ณ เมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกาชายหนุ่มที่มีเส้นผมสีทองยาวประบ่า ใบหน้าหล่อเหลา และรูปร่างหนามีส่วนสูงเกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบห้าเซนติเมตรกำลังเดินเข้าไปยังเพ้นเฮ้าส์ของผู้เป็นน้องชายคนเล็ก พร้อมกับบอดี้การ์ดส่วนตัวอีกสองคน เขาได้ยินมาจากมารดาว่าเอเดน น้องชายคนเล็กที่ไม่เคยสนใจผู้หญิงที่ไหนมาก่อนนั้นแอบไปจดทะเบียนกับสาวน้อยลูกครึ่งไทยอเมริกันคนหนึ่ง เขาจึงต้องบินมาจากเมืองที่เขาดูแล เพื่อมาหาเจ้าน้องชายตัวแสบที่แอบมีเมียโดยไม่บอกพี่ชายอย่างเขาสักคำ“เอเดน!!!” เสียงเข้มร้องเรียกชื่อน้องชายอยู่ที่หน้าประตูหลังจากบอดี้การ์ดกดออดที่หน้าเพ้นท์เฮ้าส์แล้ว“อ๊ะ!!! นายใหญ่เองเหรอคะ ตอนนี้นายเล็กไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ” แม่บ้านที่ดูแลเพ้นท์เฮ้าส์ของเอเดนรีบเปิดประตูออกมารายงาน“ห๊า...ไม่อยู่!!!”“ใช่ค่ะ.... เห็นบุ๊ซบอกว่านายเล็กจะไปรับนายหญิงที่ประเทศไทยค่ะ”“อ๋า.... เรื่องจริงอย่างนั้นสินะ หึๆ”ยังไม่ทันที่จะหันหลังกลับ เสียงคุ้นเคยก็ดังมาจากด้านหลัง ชายหนุ่มรูปร่างกำยำผมสีทองสั้นจัดทรงดู มีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนกับพวกดาราชายฮอลลีวูด จมูกโด่งสันเป็นคมรับกับริมฝีปากสีแดงอมชมพูสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกง
รถเบนซ์คันหรูจำนวนสี่คันเคลื่อนเข้าไปจอดที่หน้าไนต์คลับขนาดใหญ่ของเมืองชิคาโก้ เหล่าบอดี้การ์ดออกมาต้อนรับ บอดี้การ์ดของสองมาเฟียหนุ่มรีบวิ่งมาเปิดประตูรถให้เจ้านาย และเมื่อประตูรถถูกเปิดออก ร่างสูงของสองมาเฟียพี่น้องตระกูลวินเทอร์ก็ลงมาจากรถ ทุกสายตาของนักเที่ยวต่างพากันจับจ้องมองมายังสองพี่น้องเป็นตาเดียวกัน เอวานนั้นชอบแต่งชุดทางการคือสูทสีดำ รองเท้าหนัง ส่วนเอเบลนั้นชอบแต่งตัวแบบง่ายๆ สบายๆความแตกต่างของสองพี่น้องมีเพียงแค่การแต่งกายเท่านั้น ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตนั้นไม่ต่างกันเท่าไหร่ เอวานนั้นถือว่าโหดที่สุดในบรรดาสามคนพี่น้อง ด้วยความที่เป็นพี่ใหญ่และดูแลพื้นที่ที่กว้างกว่า ส่วนเอเบลนั้นเป็นคนสนุกสนานแต่ถ้าใครมีเรื่องด้วยเขาจะเป็นพวกที่กัดไม่ปล่อย แต่สิ่งที่ทั้งสองชอบเหมือนกันนั้นก็คือผู้หญิง เพราะเรื่องบนเตียงก็ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิตมาเฟียอย่างพวกเขาได้ผ่อนคลาย ที่ผ่านมาทั้งเอวานและเอเบลต่างก็อดที่จะสงสัยในตัวน้องชายไม่ได้เหมือนกัน ว่าใช้ชีวิตอยู่อย่างไรกับการไม่สัมผัสผู้หญิงเลยเหล่าการ์ดชุดดำรีบเข้ามาคำนับสองมาเฟียหนุ่ม สองพี่น้องพยักหน้าให้ ก่อนที่จะเดินนำหน้าบอดี
ภายในห้องกระจกที่มองออกไปเห็นนักเที่ยวทั้งชายหญิงกำลังโยกกายไปตามจังหวะดนตรี แม้ว่าแอร์คอนดิชั่นจะทำงานตามปกติ แต่สองกายที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนโซฟากลับมีเหงื่อไหลออกมาจนชุ่มกาย นางแบบสาวชุดชั้นในชื่อดังที่มีทรวดทรงเหมาะกับเป็นนางแบบตัวท็อปกำลังโยกกายอยู่บนตักหนาของมาเฟียหนุ่ม เอเบลดูดดึงหน้าอกอวบของเธออย่างถูกใจ มือหนาก็เคล้นคลึงยอดถันข้างที่ยังว่างเว้นจากลิ้นร้อนของเขาจนนางแบบสาวครางออกมาอย่างพอใจ“อื้ม......เยี่ยมมากเลยที่รัก อ่า......” เอเบลเอ่ยชมนางแบบสาวเสียงกระเส่า“อื้อ....บะ...เบาๆ สิคะ อ๊า.......โอว....เยส.... ตรงนั้นเลยค่ะ อ๊า.......”เสียงหวานครางออกมาด้วยความถูกใจ ส่วนล่างที่กำลังสอดประสานกันอยู่ก็เคลื่อนไหวขึ้นลงเป็นจังหวะที่ร้อนแรง ผิวเนื้อเสียดสีกับโซฟาจนเกิดเสียงดังยิ่งทำให้อารมณ์ของทั้งสองคนพลุ่งพล่านเอเบลยกร่างระหงให้ยืนขึ้น ก่อนที่จะรีบจูงมือเธอให้ไปยืนพิงตรงกระจกใสที่มองเห็นบรรยากาศภายในไนต์คลับในยามนี้ เฮเลนเสียวจนปลดปล่อยน้ำรักออกมาจากจุดกลางกายสาว เธอยืนหันหลังให้กับมาเฟียหนุ่ม มือทั้งสองข้างค้ำยันกระจกเอาไว้ขาเรียวงามอ้าออกก่อนที่จุดกลางกายสาวของเธอจะถูกเติม
“ขอโทษครับ...แต่คุณคงจะเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพวกเราพี่น้องมาแล้วบ้างใช่ไหม ว่าเราจะไม่สานสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเงินน่ะ อ้อ....แล้วอีกอย่างผมไม่นิยมกินของที่เคยกินไปแล้ว”มาเฟียหนุ่มยิ้มร้ายก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องวีไอพีที่ก่อนหน้าได้กลายเป็นห้องปลดปล่อยอารมณ์สวาทของเขา นัยน์ตาสีเทามองตามเขาด้วยความเสียดาย เธอนึกว่าทำให้เขาติดใจแล้วจะได้กลายเป็นผู้หญิงที่เขานอนด้วยอีกครั้งได้เสียอีก เธอคิดผิดแล้ว... เรื่องเล่าคือเรื่องจริงอีกด้านหนึ่งก็มีความคุกรุ่นไม่แพ้กัน ภายในห้องน้ำของห้องพักสุดหรูในโรงแรมใกล้กับไนต์คลับเสียงน้ำไหลลงมากระทบพื้นยังไม่ดังเท่ากับเสียงครางหวานและเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังก้องไปทั่วทั้งห้องน้ำ ความใหญ่โตของมาเฟียหนุ่มวัยสามสิบสี่ทำให้อลิซเบลแทบจะสำลักความสุข บั้นท้ายงามงอนของเธอถูกกระแทกเข้าออกด้วยมังกรตัวเขื่องที่กำลังมุดเข้าออกถ้ำงามของดาราสาวดาวรุ่ง“อ๊า....เอวานขา...อลิซจะไม่ไหวแล้วค่ะ อ๊า......อื้อ....”ยิ่งเสียงหวานครางบอกออกมาแบบนี้ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ให้เขากระแทกเธอแรงยิ่งขึ้น ร่างระหงทรุดลงทันทีที่เขาชักแก่นกายออกมาแล้วดึงเครื่องป้องกันออก
สปีดโบ๊ทลำเล็กแล่นกลับมาจอดยังริมชายหาด สองหนุ่มสาวที่ไปท่องเที่ยวทางทะเลขึ้นฝั่งมาด้วยความเหนื่อยล้า ฮิวโก้ดูแลนางแบบสาวในสังกัดของเขาเป็นอย่างดี แม้จะมากันสองต่อสอง เขาก็ไม่เคยฉวยโอกาสกับเธอ เพราะเขาถือคติที่ว่าสมภารไม่กินไก่วัด และการกระทำที่เป็นสุภาพบุรุษของเขาทำให้นางแบบสาวรู้สึกประทับใจอยู่ไม่น้อย เพราะเขาเป็นเจ้านายที่ดี“คุณเมย์เหนื่อยไหมครับ”“ก็รู้สึกเพลียๆ นิดหน่อยค่ะ”“แล้วนี่คุณหิวหรือยัง เราแวะหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยกลับเพ้นท์เฮ้าส์ หรือว่าจะกลับเพ้นท์เฮ้าส์ก่อนแล้วค่อยออกมาหาอะไรกินพร้อมสองคนนั้นดีครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาเมื่อมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ“พวกเรากลับไปพักก่อนก็ได้ค่ะ เมย์ก็อยากจะรู้ว่าสองคนนั้นปรับความเข้ากันใจกันได้แล้วหรือยัง” ฮิวโก้พยักหน้าก่อนที่จะเดินนำหน้านางแบบสาวไป เมริสาเดินตามหลังท่านประธานไปไม่ห่าง รอยยิ้มจาง ๆ ผุดออกมาใบหน้างามสองหนุ่มสาวกลับถึงเพ้นท์เฮ้าส์จนเกือบเย็น พอออกมาจากลิฟต์ก็พบสองบอดี้การ์ดของเอเดนนั่งจิบกาแฟกันอยู่ที่โต๊ะ“บุ๊ซ เกริก เจ้านายของพวกนายออกมาจากห้องบ้างหรือยัง” สองบอดี้การ์ดรีบลุกขึ้นยืนแล้วโค้งให้กับเพื่อนสนิทของเจ้านาย“
“เดล...คุณรักษาเป็นด้วยเหรอคะ” อลินาเอ่ยถามออกมา“เจ้าเดลมันเคยเรียนแพทย์อยู่สี่ปีครับ แต่มันเรียนไม่จบเพราะต้องเปลี่ยนสายที่เรียนกะทันหัน ก็อย่างว่าครอบครัวมันเป็นนักธุรกิจทั้งตระกูลนี่ครับ”“พูดมาก...” เอเดนปรามเพื่อนสนิทเพราะอลินายังไม่รู้เรื่องที่ตระกูลของเขาคือตระกูลมาเฟีย“ตกลง...นายจะให้ฉันรักษาหรือนายจะไปให้หมอไทยรักษา”ฝรั่งหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เยื้องย่างเข้ามาประชิดกายเพื่อนสนิทก่อนที่จะจับไปที่ข้อศอกแล้วจัดการดึงจนเกิดเสียงดัง สองสาวตาเบิกโพลงด้วยความตกใจเช่นเดียวกับฮิวโก้ที่ส่งเสียงร้องออกมา“โอ๊ย!!!จะ....เจ็บๆ ๆ”เจ็บไม่นานเอเดนก็ยืดแขนเพื่อนให้ตรง ฮิวโก้แสดงสีหน้าดีขึ้นจนสองสาวรู้สึกสบายใจไปด้วย เพราะนึกว่าฝรั่งหนุ่มจะทำให้แขนบอสเป็นหนักยิ่งกว่าเดิมเสียแล้ว“แล้วนี่ไปไหนกันมาเนี่ย ตื่นมาไม่เจอเลย”“พาคุณเมย์ไปเที่ยวตามเกาะมา ก็นายกับคุณฮาน่าไม่ยอมตื่นสักที พวกเราก็เลยต้องไปกันก่อนไง”“แล้วฮาน่าตกลงกับคุณเดล เอ้ย...สามีของฮาน่าได้แล้วใช่ไหม”อลินาหลุบตามองมือตัวเองใบหน้าสวยเฉี่ยวแดงซ่านด้วยความเขินอายพลางพยักหน้าขึ้นลง ทั้งฮิวโก้และเมริสามองหน้ากันแล้วยิ้มออกมา“อย่าบอกนะว่
หลังจากใช้เวลาร่วมกันที่เพ้นท์เฮาส์ในจังหวัดชลบุรีเป็นเวลาสามวันสองคืน สองหนุ่มกับสองสาวก็พากันเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพราะอลินาและเมริสานั้นต้องกลับไปทำงานในวันพรุ่งนี้ อลินามีงานเดินแบบเปิดตัวเสื้อผ้าคอลเลคชันฤดูร้อนของแบรนด์แอล ส่วนเมริสานั้นมีไปถ่ายโฆษณาชุดทำงานของสุภาพสตรี ทำให้ทั้งสองสาวนั้นไม่อาจอยู่เที่ยวต่อได้ แต่เรื่องที่ทำให้อลินาหนักใจ นั่นก็คือการกลับไปกรุงเทพฯคราวนี้สถานะของเธอกับผู้ชายห้องตรงข้ามนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาคือสามีของเธอทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย“ขอบคุณที่มาส่งพวกเรานะคะบอส ทริปนี้เมย์สนุกมากเลยค่ะ”เมริสายหันไปยกมือไหว้ขอบคุณคนที่มาส่งเธอและเพื่อน ก่อนที่จะไปชลบุรีเธอนั้นได้ขับรถมาจอดที่คอนโดของอลินา เธอจึงลงพร้อมกับเพื่อนสาวที่นี่“ยินดีมากครับ” ฮิวโก้ส่งยิ้มให้นางแบบสาว“ถ้าอย่างนั้นฉันกับภรรยาขอตัวขึ้นห้องก่อน แล้วเจอกันวันหลัง”“อืม... จะแวะเข้าบริษัทบ้างก็ได้นะหุ้นส่วนใหญ่ ไม่กลัวเพื่อนยักยอกเลยนะนายน่ะ”“กลัวทำไม...ฉันรู้ว่านายไม่กล้าหรอก จริงไหม” ฮิวโก้ยักไหล่ ใครจะไปกล้าก็เพื่อนของเขามันเกลียดพวกที่ชอบทรยศหักหลังเป็นที่สุดมาเฟียหน
“เอาไว้ไปคุยกันในห้อง ผมมีเรื่องต้องคุยกับพวกพี่ก่อนที่พวกพี่จะเจอกับเธอ” เอเดนเสียงเข้มลากสองพี่ชายเข้าไปยังห้องของตนด้านนอกระเบียงห้องพักสุดหรู นัยน์ตาสีฟ้าเทาทั้งสองคู่จับจ้องมองหน้าคนที่กำลังยกแก้วบรั่นดีขึ้นมาจิบตรงหน้าอย่างสบายอารมณ์เป็นตาเดียวกัน ก่อนที่จะหยิบแก้วที่บอดี้การ์ดของน้องชายรินให้ขึ้นมาจิบบ้าง“มีเรื่องอะไรปิดบังพวกฉันอีกอย่างนั้นเหรอ” เสียงเข้มของพี่ชายใหญ่วัยสามสิบห้าปีดังขึ้นมาเปิดบทสนทนา“พวกนาย...มาทำอะไรกันที่นี่ ที่อื่นไม่มีให้ไปแล้วหรือไง ทิ้งงานที่อเมริกามาแบบนี้ไอ้พวกขยะไม่ทำตัวครองเมืองแทนแล้วเหรอ” คนถูกถามย้อนถามกลับพี่ชายทันที มือหนาหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบก่อนที่บุ๊ซจะเดินมาจุดไฟให้เจ้านายอย่างรู้ใจ“หึๆ ก็มาดูหน้าไอ้คนขี้โกหกน่ะสิ คิดจะปิดบังพวกพี่ไปจนถึงวันที่นายพาภรรยากลับไปแต่งงานเลยหรือไง” เอเบลเอ่ยออกมาหลังจากกระดกบรั่นดีในแก้วจนหมด เกริกรีบรินบรั่นดีให้พี่ชายของเจ้านาย เอเบลยกนิ้วให้แทนคำขอบคุณ“ขอโทษ...พอดีผมกำลังทำความรู้จักกับเธออยู่เลยยังไม่มีโอกาสได้บอกใคร แม้แต่คุณนายวินเทอร์ผมยังไม่ได้บอกเลย แม่รู้ด้วยตัวเอง อีกอย่างภรรยาของผมเธอก็เพิ่งจะรู้ค
เมื่อรถตู้คันหรูไปถึงหน้าเพ้นส์เฮ้าส์ขนาดใหญ่ อลินาถึงกับตกตะลึงในความร่ำรวยของสามี เพราะคนที่จะมีเพ้นส์เฮ้าส์ในพื้นที่กว้างขนาดนี้ในเมืองชิคาโก้ได้ย่อมเป็นคนที่มีฐานะทางการเงินมากพอสมควร“ยินดีต้อนรับจ้ะหนูฮาน่า” มาดามเอวาน่ารีบออกมาทักทายต้อนรับลูกสะใภ้คนเล็ก“นี่แม่ผมเอง มาดามเอวาน่า” เอเดนกระซิบบอกภรรยา อลินาจึงเดินเข้าไปจับมือทักทายและสวมกอดกับแม่ของสามี“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นนะคะ”“เรียกแม่สิลูก ต่อไปนี้หนูคือลูกสะใภ้ของแม่ ถ้าเอเดนรังแกหนูหรือทำตัวไม่ดีกับหนูบอกแม่ได้เลย แม่จะจัดการให้” มาดามเอวาน่ายิ้มออกมาอย่างพอใจพลางให้ท้ายลูกสะใภ้คนสวย“แม่... นี่ผมลูกแม่นะ”มาเฟียหนุ่มทักท้วงก่อนที่สองสาวต่างวัยจะจับจูงพากันเดินเข้าไปนั่งภายในห้องรับแขกของเพ้นส์เฮ้าส์โดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก เอเดนหันไปมองหน้าบุ๊ซกับเกริก สองหนุ่มพยายามกลั้นขำพลางส่ายหน้าไปมา“ไม่ทันไรแม่ฉันก็ยึดเมียฉันซะแล้ว” เขาบ่นออกมาก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวตามสองสาวเข้าไปภายในเพ้นส์เฮ้าส์ของตนอลินาได้รับการต้อนรับจากครอบครัววินเทอร์เป็นอย่างดี ทั้งพ่อแม่สามีและพี่ชายทั้งสองของสามีปฏิบัติกับเธอราวกับเจ้าหญิง หลั
เช้าวันต่อมาอลินาและเอเดนก็ได้เดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลวินเทอร์ ฮิวโก้ เมริสา เจ๊ลูซี่ และพุดซ้อนได้เดินทางมาส่งทั้งสองขึ้นเครื่อง ความสัมพันธ์ของเมริสากับฮิวโก้ได้พัฒนาขึ้นอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครในบริษัทรู้ แต่อลินานั้นรู้ดีว่าทั้งเพื่อนและเจ้านายกำลังปลูกต้นรักกัน“ขอให้หนูโชคดีนะคะน้องฮาน่า ดีใจที่ได้พบเจอและได้ร่วมงานกัน” เจ๊ลูซี่เอ่ยลาอดีตนางแบบสาวที่เธอเอ็นดูและมองว่าอนาคตก็คงจะไปได้ไกลกว่านี้หากเธอยังไม่มีพันธะอะไร“พี่ดีใจนะที่ได้ดูแลฮาน่า ขอบคุณที่เป็นเด็กที่น่ารักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลับมาเที่ยวหากันบ่อยๆ นะจ๊ะ” พุดซ้อนเอ่ยน้ำตาซึม แม้จะเป็นเวลาไม่นานที่ได้ดูแลเด็กสาวในฐานะผู้จัดการส่วนตัว แต่ความผูกพันกลับมีให้อีกฝ่ายไม่น้อย“ขอบคุณพี่ลูซี่และพี่พุดซ้อนมากๆ เลยนะคะที่ใจดีกับฮาน่ามาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน ฮาน่าจะไม่มีวันลืมพวกพี่และจะกลับมาเที่ยวหาบ่อยๆ ค่ะ” สามสาวต่างวัยเข้าสวมกอดลากันก่อนที่จะผละออกจากกัน อลินาจึงหันไปกอดลาเพื่อนสนิทบ้าง“เมย์ขอให้ฮาน่ามีความสุขในชีวิตคู่นะ ขอให้ทั้งสองรักกันไปนานๆ ถ้าเป็นไปได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกทีเ
หลังจากที่ทั้งสองสามีภรรยาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็พากันไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ก่อนที่จะได้ไปดำน้ำดูปะการังตามแผนการที่วางเอาไว้ ทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวและพนักงานอยู่ไม่น้อยเพราะเพิ่งจะมีข่าวออกไป ยิ่งไปกว่านั้นบอดี้การ์ดสองคนของมาเฟียหนุ่มก็ดูหล่อเหลาน่าสนใจไม่แพ้กัน“ดูท่าทางบุ๊ซกับเกริกจะได้สาวไทยเป็นแฟนแล้วล่ะ” อลินาเอ่ยออกมาขณะมองไปยังสองหนุ่มที่มีสาวๆ เข้ามาทักทาย“เจ้าสองคนนั้นเห็นหน้าตานิ่งๆ แบบนี้สาวๆ ชอบยิ่งกว่าผมอีกนะ” เอเดนบอกภรรยาก่อนที่จะตักไข่ม้วนในจานใส่ปาก“ไม่จริงมั้งคะ ฮาน่าว่าคุณหล่อกว่าพวกเขาอีก”อลินากระซิบบอกก่อนที่จะยิ้มหวานออกมา ได้ยินคนอื่นชมมาก็ตั้งมากมายกลับไม่รู้สึกอะไร แต่พอมาได้ยินภรรยาชมเท่านั้นมาเฟียหนุ่มถึงกับเสียอาการ มือหนาวางมีดและส้อมลงพร้อมเอ่ยถามเธอออกมา“เราไม่ไปดำน้ำแล้วดีไหมที่รัก”“ทำไมคะ เราจองไว้แล้วนี่คะ” อลินาละสายตาจากจานอาหารตรงหน้าแล้วมองใบหน้าของสามี“ก็คุณทำให้ผมอยากจะพาคุณกลับขึ้นห้องไปทำอย่างอื่นแทนการไปดำน้ำน่ะสิ”เขาตอบเธอยิ้มๆ หญิงสาวจึงส่งค้อนน้อยๆ ไปให้สามี ภาพของสองสามีภรรยาหยอกล้อพูดคุยกั
ภาพความงดงามของท้องทะเลในยามที่พระอาทิตย์ตกดิน ทำให้จิตใจที่เหนื่อยล้าของใครหลายๆ คนรู้สึกผ่อนคลาย ในอ่างน้ำจากุซซี่ภายในห้องพักสุดหรูที่ทอดยาวออกไปทางทะเล มีร่างสูงใหญ่ผิวขาวเนียนนั่งพิงอ่างอยู่ด้านหน้ามีร่างระหงในชุดว่ายน้ำทูพีชสีดำสุดเซ็กซี่นั่งพิงแผงอกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาอยู่ มือหนาลูบไล้ไปมาบริเวณหัวไหล่ขาวเนียนก่อนที่เขาจะก้มลงจุมพิตบนไหล่งาม“อืม.... หอมจัง”“ดะ...เดลคะ เราอยู่ข้างนอกห้องนะ คุณคงไม่ได้คิดกำลังทำเรื่องอย่างว่าใช่ไหม” ถึงแม้ที่พักแห่งนี้จะดูเหมือนมีความเป็นส่วนตัว แต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ กันไว้ก็ดีกว่าแก้ไม่ใช่หรอกหรือ“หึๆ คุณลืมไปแล้วเหรอที่รัก... ว่าผมไม่ใช่คนที่จะมาล้อเล่นด้วยง่ายๆ น่ะ ไม่ต้องกังวลนะไม่มีใครกล้ามาแตะต้องเราหรอก” คำพูดของเขาทำเอาคนเป็นภรรยาอย่างเธอรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา แต่ก่อนที่จะได้ต่อความให้ยืดยาว มือหนาของสามีก็ดึงกระตุกปลดสายบราบิกินีตัวจิ๋วของเธอออกเสียแล้ว“ว๊าย!!!”อลินาอุทานออกมาพลางยกมือขึ้นมาปิดบังเต้างามทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะถูกฝ่ามือหนาของสามีจับปลายคางของเธอให้หันมารับจูบที่แสนวาบหวาม จนร่างกายรู้สึกอ่อนระทวยให้อ้
ภายในสตูดิโอถ่ายภาพของบริษัทอเดลโมเดลลิ่งมีบรรดานายแบบและนางแบบกำลังนั่งรอถ่ายภาพกันอยู่ เมื่ออลินาเดินเข้าไปก็เรียกสายตาจากทุกคนและความเงียบก็เกิดขึ้นในทันที แต่แล้วรอยยิ้มต้อนรับก็ปรากฏบนใบหน้าของทุกคน“สวัสดีค่ะพี่ๆ ทุกคน วันนี้ฮาน่าจะมาลา” หญิงสาวยกมือไหว้พลางเอ่ยออกมา“สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ น้องฮาน่า” ทุกคนทักทายหญิงสาวกลับ"น่าเสียดายที่น้องฮาน่าตัดสินใจลาวงการ พี่ว่าเธอยังดังได้กว่านี้อีกนะ” อินทัชบอกกับหญิงสาวขึ้นมาเป็นคนแรก“นั่นสิ พี่ก็คิดแบบนั้น คุณเอเดนไม่ได้บังคับน้องฮาน่าใช่ไหมคะ” อิงค์ อิงวรากระซิบถามเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าสวยเฉี่ยวของอลินาได้เป็นอย่างดี เธอส่ายหน้าไปมาเบาๆ แทนคำตอบ“พี่อิงค์ มองข้ามเรื่องถูกบังคับไปได้เลยค่ะ เพราะคุณเอเดนทั้งรักและตามใจฮาน่าจะตายไป” เพื่อนสนิทอย่างเมริสาตอบแทน อลินารู้สึกเขินจนหน้าแดง ที่เพื่อนของเธอพูดนั้นไม่ผิดนัก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอตัดสินใจด้วยตัวเอง“พวกพี่ขอแสดงความยินดีด้วยนะน้องฮาน่า กลับมาเที่ยวหาพวกเราบ้างนะ” บรรดาพี่ๆ พนักงานในบริษัทเอ่ยออกมา“ค่ะ เดี๋ยวฮาน่าจะบินมาเยี่ยมบ่อยๆ”อลินายิ้มออกมาทั้งน้ำตา เพียงเวลาไม่กี่เดือนท
ข่าวการลาวงการของนางแบบสาวดาวรุ่งเรียกความสนจากแฟนๆ ที่ติดตามเธอทั่วทั้งประเทศ ต่างพากันรู้สึกเสียดายที่ต่อไปจะไม่มีโอกาสได้เห็นนางแบบสาวก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง แต่หลายๆ คนก็รู้สึกยินดีที่ได้รับรู้ว่าหญิงสาวได้พบกับผู้ชายที่เธอรักและรักเธอจนได้ตัดสินใจกลับไปแต่งงานใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกัน“เจ๊ลูซี่ นี่มันเรื่องจริงเหรอคะที่ว่าสามีของน้องฮาน่าเป็นมาเฟียน่ะ”ธัญญ่า ผู้จัดการส่วนตัวของอิงวราเอ่ยถามเจ๊ลูซี่ออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจ เพราะที่ผ่านมาเธอนั้นไม่ได้ญาติดีกับเด็กสาวมากนัก เพราะรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับเด็กเส้นที่เข้าวงการโดยไม่ต้องพยายามอะไร“จริงสิยะ อีกอย่างตอนนี้เธอก็ได้กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่สองรองจากท่านประธานแล้วด้วย เพราะสามีของเธอก็คือเพื่อนสนิทของท่านประธานที่ได้ร่วมทุนกันก่อตั้งบริษัทนี้มา"บรรดาผู้จัดการส่วนตัวของเหล่านายแบบนางแบบในบริษัทต่างพากันตกตะลึง จากที่เมื่อวาน อลินานั้นยังเป็นแค่เพียงนางแบบสาวดาวรุ่งธรรมดา วันนี้กลับกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นที่มีมากเป็นลำดับสองของหุ้นทั้งหมด“น้องก็ไม่เคยปิดนะว่าน้องมีสามีแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านั้นน้องยังไม่เคยเจอกับสามีมาก่อนก็เท่านั
เขานั่งไขว่ห้างมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าสายตาของพวกผู้ชายทั้งหนุ่มและแก่ต่างมองภรรยาของเขาด้วยสายตาที่แสดงออกว่าสนใจในตัวเธอ จนทำให้เขาอยากจะสั่งให้ลูกน้องไปควักลูกตาคนพวกนั้นแล้วเอาไปโยนให้สิงโตในกรงที่พ่อของเขาเลี้ยงเอาไว้ดูเล่น ไม่ได้มีเพียงอลินาเท่านั้นที่ได้รับความสนใจจากสายตาของหนุ่มๆ ภายในงาน เพราะเอเดนเองก็เป็นจุดสนใจของบรรดาสาวๆ ที่มาร่วมงานในวันนี้เช่นกัน โดยเฉพาะพวกนางแบบด้วยกันที่ไม่รู้จักฝรั่งหนุ่ม“อุ๊ย!!! ฝรั่งคนนั้นที่เคยไปที่บริษัทเราใช่ไหมอะ” นางแบบสาวคนหนึ่งในสังกัดของพีพีโมเดลลิ่งเอ่ยถามเพื่อนนางแบบด้วยกันขึ้นมา“อืมใช่... ว่าแต่เขามาดูใครอะ”อลินาเหลือบมองตามสายตาของสองสาวไปก็พบว่าสามีนั่งอยู่ในกลุ่มของผู้ร่วมงาน และเป็นฝรั่งในบทสนทนาของสองสาว หญิงสาวเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัยว่าสามีไปที่บริษัทพีพีโมเดลลิ่งทำไม และไปตอนไหนกัน“นายครับ ดอกไม้ที่สั่งเอาไว้ได้แล้วครับ”ดอกกุหลาบสีแดงช่อโตถูกส่งมาจากมือหนาของบอดี้การ์ดหนุ่ม เอเดนรับมาสายตาคมจ้องมองไปยังด้านหลังของเวที ที่มีบรรดานางแบบยืนมองมาทางเขาอยู่เช่นกัน แต่ทว่าสายตาคมกลับมองผ่านสองนางแบบสาวด้านหน้าไปยังร่างระหงของภรรยาท
หลังจากผ่านเรื่องราวที่เกือบจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตของตัวเอง แทนนางแบบสาวรุ่นพี่ที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่เพียงข้ามคืน อลินาก็ได้กลับมาขบคิดถึงเส้นทางชีวิตของเธอในหน้าที่การงานในวันข้างหน้า การเป็นนางแบบไม่ใช่อาชีพที่เธอใฝ่ฝันอยากจะทำ แต่ที่ทำเพียงเพราะอยากจะใช้เวลาว่างตอนที่อยู่ประเทศไทยเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน บางทีหากเธอไม่มาทำงานตรงนี้ คนอื่นที่มีความฝันอยากจะทำอาชีพนี้อาจจะมีโอกาสก็ได้“ที่รัก คุณกำลังคิดอะไรอยู่หืม....” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เขากำลังนอนกอดเธออยู่จากทางด้านหลัง“เดลคะ งานของคุณอันตรายมากใช่ไหมคะ” มือบางยกขึ้นมาลูบท่อนแขนแข็งแรงที่โอบรัดช่วงเอวขอดของเธออยู่“อืม... ก็เป็นเรื่องปกติของพวกเรา มันก็มีทั้งอันตรายและไม่อันตราย” เขาตอบออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ รับไม่ได้ที่มีสามีทำอาชีพที่อันตราย“ถ้าฮาน่าบอกว่า ฮาน่าอยากจะอยู่เคียงข้างคุณ ฮาน่าทำแบบนั้นได้ใช่ไหมคะ”“แน่นอนสิ คุณเป็นภรรยาของผม และเป็นผู้หญิงคนที่สองรองจากแม่ที่ผมรัก” เขาพลิกร่างบางให้หันกลับมาก่อนที่จะค่อมร่างงามของเธอเอาไว้“เรา...มามีลูก มีหลานให้พ่อกับแม่กันดีไหม
น้ำหวาน : ฮัลโหลเกรซ : พี่น้ำหวาน นี่เกรซเองค่ะน้ำหวาน : อือ... ว่าไงเกรซเกรซ : ที่พี่เคยเตือนเกรซ พี่รู้มาก่อนแล้วใช่ไหมว่ายัยนั่นมีคนคอยสนับสนุนเธออยู่น้ำหวาน : ใช่สิ พี่ถึงได้เตือนเธอไง... แต่ดูท่าทางคงจะไม่ฟังสินะ ถึงได้เกิดเรื่องขึ้นมาเกรซ : เอ๊ะ!!! พี่น้ำหวาน ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะน้ำหวาน : เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกนะ ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ก็ล้มเลิกความคิดที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับเธอคนนั้นซะ พี่บอกเธอได้แค่นี้ โชคดีนะเกรซ...ปลายสายวางไปหลังพูดจบ อดีตนางแบบสาวน้ำตาไหลพรากเพราะคิดว่าสิ่งที่สร้างมาต้องพังพินาศเพียงเพราะความอิจฉาริษยาอีกฝ่าย ถึงว่าพี่น้ำหวานถึงได้เลิกเกลียดชังอีกฝ่าย เพราะว่าเธอไม่อยากมีจุดจบแบบนี้นี่เองและข่าวเกี่ยวกับบริษัทจิวเวลลี่ของตระกูลไฮโซลักกำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้ก็อาจจะเป็นเพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังของนางแบบสาวคนนั้นก็ได้“กรี๊ด!!!! ฮือๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย”เกรซกรีดร้องทรุดลงกับพื้นและปล่อยโฮทันที เห็นทีประเทศนี้คงจะไม่มีที่ให้เธอยืนอีกต่อไปแล้ว อดีตนางแบบสาวหยุดร้องไห้ฟูมฟายและตัดสินใจค้นหาของแบรนด์เนมของตนที่มีอยู่ภายในห้อง เพื่อเอา