คุณหนูสี่หลินยืนขึ้นมา ปิดปากวิ่งออกไปตอนที่ผ่านข้างตัวฟู่จาวหนิง ยังมีน้ำตากระเด็นออกมา จุ๊ๆ น่าสงสารเสียจริงส่วนคนอื่นๆ ก็มองฟู่จาวหนิงอย่างงงๆ ไปชั่วคราว ใครก็ยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้ยังเป็นองค์หญิงหนานฉือที่รับช่วงต่อได้ นางมองฟู่จาวหนิง จุ๊ปากขึ้นมาสองที "พระชายาอ๋องเจวี้ยน เจ้านี่รังแกชาวบ้านเขาอีกแล้วนะ ฉีกหน้าคุณหนูหลินสี่ซะขนาดนั้น แล้วยังเหยียบลงไปบนพื้นอีก รู้สึกว่าตัวเองใจร้ายเกินไปไหม?"ฟู่จาวหนิงตอบ "อืมนะ เหมือนจะเด็ดดอกไม้แรงไปไหม?"คนอื่นพอได้ยินพวกนางสองคำนี้ ใจก็เย็นวาบไปในใจเฉินฮ่าวปิงเองก็รู้สึกไม่ค่อยดี "พระชายาอ๋องเจวี้ยน ทุกคนล้วนมีใจอยากจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยกัน เพื่อแบ่งเบาภาระองค์จักรพรรดิ แล้วท่าน...""ช่วยเหลือผู้ประสบภัยรึ? แบ่งเบาภาระองค์จักรพรรดิ?"ฟู่จาวหนิงตัดบทนาง"ลำพังเจ้าน่ะนะ? แค่ใช้ปากของเจ้า แค่ใช้สามร้อยตำลึงของเจ้า? แค่ใช้ความหน้าด้านของเจ้าจะล้วงตระกูลฟางจนหมดตัว ล้วงพันธมิตรโอสถให้หมดเกลี้ยง แล้วยัดข้าออกไปนั่นน่ะนะ? เฉินฮ่าวปิง เดิมทีพวกเราจะไม่มาก็ได้ เจ้าอยากจะเล่นละครของเจ้าก็เล่นไป ข้าจะเดินทางของข้า ไม่ต้องมารบกวนกัน"ฟู่จา
ฟู่จาวหนิงตบฉาดจนเฉินฮ่าวปิงล้มลงไปบนพื้นชิวอวิ๋นอุทานตกใจ คิดจะเข้าไปขวางฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกสายตาของฟู่จาวหนิงเหลือบมาจนสะดุ้ง จึงหมุนทิศ เข้าไปประคองเฉินฮ่าวปิงแทนเฉินฮ่าวปิงในหูวิ้งไปหมด แต่ความเจ็บปวดบนหน้ายังเทียบกับความอับอายโกรธแค้นในใจตอนนี้ไม่ได้นางยังคิดว่าพอเป็นท่านหญิง ฟู่จาวหนิงจะไม่กล้าเสียมารยาทกับนาง ต่อให้ตัวตนนางจะยังเทียบกับอ๋องเจวี้ยนไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็มีตัวตนฐานะแล้ว ก็น่าจะปฏิบัติต่อกันด้วยมารยาทสิ?คิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะกล้าลงมือแบบนี้!องค์หญิงเจ็ดลุกขึ้นยืน "ฟู่จาวหนิง เจ้าทำไมถึงได้กล้า!"ฟู่จาวหนิงหันตัวมา ยกมือขึ้นอีกครั้งองค์หญิงเจ็ดม่านตาหดลง คิดจะหลบด้วยสัญชาตญาณ แต่การเคลื่อนไหวของฟู่จาวหนิงไวกว่านางมาก แล้วนางจะหลบได้อย่างไร?เสียง 'เพียะ' ดังขึ้นอีก ตบฉาดนี้สะบัดไปบนหน้าองค์หญิงเจ็ดคนอื่นตกตะลึงไปแล้ว หน้าซีด ทยอกันถอยออกมาพวกนางมองฟู่จาวหนิงด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัวกระทั่งองค์หญิงเจ็ดก็ยังตบได้ อย่างพวกนาง พระชายาอ๋องเจวี้ยนจะไม่กล้าตีได้อย่างไร?"ทำไมข้าจะไม่กล้า? รู้จักตัวตนของพวกเจ้าไหม? รู้จักตัวตนของข้าไหม? เจ้า ควรจะเรียก
องค์หญิงเจ็ดน้ำตาคลอเบ้า คลั่งขึ้นมาอีกไม่ได้แล้ว"สามพันตำลึง ข้า ข้าจะให้เจ้า!""สามพันตำลึง? ทำไมถึงเป็นสามพันตำลึงล่ะ?" ฟู่จาวหนิงประหลาดใจ "เมื่อครู่เจ้าพูดอยู่ว่าจะออกมากกว่าพวกนาง เจ้เาป็นถึงองค์หญิงในราชวงศ์เชียวนะ ไม่ได้จนขนาดนั้นกระมัง? เจ้าออกมาห้าพันตำลึง"พวกนางในเมื่อจะทำการกุศล เช่นนั้นนางก็จะช่วยสงเคราะห์เติมเต็มความปรารถนาพวกนาง!อืม นางเป็นคนดีจริงๆ"ห้าพันตำลึง?!""ทำไม ไม่พอใจรึ?" ฟู่จาวหนิงยื่นมือไปบีบคางนาง ยิ้มๆ "จะไม่ยอมจริงหรือ? ถ้าเช่นนั้นข้าไปคุยกับเสด็จอาเจ้าดีไหม?""ห้าพันตำลึงก็ห้าพันตำลึงสิ!" องค์หญิงเจ็ดตกใจจนร้องขึ้นมานางกลัวอ๋องเจวี้ยน"กลับไปเตรียมซะ เดี๋ยวข้าจะส่งคนไปรับ" ฟู่จาวหนิงปล่อยมือองค์หญิงเจ็ดไฟแค้นสุมทรวง แต่ก็ไม่กล้ามาลงที่ฟู่จาวหนิง นางเดินไปทางเฉินฮ่าวจู ยกเท้าถีบนาง"เป็นเพราะเจ้านังกาลกิณี""อ๊า!"เฉินฮ่าวปิงที่เพิ่งถูกชิวอวิ๋นประคองขึ้นมา ถูกองค์หญิงเจ็ดถีบแบบไม่ทันระวัง ท่าทางจึงผิดปกติ พอล้มลงไปก็ได้ยินเสียงกร๊อบดังขึ้น ข้อเท้าปวดจนนางอยากตายขึ้นมาองค์หญิงเจ็ดก็ไม่สนใจนาง หมุนตัววิ่งออกไปวันนี้นางขาดทุนยับเลย!เฉ
อ๋องฉยงอยากพบฟู่จาวหนิงมาตลอดสำหรับหญิงสาวที่อยู่ในใจเซียวหลันยวน เขารู้สึกสนใจมาก แล้วยังตัวตนฐานหมอเทวดาของฟู่จาวหนิงด้วย เขายิ่งรู้สึกปรารถนาแต่ว่าอ๋องเจวี้ยนอาจจะติดโรคร้าย เขาเองก็ไม่กล้าไปจวนอ๋องเจวี้ยนแล้วก็ การร่วมมือกับองค์จักรพรรดิที่เขาคุยไว้ ตอนนี้จำเป็นต้องให้องค์จักรพรรดิเชื่อมั่น ถ้าหากเขาไปที่จวนอ๋องเจวี้ยนส่งเดช องค์จักรพรรดิไม่รู้ว่าจะคาดเดาอะไรไปอีกตอนนี้มาเจอกับฟู่จาวหนิงที่นี่พอดีเขาขอดูก่อนว่าฟู่จาวหนิงคนนี้งดงามแค่ไหน ถึงสามารถทำให้เซียวหลันยวนหลงจนถึงกับปล่อยวางความแค้นเคืองในอดีตไป"ฟู่จาวหนิง หันมาทางนี้!"ฟู่จาวหนิงได้ยินคำสั่งอ๋องฉยง รู้สึกขำขึ้นมาทันที ทำไมถึงรู้สึกว่าคำสั่งของอ๋องฉยงตอนนี้ดูสุดโต่งเหลือเกิน?อีกด้าน องค์หญิงหนานฉือกับอันชิงก็ขึ้นรถม้าแล้ว แต่ยังกงวลสถานการณ์ทางนั้น พอเห็นอ๋องฉยงเรียกฟู่จาวหนิง อันชิงก็กังวลขึ้นมา"พี่สะใภ้ อ๋องฉยงจะสร้างความลำบากให้พี่หญิงจาวหนิงหรือเปล่า?""เข้าไม่ได้เข้าไปในวังราชนิเวศน์ ยังไม่รู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นมา น่าจะไม่หรอก" องค์หญิงหนานฉือตอบถ้าหากอ๋องฉยงรู้ว่าฟู่จาวหนิงตบลูกสาวตนเอง ก็น่าจะโมโ
ณ เมืองหลวง แคว้นเจาบนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันทียายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้
สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมาฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียทีช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิงเซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้นไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอดพอคิดถึงสถาน
เสียงโครมดังขึ้น เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าเลือดถูกต้มจนเดือดปุดขึ้นมาถึงกระหม่อม"ฟู่!จาว!หนิง!"เขากัดฟันเอ่ยชื่อฟู่จาวหนิงออกมาทีละคำๆนางกล้าดีอย่างไร จึงกล้ามาหยามหมิ่นเขาเช่นนี้?ชาวบ้านรอบๆ ก็ล้วนตาโตพูดไม่ออกกันหมด จากนั้นจึงมองพวกเขาทั้งสองและพยักหน้าเห็นด้วยแบบไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่คุณหนูฟู่พูดออกมานั้นถูกต้องเซียวเหยียนจิ่งจ้องนางอย่างเกลียดชัง "ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน! ข้าตอนนี้จะคอยดู ว่าเจ้าจะไสหัวกลับไปอย่างไร! เจ้าอย่าลืมว่าปู่ของเจ้า ตอนนี้เขาก็เหมือนจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วสินะ เจ้าเชื่อไหมว่าพอเจ้าเหยียบเข้าประตูจวนไปและเขารู้ว่าเจ้าถูกถอนหมั้น เขาคงขาดใจตายทันทีแน่?"ฟู่จาวหนิงจ้องเขาตาลุกโชนเซียวเหยียนจิ่งเจ้าผู้ชายขยะ ป่านนี้แล้วยังจะมาคุกคามนางอีก!แต่ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดเลย ผู้เฒ่าฟู่เวลานี้คงทนรับเรื่องแรงๆ ไม่ไหวเซียวเหยียนจิ่งพอเห็นนางไม่โต้กลับ ก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา "แล้วก็ที่เจ้าหยามหมิ่นรัชทายาทอย่างข้าวันนี้ ข้าจดจำไว้หมดแล้ว เจ้าอย่าได้หวังว่าจะหาสามีได้อีก"เขาจะคอยดูว่าตระกูลไหนจะก
"จวนอ๋องเซียว?"ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง"อ๊า!"เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอ
อ๋องฉยงอยากพบฟู่จาวหนิงมาตลอดสำหรับหญิงสาวที่อยู่ในใจเซียวหลันยวน เขารู้สึกสนใจมาก แล้วยังตัวตนฐานหมอเทวดาของฟู่จาวหนิงด้วย เขายิ่งรู้สึกปรารถนาแต่ว่าอ๋องเจวี้ยนอาจจะติดโรคร้าย เขาเองก็ไม่กล้าไปจวนอ๋องเจวี้ยนแล้วก็ การร่วมมือกับองค์จักรพรรดิที่เขาคุยไว้ ตอนนี้จำเป็นต้องให้องค์จักรพรรดิเชื่อมั่น ถ้าหากเขาไปที่จวนอ๋องเจวี้ยนส่งเดช องค์จักรพรรดิไม่รู้ว่าจะคาดเดาอะไรไปอีกตอนนี้มาเจอกับฟู่จาวหนิงที่นี่พอดีเขาขอดูก่อนว่าฟู่จาวหนิงคนนี้งดงามแค่ไหน ถึงสามารถทำให้เซียวหลันยวนหลงจนถึงกับปล่อยวางความแค้นเคืองในอดีตไป"ฟู่จาวหนิง หันมาทางนี้!"ฟู่จาวหนิงได้ยินคำสั่งอ๋องฉยง รู้สึกขำขึ้นมาทันที ทำไมถึงรู้สึกว่าคำสั่งของอ๋องฉยงตอนนี้ดูสุดโต่งเหลือเกิน?อีกด้าน องค์หญิงหนานฉือกับอันชิงก็ขึ้นรถม้าแล้ว แต่ยังกงวลสถานการณ์ทางนั้น พอเห็นอ๋องฉยงเรียกฟู่จาวหนิง อันชิงก็กังวลขึ้นมา"พี่สะใภ้ อ๋องฉยงจะสร้างความลำบากให้พี่หญิงจาวหนิงหรือเปล่า?""เข้าไม่ได้เข้าไปในวังราชนิเวศน์ ยังไม่รู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นมา น่าจะไม่หรอก" องค์หญิงหนานฉือตอบถ้าหากอ๋องฉยงรู้ว่าฟู่จาวหนิงตบลูกสาวตนเอง ก็น่าจะโมโ
องค์หญิงเจ็ดน้ำตาคลอเบ้า คลั่งขึ้นมาอีกไม่ได้แล้ว"สามพันตำลึง ข้า ข้าจะให้เจ้า!""สามพันตำลึง? ทำไมถึงเป็นสามพันตำลึงล่ะ?" ฟู่จาวหนิงประหลาดใจ "เมื่อครู่เจ้าพูดอยู่ว่าจะออกมากกว่าพวกนาง เจ้เาป็นถึงองค์หญิงในราชวงศ์เชียวนะ ไม่ได้จนขนาดนั้นกระมัง? เจ้าออกมาห้าพันตำลึง"พวกนางในเมื่อจะทำการกุศล เช่นนั้นนางก็จะช่วยสงเคราะห์เติมเต็มความปรารถนาพวกนาง!อืม นางเป็นคนดีจริงๆ"ห้าพันตำลึง?!""ทำไม ไม่พอใจรึ?" ฟู่จาวหนิงยื่นมือไปบีบคางนาง ยิ้มๆ "จะไม่ยอมจริงหรือ? ถ้าเช่นนั้นข้าไปคุยกับเสด็จอาเจ้าดีไหม?""ห้าพันตำลึงก็ห้าพันตำลึงสิ!" องค์หญิงเจ็ดตกใจจนร้องขึ้นมานางกลัวอ๋องเจวี้ยน"กลับไปเตรียมซะ เดี๋ยวข้าจะส่งคนไปรับ" ฟู่จาวหนิงปล่อยมือองค์หญิงเจ็ดไฟแค้นสุมทรวง แต่ก็ไม่กล้ามาลงที่ฟู่จาวหนิง นางเดินไปทางเฉินฮ่าวจู ยกเท้าถีบนาง"เป็นเพราะเจ้านังกาลกิณี""อ๊า!"เฉินฮ่าวปิงที่เพิ่งถูกชิวอวิ๋นประคองขึ้นมา ถูกองค์หญิงเจ็ดถีบแบบไม่ทันระวัง ท่าทางจึงผิดปกติ พอล้มลงไปก็ได้ยินเสียงกร๊อบดังขึ้น ข้อเท้าปวดจนนางอยากตายขึ้นมาองค์หญิงเจ็ดก็ไม่สนใจนาง หมุนตัววิ่งออกไปวันนี้นางขาดทุนยับเลย!เฉ
ฟู่จาวหนิงตบฉาดจนเฉินฮ่าวปิงล้มลงไปบนพื้นชิวอวิ๋นอุทานตกใจ คิดจะเข้าไปขวางฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกสายตาของฟู่จาวหนิงเหลือบมาจนสะดุ้ง จึงหมุนทิศ เข้าไปประคองเฉินฮ่าวปิงแทนเฉินฮ่าวปิงในหูวิ้งไปหมด แต่ความเจ็บปวดบนหน้ายังเทียบกับความอับอายโกรธแค้นในใจตอนนี้ไม่ได้นางยังคิดว่าพอเป็นท่านหญิง ฟู่จาวหนิงจะไม่กล้าเสียมารยาทกับนาง ต่อให้ตัวตนนางจะยังเทียบกับอ๋องเจวี้ยนไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็มีตัวตนฐานะแล้ว ก็น่าจะปฏิบัติต่อกันด้วยมารยาทสิ?คิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะกล้าลงมือแบบนี้!องค์หญิงเจ็ดลุกขึ้นยืน "ฟู่จาวหนิง เจ้าทำไมถึงได้กล้า!"ฟู่จาวหนิงหันตัวมา ยกมือขึ้นอีกครั้งองค์หญิงเจ็ดม่านตาหดลง คิดจะหลบด้วยสัญชาตญาณ แต่การเคลื่อนไหวของฟู่จาวหนิงไวกว่านางมาก แล้วนางจะหลบได้อย่างไร?เสียง 'เพียะ' ดังขึ้นอีก ตบฉาดนี้สะบัดไปบนหน้าองค์หญิงเจ็ดคนอื่นตกตะลึงไปแล้ว หน้าซีด ทยอกันถอยออกมาพวกนางมองฟู่จาวหนิงด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัวกระทั่งองค์หญิงเจ็ดก็ยังตบได้ อย่างพวกนาง พระชายาอ๋องเจวี้ยนจะไม่กล้าตีได้อย่างไร?"ทำไมข้าจะไม่กล้า? รู้จักตัวตนของพวกเจ้าไหม? รู้จักตัวตนของข้าไหม? เจ้า ควรจะเรียก
คุณหนูสี่หลินยืนขึ้นมา ปิดปากวิ่งออกไปตอนที่ผ่านข้างตัวฟู่จาวหนิง ยังมีน้ำตากระเด็นออกมา จุ๊ๆ น่าสงสารเสียจริงส่วนคนอื่นๆ ก็มองฟู่จาวหนิงอย่างงงๆ ไปชั่วคราว ใครก็ยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้ยังเป็นองค์หญิงหนานฉือที่รับช่วงต่อได้ นางมองฟู่จาวหนิง จุ๊ปากขึ้นมาสองที "พระชายาอ๋องเจวี้ยน เจ้านี่รังแกชาวบ้านเขาอีกแล้วนะ ฉีกหน้าคุณหนูหลินสี่ซะขนาดนั้น แล้วยังเหยียบลงไปบนพื้นอีก รู้สึกว่าตัวเองใจร้ายเกินไปไหม?"ฟู่จาวหนิงตอบ "อืมนะ เหมือนจะเด็ดดอกไม้แรงไปไหม?"คนอื่นพอได้ยินพวกนางสองคำนี้ ใจก็เย็นวาบไปในใจเฉินฮ่าวปิงเองก็รู้สึกไม่ค่อยดี "พระชายาอ๋องเจวี้ยน ทุกคนล้วนมีใจอยากจะช่วยเหลือผู้ประสบภัยกัน เพื่อแบ่งเบาภาระองค์จักรพรรดิ แล้วท่าน...""ช่วยเหลือผู้ประสบภัยรึ? แบ่งเบาภาระองค์จักรพรรดิ?"ฟู่จาวหนิงตัดบทนาง"ลำพังเจ้าน่ะนะ? แค่ใช้ปากของเจ้า แค่ใช้สามร้อยตำลึงของเจ้า? แค่ใช้ความหน้าด้านของเจ้าจะล้วงตระกูลฟางจนหมดตัว ล้วงพันธมิตรโอสถให้หมดเกลี้ยง แล้วยัดข้าออกไปนั่นน่ะนะ? เฉินฮ่าวปิง เดิมทีพวกเราจะไม่มาก็ได้ เจ้าอยากจะเล่นละครของเจ้าก็เล่นไป ข้าจะเดินทางของข้า ไม่ต้องมารบกวนกัน"ฟู่จา
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดว่าองค์หญิงหนานฉือจะเอาแบบนี้"มีอะไรต้องอายกัน?" องค์หญิงหนานฉือโยนสายตาให้นาง ไม่ค่อยจะใส่ใจนัก "ตอนนั้นข้าก็หาสามีไปทั่วเมืองหลวง อ๋องเจวี้ยนที่เงื่อนไขดีขนาดนั้น ต้องอยู่ในกลุ่มตัวเลือกของข้าอยู่แล้ว""พี่สะใภ้..." อันชิงดึงแขนเสื้อนางองค์หญิงหนานฉือนี่ก็กล้าพูดไปเรื่อยจริงๆ"แต่ว่า อ๋องเจวี้ยนก็ไม่ได้สนใจข้า ยังดีที่ตอนนี้สามีดีกับข้ามาก พวกเราสองคนรักกันอย่างมั่นคง ไม่เหมือนคู่อ๋องเจวี้ยนหรอก"องค์หญิงหนานฉือพูดอย่างตรงไปตรงมา แล้วยังแสดงความรักให้คนต้องอิจฉาด้วยผู้ตรวจการชิงคนนั้น เอาใจภรรยาได้ด้วยหรือ? ไม่ใช่คนที่เย็นชามากหรอกหรือ?องค์หญิงเจ็ดถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่ "ผู้ตรวจการอันกับเจ้าอย่างมากสุดก็น่าจะปฏิบัติต่อกันด้วยความนับถือเท่านั้นกระมัง แบบเย็นชาๆ หน่อย!"คนที่ดูทื่อๆ บื้อๆ แบบนั้นน่ะนะ จะรักภรรยาปานจะกลืนกิน?องค์หญิงหนานฉือเองก็เหลือบมององค์หญิงเจ็ด นั่นเรียกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจ"นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? คนเขารักกันแนบแน่นเหมือนกาว คงไม่ต้องมาอธิบายกับพวกเจ้าอย่างละเอียดหรอกกระมัง? พวกเจ้าก็ยังไม่ได้แต่งงานกัน เล่าไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจ"
"เจ้าชอบเซียวหลันยวนหรือ? ขอโทษด้วย มีข้าอยู่ เจ้าแค่จะไปเป็นสาวใช้ในจวนอ๋องเจวี้ยนก็ยังไม่มี""นี่เจ้า!"ตาของคุณหนูหลินสี่แดงก่ำขึ้นมาถูกฟู่จาวหนิงกดไว้แบบนี้ นางทำได้แค่แหงนหน้า รู้สึกว่าท่าทางเช่นนี้ทำให้นางดูไร้เกียรตินางคิดจะดิ้นรนลุกขึ้น แต่แรงของฟู่จาวหนิงก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมากขนาดนี้ นางดิ้นรนไม่ได้เลย"แล้วก็ ไม่ใช่ว่าข้าหยิ่งทะนง ข้าพูดคำไหนคำนั้น คนแบบเจ้าน่ะ มาหิ้วรองเท้าข้าก็ยังไม่คู่ควร"หาเรื่องนางมาตั้งนาน มีเจตนาไม่ดีมากเสียขนาดนี้ แต่ก็ยังมาหาเรื่องเจ็บตัว ฟู่จาวหนิงจะมีเมตตาด้วยได้อย่างไร?ถ้าด่านางจนเงยหน้าไม่ขึ้นได้ นางจะได้ไม่ไปหาเรื่องคนอื่นอีก"ข้าสวยกว่าเจ้า สูงกว่าเจ้า กำลังก็มากกว่าเจ้า วิชาแพทย์ก็ดี ร่างกายปราดเปรียว กล้าหาญเกินใคร โอ้ คำชมนี้เมื่อครู่พวกเจ้าก็เอาแต่ชมข้า ข้าไม่ได้พูดเองนะ แล้วเจ้ามันมีอะไร? ใครให้เจ้าเสนอหน้ามาริษยาตรงหน้าข้ากัน?"ฟู่จาวหนิงก้มมองนางจากที่สูง "แค่ให้เจ้าไปสารภาพรักต่อหน้าเซียวหลันยวนก็ยังไม่กล้าเลยกระมัง? แล้วเจ้าก็รู้ว่าพระชายาตัวจริงอยู่ที่นี่ ก็ยังแสดงออกถึงความอยากเข้าหาสามีคนอื่นอย่างหน้าด้านแบบนี้น่ะนะ? เจ้
"นี่คือแผนของพวกท่านหรือ?"ฟุ่จาวหนิงที่เงียบมาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะเอ่ยปากขึ้น ฟังไม่ออกถึงไฟโกรธใดๆ"พูดจบแล้วสินะ?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน ยังมีภารกิจของท่านอีก" เฉินฮ่าวปิงยังพูดไม่จบ "ท่านเป็นหมอเทวดา นอกจากรวบรวมวัตถุดิบยาแล้ว ท่านยังมีภารกิจที่ใหญ่ที่สุดอีก ก็คือไปเมืองเจ้อพร้อมกับขบวนพ่อค้าตระกูลฟาง ผู้ประสบภัยที่นั่นังรอท่านไปช่วยรักษาอยู่""ใช่" ชิวอวิ๋ฯพูดตามขึ้นมา "เรื่องนี้พวกเราเองก็หารือกับพระชายาเยว่แล้ว พระชายาบอกว่าเรื่องนี้ต้องทำให้สำเร็จ นั่นเป็นมหากุศลใหญ่ พวกเราจะเลือกหญิงรับใช้สิบคนไปกับท่านด้วย ให้พวกนางคอยฟังการกำชับจากท่าน ช่วยเหลือเป็นลูกมือท่าน ดังนั้นพระชายาอ๋องเจวี้ยนก็ไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีคนช่วยเหลือ""พูดแบบนี้แล้วข้าต้องขอบคุณพวกท่านไหม?""พระชายาอ๋องเจวี้ยน เผชิญหน้ากับเรื่องสำคัญ ขอให้ท่านพิจารณาในภาพรวมด้วย ภัยพิบัติหนักหนา ผู้ประสบภัยน่าสงสาร หรือว่าท่านจะใจดำ มีวิชาแพทย์ชั้นสูงอยู่ในมือ แต่กลับไม่สนใจชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างนั้นหรือ?"เฉินฮ่าวปิงสะบัดภาระหนักสุดใส่นางทันที"ใช่เลย พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านเองก็ถือว่าอยู่ในราชวงศ์นะ แบ่งเบาภาระองค์จ
คำพูดของฟู่จาวหนิงกับฟางซือฉิงเมื่อครู่นางได้ยินแล้ว ตอนนี้นางก็คิดเหมือนฟู่จาวหนิง จะลองฟังพวกนางพูดให้จบก่อน ดูว่าหน้าพวกนางจะใหญ่สักแค่ไหนอันชิงกัดริมฝีปากล่างการจะออกสามร้อยตำลึงเพื่อผู้ประสบภัยอันที่จริงก็ไม่ใช่ว่านางไม่ยินยอม แต่ทำไมถึงต้องมาถูกเฉินฮ่าวปิงจัดแจงให้กัน?"พวกเราทางนี้มีสิบสองคน พอคำนวณแล้วก็น่าจะมีเงินที่สามพันกว่าตำลึง ถือเป็นเงินก้อนใหญ่มากแล้ว"เฉินฮ่าวปิงดูตื่นเต้น ถ้าหากเงินสามพันตำลึงอยู่กับนางได้ก็คงดี อันที่จริงให้นางเอาออกมาสามร้อยตำลึงก็เจ็บปวดอยู่แต่ถ้าจะทำเรื่องนี้ก็ไม่มีทางเลือก หลังจากทำสำเร็จ นางก็จะได้รับประโยชน์ที่มากกว่าสามร้อยตำลึง ตอนนี้จึงจ่ายออกไปได้"นี่ยังไม่นับของพระชายาอ๋องเจวี้ยนกับแม่นางฟางนะ"เฉินฮ่าวปิงมองไปทางฟู่จาวหนิงกับฟางซือฉิง "พวกนางก็ไม่ต้องบริจาคเงินแล้ว สามพันกว่าตำลึงนี้ก็ส่งให้แม่นางฟาง จากนั้นแม่นางฟางก็จะเปลี่ยนพวกมันเ็นเสื้อผ้า รองเท้า เสบียงอาหารแล้วก็วัตถุดิบยา แล้วให้ขบวนพ่อค้าของตระกูลฟางส่งไปยังเมืองเจ้อ"องค์หญิงเจ็ดถาม "ต้องจำนวนเท่าไรล่ะ""ข้าได้ยินว่าเมืองเจ้อมีผู้ประสบภัยเกือบหมื่น พวกเราเลยคำนวณไปว
ฟางซือฉิงอ้าปากพะงาบ ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรดีฟู่จาวหนิงกุมมือนางไว้ ขยิบตาให้นาง"ไหนๆ ก็มาแล้ว ฟังพวกนางต่อไปอีกหน่อยเถอะว่าจะจัดการอย่างไร พวกเราก็ถือเสียว่าเปิดโลกทัศน์ก็แล้วกัน"อันที่จริงนางก็อยากจะลองฟังแผนของเฉินฮ่าวปิงต่อจริงๆในเมื่อเฉินฮ่าวปิงเตรียมตัวมาตั้งหลายวัน ทำไมถึงจะไม่ให้โอกาสนางพูดให้จบกันล่ะ?นางเองก็ชอบที่จะรอให้คนอื่นที่กำลังตื่นเต้นดีอกดีใจ แล้วค่อยจัดการทำลายความหวังของคนๆ นั้นทิ้งแค่คิดก็สนุกแล้วถึงอย่างไรก็มาแล้วนี่นะฟางซือฉิงพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ในใจก็สงบลงมา นางฟังฟู่จาวหนิงก็พอแล้วดังนั้นพวกนางจึงไม่รีบร้อนพูดอะไรอีกพวกของเฉินฮ่าวปิงก็ไม่เหมือนไม่ต้องการท่าทีอะไรของฟางซือฉิง พวกนางยังพูดต่ออย่างเบิกบาน เฉินฮ่าวปิงยังวาดฝันต่อ แล้วก็ทำให้เหล่าองค์หญิงคุณหนูพวกนี้หวั่นไหวกันขึ้นมา"ถ้าหากพวกเราสร้างผลงานอะไรได้ ผู้อาวุโสในตระกูลก็จะมองพวกเราสูงขึ้น หลังจากนี้พวกเราก็สามารถช่วงชิงความรุ่งโรจน์ให้กับตระกูลได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเรื่องนี้ทำออกมาได้ดี ก็อาจจะได้รับความชื่นชมจากองค์จักรพรรดิก้ได้""ตอนที่ข้าไปว่าเรื่องแต่งงาน ผู้อาวุโสของอี