เด็กหญิงหันไปมอง ชายรูปร่างสูง ในชุดสูทหล่อเหลาที่ก้มหน้ามามอง ส่งยิ้มหวานให้แล้วรู้สึกแปลกๆ
เด็กหญิงจิ้มนิ้วชี้เข้าหาตัว“ใช่ค่ะ คุณลุงรู้ได้ยังไงคะ นี่แหละค่ะน้ำอิงคนสวยห้อง KG2/4” เสียงใสแจ๋วแล้วยังหลงตัวเองว่าสวย ถามขึ้นแล้วมองคุณลุงสุดหล่อ ท่าทางใจดีด้วยความสนใจ
“น่ารัก พูดเก่งมาก อารมณ์ดีด้วย” ไรอันมองเด็กหญิงตัวน้อยราวกับเธอคือของวิเศษ
แม้จะถูกเรียกว่าเป็นลุงแต่ไรอันยิ้มอย่างพอใจแต่อยากได้ยินคำว่าแด๊ดดี้มากกว่า ปกติเด็กคนอื่นเห็นหน้าเขาก็ร้องไห้จ้า แต่น้ำอิงกลับยิ้มหวานพูดคุยกับเขาได้อย่างไม่กลัว
“ทีเชอร์แคเธอรีนบอกคุณลุงครับว่าหนูน้อยน่ารักคนนี้ชื่อน้ำอิง”
แคเธอรีนคือผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้และเป็นเพื่อนของแอชลีย์ ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเขา
บางครั้งโลกใบนี้มันก็กลมเกินไป แต่เป็นการกลมที่ทำให้ไรอันเข้าใกล้ลูกสาวได้มากขึ้น ช่างโชคดีเหลือเกินที่พี่สาวของเขาเป็นเพื่อนกับผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้
“ทีเชอร์บอกว่าน้ำอิงเป็นเด็กดี คุณลุงไรอันจะซื้อขนมให้หนูเอง”
เด็กหญิงเบิกตากว้างแล้วนึกใบหน้าหวานๆ ของมามี้
“ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้” เด็กหญิงตัวน้อยส่ายหน้าระรัว “มามี้สั่งห้ามรับของจากคนแปลกหน้าค่ะคุณลุง”
แม้ภายในหัวใจดวงน้อยจะคิดค้านว่าคุณลุงสุดหล่อไม่น่ากลัวเลยสักนิด ดูใจดี๊ใจดี แต่เด็กหญิงยังยึดคำสั่งมารดาอย่างเคร่งครัด
อีกฟากหนึ่งไม่ไกลนัก แคเธอรีนยืนกอดอก ใบหน้าเปื้อนยิ้ม เห็นเด็กหญิงเชื่อฟังคำสั่งมารดายังแอบนึกขำ เธอมั่นใจว่าไรอันและแอชลีย์ เพื่อนสาวไม่ได้เอาเรื่องนี้มาล้อเล่น ดูจากใบหน้าของเด็กหญิงแล้วมองหน้ามิสเตอร์ไรอัน…
ดีเอ็นเอช่างชัดเจน
แคเธอรีนเดินเข้าไปใกล้ เอ่ยช่วยสองพ่อลูกเล็กน้อย “น้ำอิงคะ ทีเชอร์คิดว่าคุณลุงไรอันไว้ใจได้ น้ำอิงรับขนมจากคุณลุงไรอันได้นะคะ แล้วพอคุณแม่มารับตอนเย็น ทีเชอร์จะบอกคุณแม่ให้เอง”
เด็กหญิงมองหน้าคุณลุงสุดหล่อ สลับกับทีเชอร์แคเธอรีน ก่อนใช้ความคิดครู่หนึ่ง ร่างกลมๆ หันไปยิ้มหวานแฉ่งให้กับคุณป้าเจ้าของร้านขนม
เสียงใสเอ่ยขึ้น “คุณป้าขา เอาไข่ครก 40 บาทค่ะ”
เจ้าของร้านส่งยิ้มกว้าง นึกขำแม่หนูน้ำอิง เมื่อครู่ยังสั่ง 20 บาทอยู่เลย
ผู้ใหญ่ทั้งสามได้แต่มองหน้ากันไปมาแล้วอมยิ้มกับความหัวไวของแม่หนูน้ำอิง พอมีคนเลี้ยงหน่อยแม่หนูน้อยหัวไวได้ทีสั่งเพิ่มอีกเท่าตัวแล้วหลุดเสียงหัวเราะกันยกใหญ่ ไรอันอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ นี่แหละทายาทของตระกูลคาเตอร์ตัวจริง
ลูกแด๊ดดี้ น่ารัก หัวไว
ถูกใจชะมัด
แต่เจ้าเล่ห์เหมือนใคร?
“คุณป้าแถมให้หนูอีกสองชิ้น”
“ขอบคุณค่ะ แต่ถ้าแถมสาม น้ำอิงจะแบ่งบีน่ากับวุ้นเส้นและน้ำผึ้งได้ด้วยนะคะ”
ป้าเจ้าของร้านต้องจิ้มขนมไข่ครกใส่เพิ่มให้อีกชิ้น “ฉลาด พูดเก่งจริงๆ”
ดวงหน้าใสจิ้มลิ้มรับไข่ครกพิเศษเต็มถ้วยกระดาษมาถือไว้ แล้วหันกลับมายิ้มแป้นให้ไรอัน
“คุณลุงขา ได้ขนมแล้วค่ะ จ่ายเงินสิคะ”
ไรอันเผลอมองแพขนตาหนาขยับขยุกขยิกเหนือดวงตาใสของเด็กหญิงพลางอมยิ้มไม่หุบ คนหน้าตาดีอย่างเขามีลูก ลูกของเขาหน้าตาดี น่ารักได้ขนาดนี้เชียวหรือ
เสียงใสดังขึ้นพร้อมกับอาการสะกิดแขนอีกครั้งเมื่อเห็นคุณลุงเอาแต่มองเธอแล้วยิ้มไม่หุบ ไม่ยอมควักเงินจ่ายป้าเจ้าของร้าน หรือคุณลุงจะเบี้ยว มองไข่ครกของโปรดแล้วเอ่ยทวงถามอีกครั้ง
“คุณลุงขา เงินค่ะ” แม่หนูตัวแสบแบมือป้อมๆ ข้างหนึ่งรอรับเงินสี่สิบบาทที่คนเลี้ยงรับอาสาจะจ่ายให้
“เงินเหรอครับ!”
ใช่สิ ไรอันเพิ่งนึกได้ซื้อของเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ต้องใช้เงินสดเท่านั้น เขาเคยซื้อของเองครั้งสุดท้ายก็ตอนซื้อโรงผลิตไวน์ต่อจากพี่สาวด้วยมูลค่าสามพันกว่าล้านดอลลาร์ แล้วตอนนั้นก็จ่ายเป็นเช็ค
เขาลืมนึกถึงข้อนี้ว่าไม่เคยพกเงินสดติดตัว ไรอันล้วงหยิบกระเป๋าสตางค์จากกางเกงแล้วเปิดออกดู หวังว่าอาจจะมีหลงๆ สักใบ แต่ในกระเป๋าช่องเสียบธนบัตรกลับว่างเปล่า มีเพียงบัตรเครดิตเรียงรายกันอยู่สิบกว่าใบ
เด็กหญิงมองตาปรอย รู้สึกหวั่นใจเพราะไม่เห็นเงินเลยสักบาท
ทำไมคุณลุงสุดหล่อจน ไมมีเงินออกมาจากกระเป๋าสักบาท
“คุณลุงขา ไม่มีเงินเหรอคะ”
“เอ่อ ลุงลืมไป ลุงไม่ได้พกเงินมาด้วย” ไรอันตอบไม่เต็มเสียง มองเงินสดในกระเป๋าไม่มีสักแบงก์ หรือเหรียญเดียว
แม่หนูตัวน้อยเบิกตากว้างด้วยสีหน้าตกใจแล้วมองไข่ครก 40 บาทในมือที่ตั้งใจจะฟาดให้เรียบ หรือบางทีอาจจะแบ่งให้บีน่ากับวุ้นเส้นและน้ำผึ้งคนละชิ้นเพราะคุณป้าแถมมา มามี้ของเธอสอนให้รู้จักแบ่งปัน เด็กหญิงจึงพยายามปฏิบัติตาม
ไรอันลุกขึ้นกวาดตามองหาครูซ มือขวาของเขา เขาไม่มี แต่ครูซมันต้องมี!
แม้สมองของยัยตัวเล็กจะมีขนาดเล็ก แต่รอยหยักคงมีมากตามกรรมพันธุ์ เด็กหญิงหาวิธีแก้ปัญหานี้เพราะไม่อยากส่งคืนขนม เมื่อครู่เธอแอบเห็นคุณลุงมีบัตรสี่เหลี่ยม แม่ของเธอก็มีมันเรียกว่าเครดิตการ์ด เห็นแม่เคยใช้ซื้อน้ำมันและของในสถานีน้ำมัน เด็กหญิงน้ำอิงหันรูปร่างกลมป้อมไปส่งยิ้มหวานให้กับคุณป้าร้านขนมก่อนจะเอ่ยเสียงใส
“คุณป้าขา คุณลุงไม่มีเงิน ซื้อไข่ครกรับบัตรเครดิตไหมคะ”
“ร้านคุณป้าไม่มีเครื่องรูดการ์ดค่ะลูก เดี๋ยวให้คุณแม่มาจ่ายทีหลังก็ได้ค่ะ”
เจ้าของร้านขนมมองหน้าแม่หนูแก้มกลมแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู ในขณะที่ไรอันกำลังกระซิบกับแคเธอรีนเพื่อขอยืมเงินสักสี่สิบบาท แต่ผู้อำนวยการสาวก็ไม่ได้พกกระเป๋าสตางค์มา
แต่ทันใดนั้น ธนบัตรสีเขียวสองใบก็ถูกยื่นให้แม่ค้า พร้อมกล่าวขออภัย
“นี่ค่ะค่าขนมของน้ำอิง ขอโทษด้วยนะคะคุณป้า วันนี้ คุณแม่ลืมเอาเงินค่าขนมให้น้อง”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่”
คิ้วของไรอันขมวดเข้าหากัน เมื่อเช้า แม่ของลูกขับรถหนีเขา พอมีโอกาสได้เห็นใบหน้าใกล้ๆ ต้องอุทานในใจ ให้ตายเถอะ เขาพลาดอะไรดีๆ ไปถึงสี่ปี
ริมฝีปากอิ่มขยับอย่างขัดเคือง “น้ำอิงเป็นลูกสาวฉัน คุณคิดจะทำอะไร เอามือออกไปจากตัวแก”
กุลนิดายอมรับว่าโมโหมากที่เห็นไรอันมายืนอยู่ตรงนี้ เธอตั้งใจลางานจะมารับลูกกลับบ้าน เธอกับลูกคงอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วถ้าไรอัน คาเตอร์รู้ เขาต้องคิดจะมารังควาน แต่กลับพบว่าปีศาจร้ายกำลังยืนโอบลูกสาวของเธออยู่
หมับ
เขาทำตามที่พูดคือปล่อยมือป้อมๆ ของลูกสาว แล้วมาจับข้อมือแม่ของลูกไว้แทน ดวงตากลมโตของกุลนิดาเบิกกว้างด้วยความไม่พอใจ แต่กระแสไออุ่นจากฝ่ามือที่ส่งผ่านไปตามต้นแขนเรียวทำให้หญิงสาวรู้สึกชาวาบอยากจะกรีดร้องดังๆ และสะบัดมือหนีแต่เวลานี้ เธอกำลังยืนอยู่ต่อหน้าทีเชอร์แคเธอรีน ยังมีคุณป้าแม่ค้าที่มองมาด้วยสายตาสงสัย เสียงนั้นจึงหายไปในลำคอ มีเพียงสีหน้าซีดเหวอเหมือนกำลังเจอผีเมื่อได้ยินว่า“ผมก็มาทำหน้าที่แด๊ดดี้สิครับ ผมทราบว่าอีกไม่กี่วัน โรงเรียนจะจัดงานวันพ่อ ผมก็ตามเจอคุณพอดี”ไรอันพูดก่อนจะส่งยิ้มหวานจนเห็นไรฟันขาวเรียงตัวกันเป็นระเบียบ แต่ในสายตาของกุลนิดารู้สึกเหมือนรอยยิ้มปีศาจเธอยืนกำมือแน่น ขณะที่ไรอันก้มมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู “คุณบอกลูกด้วยสิครับ ปีนี้แด๊ดดี้จะมาร่วมงานวันพ่อ”“ใครเชิญไม่ทราบ คุณไม่ใช่พ่อของลูกสาวฉัน” เธอผลักตัวเขาออก พูดด้วยเสียงกระด้าง“ถามคนแถวนี้ไหม ถ้าน้ำอิงเดินหายไป เขาจะเอาลูกมาคืนใคร ระหว่างผมกับคุณ”“นี่คุณ!”“ลูกผมหน้าเหมือนผมมากขนาดนี้ ดีเอ็นเอ ฟ้องชัดบนใบหน้า ยังกล้าปฏิเสธอีกเหรอ”เขาพูดเรื่องจริงแต่เธอไม่อยากรับรู้ กุลนิดาเม้มปากแน่น มันน่าน้อยใจก็
“ผมต้องการเป็นพ่อของลูก อยากจะมาขอใช้สิทธิ์ความเป็นพ่อ ให้ผมช่วยคุณเลี้ยงลูกนะเกรซี”กุลนิดานิ่งอึ้งคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมา เมื่อเขาพยายามจะรุกล้ำแบบละมุนละม่อมปราศจากความรุนแรง แล้วเธอจะตอบโต้เขายังไง จะหอบลูกย้ายโรงเรียนหนีก็ไม่ไหว ลงทุนจ่ายค่าเทอมไปจนหมดตัวเงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ ไรอันเพิ่งเข้าใจวันนี้ ผู้หญิงไม่ได้หิวเงินไปเสียทุกราย ถ้าเกรซีต้องการเงิน เธอบอกเขานานแล้วเรื่องคืนนั้น เขามันคนฉลาด เจ้าแผนการอยู่แล้ว ในเมื่อลูกก็อยากได้ แม่ของลูกก็คิดจะเอากลับไป งานนี้คงต้องขนความจริงใจมาเอาชนะสองแม่ลูก“ถ้าฉันตอบว่าไม่อนุญาตล่ะคะ คุณจะทำยังไง”“ผมคิดว่าคุณต้องเปลี่ยนใจถ้าได้รู้จักคนอย่างผมดีพอ” เขาพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง เห็นประกายความจริงใจในดวงตาสีฟ้าอย่างประหลาดแต่กุลนิดาเรียกมันว่าคำขู่ เธอเผลอมองจ้องดวงตาเขาอยู่ยังต้องเบนหลบ“ฉันอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงค่ะ ไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความเพ้อฝัน ผู้ชายรวยๆ อย่างคุณจะพอใจผู้หญิงธรรมดาอย่างฉันหรือคะ ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันอยู่กับลูกไป จะมาเป็นพ่อให้ลูก ของผู้หญิงจนๆ คนหนึ่งทำไม ทั้งที่คุณแทบจะไม่รู้จักฉันเลย” เธอเชิดหน้าถาม“รู้ได้ไงว่าผ
สหรัฐอเมริการ่างสูงภูมิฐานอยู่ในชุดสูทสีเทาราคาแพงระยับ เหยียดกายขึ้นจากพนักพิงเก้าอี้ ในแวดวงธุรกิจไม่มีใครไม่รู้จักนักธุรกิจสมองเพชร ‘ไรอัน คาเตอร์’ ดวงตาสีฟ้า ในวัยยี่สิบเก้าปี มองไปที่เช็คตรงหน้าแล้วพ่นลมหายใจยาวพรืดก่อนตัดสินใจจรดปากการะดับไฮเอนด์ ซึ่งส่วนหัวของปากกาปรากฏรูปดาวลอยอยู่ อันเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จเสียงตื่นเต้นดีใจของหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานสวมเดรสสั้นคัตติ้งเนี้ยบ ความยาวเหนือเข่าสีน้ำเงิน อวดเรียวขาขาว เธอสอดส่ายสายตาลงมาจดจ้องตัวเลขหน้าเช็คด้วยดวงตาเป็นประกาย เสียงเธอออดอ้อนหวานฉ่ำ“คุณน่ารักเสมอเลย ขอบคุณมากค่ะที่รัก”“ผมไม่ใช่ที่รักของคุณ ผมให้คุณได้เท่านี้ ให้เพราะคุณมาเสนอขายในสิ่งที่ผมกำลังอยากรู้ และกำลังตามหา ไม่ได้ให้เพราะผมสนใจในตัวคุณ”“ดูพูดเช้าสิ ใจร้าย แอนนี่ยังอยากให้บริการที่ยอดเยี่ยมกับคุณเสมอนะคะไรอัน”ชายหนุ่มเห็นความยั่วยวนในแววตาเธอ แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับเขา “หากคุณชอบงานบริการ ผมมีลูกค้าที่น่าสนใจจะแนะนำให้ บางทีเขาอาจกำลังมองหาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอยู่ก็ได้”ไรอันยื่นนามบัตรทำจากกระดาษหอมชั้นเลิศของใครคนหนึ่งที่เขาเพิ่งจะขายของเ
วันนี้ก็เช่นกัน กุลนิดาต้องเข้ามาทำความสะอาด ภายในห้องหรูหราประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงระยับไปทุกตารางนิ้วจนกุลนิดาต้องค่อยๆ เช็ด ค่อยๆ ดูดฝุ่นอย่างดีเพราะกลัวไปทำของประดับของเขาตกแตกและเธอจะไม่มีเงินชดใช้วันที่เกิดเหตุเธอเลิกทำความสะอาดดึกกว่าทุกครั้ง เพราะอินทิราเพิ่งจะโทร.ไปตามเมื่อตอนหกโมงเย็นให้รีบเข้ามาทำความสะอาด คืนนี้ใครบางคนจะเดินทางมาจากอเมริกา และเลือกมาพักที่นี่เพื่อจะเดินทางต่อไปหาเพื่อนที่จังหวัดเชียงใหม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น“กุล ทำห้องให้เรียบร้อยนะยะ ก่อนคุณไรอันจะมาถึง เสร็จแล้วก็รีบกลับออกไป ไม่ต้องอยู่เสนอหน้ารอเจอเขาล่ะ ถ้าฉันรู้ว่าเธออ่อยเขา เรามีปัญหากันแน่ ส่วนค่าจ้าง เดี๋ยวฉันโอนเข้าบัญชีเดิม”“เข้าใจแล้วค่ะคุณอิน กุลรับทำความสะอาด ไม่ได้รับงานอ่อยผู้ชาย วางใจได้ค่ะ”อินทิราอดจะหมั่นไส้ไม่ได้กับคำพูดถือดี ที่จริงแอบขัดใจอยู่บ้างที่ญาติผู้น้องของเธอแนะนำคนสวยราวกับดารามาทำความสะอาดให้ จะไม่จ้างก็ติดตรงที่ว่ากุลนิดาทำความสะอาดได้ถูกใจ แล้วที่สำคัญใครบางคนมีคำสั่งให้เลือกคนเดิมมาทำความสะอาดห้องนี้ห้ามเปลี่ยนแปลงหลังกุลนิดาทำความสะอาดจนทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจนเป็
เธอเห็นเขาเป็นเงาตะคุ่มๆ ที่มูมมามซุกไซ้ดอมดมไปทั่วตัว กุลนิดาขนลุกเกรียวไปทั่วร่างจากลมหายใจร้อนผ่าวที่ลากไล้ไปทั่วทรวงอก เขากลัดมันมาก ดูดกลืนเม็ดบัวสองข้างของเธออย่างเมามัน กุลนิดาไม่เคยเจอสัมผัสแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน รู้แต่ว่ามันวาบหวาม เสียดเสียว กุลนิดายอมรับว่าเธอรู้สึกเกร็งสะท้านจากความกลัวเริ่มกลายเป็นตื่นเต้น ถึงกระนั้น ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็ยังกระตุ้นเตือนมือบางทุบตีคนที่กำลังจ้องคร่าสวาท ได้ยินเขาส่งเสียมคำรามต่ำเป็นการปรามออกมาเบาๆ ครั้งหนึ่ง“นิ่งๆ”“ปล่อย”แต่ก็พูดได้เพียงแค่นั้น เพราะปากหยักลึกเต็มไปด้วยกลิ่นบรั่นดีก้มลงมาจูบแล้วแทรกปลายลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัด กุลนิดาต่อต้านสุดกำลัง ไม่ยอมให้ลิ้นร้ายกาจเข้ามาพัวพัน แต่คนมีพละกำลังมากกว่าอีกทั้งจัดเจนกว่าก็เร่งปลุกเร้าอย่างบ้าคลั่ง“หวานเป็นบ้า อ้ากว้างๆ กว่านี้อีกได้ไหม”นิ้วมือแข็งแกร่งใช้ความโชกโชนชอนไชไปในกุหลาบงาม ควานหาปุ่มเนื้อที่เป็นจุดศูนย์รวมความซ่านเสียว ปากหยักลึกก็พรมจูบไปทั่วทรวงอก ประสาททุกเส้นของกุลนิดาตื่นตัวไปทุกเส้น ร่างกายบิดแอ่นอยากจะให้เขาถอยหนีแต่มือไม้กลับอ่อนแรงร่างกำยำระดมจูบไปทั่วฐานอก ไ
น้ำอิงชอบตุ๊กตาโพนี่และมีการ์ตูนเรื่องโปรดคือโดราเอมอน เธอขอสะสมตุ๊กตาม้าโพนี่ผู้เป็นแม่จึงให้หยอดกระปุกเอาไว้ หากเก็บเงินครบเมื่อไหร่ก็จะพาไปซื้อเป็นการฝึกนิสัยอดออมเท่านั้นลูกหมูแก้มใสค่อยๆ ปรือตาขึ้นส่งยิ้มหวาน “มามี้ขา วันนี้วันเสาร์ไม่ใช่หรือคะ”เด็กหญิงอ้าปากหาว แต่ดูน่ารัก แก้มใสแดงดั่งมะเขือเทศสุก กุลนิดาเอื้อมมือไปบีบจมูกเล็กๆ แล้วถอนหายใจพลางส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ“อย่ามาเจ้าเล่ห์นะคะน้ำอิง เมื่อวานวันอาทิตย์ แล้วเช้านี้เป็นวันจันทร์ค่ะ”“น้ำอิงไม่ชอบวันจันทร์ ไม่รักวันจันทร์เลย” เด็กหญิงบ่นไปขณะที่คนเป็นแม่พยายามพยุงร่างป้อมๆ ของลูกหมูน้อยให้ลุกขึ้นจากเตียงโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งเช้าวันจันทร์ที่เร่งรีบ แสงแดดอ่อนๆ ทอลงมาแรงกล้ากว่าที่เคย หลายชีวิตกำลังเร่งรีบมาส่งบุตรหลานที่โรงเรียนหลังจากส่งน้ำอิงเข้าห้องเรียนแล้ว กุลนิดาก็รีบเดินทางต่อไปยังที่ทำงาน แต่ขณะกำลังเดินอย่างคล่องแคล่วไปตามทางเดินเท้าที่มีหลังคาสีน้ำเงินคลุมกันแดดไว้ตลอดทางเดินระหว่างอาคาร เสียงฝีเท้าหนักๆ ทางด้านหลังดังขึ้นพร้อมทั้งเรียกชื่อ“กุลครับ รอผมด้วย”ดวงตากลมโตที่มีแพขนตางอนยาวขยายขึ้นอย่างสงสัย ร่างบ
“ครับ ผมรู้ กุลไม่สนใจผม แต่ผม...”“เอาแบบนี้ดีกว่าค่ะ เรื่องน้ำอิงขาดพ่อ กุลคงไม่รบกวนคุณ ปีนี้คุณตาของน้ำอิงว่าง ท่านเกษียณแล้ว เดี๋ยวกุลชวนคุณตาของน้ำอิงมาร่วมงาน” ที่จริงตาของน้ำอิงเสียชีวิตไปแล้วเธอแค่หาข้ออ้างตัดรำคาญ “หรือถ้าไม่มีใครมา น้ำอิงก็เข้มแข็งพอ แกรู้ค่ะว่ามีแม่ก็แทนพ่อได้ กุลทำความเข้าใจกับน้ำอิงแล้วตั้งแต่แกเริ่มพูดคุยรู้เรื่องแกก็รู้แล้วว่าแกไม่มีพ่อ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”“กุลเข้มแข็งมากนะครับ แต่จะดีแค่ไหนที่เด็กๆ จะมีพ่อและแม่ เป็นครอบครัวอบอุ่น น้องพีทจะได้รู้สึกไม่ขาดแม่ในวันแม่ ส่วนน้ำอิงก็จะได้มีพ่อให้ไหว้ในวันพ่อ”“กุลรับความหวังดีนี้ไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยนะคะ”ท้ายประโยค กุลนิดาสบตาเขาแน่วนิ่งเหมือนทุกครั้งที่เธอพูด อาชวินคงไม่ใส่ใจ หรือไม่รับฟัง ว่าเธอไม่สนใจจะเอาเขามาทำหน้าที่พ่อของลูกระหว่างที่ยังไม่ทันพูดคุยกันจบ และกุลนิดาพยายามหาทางเลี่ยงการสนทนา ร่างสูงโปร่งด้วยสูทอาร์มานีสีเทาเข้มก้าวเดินอย่างรวดเร็วมาด้วยความเร่งรีบอยู่ไกลๆกุลนิดาเบนสายตาไปมองทางนั้นพอดี คนที่กำลังเดินมาสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร เด่นสะดุดตาด้วยดวงตาสีฟ้า ใบหน้าหล่อคมคาย เขาเป็นน
“แงๆ”“อย่าร้องสิ ลุงไม่ได้แกล้ง เอานี่ เอาเงินไปกินขนม”เขาจะควักเงินออกมา แต่กลายเป็นว่าในกระเป๋ามีแต่บัตรเครดิต“ขอติดไว้ก่อนนะ วันหลังมาที่นี่แล้วลุงจะเอาโดนัทอร่อยๆ มาฝาก”“แงๆ”“ลูกแม่เป็นอะไรกันคะ”หญิงสาวคนหนึ่งรีบวิ่งกระหืดกระหอบตามมา มองหน้าคนตัวโตที่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก แต่ดวงตาของมนุษย์แม่ที่มองอย่างกล่าวหาทำให้ไรอันจะเดินหนีก็ทำไม่ได้“ผมไม่ได้ทำอะไรหนูน้อยสองคนนี้นะครับ สาบานได้ ผมแค่กำลังวิ่งตามภรรยา”ไรอันถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อเด็กทั้งสองยังร้องไม่หยุด กว่าจะเคลียร์กับแม่ลูกครอบครัวนี้ได้ ทำให้ในที่สุด เขาก็ตามกุลนิดาไม่ทันกุลนิดาถอนหายใจโล่งอก หลังมองกระจกมองหลังแล้วไม่เห็นรถใครขับตามมา เธอขับออกไปในเส้นทางลัดด้านหลังโรงเรียน เลือกขับเข้าไปตามตรอกซอกซอยเพื่อหลบหลีกการติดตามที่อาจจะตามมาเมื่อถึงออฟฟิศที่ทำงาน ก่อนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเริ่มทำงาน กุลนิดาดึงลิ้นชักโต๊ะทำงานแล้วคว้ายาแก้ปวดซัดเข้าปากไปสองเม็ดรวด“ซวยจริงๆ ย้ายหนี แล้วยังตามมาอีกจนได้”กุลนิดายกมือนวดขมับ เรื่องน้ำอิงเป็นลูกของเธอที่เกิดจากเขา ไม่มีใครรู้นอกจากอินทิรา เธอเก็บความลับของอินทิราแล้วขอร้
“ผมต้องการเป็นพ่อของลูก อยากจะมาขอใช้สิทธิ์ความเป็นพ่อ ให้ผมช่วยคุณเลี้ยงลูกนะเกรซี”กุลนิดานิ่งอึ้งคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมา เมื่อเขาพยายามจะรุกล้ำแบบละมุนละม่อมปราศจากความรุนแรง แล้วเธอจะตอบโต้เขายังไง จะหอบลูกย้ายโรงเรียนหนีก็ไม่ไหว ลงทุนจ่ายค่าเทอมไปจนหมดตัวเงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ ไรอันเพิ่งเข้าใจวันนี้ ผู้หญิงไม่ได้หิวเงินไปเสียทุกราย ถ้าเกรซีต้องการเงิน เธอบอกเขานานแล้วเรื่องคืนนั้น เขามันคนฉลาด เจ้าแผนการอยู่แล้ว ในเมื่อลูกก็อยากได้ แม่ของลูกก็คิดจะเอากลับไป งานนี้คงต้องขนความจริงใจมาเอาชนะสองแม่ลูก“ถ้าฉันตอบว่าไม่อนุญาตล่ะคะ คุณจะทำยังไง”“ผมคิดว่าคุณต้องเปลี่ยนใจถ้าได้รู้จักคนอย่างผมดีพอ” เขาพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง เห็นประกายความจริงใจในดวงตาสีฟ้าอย่างประหลาดแต่กุลนิดาเรียกมันว่าคำขู่ เธอเผลอมองจ้องดวงตาเขาอยู่ยังต้องเบนหลบ“ฉันอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงค่ะ ไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความเพ้อฝัน ผู้ชายรวยๆ อย่างคุณจะพอใจผู้หญิงธรรมดาอย่างฉันหรือคะ ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันอยู่กับลูกไป จะมาเป็นพ่อให้ลูก ของผู้หญิงจนๆ คนหนึ่งทำไม ทั้งที่คุณแทบจะไม่รู้จักฉันเลย” เธอเชิดหน้าถาม“รู้ได้ไงว่าผ
เขาทำตามที่พูดคือปล่อยมือป้อมๆ ของลูกสาว แล้วมาจับข้อมือแม่ของลูกไว้แทน ดวงตากลมโตของกุลนิดาเบิกกว้างด้วยความไม่พอใจ แต่กระแสไออุ่นจากฝ่ามือที่ส่งผ่านไปตามต้นแขนเรียวทำให้หญิงสาวรู้สึกชาวาบอยากจะกรีดร้องดังๆ และสะบัดมือหนีแต่เวลานี้ เธอกำลังยืนอยู่ต่อหน้าทีเชอร์แคเธอรีน ยังมีคุณป้าแม่ค้าที่มองมาด้วยสายตาสงสัย เสียงนั้นจึงหายไปในลำคอ มีเพียงสีหน้าซีดเหวอเหมือนกำลังเจอผีเมื่อได้ยินว่า“ผมก็มาทำหน้าที่แด๊ดดี้สิครับ ผมทราบว่าอีกไม่กี่วัน โรงเรียนจะจัดงานวันพ่อ ผมก็ตามเจอคุณพอดี”ไรอันพูดก่อนจะส่งยิ้มหวานจนเห็นไรฟันขาวเรียงตัวกันเป็นระเบียบ แต่ในสายตาของกุลนิดารู้สึกเหมือนรอยยิ้มปีศาจเธอยืนกำมือแน่น ขณะที่ไรอันก้มมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู “คุณบอกลูกด้วยสิครับ ปีนี้แด๊ดดี้จะมาร่วมงานวันพ่อ”“ใครเชิญไม่ทราบ คุณไม่ใช่พ่อของลูกสาวฉัน” เธอผลักตัวเขาออก พูดด้วยเสียงกระด้าง“ถามคนแถวนี้ไหม ถ้าน้ำอิงเดินหายไป เขาจะเอาลูกมาคืนใคร ระหว่างผมกับคุณ”“นี่คุณ!”“ลูกผมหน้าเหมือนผมมากขนาดนี้ ดีเอ็นเอ ฟ้องชัดบนใบหน้า ยังกล้าปฏิเสธอีกเหรอ”เขาพูดเรื่องจริงแต่เธอไม่อยากรับรู้ กุลนิดาเม้มปากแน่น มันน่าน้อยใจก็
เด็กหญิงหันไปมอง ชายรูปร่างสูง ในชุดสูทหล่อเหลาที่ก้มหน้ามามอง ส่งยิ้มหวานให้แล้วรู้สึกแปลกๆเด็กหญิงจิ้มนิ้วชี้เข้าหาตัว“ใช่ค่ะ คุณลุงรู้ได้ยังไงคะ นี่แหละค่ะน้ำอิงคนสวยห้อง KG2/4” เสียงใสแจ๋วแล้วยังหลงตัวเองว่าสวย ถามขึ้นแล้วมองคุณลุงสุดหล่อ ท่าทางใจดีด้วยความสนใจ“น่ารัก พูดเก่งมาก อารมณ์ดีด้วย” ไรอันมองเด็กหญิงตัวน้อยราวกับเธอคือของวิเศษแม้จะถูกเรียกว่าเป็นลุงแต่ไรอันยิ้มอย่างพอใจแต่อยากได้ยินคำว่าแด๊ดดี้มากกว่า ปกติเด็กคนอื่นเห็นหน้าเขาก็ร้องไห้จ้า แต่น้ำอิงกลับยิ้มหวานพูดคุยกับเขาได้อย่างไม่กลัว“ทีเชอร์แคเธอรีนบอกคุณลุงครับว่าหนูน้อยน่ารักคนนี้ชื่อน้ำอิง”แคเธอรีนคือผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้และเป็นเพื่อนของแอชลีย์ ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเขาบางครั้งโลกใบนี้มันก็กลมเกินไป แต่เป็นการกลมที่ทำให้ไรอันเข้าใกล้ลูกสาวได้มากขึ้น ช่างโชคดีเหลือเกินที่พี่สาวของเขาเป็นเพื่อนกับผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้“ทีเชอร์บอกว่าน้ำอิงเป็นเด็กดี คุณลุงไรอันจะซื้อขนมให้หนูเอง”เด็กหญิงเบิกตากว้างแล้วนึกใบหน้าหวานๆ ของมามี้“ไม่ได้ค่ะ ไม่ได้” เด็กหญิงตัวน้อยส่ายหน้าระรัว “มามี้สั่งห้ามรับของจากคนแปลกห
“แงๆ”“อย่าร้องสิ ลุงไม่ได้แกล้ง เอานี่ เอาเงินไปกินขนม”เขาจะควักเงินออกมา แต่กลายเป็นว่าในกระเป๋ามีแต่บัตรเครดิต“ขอติดไว้ก่อนนะ วันหลังมาที่นี่แล้วลุงจะเอาโดนัทอร่อยๆ มาฝาก”“แงๆ”“ลูกแม่เป็นอะไรกันคะ”หญิงสาวคนหนึ่งรีบวิ่งกระหืดกระหอบตามมา มองหน้าคนตัวโตที่ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก แต่ดวงตาของมนุษย์แม่ที่มองอย่างกล่าวหาทำให้ไรอันจะเดินหนีก็ทำไม่ได้“ผมไม่ได้ทำอะไรหนูน้อยสองคนนี้นะครับ สาบานได้ ผมแค่กำลังวิ่งตามภรรยา”ไรอันถอนหายใจยาวเหยียดเมื่อเด็กทั้งสองยังร้องไม่หยุด กว่าจะเคลียร์กับแม่ลูกครอบครัวนี้ได้ ทำให้ในที่สุด เขาก็ตามกุลนิดาไม่ทันกุลนิดาถอนหายใจโล่งอก หลังมองกระจกมองหลังแล้วไม่เห็นรถใครขับตามมา เธอขับออกไปในเส้นทางลัดด้านหลังโรงเรียน เลือกขับเข้าไปตามตรอกซอกซอยเพื่อหลบหลีกการติดตามที่อาจจะตามมาเมื่อถึงออฟฟิศที่ทำงาน ก่อนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเริ่มทำงาน กุลนิดาดึงลิ้นชักโต๊ะทำงานแล้วคว้ายาแก้ปวดซัดเข้าปากไปสองเม็ดรวด“ซวยจริงๆ ย้ายหนี แล้วยังตามมาอีกจนได้”กุลนิดายกมือนวดขมับ เรื่องน้ำอิงเป็นลูกของเธอที่เกิดจากเขา ไม่มีใครรู้นอกจากอินทิรา เธอเก็บความลับของอินทิราแล้วขอร้
“ครับ ผมรู้ กุลไม่สนใจผม แต่ผม...”“เอาแบบนี้ดีกว่าค่ะ เรื่องน้ำอิงขาดพ่อ กุลคงไม่รบกวนคุณ ปีนี้คุณตาของน้ำอิงว่าง ท่านเกษียณแล้ว เดี๋ยวกุลชวนคุณตาของน้ำอิงมาร่วมงาน” ที่จริงตาของน้ำอิงเสียชีวิตไปแล้วเธอแค่หาข้ออ้างตัดรำคาญ “หรือถ้าไม่มีใครมา น้ำอิงก็เข้มแข็งพอ แกรู้ค่ะว่ามีแม่ก็แทนพ่อได้ กุลทำความเข้าใจกับน้ำอิงแล้วตั้งแต่แกเริ่มพูดคุยรู้เรื่องแกก็รู้แล้วว่าแกไม่มีพ่อ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”“กุลเข้มแข็งมากนะครับ แต่จะดีแค่ไหนที่เด็กๆ จะมีพ่อและแม่ เป็นครอบครัวอบอุ่น น้องพีทจะได้รู้สึกไม่ขาดแม่ในวันแม่ ส่วนน้ำอิงก็จะได้มีพ่อให้ไหว้ในวันพ่อ”“กุลรับความหวังดีนี้ไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยนะคะ”ท้ายประโยค กุลนิดาสบตาเขาแน่วนิ่งเหมือนทุกครั้งที่เธอพูด อาชวินคงไม่ใส่ใจ หรือไม่รับฟัง ว่าเธอไม่สนใจจะเอาเขามาทำหน้าที่พ่อของลูกระหว่างที่ยังไม่ทันพูดคุยกันจบ และกุลนิดาพยายามหาทางเลี่ยงการสนทนา ร่างสูงโปร่งด้วยสูทอาร์มานีสีเทาเข้มก้าวเดินอย่างรวดเร็วมาด้วยความเร่งรีบอยู่ไกลๆกุลนิดาเบนสายตาไปมองทางนั้นพอดี คนที่กำลังเดินมาสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร เด่นสะดุดตาด้วยดวงตาสีฟ้า ใบหน้าหล่อคมคาย เขาเป็นน
น้ำอิงชอบตุ๊กตาโพนี่และมีการ์ตูนเรื่องโปรดคือโดราเอมอน เธอขอสะสมตุ๊กตาม้าโพนี่ผู้เป็นแม่จึงให้หยอดกระปุกเอาไว้ หากเก็บเงินครบเมื่อไหร่ก็จะพาไปซื้อเป็นการฝึกนิสัยอดออมเท่านั้นลูกหมูแก้มใสค่อยๆ ปรือตาขึ้นส่งยิ้มหวาน “มามี้ขา วันนี้วันเสาร์ไม่ใช่หรือคะ”เด็กหญิงอ้าปากหาว แต่ดูน่ารัก แก้มใสแดงดั่งมะเขือเทศสุก กุลนิดาเอื้อมมือไปบีบจมูกเล็กๆ แล้วถอนหายใจพลางส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ“อย่ามาเจ้าเล่ห์นะคะน้ำอิง เมื่อวานวันอาทิตย์ แล้วเช้านี้เป็นวันจันทร์ค่ะ”“น้ำอิงไม่ชอบวันจันทร์ ไม่รักวันจันทร์เลย” เด็กหญิงบ่นไปขณะที่คนเป็นแม่พยายามพยุงร่างป้อมๆ ของลูกหมูน้อยให้ลุกขึ้นจากเตียงโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งเช้าวันจันทร์ที่เร่งรีบ แสงแดดอ่อนๆ ทอลงมาแรงกล้ากว่าที่เคย หลายชีวิตกำลังเร่งรีบมาส่งบุตรหลานที่โรงเรียนหลังจากส่งน้ำอิงเข้าห้องเรียนแล้ว กุลนิดาก็รีบเดินทางต่อไปยังที่ทำงาน แต่ขณะกำลังเดินอย่างคล่องแคล่วไปตามทางเดินเท้าที่มีหลังคาสีน้ำเงินคลุมกันแดดไว้ตลอดทางเดินระหว่างอาคาร เสียงฝีเท้าหนักๆ ทางด้านหลังดังขึ้นพร้อมทั้งเรียกชื่อ“กุลครับ รอผมด้วย”ดวงตากลมโตที่มีแพขนตางอนยาวขยายขึ้นอย่างสงสัย ร่างบ
เธอเห็นเขาเป็นเงาตะคุ่มๆ ที่มูมมามซุกไซ้ดอมดมไปทั่วตัว กุลนิดาขนลุกเกรียวไปทั่วร่างจากลมหายใจร้อนผ่าวที่ลากไล้ไปทั่วทรวงอก เขากลัดมันมาก ดูดกลืนเม็ดบัวสองข้างของเธออย่างเมามัน กุลนิดาไม่เคยเจอสัมผัสแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน รู้แต่ว่ามันวาบหวาม เสียดเสียว กุลนิดายอมรับว่าเธอรู้สึกเกร็งสะท้านจากความกลัวเริ่มกลายเป็นตื่นเต้น ถึงกระนั้น ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็ยังกระตุ้นเตือนมือบางทุบตีคนที่กำลังจ้องคร่าสวาท ได้ยินเขาส่งเสียมคำรามต่ำเป็นการปรามออกมาเบาๆ ครั้งหนึ่ง“นิ่งๆ”“ปล่อย”แต่ก็พูดได้เพียงแค่นั้น เพราะปากหยักลึกเต็มไปด้วยกลิ่นบรั่นดีก้มลงมาจูบแล้วแทรกปลายลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัด กุลนิดาต่อต้านสุดกำลัง ไม่ยอมให้ลิ้นร้ายกาจเข้ามาพัวพัน แต่คนมีพละกำลังมากกว่าอีกทั้งจัดเจนกว่าก็เร่งปลุกเร้าอย่างบ้าคลั่ง“หวานเป็นบ้า อ้ากว้างๆ กว่านี้อีกได้ไหม”นิ้วมือแข็งแกร่งใช้ความโชกโชนชอนไชไปในกุหลาบงาม ควานหาปุ่มเนื้อที่เป็นจุดศูนย์รวมความซ่านเสียว ปากหยักลึกก็พรมจูบไปทั่วทรวงอก ประสาททุกเส้นของกุลนิดาตื่นตัวไปทุกเส้น ร่างกายบิดแอ่นอยากจะให้เขาถอยหนีแต่มือไม้กลับอ่อนแรงร่างกำยำระดมจูบไปทั่วฐานอก ไ
วันนี้ก็เช่นกัน กุลนิดาต้องเข้ามาทำความสะอาด ภายในห้องหรูหราประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงระยับไปทุกตารางนิ้วจนกุลนิดาต้องค่อยๆ เช็ด ค่อยๆ ดูดฝุ่นอย่างดีเพราะกลัวไปทำของประดับของเขาตกแตกและเธอจะไม่มีเงินชดใช้วันที่เกิดเหตุเธอเลิกทำความสะอาดดึกกว่าทุกครั้ง เพราะอินทิราเพิ่งจะโทร.ไปตามเมื่อตอนหกโมงเย็นให้รีบเข้ามาทำความสะอาด คืนนี้ใครบางคนจะเดินทางมาจากอเมริกา และเลือกมาพักที่นี่เพื่อจะเดินทางต่อไปหาเพื่อนที่จังหวัดเชียงใหม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น“กุล ทำห้องให้เรียบร้อยนะยะ ก่อนคุณไรอันจะมาถึง เสร็จแล้วก็รีบกลับออกไป ไม่ต้องอยู่เสนอหน้ารอเจอเขาล่ะ ถ้าฉันรู้ว่าเธออ่อยเขา เรามีปัญหากันแน่ ส่วนค่าจ้าง เดี๋ยวฉันโอนเข้าบัญชีเดิม”“เข้าใจแล้วค่ะคุณอิน กุลรับทำความสะอาด ไม่ได้รับงานอ่อยผู้ชาย วางใจได้ค่ะ”อินทิราอดจะหมั่นไส้ไม่ได้กับคำพูดถือดี ที่จริงแอบขัดใจอยู่บ้างที่ญาติผู้น้องของเธอแนะนำคนสวยราวกับดารามาทำความสะอาดให้ จะไม่จ้างก็ติดตรงที่ว่ากุลนิดาทำความสะอาดได้ถูกใจ แล้วที่สำคัญใครบางคนมีคำสั่งให้เลือกคนเดิมมาทำความสะอาดห้องนี้ห้ามเปลี่ยนแปลงหลังกุลนิดาทำความสะอาดจนทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจนเป็
สหรัฐอเมริการ่างสูงภูมิฐานอยู่ในชุดสูทสีเทาราคาแพงระยับ เหยียดกายขึ้นจากพนักพิงเก้าอี้ ในแวดวงธุรกิจไม่มีใครไม่รู้จักนักธุรกิจสมองเพชร ‘ไรอัน คาเตอร์’ ดวงตาสีฟ้า ในวัยยี่สิบเก้าปี มองไปที่เช็คตรงหน้าแล้วพ่นลมหายใจยาวพรืดก่อนตัดสินใจจรดปากการะดับไฮเอนด์ ซึ่งส่วนหัวของปากกาปรากฏรูปดาวลอยอยู่ อันเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จเสียงตื่นเต้นดีใจของหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานสวมเดรสสั้นคัตติ้งเนี้ยบ ความยาวเหนือเข่าสีน้ำเงิน อวดเรียวขาขาว เธอสอดส่ายสายตาลงมาจดจ้องตัวเลขหน้าเช็คด้วยดวงตาเป็นประกาย เสียงเธอออดอ้อนหวานฉ่ำ“คุณน่ารักเสมอเลย ขอบคุณมากค่ะที่รัก”“ผมไม่ใช่ที่รักของคุณ ผมให้คุณได้เท่านี้ ให้เพราะคุณมาเสนอขายในสิ่งที่ผมกำลังอยากรู้ และกำลังตามหา ไม่ได้ให้เพราะผมสนใจในตัวคุณ”“ดูพูดเช้าสิ ใจร้าย แอนนี่ยังอยากให้บริการที่ยอดเยี่ยมกับคุณเสมอนะคะไรอัน”ชายหนุ่มเห็นความยั่วยวนในแววตาเธอ แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับเขา “หากคุณชอบงานบริการ ผมมีลูกค้าที่น่าสนใจจะแนะนำให้ บางทีเขาอาจกำลังมองหาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอยู่ก็ได้”ไรอันยื่นนามบัตรทำจากกระดาษหอมชั้นเลิศของใครคนหนึ่งที่เขาเพิ่งจะขายของเ