้เจ้าลำบากใจขอเพียงบอกข้า”แพรวาร้องไห้โฮอย่างสุดจะกลั้น“มิไยต้องลำบากฝ่าบาท หม่อมฉันโหวหยางจื้อยินดีปกป้องนางด้วยชีวิต”โหวหยางจื้อเข้ามา เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ หยางหลงมองโหวหยางจื้อด้วยความแปลกใจ“เจ้า... นะหรือโหวหยางจื้อ”น้ำเสียงเยาะหยัน แพรวาอดขำไม่ได้ทั้งๆที่น้ำตายังเปรอะเปื้อนใบหน้าโหวหยางจื้อทำหน้าเหลอหลา
แพรวาน้ำตารื้นขอบตา มาช่วยเธอทำไม เพียงครู่เดียวแพรวาก็สิ้นสติในอ้อมแขนของหยางหลง ร่างเปียกปอนกับชุดบางเบา สนมฮุ่ยยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้น“ฝ่าบาท”เรียกหยางหลงเหมือนรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปผิดมหันต์ แต่ไม่แน่ใจว่าหยางหลง มาทันตอนที่ผลักแพรวาลงไปหรือไม่หยางหลงเพียงแต่หันไปมองด้วยสายตาตำหนิ แต่ไม่ได้เอ่ยคำใดอุ้มแพรวาที่สิ้นสติกลับเข้าไปในตำหนักลี่มี่ถือถาดน้ำชาเดินมาเห็นเข้าพอดีรีบกุลีกุจอตามหยางหลงฮ่องเต้ไปทันที“ลี่มี่ลำบากเจ้าแล้วเปลี่ยนชุดให้นางด้วยน้ำค่อนข้างเย็น”หยางหลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกใดใดหากแต่ในใจกลับรู้สึกสงสารแพรวาจับใจ ในวังหลวงหากใครเป็นที่โปรดปรานย่อมได้รับการเกลียดชังเขารู้นิสัยของสนมฮุ่ยดีว่าเป็นเช่นไร นางถูกเขาช่วยเข้ามาในตำหนักถึงสองครั้งสองคราแล้วไหนจะคำทำนายของหมอหลวงนั่นอีกไม่แน่นางจะสามารถเอาชีวิตรอดจากการปองร้ายของสนมฮุ่ย ใครกันเล่าจะอาจหาญมาปกป้องนางจากสนมคนโปรดถ้าไม่ใช่เขาหยางหลงเลี่ยงออกมา เสี่ยวโอนำอาภรณ์ชุดใหม่มาเปลี่ยนให้ฮ่องเต้หนุ่ม“ส่งองครักษ์เฝ้าหน้าห้องเฟยลี่ไว้”เสี่ยวโอยิ้มออกคำสั่งทันทีเสียงดังลั่นเหมือนจงใจให้สนมฮุ่ยที่เด
ลี่มี่ยังคงทำหน้าสงสัยใคร่รู้ หากแต่รู้ว่าแพรวาต้องเสียใจอะไรบางอย่างควรปล่อยให้ได้ระบาย ลูบหลังลูบไหล่“ข้าเพียงแต่อยากกลับมา แต่เมื่อทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้วข้าควรจะกลับไป”“พี่สาวจะกลับไปได้อย่างไรเล่า”ลี่มี่เพียงแต่พูดปลอบใจ แต่แพรวากลับคิดได้จริงสิแพรวาน่าจะกลับได้ด้วยวิธีเดิม ...กระโดดน้ำ“พี่สาวอย่าคิดมากเลย ทุกอย่างมีทางแก้ไขตอนนี้ก็ค่ำมากแล้วพี่สาวพักผ่อนเสียเถอะ อ๋อจริงสิพี่สาวไม่ต้องไปคอยปรนนิบัติสนมฮุ่ยใกล้ชิดฝ่าบาทตามแผนหรืออย่างไร”พูดเสียแทงใจดำ“ไม่จำเป็นหรอกลี่มี่ตอนนี้สนมฮุ่ยมี หลายคนคอยรับใช้ฐานะนางต่างจากเดิมแล้ว”“พี่สาวหมายความว่านาง...”“ใช่นาง นำข้าไปอีกก้าวแล้วนางกำลังตั้งครรภ์”“พี่สาวข้าเหมือนเห็นแววตาเปี่ยมด้วยความรักในตัวฝ่าบาทของพี่สาว ข้าสงสารท่านด้วยความจริงใจ”แพรวายังคงสะอื้นไห้“ลี่มี่ข้าอยากได้สุราเลิศรสเจ้าพอจะนำมันมาให้ข้าได้ไหม”แพรวาถามหาเพื่อนที่ดีที่สุดยามนี้ ลี่มี่มองแพรวาด้วยความสงสารจับใจพยักหน้าช้าๆไหสุราถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะกลางห้องพร้อมถ้วยสุรา แพรวารินสุราจากไหใส่ถ้วยครั้งแล้วครั้งเล่าปล่อยมันให้หายวับไปในลำคอ ใบหน้าแดงระเรื่อกลิ่นสุรา
“อย่างนั้นข้าน้อยโหวหยางจื้อขอทูลลา ข้าไปก่อนแม่นางเฟยลี่ หวังอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสชมดอกไม้กับแม่นางอีกในไม่ช้า”หยางหลงยืนนิ่ง แต่เมื่อโหวหยางจื้อเดินจากไป หยางหลงหันกลับมามองแพรวาเต็มตากวาดตามองแบบไม่สนใจว่าสายตาจะดุดันเช่นไร“ได้เวลาต้อง กลับไปกับข้าอีกแล้ว”แพรวายิ้ม เอาวะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ขยับตัวไปยืนเคียงข้างสอดแขนเข้าไปในวงแขนแข็งแรงอย่างไม่เคอะเขินหยางหลงมองแขนของแพรวาที่เกี่ยวเกาะกับแขนของตัวเอง“ไปเพคะ ข้าพระองค์พร้อมแล้ว”“บังอาจ”“ไหนว่าข้าพระองค์เป็นสมบัติของฝ่าบาทอย่างไรเล่า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะโมโหไปไย”ฮ่องเต้หนุ่มฮึดฮัดแต่แพรวาก็ไม่ยอมปล่อย จนต้องจำยอมในที่สุดปล่อยให้แพรวาคล้องแขนเดินอยู่อย่างนั้นสนมฮุ่ยในชุดฮั่นฝูสีฟ้าใสอ่อนหวานเยื้องย่างจากทางเดินทอดยาวจากตำหนักหนึ่งสู่อีกตำหนักหนึ่งผู้ติดตามเกือบสิบคน เดินตามคอยยกชายชุดฮั่นฝูที่ยาวรุมร่ามฉับพลันนั้นเองร่างระหงกับมีอาการเซถลาคล้ายทรงตัวไม่อยู่ หญิงรับใช้หลายคนถลาเข้าประคองอย่างรวดเร็ว แต่ร่างบางกลับหมดสติ อย่าง ไม่มีใครได้ทันคาดเดาต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเสียงวี้ดว้ายดังระงม ทหารองครักษ์วิ่งวุ่นวายเหล่าขันทีที
เมื่อมาถึงตำหนักใหญ่ผลักร่างแพรวาเซถลาลงไปกองกับพื้น เสี่ยวโอคุกเข่าลงข้างๆ“ฝ่าบาท ถนอมพระวรกายด้วย อย่าทรงกริ้วนักเลย”ใบหน้าถมึงทึงหันไปมองเสี่ยวโอ“ธุระกงการอะไรของเจ้า ถอยไปแล้วปิดประตูคอยฟังคำสั่ง”เสี่ยวโอหดตัวถอยห่างออกมาปิดประตูเบามือ ส่งสายตาแสดงความเห็นใจมาให้แพรวาฮ่องเต้หนุ่มหันไปหาแพรวา“เจ้าช่าง ทำข้าขายหน้านัก”แพรวาทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจอะไรอีกทีนี้“เฟยลี่ไม่บังควร สุดแล้วแต่ฝ่าบาทจะกล่าวโทษ”“นี่เจ้าหาว่าข้ากล่าวโทษเจ้าลอยๆ รึ”แพรวาหันหน้าหนีส่ายหน้าช้าๆ ฮึอย่าให้แพรวาโมโหมาบ้างนะชักจะไม่มีเหตุผลไปกันใหญ่“ก็แล้วแต่ฝ่าบาทจะคิด ข้าพระองค์ไม่อาจโต้แย้งอย่างไรเสียข้าพระองค์ก็เป็นเพียงลูกแกะ ฝ่าบาทเป็นหมาป่าเจ้าอำนาจ”ไม่ทนแล้วยอมมาเยอะแล้วแม่จะแผลงฤทธิ์ให้ดูทีว่าใครจะแจ๋วกว่ากัน“เจ้านี่คงไม่พ้นจะโดนลงทัณฑ์จากข้า”“ใครกลัวเพคะ”ฮ่องเต้หนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์“ข้าคิดแล้วอย่างเจ้าไม่กลัวการลงทัณฑ์เป็นแน่ ถึงได้จงใจปลอมตัวเป็นฮุ่ยเหนียงทำข้าสับสนอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ทัน ไหนๆก็ปลอมตัวเป็นสนมของข้าแล้ว อย่างนั้นไม่สู้เจ้ามาแสดงให้มันจบไปเลยดีกว่า”เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แพรวาถอยจน
บรรจงจุมพิตที่แก้มนวล แพรวาหลับตาลงช้าๆ เหมือนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ คิดถึงอดีตที่เคยอยู่ข้างกายหยางหลง“ฮุ่ยเหนียงเจ้ามารอข้าถึงนี่เลยหรืออย่างไร”แพรวาเบิกตาโพลงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับ หยางหลงเต็มตาฮ่องเต้หนุ่มจ้องมองแพรวา ที่สวยหวานปานหยาดน้ำผึ้งอย่างตะลึงงันสักพักก็เปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งชี้มือมาที่แพรวาด้วยมือสั่นระริก“เจ้า เจ้าบังอาจ นำชุดของสนมฮุ่ยมาสวมใส่ใครก็ได้มาจับนางไว้”เสี่ยวโอรีบวิ่งมาคุกเข่าแพรวานิ่งคิดไม่ถึงว่าเรื่องจะตาลปัตรขนาดนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว ทหารองครักษ์สองนายวิ่งมายืนขนาบข้างกดแพรวาให้คุกเข่าแพรวาไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แต่อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลริน“ฝ่าบาท ทรงสอบสวนก่อน”เสี่ยวโอแย้งขึ้นทันทีเมื่อเห็นน้ำตาแพรวา"ไม่มีการสอบสวนใดใดทั้งสิ้น นำนางไปจองจำไว้”องครักษ์หิ้วแขนสองข้างของแพรวาขึ้นมาทันที“ไทฮองไทเฮาเสด็จจจจจจจจจจจจจจจจ”เสียงดังกังวานทำเอาทุกคนหยุดทุกการกระทำ“ฮ่องเต้ ใยเจ้ากล่าวโทษนาง ย่ามองไม่เห็นว่านางจะมีความผิดแต่อย่างใด”น้ำเสียงปราศจากความยโสเหมือนที่แพรวาเคยได้ยินแต่น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความปรานี“เสด็จย่านางนำอาภรณ์ของสนมฮุ