ฟู่จาวหนิงพอคุยเรื่องงาน ก็โยนเฉินฮ่าวปิงไปไว้ที่หลังสมองแล้วนางกับผู้อาุโสจี้ค้นคว้าอยู่พักหนึ่งว่าจะช่วยวัตถุดิบยาเหล่านี้อย่างไร ผู้อาวุโสจี้เองก็พานางมารู้จักกับวัตถุดิบยาล้ำค่าบางส่วน ศิษย์อาจารย์ทำธุระอยู่ในสวนสมุนไพรอยู่นาน จึงได้ไปที่คลังยาชั้นหนึ่งที่นั่นยังมีวัตถุดิบยาอีกมากมาย คลังยาชั้นหนึ่ง ก็คือพวกที่ล้ำค่าที่สุดเหล่านั้น ต่อให้ไม่มีคลังเก็ฐ ก็ยังต้องบันทึกไว้ในสมุด มีคำอธิบายมีภาพประกอบผู้อาวุโสจี้พานางรู้จักทีละอย่างทีละชนิด เติมเต็มจุดอ่อนทางด้านวัตถุดิบยาให้กับฟู่จาวหนิงไปไม่น้อยอันชิงเองก็คอยฟังอยู่ข้างๆ ไม่รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย เพราะนางเองก็ได้เรียนตามไปด้วย ถ้าเผื่อหลังจากนี้เจอกับวัตถุดิบยาเหลา่นี้ นางก็สามารถนำมามอบให้ฟู่จาวหนิงได้ฟู่จาวหนิงก็คิดไม่ถึงว่านางจะมีความคิดเช่นนี้หงจั๋วรอพวกนางคุยกันไปพักหนึ่ง พอเห็นท้องฟ้าด้านนอก จึงขัดพวกเขาขึ้นมาว่า"พระชายา ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้วเจ้าค่ะ"จะให้พระชายาหิวไม่ได้"ไป ไปกินข้าวที่โถงหน้ากัน วันนี้กินกันในพันธมิตรโอสถนี่ล่ะ แล้วข้าจะทดสอบอาหารยาจีนกับน้ำชาโอสถเจ้าเสียหน่อย แล้วเจ้าก็จะได้ชิมพอดี แล้วลอ
"ตามหลักการแล้ว ศิษย์พี่เป็นผู้จัดการใหญ่ของที่นี่ เขาจะให้เฉินฮ่าวปิงมาเป็นคุณหนูใหญ่ของพันธมิตรโอสถมันก็เรื่องของเขา..." ฟู่จาวหนิงพูดเสียดสีออกมาคำหนึ่งแต่ว่ายังไม่ทันพูดจบ ผู้อาวุโสจี้ก็ก่นด่าขึ้นมาอย่างโมโห "คุณหนูใหญ่บ้าบออะไร! นางมันใครกัน!"เขาโกรธจัดแล้วหลักๆ คือ ฮูหยินเฉินนั่นก็ไม่ได้ว่าตามต่งฮ่วนจือมาจริงๆทำตัวก็ไม่ชัดเจน ความสัมพันธ์ไม่ต้องคิดก็เข้าใจ ก็แค่คอยหาประโยชน์จากต่งฮ่วนจือมาตลอดเท่านั้น หลอกเขาอยู่ชัดๆ!เฉินฮ่าวปิงเจ้าเด็กคนนั้นก็ไม่ได้มาเป็นลูกสาวให้ต่งฮ่วนจือจริงๆ แต่ก็เอาแต่ให้เขาทำตัวเหมือนพ่อมาตลอดความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนนี้ ถ้าลือออกไปจะเสียชื่อเสียงขนาดไหน ทำให้ต่งฮ่วนจือดูเป็นคนโง่ไปอีก!เขาทำไมถึงได้มีศิษย์ที่โง่ขนาดนี้กันนะ!น่าเสียดายที่ด้านจัดการพันธมิตรโอสถของเขายังพอใช้ได้!"ท่านอาจารย์ ไม่ต้องโกรธแล้ว ศิษย์พี่เองก็ไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว เขารู้อยู่นั่นล่ะว่าตัวเองทำอะไรอยู่"ฟู่จาวหนิงอยากจะฟ้องจริงๆ แต่พอเห็นผู้อาวุโสจี้โมโหขนาดนี้ นางก็กลัวว่าเขาจะโมโหจนเป็นอะไรไปต่งฮ่วนจือก็เป็นวัยกลางคนแล้ว ยังไม่รู้อีกหรือว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่"ข
ต่งฮ่วนจืออันที่จริงก็คิดไว้แล้วว่าอาจารย์ต้องรู้เรื่องวันนี้แน่ ยิ่งไปกว่านั้นต้องมาด่าเขาแน่เขาเองก็เตรียมคำพูดไว้บ้างแล้วผลคือผู้อาวุโสจี้ไม่ให้โอกาสเขาเลย เอ่ยขึ้นมาตรงๆ ว่า "หลังจากนี้ห้ามพาแม่ลูกคู่นั้นมาที่พันธมิตรโอสถอีก แล้วก็ ห้ามให้นางยืมชื่อของพันธมิตรโอสถไปแอบอ้างทำเรื่องอะไรด้วย! แล้วเจ้าเองก็ห้ามเด็กนั่นมาปรากฏตัวต่อศิษย์น้องหญิงเจ้าด้วย!""ท่านอาจารย์ ฮ่าวปิงนาง...""เว้นเสียแต่นางจะมาเป็นลูกสาวเจ้าจริงๆ!" ผู้อาวุโสจี้ตัดบทเขา "ไม่เช่นนั้นพวกนางแม่ลูกก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า! ข้าบอกเจ้าไปตั้งหลายรอบแล้ว เจ้าพวกนางมาพอแล้ว อย่าทำตัวไม่มีสมอง!""แล้วก็ ต่อให้นางกลายเป็นลูกสาวเจ้าจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่านางจะมากำเริบเสิบสานต่อนห้าศิษย์น้องเล็กของข้าได้! ก่อนหน้านี้นางเองก็ยังดูรู้จักมารยาท รู้จักประมาณตน แล้วตอนนี้ทำไมยิ่งโตยิ่งเลวร้าย? เจ้าเคยคิดบ้างไหม ว่านางอาจจะถูกเจ้าตามใจจนเสียคน! "ผู้อาวุโสจี้จำได้ว่าหลายปีก่อนตอนที่เจอกับเฉินฮ่าวปิง นางยังรู้สึกประมาณตน ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้ถึงตัวตนฐานะของตนเองด้วย ตอนอยู่ในพันธมิตรโอสถก็เคารพผู้อาวุโสดีแล้วแม่ลูกอย่างพวกนา
"ถุด" เขายังพูดไม่ทันจบ ผู้อาวุโสจี้ก็ตัดบทเขาอย่างไม่ใยดี "ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ใช่ว่าก่อเรื่องไปแล้วหรือ? ไม่ใช่ว่าไปหาศิษย์น้องหญิงเจ้าให้นางพาเจ้าเด็กนั่นไปผูกมิตรกับพวกคนชั้นสูงหรือ? ถ้าไม่ใช่ศิษย์น้องหญิงปฏิเสธออกมาเอง เจ้าไม่ใช่จะให้พวกเราทั้งกลายเป็นที่พึ่งให้เจ้าเด็กนั่นแล้วหรือไร?"ต่งฮ่วนจือไม่มีคำจะไปค้าน"ขนาดวันนี้แม่นางอันนั่น พวกเจ้าส่งเทียบเชิญให้นาง ไม่ใช่เพราะได้ยินว่าศิษย์น้องหญิงเคยช่วยนาง นางรู้จักศิษย์น้องหญิงเจ้า ความสัมพันธ์ก็ไม่เลว ดังนั้นจึงเชิญนางมาอย่างไม่กังวลหรือ? เจ้าใช้วิธีนี้มาเลือกคน แล้วยังบอกว่าไม่คิดจะพึ่งพาศิษย์น้องหญิงอีกเนี่ยนะ?"คำพูดนี้ของผู้อาวุโสจี้ถูกต้องต่งฮ่วนจือกับฮูหยินเฉินเลือกอันชิงมา นอกจากที่องค์หญิงหนานฉือแต่งงานเข้าจวนตระกูลอันแล้ว ยังมีเรื่องความสัมพันธ์กับฟู่จาวหนิงอยู่ด้วยไม่ว่าพวกฮูหยินเฉินจะมีมุมมองอย่างไรต่อฟู่จาวหนิง มีจุดหนึ่งที่แม่ลูกอย่างพวกนางต้องยอมรับ นั่นก็คือคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับฟู่จาวหนิง ในด้านนิสัยใจคอนั้นเชื่อถือได้ ดังนั้นพวกนางจึงเลือกอันชิงในจิตใต้สำนึก ต่งฮ่วนจือเองก็รู้สึกว่า ถ้าหากเฉินฮ่าวปิงสามารถเข
อ๋องฉยงอยู่ในวังราชนิเวศน์มานานไม่ได้ออกไปไหนแต่วันนี้ในที่สุดเขาก็หาที่อยู่ของฮูหยินเฉินพบแล้วอวิ๋นจูกลับไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในพันธมิตรโอสถเมื่อสองวันก่อนกับเขา และหยิบโคมไฟงานปักใบหนึ่งให้เขาดู เขาจำได้ นี่ต้องเป็นฝีมือของฮูหยินเฉินแน่นอนร้านงานปักจิ่นเยว่ เป็นร้านในนามของจวนชินอ๋องเซียวฮูหยินเฉินเองก็ได้ข่าวนี้ จึงเลือกร้านงานปักจิ่นเยว่นางพาเฉินฮ่าวปิงเข้าไปในร้านงานปัก ผู้จัดการจึงเชิญพวกนางขึ้นไปชั้นบน"ทั้งสองท่านนั่งดื่มชากันก่อน มีคนชอบงานปักของพวกท่านมาก อยากจะเข้ามาพูดคุยกับพวกท่านด้วยตนเอง กำลังจะมาถึงแล้ว" ผู้จัดการร้านบอก"ไม่ใช่ฮูหยินอาวุโสเจี่ยหรือ?"หลานชายของฮูหยินอาวุโสเจี่ยเป็นท่านโหวคนหนึ่ง ฮูหยินเฉินสองวันก่อนทำความรู้จักไว้ เดิมทีคิดว่ามาที่นี่แล้วจะได้เจอกับฮูหยินอาวุโสเจี่ยเสียอีกเพราะก่อนหน้านี้สาวใช้คนหนึ่งบอกว่า วันนี้ฮูหยินอาวุโสจะมาที่ร้านงานปักด้วยตนเองตอนนี้ทำไมฟังแล้วเหมือนไม่ใช่เลย?ผู้จัดการก็ไม่พูดอะไรมาก ให้พวกนางรอ ส่วนตัวเองก็ถอยออกไปแล้วไม่นานนัก พวกของฮูหยินเฉินก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ด้านนอกมีคนพูดขึ้นว่า "พวกเจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่""่ขอรับ"
"อะไรคือหาผู้ชายคนใหม่? เขาก็แค่ช่วยพวกเราแม่ลูกเท่านั้น" ฮูหยินเฉินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์"โอ๋? จริงหรือ? เจ้าไม่ได้ไปนอนบนเตียงต่งฮ่วนจือ เพื่อตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิตหรือไรกัน?" อ๋องฉยงน้ำเสียงเย้ยหยัน เหมือนกำลังสงสัยในใจเฉินฮ่าวปิงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจพ่อของนางทำไมจึงพูดเช่นนี้?"ท่านพ่อ ระหว่างแม่ของข้ากับลุงต่งไม่มีอะไรกัน!" นางรีบช่วยอธิบายขึ้นมาคำหนึ่ง อตนนี้นางเจอพ่อนางแล้ว แล้วยังเป็นถึงอ๋องฉยง นางต้องขีดเส้นกับต่งฮ่วนจือให้ชัดเจน!"ถ้าไม่มีอะไรกันจริง คนเขาจะช่วยแม่ลูกอย่างพวกเจ้าขนาดนี้หรือ?""ท่านคิดจะพูดอะไรกันแน่?" ฮูหยินเฉินกุมมือเฉินฮ่าวปิงแน่น ไม่ให้นางพูดอะไรอีก นางจ้องเขม็งที่อ๋องฉยง รู้สึคว่าที่เขาจู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมันประหลาดหน่อยๆถ้าหากอยากจะหาตัวพวกนางแม่ลูกจริงๆ ทำไมต้องใช้เวลานานขนาดนี้?"ของในมือเจ้า ส่งมาให้ข้า" อ๋องฉยงกดเสียงต่ำตอนนี้ฟู่จาวหนิงกำลังนั่งอยู่ในโรงสุราตรงข้ามร้านงานปัก เซียวหลันยวนเองก็อยู่ด้วย แค่ยังคงสวมหน้ากากอยู่ฟู่จาวหนิงเพิ่งเห็นอ๋องฉยงเข้าไปในร้านงานปัก เพียงแต่ว่าที่นี่มองไม่เห็นและไม่ได้ยินว่าพวกเขาทำอะไรแน่นอนนางมองเซียวหลันยว
"ถ้าเล็ดลอดออกไป พวกนางแม่ลูกน่าจะมีอันตรายถึงตัว นางยังถือว่าฉลาดอยู่" เซียวหลันยวนอันที่จริงในใจก็คาดเดาไว้บ้างแล้ว"แล้วตอนนั้นที่นางไปหาอ๋องฉยง เป็นเพราะจะยืมอำนาจของอ๋องฉยงหรือ?""ก็เป็นไปได้"และตอนนี้ที่ชั้นสองของร้านงานปักฝั่งตรงข้าม เฉินฮ่าวปิงกำลังถลึงตาอ้าปากค้างทุกคนพูดที่อ๋องฉยงพูดกับแม่นางฟังออกทั้งหมด แต่พอรวมเข้าด้วยกันทำไมนางถึงฟังไม่เข้าใจเลย?อะไรคือแคว้นเจาอยู่ต่อไม่ได้พวกเขาก็ยังหาทางอื่นได้?คิดจะกบฏต่อแคว้นหรือ?อะไรคือถ้าหากสามารถหาดินแดนผืนนั้นเจอ พวกเขาบางทีอาจจะเป็นอ๋องได้?เขาตอนนี้ไม่ใช่เป็นอ๋องอยู่แล้วหรือ? เขาไม่ใจว่ามีเมืองฉยงโจวอยู่แล้วหรือ? ยังคิดจะไปเป็นอ๋องที่ไหนอีก?อะไรคือตระกูลเฉินในครั้งนั้นติดต่อศัตรูเพื่อทรยศแคว้น?ฮูหยินเฉินตอนนี้สภาพดูไม่ดีเอาเลยหลายปีก่อนถูกพระชายาฮูหยินไล่สังหาร ตอนที่ชีวิตมีวิกฤตก็ไม่เคยคิดจะให้อ๋องฉยงช่วย เพราะรู้สึกว่าอ๋องฉยง่าจะรู้ความลับของนางเข้ามาแต่ความลับนั่นนางไม่อยากจะบอกอ๋องฉยงตอนแรกนางเคยคิดไว้แล้ว ดังนั้นจึงยอมตัวเองให้กับอ๋องฉยง แต่พออยู่กับเขาแล้ว นางพบว่าอ๋องฉยงยังไม่พอที่จะแบกเรื่องใหญ่เช่นนี้ได้ เขายั
เฉินฮ่าวปิงบิดมือออกจากแขนของฮูหยินเฉินทันที"ท่านแม่ ข้าจะเข้าวังไปกับท่านพ่อ ถ้าท่านไม่ไป ข้าเข้าไปฟังองค์จักรพรรดิดูว่าเขาจะพูดอะไร กลับมาแล้วจะเล่าให้ท่านฟัง""ปิงเอ๋อร์! เจ้าห้ามไป!""ไป" อ๋องฉยงลุกขึ้นมา เดินนำไปก่อน เฉินฮ่าวปิงรีบตามขึ้นไป กลัวฮูหยินเฉินจะดึงเอาไว้ฮูหยินเฉินพอเห็นนางตามออกไปแล้ว ก็รีบร้อนตามขึ้นไป"ปิงเอ๋อร์ กลับมา!"พวกเขากว่าจะหลุดพ้นจากการไล่สังหารของพระชายาอ๋องฉยง ตอนนี้จะต้องกลับไปอยู่ในวังวนนั้นอีกแล้วหรือ? อ๋องฉยงคนนี้พึ่งพาไม่ได้!แต่ว่าเฉินฮ่าวปิงก็คิดแต่อยากจะให้ตนเองมีตัวตนฐานะดี นางไม่อยากเป็นลูกกำพร้าที่ไม่มีพ่อไม่มีชาติตระกูล แล้วทำได้แค่พึ่งพาการช่วยเหลือปกป้องจากต่งฮ่วนจือพ่อแท้ๆ ไม่ใช่ว่าดีกว่าคนอื่นหรือ?เป็นลูกสาวของอ๋อง ไม่ใช่ว่าดีกว่าอาศัยอยู่ในบ้านคนอื่นหรือ?"กลับไปแล้วก็เตือนแม่เจ้าหน่อย ว่าอย่าดื้อรั้นนัก" พอขึ้นรถม้า หลังจากที่รถม้าแล่นห่างออกจากร้านงานปัก อ๋องฉยงจึงพูดขึ้นมาคำหนึ่งกับเฉินฮ่าวปิงเฉินฮ่าวปิงพยักหน้านางถอนใจโล่ง ที่ท่านแม่ไม่ไล่ตามมา"ท่านพ่อ ข้าจะเตือนนางแน่ แต่ว่า ท่านทำไมถึงไม่ต้องการข้ากับท่านแม่ล่ะ?" เฉินฮ่าวปิงถ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ