บทที่ 23. ตอน คนในความฝัน/1“ท่านพี่... ท่านพี่...”เสียงเรียกของสตรีนางหนึ่งดังแว่วมาไกลๆ ทำให้คนได้ยินมองหาเจ้าของเสียง ทว่า... เขากลับมองเห็นเพียงมองควันสีขาวอยู่รอบกาย จึงพยายามพาตัวเองเดินฝ่าหมอกหนานั้นออกไป“ท่านพี่... ข้าอยู่นี่...”เสียงเรียกยังดังขึ้น ทำให้เขาเร่งพาตัวเองไปตามเสียงนั้น ม่านหมอกสีขาวค่อยๆ จางลง มองเห็นเกี้ยวเจ้าสาวสีแดงวางอยู่บนพื้น เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ ก็เห็นมือเรียวงามข้างหนึ่งแหวกม่านกั้น แล้วพาร่างระหงในชุดเจ้าสาวสีแดงก้าวออกมาจากเกี้ยวหลังนั้น สตรีในชุดสีแดงเดินออกไปจากเกี้ยว ทำให้เขาเร่งฝีเท้าตามไป เห็นเพียงแผ่นหลังบางของนางที่เดินนำเขาอยู่ห่างๆ เขาอยากเห็นใบหน้าของนางเหลือเกิน เมื่อเร่งเดินจนทันจึงยื่นมือไปคว้าข้อมือของนางรั้งไว้สตรีนางนั้นค่อยๆ หันมาช้าๆ ใบหน้าของนาง ทำให้เขานิ่งงัน ดวงตากลมโต ใต้คิ้วโค้ง จมูกโด่งเล็ก ริมฝีปากเรียวบางเจือสีระเรื่อราวกับผลอิงเถา ชวนให้คนมองตื่นตะลึงกับความงดงามราวกับเทพธิดา บนร่างของนางสวมอาภรณ์สีแดงสดของเจ้าสาว นางมองหน้าเขาแล้วส่งยิ้มอ่อนหวาน ทำให้เขาแย้มริมฝีปากยิ้มตอบนาง ขณะประคองใบหน้างามนั้น มองนางด้วยความรู้สึ
บทที่ 24. ตอน คนในความฝัน/2"ข้าชื่อหลินเซียว เจ้าเป็นหลานของข้า ชื่อว่า เยี่ยเหวินจ้าว เรากำลังจะเดินทางไปค้าขายทางเรือ แต่เกิดพายุทำให้เรือแตก เจ้าถูกเสากระโดงเรือตกลงมาฟาดโดนหัว ได้รับบาดเจ็บ โชคดีมีคนช่วยชีวิตเราสองคนไว้ได้"จากนั้นท่านลุงหลินก็พาเขาเดินทางไปหาเพื่อนของท่านลุงที่เมืองเจิ้งหยาง เพื่อนของท่านลุงชื่อถังเหยียน เขาเป็นทหารในกองทัพตำแหน่งนายกอง "ถังเหยียน ข้าขอฝากหลานชายของข้าเข้าร่วมกองทัพด้วย"ท่านลุงฝากเขาเป็นทหารในกองทัพที่ถังเหยีนดูแล"เสี่ยวเหวิน ต่อไปนี้เจ้าก็ดูแลตัวเองให้ดี นี่คือหยกของพ่อเจ้า เก็บรักษาไว้ให้ดี"ท่านลุงมอบจี้หยกชิ้นหนึ่งให้เขาก่อนจะจากไป เขาจึงเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะพลทหารผู้น้อย คอยดูแลม้าในค่ายทหารเมืองเจิ้งหยาง หลังจากห้าปีผ่านไป มีหลายสิ่งเกิดขึ้น ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตเขา เริ่มจากเขาได้ช่วยชีวิตทหารผู้หนึ่งของกองทัพวายุทมิฬไว้ จึงถูกพาเข้าสังกัดกองทัพที่ได้ชื่อว่ากองทัพปีศาจ สร้างผลงานโดดเด่น จนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกองภายในปีเดียว และมีโอกาสได้พบกับใต้เท้าโส่วฝู่ และนั่นกลายเป็นจุดพลิกผัน เมื่อใต้เท้าโส่วฝู่ได้เห็นใบหน้าของเขาเหมือนกับบุต
บทที่ 25 ตอน พบกันอีกครั้ง/1ย่านการค้าของเมืองหนานไห่ในช่วงเช้าบรรยากาศค่อนข้างคึกคัก ด้วยผู้คนที่มาติดต่อซื้อขายของทะเลและของแห้งร้านของหลิวซืออิน เป็นร้านขายอาหารทะเลแห้งใหญ่ที่สุดในเมืองหนานไห่ มีพ่อค้าจากต่างเมืองมาติดต่อซื้อขายสินค้า เพื่อนำไปขายต่อเป็นจำนวนมาก ในแต่ละวันจึงมีผู้คนผ่านเข้าไปมาในร้านมากหน้าหลายตา หลิวซืออินมอบหมายให้นางฉีฮุ่ยเป็นผู้ดูแลร้าน ซุนเซิงเป็นหลงจู้คอยควบคุมบัญชีของร้านและตรวจสอบการค้า ตอนนี้ซุนเซิงยังไม่กลับจากการไปส่งสินค้าที่ต่างเมือง ดังนั้นหลิวซืออินจึงต้องมาอยู่หน้าร้านคอยดูแลเรื่องทำบัญชีแทนเหตุการณ์ในโรงเตี๊ยมเมื่อวานนี้ ต่างเป็นที่โจษขานของชาวเมือง ผู้คนให้ความสนใจเรื่องที่เถ้าแก่เฉินถูกทางการจับตัวไปในข้อหาค้าเกลือเถื่อน กิจการของเถ้าแก่เฉินถูกทางการสั่งปิดเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน และบัญชีการค้าขายที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการค้าเกลือเถื่อน มีหลายคนถูกนำตัวไปสอบสวนนอกจากเหตุการณ์ ที่โรงเตี๊ยมแล้ว เหตุการณ์ที่สองหนูน้อยเกือบถูกรถม้าชน ก็เป็นเรื่องถูกพูดถึงกันอย่างมาก ผู้คนต่างชื่นชมท่านแม่ทัพผู้นั้นที่ช่วยเหลือเด็กๆไว้ หลิวซืออินได้ยินเรื่องราว
บทที่ 26 ตอน พบกันอีกครั้ง/2ผิงอันน้อยยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มท่านลุงของนางด้วยความดีใจ ด้านอี้หนิงก็จับแขนของเขาเขย่าแรงๆ กระโดดขึ้นลง ท่าทางตื่นเต้นดีใจนั้นทำให้นางฉี่ฮุ่ยรู้สึกแปลกใจมาก ที่เห็นเด็กทั้งสองสนิทสนมกับชายผู้นี้อย่างรวดเร็ว ปกติแล้วอี้หนิงกับผิงอันแทบจะไม่ยอมใกล้ชิดกับผู้อื่นนอกจากคนในครอบครัว"ลุงสัญญาแล้วก็ต้องมาหาพวกเจ้าตามสัญญาสิ วันนี้ลุงซื้อของเล่นมาให้พวกเจ้าด้วย"แม่ทัพหนุ่มพยักหน้าให้คนขับรถ นำของที่เขาเตรียมมามอบให้เด็กๆทั้งสอง"เชิญท่านแม่ทัพเข้าไปพักผ่อนด้านในเถอะเจ้าค่ะ อี้หนิงผิงอัน พาท่านลุงเข้าไป"นางฉี่ฮุ่ยเชื้อเชิญแม่ทัพหนุ่มให้เข้าไปในร้านบอกเด็กๆให้พาเขาไปยังห้องรับรองชั้นสอง ด้านล่างเป็นร้านของทะเลของทะเลแห้ง จึงมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ไม่อาจต้อนรับแขกตรงนี้ได้ "ท่านลุง พวกเราไปข้างในเถอะเจ้าค่ะ"ผิงอันกอดคอท่านลุงของนางแน่น ให้เขาอุ้มพาไปตามทางที่นางชี้บอก อี้หนิงเดินนำไปอย่างอารมณ์ดี ลูกค้าในร้านต่างพากันมองอย่างสนใจ หลายคนพากันกระซิบกระซาบ"หรือเขาจะเป็นพ่อของเด็กๆ"///หลิวซืออินออกจากร้านมาตั้งแต่เช้าตรู่ นางต้องเข้าไปดูแลโรงผลิตปลาเค็ม และอาหารท
บทที่ 27 ตอน ให้สวรรค์ขีดเส้นชะตา/1เจ้าตัวกลมกระโดดกอดร่างของมารดา ทำให้หลิวซืออินที่กำลังมองแผ่นหลังของคนที่นั่งอยู่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับเซ ในวงแขนมีร่างป้อมของผิงอัน นางรีบหมุนตัวไม่ให้ล้มทับร่างน้อยของลูกสาว ขาจึงขัดกันหงายหลังล้มลง “ว้าย !” หลิวซืออินอุทานด้วยความตกใจทว่า... ในจังหวะเดียวกัน ร่างสูงใหญ่ของคนที่นั่งอยู่ก็ใกล้ๆ ก็พลิกตัวมารองรับสองแม่ลูกเอาไว้ จึงไม่ล้มฟาดแต่ล้มไปในอ้อมแขนของเขาแทน อุ๊บ !เสียงร้องดังขึ้นเบาๆ จากชายที่กลายเป็นเบาะอยู่ด้านล่าง ฉู่หมิงฮ่าวโอบกอดร่างนุ่มนิ่มของหลิวซืออินไว้ในอ้อมแขน ศีรษะของนางซบแนบกับอกกว้างของเขา ใบหน้าของเขาแนบอยู่ข้างใบหูขาว จมูกโด่งได้กลิ่นหอมราวกับกลิ่นของบุปผาจากกายนาง จนเผลอสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด หัวใจเต้นแรง ความรู้สึกแปลกๆ ผุดขึ้นในหัวใจ วงแขนรัดรอบร่างของสองแม่ลูกแน่นขึ้นอย่างลืมตัว จนกระทั่งคนในอ้อมแขนเริ่มดิ้นรนลุกขึ้น"ท่านแม่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง"อี้หนิงรีบลุกขึ้นมาช่วยดึงร่างของน้องสาวให้ลุกขึ้น เด็กชายมองดูมารดาที่ยามนี้นอนทับอยู่บนร่างหนาของท่านลุง ด้วยความห่วงใย"แม่ไม่เป็นอะไร อุ๊
บทที่ 28. ตอน ให้สวรรค์ขีดเส้นชะตา/2 หลิวซืออินแบกหน้าร้อนผ่าวด้วยความอายของตัวเองมาจัดโต๊ะอาหาร จากนั้นก็เชิญแม่ทัพหนุ่มกับเด็กๆ มากินข้าวด้วยกัน อาหารจากโรงเตี๊ยมฝูไหล ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่สุดในเมืองหนานไห่ วัตถุดิบสดใหม่มีทั้งอาหารทะเลและหมูไก่ เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของโรงเตี๊ยมฝูไหลเป็นหญิงม่ายลูกติด หลิวซืออินรู้จักและคบหาสนิทสนมกับนางมาหลายปีแล้ว ทั้งสองเป็นหญิงม่ายมีลูกน้อยให้เลี้ยงดู จึงเข้าใจกันเป็นอย่างดี เจ้าซาลาเปาแฝดอายุเท่ากับบุตรสาวของเถ้าแก่เนี้ย ยามพบกันก็มักจะเล่นกันเสมอ ทั้งสี่ร่วมโต๊ะกันกินข้าวไปคุยกันไป ผู้ที่พูดคุยมากที่สุดเป็นผิงอันน้อย นางใช้ตะเกียบคีบอาหารมาวางบนชามข้าวของท่านลุงฉู่ ท่านลุงก็คีบน่องไก่วางใส่ชามข้าวนางคืน และยังคีบอีกน่องใส่ชามให้อี้หนิง "นี่ของเจ้า"แม่ทัพฉู่หมิงฮ่าวคีบหมูสามชั้นวางบนชามข้าวของหลิวซืออิน ราวกับเขารู้ว่านางชอบ จากนั้นตัวเขาก็คีบกับข้าวใส่ชามเด็กน้อยทั้งสอง ชักชวนให้กินผักกินเนื้อ"ผิงอันเจ้ากินผักด้วย จะได้ไม่ท้องอืด อี้หนิงเจ้าอย่ากินแต่ผักกินเนื้อให้มากๆ เด็กผู้ชายต้องกินเนื้อถึงจะโตเร็ว"แม่ทัพฉู่หมิงฮ่าวรู้สึกว่ามื้ออาหารนี
บทที่ 29 ตอน ถูกกล่าวหา"เจ้าเป็นใคร บังอาจขัดขวางเจ้าหน้าที่"มือปราบคนหนึ่งผลักซุนเซิงให้หลบไป แต่เขาไม่ยอมหลบยื้อหยุดไปมาจนมือปราบอีกคนต้องเข้ามาช่วย จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น"หยุดนะ อย่าตีกัน"หลิวซืออินเข้าไปห้าม แต่มือเท้าไม่มีหูตานางจึงโดนลูกหลงถูกฟาดเข้าที่ไหล่ กระเด็นออกมา โชคดีมีใครคนหนึ่งมาเข้ามาดึงตัวนางหลบ แล้วฟาดฝ่ามือใส่มือปราบผู้นั้นจนล้มลง"บังอาจ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร!"มือปราบผู้นั้นตะโกนออกมาด้วยความโมโห กำหมัดหมายจะซัดคืน แต่เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ฟาดฝ่ามือใส่เขา ก็หยุดชะงักทันที "ตะ ใต้เท้า ท่านแม่ทัพฉู่"เขารีบยั้งมือก้มลงประสานมือคารวะทันที เพื่อนที่มาด้วยกันรีบผลักซุนเซิงออกไป แล้วขยับมายืนทำความเคารพข้างๆ กันซุนเซิงหันไปมองคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย ตอนนี้คนผู้นั้นกำลังประคองหลิวซืออินเอาไว้ ใช้มือข้างหนึ่งโอบรอบเอวนางดึงตัวมากอดไว้ท่าทางสนิทสนม เขามองใบหน้าที่สวมหน้ากากเงินไว้ ก่อนจะรู้สึกว่าใบหน้าครึ่งหนึ่งที่โผล่พ้นหน้ากาก ช่างคุ้นตา แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นริมฝีปากแบบนี้ที่ใดมาก่อน "ขอบคุณท่านแม่ทัพ เอ่อ ... ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว"หลิวซ
บทที่ 30. ตอน ข้อกล่าวหาทั้งสองนั่งรถม้าไปด้วยกัน หลิวซืออินร้อนใจเรื่องคดี จึงได้อธิบายให้เขาฟังว่า"ท่านแม่ทัพฉู่ เมื่อวานเถ้าแก่เฉินได้เชิญข้าไปที่โรงเตี๊ยม เขาบอกข้าว่ามีลูกค้าสนใจสินค้าของข้า เมื่อไปถึงเขากลับเสนอให้ข้า ร่วมมือกับเขาในการค้าเกลือเถื่อน แต่ข้าไม่ยินยอม จึงคิดกลับออกมา แล้วเจ้าหน้าที่ก็บุกเข้าจับกุมเขา หลังจากนั้นก็เป็นท่านที่เข้ามาช่วยข้า""เจ้ามีหลักฐานหรือไม่ ว่าเจ้าไม่ได้ร่วมมือกับเขา คำพูดแค่นี้ใช้ยืนยันในศาลไม่ได้"ฉู่หมิงฮ่าวแม้คิดช่วยเหลือนาง แต่เขาไม่ต้องการช่วยคนผิด จึงต้องให้นางยืนยันหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์เสียก่อน"ข้ามีโรงผลิตอาหารทะเลแห้งสองแห่ง และมีโรงผลิตเกลือแห่งหนึ่ง ข้าใช้เกลือจากโรงผลิตของข้าในการหมักปลาเค็ม ส่วนที่เหลือนำส่งทางการมีการจ่ายภาษีถูกต้อง ข้ามีบัญชีส่วนนี้ทำไว้ชัดเจน""เช่นนั้น เพียงเจ้าปฏิเสธข้อกล่าวหา และนำบัญชีส่วนนี้ไปชี้แจง ก็คงจะไม่มีปัญหา"ฉู่หมิงฮ่าวได้ยินเช่นนี้ก็สบายใจขึ้น เขามีทางช่วยนางแล้ว "ข้าไม่กลัวเรื่องสอบสวน แต่เกรงอิทธิพลเบื้องหลัง เถ้าแก่เฉินค้าเกลือเถื่อนมานานอาจจะมีคนหนุนหลัง หากคิดใช้อุบายให้ข้าเป็นแพะรับบ
บทที่ 80ตอน วิวาห์ของสองเรา /2 (จบ)“ท่านแม่ ข้าง่วงแล้ว”ผิงอันอ้าปากหาว อี้หนิงเองก็เริ่มตาปรือ วันนี้พวกเขาตื่นเต้นกับงานมาก ตื่นเช้ามาแต่งตัวเข้าร่วมขบวนแห่ มาถึงก็เล่นกันในงานจนตอนนี้หมดแรงแล้ว“ง่วงก็นอนลง มาแม่ห่มผ้าให้”เด็กน้อยทั้งสองนอนลงบนเตียง ให้มารดานอนตรงกลาง ผิงอันกอดมารดาเอาหน้าซุกอกนอนหลับตาพริ้ม หลิวซืออินเกาหลังให้อี้หนิงแบบที่ทำทุกคืน ลูกชายนางขาดคนเกาหลังจะนอนไม่หลับ คืนนี้เด็กชายถูกมารดาเกาหลังจนเพลินหลับไปแล้วแกรก !เสียงประตูเปิดออก พร้อมกับร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีแดง ก้าวเข้ามาในห้องหอ กว่าที่ฉู่หมิงฮ่าวจะปลีกตัวออกมาได้ ก็ถูกเพื่อนในกองทัพ พี่ชายตนเอง และพี่ชายเจ้าสาว รินเหล้าส่งให้ไม่หยุดหย่อน เขาอาศัยตัวเองคอแข็งจึงรับมือได้ไม่ยากนัก แต่ให้ดื่มจนไม่ได้เข้าหอ เขาคงกลายเป็นคนโง่ แม่ทัพหนุ่มจึงดื่มบ้างแอบเทรดแขนเสื้อบ้าง แสร้งทำเมามายจึงมีโอกาสได้เข้าหอเสียทีภายในห้องหอเทียนแดงมงคลจุดให้ความสว่างเหลือเพียงครึ่งแท่งแล้ว สุรามงคลบนโต๊ะรอเจ้าบ่าวเจ้าสาว มาคล้องแขนดื่มกิน เจ้าสาวคนงามสวมชุดวิวาห์สีแดงนั่งรออยู่บนเตียงฉู่หมิงฮ่าวหยิบคันชั่ง เดินไปยังเตียงด้วยอารมณ
บทที่ 79 ตอน วิวาห์ของสองเรา /1 เกี้ยวเจ้าสาวสีแดง ถูกแบกออกจากหน้าประตูจวนของเสนาบดีหยาง วันนี้หยางอี้หลันบุตรีของท่านเสนาบดีออกเรือน สินเดิมของเจ้าสาวถูกจัดเตรียมไว้มากมาย สมกับเป็นลูกสาวของเสนาบดีกรมคลังการแต่งงานครั้งนี้เจ้าบ่าวคือ ฉู่หมิงฮ่าว แม่ทัพใหญ่ของแคว้นเป่ยฉี เขาเป็นบุตรชายคนรองของใต้เท้าฉู่อี้หนาน ท่านโส่วฝู่ผู้เป็นที่ไว้วางพระทัยของฮ่องเต้ แม่ทัพหนุ่มอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีแดงสวมหน้ากากเงินปกปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง ขี่อาชาสีขาวดูสง่างาม บนนั้นยังมีร่างของเด็กชายตัวน้อยสวมชุดสีแดงนั่งอยู่ด้วย ผู้คนที่พากันมามุงดูขบวนแต่งงาน ต่างตื่นตะลึงกับรูปโฉมของเจ้าบ่าว“ท่านแม่ทัพฉู่หมิงฮ่าว สวมหน้ากากเงินปกปิดใบหน้า เพราะเขาเป็นแม่ทัพของกองทัพวายุทมิฬ คนในกองทัพนี้ล้วนลึกลับ จนถูกขนานนามว่า กองทัพปีศาจ”คนที่พากันมุงดูซุบซิบถึงเจ้าบ่าว พวกเขาได้ยินชื่อของกองทัพวายุทมิฬก็พากันกลัวตัวสั่น ได้ข่าวว่าแม่ทัพฉู่เพิ่งจัดการกับโจรสลัดที่โหดเหี้ยมผู้หนึ่งของหนานไห่ได้ ฮ่องเต้จึงพระราชทานสมรสให้แต่งกับบุตรีท่านเสนาบดีหยาง“บุตรีท่านเสนาบดีหยาง พลัดพรากจากครอบครัวตั้งแต่เล็ก ท่านแม่ทัพฉู่หมิงฮ
บทที่ 78 ตอน พบผู้มีพระคุณทั้งสอง/2ฉู่เฟยหยางเป็นฝาแฝดกับฉู่หมิงฮ่าวย่อมหน้าตาคล้ายกัน บุตรของเขาหน้าตาเหมือนบิดาทั้งคู่ จึงดูคล้ายกันเหมือนฝาแฝด แม่หนูผิงอันมองหน้าท่านพ่อกับท่านลุง แล้วมองหน้าพี่ชายตนกับลูกชายท่านลุง“โอย เหมือนกันจนข้าแยกไม่ออกแล้ว ข้าตาลายไปหมดแล้วเจ้าค่ะท่านย่า”ผิงอันน้อยเอียงหน้าซบท่อนแขนของท่านย่า พลางกรอกตาไปมา ท่าทางนั้นทำให้ทุกคนที่เห็นต่างพากันหัวเราะขบขัน หลงเสน่ห์ของแม่หนูน้อยเข้าไปแล้ว“ท่านพ่อท่านแม่ นี่คือหยางอี้หลันภรรยาข้า”หลิวซืออินเดินเข้ามาได้เห็นทุกคนในห้องกำลังหัวเราะท่าทางตลกของผิงอันพอดี เมื่อฉู่หมิงฮ่าวแนะนำนางให้ครอบครัวของเขา จึงประสานมือย่อตัวลงทำความเคารพอย่างนอบน้อม รูปร่างหน้าตาของนางทำให้ทุกคนหันมาจ้องมองอย่างสนใจ“เหมือนข้าคุ้นหน้าเจ้า”ใต้เท้าโส่วฝู่มองบุตรีของเสนาบดีหยาง พลันรู้สึกว่าเคยพบเจอสตรีนางนี้มาก่อน ฮูหยินเองก็มองจ้องหน้านาง คิ้วขมวดเล็กน้อยเหมือนกำลังครุ่นคิด“ท่านทั้งสองคือ... คือผู้มีพระคุณของข้ากับลูก อี้หนิงผิงอัน รีบคุกเข่าเร็ว”หลิวซืออินจำทั้งสองได้ในทันที นางไม่เคยลืมใบหน้าของผู้มีพระคุณ ที่ช่วยชีวิตนางกับลูกน้อ
บทที่ 77 ตอน พบผู้มีพระคุณทั้งสอง/1รถม้าเคลื่อนจากหน้าจวนเสนาบดีหยางแล่นไปจอดยังหน้าจวนของใต้เท้าโสว่ฝู่ หน้าประตูฉู่หมิงฮ่าวยืนรอรับภรรยากับลูกๆ เมื่อเห็นรถม้ามาจอดก็รีบเดินไปหมายจะช่วยพาหลิวซืออินกับอี้หนิงผิงอันลงมา แต่คนที่เดินลงมาก่อนกลับเป็นบุรุษผู้หนึ่งหน้าตาหล่อเหลาท่าทางสง่างาม“ท่านคงเป็นพี่ชายของภรรยาข้า คารวะท่านพี่ภรรยา”ฉู่หมิงฮ่าวรู้ว่าท่านเสนาบดีมีลูกชายคนหนึ่ง ชื่อว่า หยางเทียน เป็นพี่ชายของภรรยาเขา จึงประสานมือทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม“เจ้าคือโจรชั่วที่บังอาจฉุดตัวน้องสาวข้าสินะ วันนี้ได้พบหน้าเจ้า เราคงต้องมีเรื่องพูดจากันสักหน่อย”หยางเทียนมองหน้าบุตรชายคนรองของท่านโส่วฝู่ เขาไม่เคยพบกับฉู่หมิงฮ่าวมาก่อน อีกฝ่ายเป็นแม่ทัพประจำการอยู่ค่ายทหาร คนที่เขารู้จักดีคือ ฉู่เฟยหยางบุตรชายคนโตของท่านโส่วฝู่ ตอนเด็กทั้งสองเคยเรียนสำนักศึกษาเดียวกัน โตมาถึงได้แยกย้ายไป ฉู่หมิงฮ่าวเป็นน้องชายฝาแฝดของฉู่เฟยหยาง ใบหน้าของทั้งคู่คล้ายกันมาก ต่างเพียงแววตาของฉู่หมิงฮ่าวดูแข็งกร้าวกว่าฉู่เฟยหยางเล็กน้อย“พี่เทียน ท่านโปรดละเว้นสามีข้าด้วยเถอะเจ้าค่ะ”หลิวซืออินลงจากรถม้า พร้อม
บทที่ 76 ตอน ช่วงเวลาแห่งความสุข/2ณ จวนตระกูลหยางท่านเสนาบดีหยางพาบุตรีพร้อมหลานๆ กลับมาถึงจวน ได้จัดเรือนหลังหนึ่งให้พวกเขาพัก ฮูหยินสั่งซื้อข้าวของใหม่ให้บุตรีและหลานทั้งสอง เรียกร้านเสื้อผ้าส่งช่างมาวัดตัวตัดเสื้อผ้าชุดใหม่หลายชุด ล้วนเป็นผ้าไหมชั้นดี สีสันลวดลายงดงามกว่าผ้าทั่วไป ที่สามแม่ลูกเคยสวมใส่ ร้านเครื่องประดับนำสิ้นค้าชั้นดี มาให้เลือกถึงเรือน ฮูหยินมองชิ้นไหนล้วนถูกใจไปหมด นำมาเท่าไหร่ก็ซื้อให้บุตรี จนหลิวซืออินไม่กล้ารับไว้ "ท่านแม่ ของพวกนี้ล้วนราคาแพง ท่านซื้อให้ข้ามากเกินไปแล้ว""จะแพงสักเท่าไหร่แม่ก็จะซื้อให้เจ้า ถึงเวลาออกเรือนไป จะได้เป็นสินเดิมติดตัวเจ้าไปมากสักหน่อย ท่านพ่อเจ้าเป็นถึงเสนาบดีกรมคลัง เจ้าต้องแต่งตัวให้สมฐานะบุตรีท่านเสนาบดี อย่าได้ทำให้ท่านพ่อเจ้าขายหน้า"ฮูหยินถือโอกาสอบรมบุตรี ชีวิตก่อนหน้าของหลิวซืออินเคยยากจนลำบากมามาก จึงมัธยัสถ์เห็นคุณค่าของเงินทอง จับจ่ายมากไป แพงไป ล้วนปวดใจเพราะเสียดายเงินทอง ยามนี้นางกลับคืนฐานะบุตรีของท่านเสนาบดี ของสิ่งใดควรได้ ควรหามาใช้ ต้องจัดให้สมฐานะ "ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่"หลิวซืออินรับคำมารดา ตอนนี้นา
บทที่ 75 ตอน ช่วงเวลาแห่งความสุข/1หนึ่งเดือนต่อมา เสนาบดีหยางพาบุตรีกับหลานทั้งสองเดินทางไปถึงเมืองหลวง หลิวซืออินได้กลับมาอยู่ร่วมกับครอบครัวอีกครั้งด้านฉู่หมิงฮ่าวนำเรื่องของเขากับหลิวซืออินไปบอกบิดามารดา ใต้เท้าโส่วฝู่ได้รู้เรื่องที่บุตรชายกระทำต่อบุตรีของเพื่อนรักก็โมโหยิ่งนัก ลงโทษให้เขาคุกเข่าอยู่ในศาลบรรพชนทั้งคืน ก่อนจะยอมรับปากไปสู่ขอและจัดงานแต่งให้เขาครอบครัวตระกูลฉู่กลับมาพร้อมหน้า จึงร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน“หากเจ้าไม่ตัดหน้าไปเสียก่อน เจ้าบ่าวของบุตรีท่านเสนาหยางคงเป็นข้า”ฉู่เฟยหยางเอ่ยเย้าน้องชาย ตัวเขาเพิ่งรักษาตาที่บอดจากการถูกลอบทำร้ายจนหายสนิท เมื่อปีที่แล้วบิดามารดาคิดทาบทามบุตรีของขุนนางหลายตระกูลให้เขาดูตัว แต่ฉู่เฟยหยางปฏิเสธบอกว่า จะแต่งกับบุตรีท่านลุงเสนาหยางตามสัญญาหมั้นหมาย เขาอาศัยเรื่องนี้ครองตัวรอดพ้นจากการถูกบังคับแต่งงานมาได้เนิ่นนาน ผู้ใดจะคิดว่าบุตรีท่านลุงหยางยังมีชีวิตอยู่ และมีความสัมพันธ์กับน้องชายฝาแฝดของตน คิดหาข้ออ้างหลบเลี่ยงงานแต่งคงยากเสียแล้ว“ท่านพี่ เรื่องอื่นข้ายอมท่านได้ แต่เรื่องนี้ข้าไม่ยอมเด็ดขาด ท่านหาสตรีคนอื่นเป็นแม่เลี้ยงให้ฉู
บทที่ 74. ตอน ครอบครัวพร้อมหน้า /2"ท่านลุงโปรดให้อภัยด้วย ข้ากับนางเราเป็นสามีภรรยากันแล้วขอรับ""อะไรนะ นี่พวกเจ้า... "ฮูหยินได้ยินก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ นางได้ยินเรื่องบุตรีถูกโจรฉุดจากเกี้ยวเจ้าสาว รู้สึกปวดใจมาก เมื่อเห็นหลานทั้งสอง จึงนึกเอ็นดูและเวทนาที่มีบิดาเป็นโจร ไม่ทันได้เตรียมใจ บุตรชายของท่านโส่วฝู่มาบอกว่าเป็นสามีของบุตรีอีก วันนี้แผ่นดินใต้ฝ่าเท้านางพลิกไปมากี่รอบแล้ว นางมึนงงไปหมด"ท่านแม่ ท่านพ่อ พวกท่านนั่งลงก่อนเจ้าค่ะ"หลิวซืออินประคองมารดาให้นั่งลง สองแฝดมาช่วยบีบนวดท่านตาท่านยายอย่างเอาใจ "ท่านลุง เดิมทีท่านก็ทราบอยู่แล้วว่า ข้าถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ยังเล็ก ช่วงเวลาที่ข้ายังไม่ได้พบท่านพ่อ ข้าได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวตระกูลหลิน แล้วมีเหตุให้บุตรชายของท่านลุงหลินกับคู่หมั้น ถูกเจ้าของบ่อนทำร้าย ข้าจึงแก้แค้นแทนพวกเขาด้วยการไปดักปล้นขบวนเจ้าสาว ฉุดตัวเจ้าสาวของคนผู้นั้นมา ครั้งนั้นข้ากับนางได้กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากัน ต่อมาเกิดเหตุกับข้าทำให้ต้องพลัดพรากจากนางไป มาพบกันอีกครั้งที่เมืองหนานไห่ นางมีบุตรฝาแฝดชายหญิงให้ข้า ตอนนี้ข้าจึงอยากสู่ขอนางต่อท่านลุ
บทที่73 ตอน ครอบครัวพร้อมหน้า /1หลิวซืออินพาบิดามารดานั่งรถม้า มาที่ร้านขายอาหารทะเลแห้งของนาง "ท่านพ่อท่านแม่เชิญด้านในเจ้าค่ะ"ย่านการค้าของเมืองหนานไห่ มีร้านค้าหลากหลาย ร้านของหลิวซืออินเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของเมือง อีกทั้งยังมีโรงผลิตปลาเค็มและอาหารทะเลแห้งเป็นของตนเอง สินค้าจึงได้คุณภาพกว่าร้านทั่วไป มีลูกค้ามาซื้อของและสั่งสินค้าอย่างคึกคัก คนงานในร้านทำงานอย่างขยันขันแข็ง สินค้าถูกจัดวางเป็นระเบียบดูสะอาดตา แม้จะมีกลิ่นของอาหารทะเลตากแห้ง แต่ก็เป็นปกติของร้านชนิดนี้ จึงไม่ทำให้คนที่เข้ามาต้องฝืนใจทน"ร้านใหญ่โต การค้าของเจ้ารุ่งเรืองมาก""ลูกแม่ เจ้าเก่งเหลือเกิน"ท่านเสนาบดีหยางกับฮูหยิน เมื่อเห็นร้านขายอาหารทะเลแห้งของบุตรีก็พากันเอ่ยชม"เถ้าแก่เนี้ยท่านมาแล้ว ท่านเป็นอย่างไรบ้าง"นางฉีฮุ่ยรีบเข้ามาหาด้วยความดีใจ เมื่อครู่ซุนเซิงกลับมาแจ้งข่าวว่า หลิวซืออินพ้นผิดอีกทั้งยังได้พบบิดามารดาของนางด้วย "ท่านป้าฉี ข้าสบายดี อ้อ นี่คือท่านพ่อกับท่านแม่ของข้า"หลิวซืออินแนะนำให้นางฉีฮุ่ย รู้จักบิดามารดาของนาง "ท่านพ่อ ท่านแม่เจ้าคะ นี่คือท่านป้าฉีฮุ่ย หลายปีมานี้ ท่านป้าช่วยเหลื
บทที่ 72. ตอน สวรรค์เมตตาคนดี ฟ้าทอดทิ้งคนชั่ว/2"ลูกแม่ เจ้าผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั้นมาได้อย่างไร"ผู้เป็นมารดาอยากรู้เรื่องราวของลูกสาวทั้งหมด แค่คิดว่าลูกสาวถูกโจรฉุดจากเกี้ยวเจ้าสาวไปก็ปวดใจนัก "ต่อมาข้ากราบไหว้ฟ้าดินกับโจรผู้นั้น แต่งเป็นภรรยาเขาเจ้าค่ะ เดิมคิดว่าจะมีชีวิตสุขสงบ แต่สวรรค์ไร้เมตตา สามีข้าตายจากไป หลังจากนั้นข้าจึงมาอยู่ที่หนานไห่ หวังจะใช้ชีวิตที่เหลือ แต่ข้ากลับตั้งครรภ์ คลอดบุตรฝาแฝดชายหญิง ห้าปีนี้ ข้าเลี้ยงดูลูกทั้งสอง ค้าขายปลาเค็มและอาหารทะเลแห้ง จนมีกิจการร้านขายอาหารทะเลแห้ง และโรงผลิตถึงสองแห่ง เรื่องราวชีวิตข้ามีเพียงเท่านี้เจ้าค่ะ ท่านพ่อท่านแม่"หลิวซืออินเล่าจบ แล้วก็ยิ้มให้บิดามารดา ทุกสิ่งได้เกิดขึ้นและผ่านไปแล้ว วันนี้นางได้พบบิดามารดา สามีที่คิดว่าตายจากก็กลับมาหา มีลูกทั้งสองเป็นดังแก้วตาดวงใจ นางพอใจมากแล้ว"ลูกพ่อ เจ้ายอดเยี่ยมมาก จะมีสตรีสักกี่คนทำได้ดีเช่นเจ้า พ่อภูมิใจในตัวเจ้า"ท่านเสนาบดีชื่นชมบุตรี เรื่องราวของนางทำให้คนเป็นบิดารู้สึกทึ่ง สตรีตัวเล็กคนหนึ่งต้องเผชิญเคราะห์กรรมสาหัสเพียงนี้ แต่สามารถพาตัวเองผ่านพ้นมาได้อย่างเข้มแข็ง มีชีวิต