“ช่วงก่อนแพ้หนักมากเลยค่ะหมอ หนูกินอะไรแทบไม่ได้เลยอาเจียนหมด น้ำหนักลงไปเกือบสามโลเลย ช่วงนี้ก็ดีขึ้นบ้าง แถมนอนเก่งมากด้วย แต่ก็เริ่มทานข้าวได้มากขึ้นไม่ค่อยเหม็นเท่าไหร่แล้วค่ะ” ผู้ติดตามหันไปมองหญิงสาวข้างกาย เพิ่งรู้ว่านอกจากอ้วกแตกอ้วกแตนแล้วเธอยังมีอาการอะไรอีกบ้าง
“เป็นปกติของช่วงแพ้ท้องนะคะ แต่ส่วนใหญ่จะน้ำหนักลงช่วงสามเดือนแรกเท่านั้น หากผ่านช่วงนี้ไปได้ก็จะเริ่มดีขึ้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ แต่ยังต้องระวังเรื่องอาหารพวกหวานหรือรสจัด น้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พยายามงดไปก่อน และทานยาบำรุงที่หมอให้ตรงเวลาอย่างต่อเนื่อง เอาล่ะค่ะ เดี๋ยววันนี้เราจะมาอัลตราซาวน์ดูพัฒนาการของเจ้าตัวเล็กกันนะคะ”
คำนั้นทำให้คนตัวสูงขยับเข้ามาใกล้จอโดยไม่รู้ตัว ทันทีที่เห็นภาพในจออัลตร้าซาวน์ ธิเบศก็รู้สึกชาวาบไปทั้งตัว หัวใจเต้นแรงยามที่ได้ยินคุณหมออธิบายสิ่งที่อยู่ในจอ
ภาพที่เห็นในจอนั่นคือลูกของเขาจริงหรือ ถึงแม้จะยังไม่เห็นรูปร่างชัดเจนว่าเป็นเพศไหน แต่ภาพหัวใจที่ขยับเต้นให้เห็นบ่งบอกถึงการมีชีวิต และที่สำคัญคือทำให้เขารู้สึกเหมือนตกหลุมรั
“อืม...”จารุพัชรบอกไม่ถูกว่าควรรู้สึกอย่างไร แต่เธอไม่ได้รังเกียจจุมพิตของอีกฝ่าย ตรงข้ามกลับรู้สึกคุ้นเคยและโหยหารสจูบนี้ของผู้ชายคนแรกที่เธอมอบความสาวให้ และยังเป็นพ่อของลูกในท้อง“ไง...อร่อยไหม” เจ้าของจูบรสวาซาบิถอนริมฝีปากออกพร้อมกระซิบด้วยน้ำเสียงพร่าเซ็กซี่ ก่อนกดริมฝีปากจูบลงบนกลีบปากนุ่มหวานอย่างมันเขี้ยวไปอีกครั้ง พอเห็นใบหน้างงๆ เหวอๆ ของอีกฝ่ายเขาก็อดขำไม่ได้“อะ...อร่อยค่ะ เอ๊ย! ไม่ใช่” พอรู้ตัวว่าเผลอปล่อยไก่ ใบหน้าใสๆ ก็แดงซ่านขวยเขินจนต้องเอ็ดกลบเกลื่อน“นี่คุณ มาจูบฉันทำไมเนี่ย”“ก็คุณอยากแกล้งผมก่อนทำไม คราวหน้าก็ใส่วาซาบิเยอะๆ นะ จะได้อร่อยมากๆ ผมว่าผมชักชอบรสชาติวาซาบิของคุณแล้วล่ะ แซ่บดี” พร้อมคำพูดเขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากยั่วด้วยมาดแบดบอยวร้ายๆ“ตาบ้า! นิสัยไม่ดี” ปากว่าแต่ตาคนพูดก็เหลือบไปมองวาซาบิรสเด็ดอย่างหมายหัว แต่คิดอีกทีจูบรสนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันแฮะสมองคิด แต่มือนั้นไวกว่ารีบคว้าตะเกียบขึ้นมาอีกครั้ง“อ่ะ! ถ้าอร่อยก็กินอีก
“ตอนนี้เนี่ยนะคุณ”“อืม ก็ลูกคุณอยากกินตอนนี้น่ะ” จะไม่ไปก็ไม่ได้เพราะเธอจะมาเร้าหรือเขาอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะได้กินสมใจพอทุเรียนมาคนอยากกินก็มาแทะๆ ไม่กี่คำก็วาง ส่วนที่เหลือเขาก็ต้องมาจัดการเก็บกวาดให้ ส่วนแม่ตัวดีหนีไปนอนสบายใจเฉิบนึกว่าจะหมดเรื่องแล้ว แต่พอจะล้มตัวนอนยังไม่ถึงไหน ก็มีมือนุ่มๆ มาสะกิดเรียกอีกรอบ“คุณ...คุณว่าตอนนี้เขามีกระเพาะปลาขายที่ไหนบ้าง ฉันอยากกินจัง”อย่าคิดว่าแกล้งหลับแล้วจะรอด เพราะเขาเคยทำอยู่ครั้งสองครั้ง คือมันดึกก็เลยขี้เกียจไปตระเวณหาซื้อ เลยทำเป็นหลับใส่เสียเลยแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเพราะได้ยินเสียงเดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่น สลับกับเสียงเปิดปิดตู้เย็นตึงตัง และสุดท้ายก็มีเสียงบ่นงุ้งงิ้งๆ ลอยมาเข้าหูจนเขาไม่อาจทนนอนต่อได้อีก“โอ๋ๆ ลูกจ๋าอย่าเพิ่งเสียใจนะ พ่อของหนูเขาไม่ได้ใจร้ายกับเราหรอก เดี๋ยวพอพ่อเขาตื่น เราก็จะได้กินกระเพาะปลาเจ้าอร่อยแล้วนะคะ ตอนนี้ทนหิวไปก่อนนะลูกนะ ฮือ...”หากไม่ได้ด้วยเล่ห์ ไม้ตายสุดท้ายที่งัดมาใช้คือน้ำตาที่สั่งได้ และเขา
หลายเดือนต่อมา...จารุพัชรกำลังอ่านหนังสือแม่ตั้งครรภ์ที่พ่อของลูกขยันซื้อมาให้ ตอนนี้ท้องเธอเริ่มขยายใหญ่ขึ้นมากเมื่อเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ หญิงสาวรู้สึกว่าเวลาผ่านไปไวเหมือนติดปีก เผลอแป๊บเดียวเธอก็อยู่ที่บ้านของธิเบศมาถึงหกเดือนแล้ว อายุครรภ์ตอนนี้ก็เข้าสู่เดือนที่แปด และตอนนี้เธอได้รู้แล้วว่าเด็กในท้องเป็นผู้หญิงหญิงสาวยังจำวันที่ไปอัลตราซาวน์เพื่อดูเพศของลูกได้ดี และวันนั้นธิเบศก็เป็นคนพาเธอไปคลินิกเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่วันนั้นดูเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้รู้เพศของลูกเสียที หลังจากที่เดามาหลายเดือน“ยินดีด้วยนะคะ น้องเป็นผู้หญิงค่ะ ตัวจ้ำม่ำเชียว ดูสิคะ หน้าตาก็น่ารักน่าชัง ดั้งโด่งเหมือนคุณพ่อเสียด้วย”ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่มองภาพจออัลตราซาวน์แบบ 4D ที่ทำให้เห็นภาพเจ้าตัวน้อยชัดเกือบเสมือนจริง ธิเบศตื่นเต้นจนเผลอกุมมือเธอไว้แน่น ส่วนจารุพัชรเองก็ดีใจไม่ต่างกัน เพราะคิดว่าลูกในท้องอาจเป็นน้องสาวที่เสียไปกลับมาเกิด ทำให้น้ำตาแห่งความปิติเอ่อล้นออกมา แต่อีกใจก็รู้สึกใจหายเมื่อคิดว่าวันจากลาใกล้เข้ามาทุกทีๆแล้วหลังจากที่ได้รู้เ
“โอ๊ะ! โอ๊ย...” ศุภกรหันไปมองคนโดนต่อยที่ร้องลั่นแอคติ้งอ้อนแม่ของลูก ทั้งที่ตลอดทางเขาไม่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายร้องสักแอะ ดวงตาเหยี่ยวคมกล้าขึงตาใส่ผู้จัดการส่วนตัวส่งซิกซ์ให้รู้“อะ อ๋อ...น้องแจนยังไม่หลับก็ดีแล้ว งั้นพี่ฝากดูแลธิมหน่อยแล้วกัน ถูกต่อยเสียเต็มแรงเลยเนี่ย ไม่รู้ว่ากรามจะหักเสียโฉมหรือเปล่าเนี่ย งั้นพี่ไม่อยู่เป็นกอขอคอ เอ๊ย! ไม่กวนละ ขอกลับไปพักก่อนแล้วกันนะ” ผู้จัดการหนุ่มหันไปขยิบตาใส่คนเจ็บนิดๆ ก่อนเผ่นออกจากห้อง“ผมเจ็บจัง” คนตัวโตอ้อน“งั้นคุณไปนั่งทางนั้นก่อน ขอฉันดูแผลหน่อย”“อืม...”คางบึกบึนมีรอยแดงจางๆ แต่ที่มุมปากกลับมีแผลแตกเล็กๆ ให้เห็น ดูเหมือนว่าคนต่อยจะหมัดหนักเอาเรื่อง“โอ๊ะ...ซี้ดดด” เขาสูดปากเบาๆ เมื่อถูกผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดให้เบาๆ โดยที่พยาบาลจำเป็นไม่พูดไม่จา จนชายหนุ่มเป็นฝ่ายทนไม่ไหว“คุณจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น”“แล้วคุณอยากเล่าหรือเปล่าล่ะคะ”“ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เร
หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงวิกฤตที่แสนบีบหัวใจจนคิดว่าอาจต้องสูญเสียลูกน้อยไปตลอดกาล มันทำให้เธอได้รู้ว่าชีวิตคนเรานั้นไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ และตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าอะไรที่เป็นสิ่งสำคัญในวินาทีที่ความเป็นความตายมารออยู่ตรงหน้า หญิงสาวรู้สึกตัวลอยๆ สะลืมสะลือ แต่สิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวเธอไว้คือมืออันอบอุ่นที่คอยเกี่ยวเกาะมือเธอไว้แน่น ราวกับบอกว่าเธอและลูกจะต้องปลอดภัยหากได้อยู่ในการคุ้มครองของเขาคนนี้“ไงครับเจ้าหญิงน้อยของพ่อ ในที่สุดเราก็ได้พบกันซักทีนะครับ”“แอ้ๆ”“แจนดูสิ นี่ไงลูกของเรา น่ารักที่สุดเลย แก้มยุ้ยเสียด้วย”คำว่าลูกของเรา ทำให้คนเป็นแม่เม้มริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นยามที่ได้เห็นดวงหน้าเล็กๆ น่าเอ็นดู จริงของธิเบศที่เจ้าตัวน้อยมีแก้มยุ้ยกลมใส และดูเหมือนลูกจะรับเอายีนส์เด่นเรื่องเบ้าหน้าขั้นเทพมาจากคนเป็นพ่อเต็มๆ ทั้งคิ้วดก ตาโต จมูกโด่ง หรือแม้แต่ปากแดงย้วยรูปกระจับเล็กๆ หรือผิวขาวราวกับนมสดนั่นดูยังไงก็เหมือนพ่อไม่มีผิดแต่มองอีกทีก็มีบางมุมที่แอบคล้ายจิราภาน้องสาวผู้ล่วงลับของเธออย
หญิงสาวพูดรัวรวดเดียวจบ เพราะเกรงว่าหากช้าไปเธอจะไม่กล้าพูดสิ่งที่นี้ออกมา และมันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ในเมื่อเขาเองก็มีอนาคตของพระเอกซุปตาร์ค้ำคอ ไหนจะเรื่องนพจิราอีก หากฝ่ายนั้นระแคะระคายขึ้นมา เธอไม่อยากให้ตัวเองและลูกสร้างปัญหาให้เขา เพราะถึงยังไงธิเบศก็มีน้ำใจช่วยเหลือเธอมาตลอด “คุณพูดจบหรือยัง” จารุพัชรเงยหน้ามองใบหน้าอันหล่อเหลา ก่อนพยักหน้าเบาๆ “ค่ะ ฉันพูดทุกอย่างตามที่ตั้งใจไว้หมดแล้ว” “งั้นทีนี้คุณลองฟังผมดูบ้าง” เขาเอ่ยด้วยเสียงเข้มจริงจัง “ดูปากชัดๆ นะ ผมไม่ให้คุณกับลูกไปไหนทั้งนั้น!” คำนั้นเน้นชัดเจนทุกคำ ทำให้คนฟังอึ้งกิมกี่ “แล้วถ้าคิดจะทำเหมือนพวกนางเอกในละครน้ำเน่าที่เอะอะก็พาลูกหนีผัวล่ะก็ คุณเลิกคิดไปได้เลย เพราะผัวอย่างผมไม่ใจดีแบบพระเอกในละครพวกนั้นหรอกนะ ถ้าคุณคิดหอบลูกหนี ผมจะตามล่าคุณสุดชีวิต ตามจนกว่าจะเจอคุณ และอย่าคิดจะหาผัวใหม่ด้วย เพราะลูกของคุณต้องมีพ่อที่ชื่อนายธิเบศคนนี้คนเดียวเท่านั้น!”
เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจเงียบลงเมื่อคนที่ทุกคนรอคอยปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูอย่างสง่างาม เขาเดินตรงมาที่โต๊ะแถลงข่าวบนเวทีด้วยสีหน้าสบายๆ ไม่ได้เคร่งเครียดอย่างที่ใครๆ คาดคิด“สวัสดีครับพี่ๆ สื่อมวลชนทุกท่าน ก่อนอื่นผมขอขอบคุณมากๆ นะครับที่ทุกคนให้เกียรติมาร่วมงานแถลงข่าวสำคัญในวันนี้อย่างอบอุ่น และผมก็มีคนพิเศษที่อยากจะพามาแนะนำให้ทุกคนรู้จักในวันนี้ ผมหวังว่าทุกคนจะให้ความเอ็นดูสาวคนสำคัญทั้งสองคนของผมเหมือนที่เอ็นดูผมมาตลอดนะครับ”“สาวคนสำคัญ! หมายถึงสาวปริศนาคนที่อยู่ในคลิปหรือเปล่าครับ”ธิเบศไม่ได้ตอบคำถามนั้น แต่เขากลับเดินหายไปที่ประตูด้านข้างของห้องประชุมครู่ใหญ่ ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของนักข่าวที่จู่ๆ พระเอกของงานก็หายออกไป แต่แล้วทันใดนั้นเองสายตาทุกคู่ก็พร้อมใจกันหันไปมองที่ประตูห้อง เมื่อพระเอกหนุ่มกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเข็นรถที่มีหญิงสาวคนหนึ่งในชุดคนไข้ของโรงพยาบาลนั่งมา“อาจจะฉุกละหุกไปนิด แต่ผมขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับว่าที่เจ้าสาวของผม คุณแจน-จารุพัชรครับ”พอสิ้นเสียงนั้นก็บังเกิดความฮือฮาในห้องประชุมขึ้นมา
ข่าวซุปตาร์เบอร์หนึ่งของวงการเปิดตัวภรรยาและลูกน้อยแบบสายฟ้าแลบ ทำเอาวงการบันเทิงไทยสั่นสะเทือน แต่ก็มีสองกระแสคือบางคนก็ชื่นชมในความรักของเขา แต่บางคนก็แอนตี้ที่เขาโกหกแอบซุกลูกเมียไว้โดยไม่บอกแฟนคลับแต่ทว่าความน่ารักของแม่หนูทับทิมก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น และได้เห็นอีกด้านของพระเอกซุปตาร์อย่างธิเบศตอนที่อยู่กับลูกสาว ซึ่งเขาทั้งอ่อนโยนและรักลูกมาก ทำให้เรตติ้งของเขากลับมาแรงกว่าเดิมทันตาจารุพัชรนั่งมองจอโทรศัพท์มือถือพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุขข้างกายเธอมีลูกสาวตัวน้อยที่เพิ่งกินนมแม่จนอิ่มหนำและนอนหลับปุ๋ย หนูน้อยทับทิมนั้นเป็นเด็กที่น่ารักและเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยโยเย ใครเห็นก็เป็นหลงโดนตกกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะปู่กับย่า หรือแม้แต่ศุภกรที่เคยประกาศตัวว่าไม่ค่อยรักเด็ก ก็ยังหลงหลานจนหัวปักหัวปำ“ดูอะไรอยู่เหรอคุณ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยเชียว มีข่าวอะไรของผมอีกเหรอ” คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีถามอย่างสงสัย เขาเดินไปที่เตียงก่อนที่จะโน้มกายลงหอมแก้มยุ้ยๆ ฟูนุ่มของเจ้าตัวน้อยอย่างรักใคร่เอ็นดู ก่อนที่จะคว้าตัวแม่ของลูกมาชื่นใจไปอีกหนึ่งฟอด“ไม่ใช
เอาเถอะ นาทีนี้ชีวิตคนต้องมาก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง หญิงสาวหลับตาเพื่อเลี่ยงภาพบาดใจ แต่ทว่า...“ผมผายปอดไม่เป็น!”หญิงสาวลืมตามองคนพูดทันใด“ขอโทษครับ ใครผายปอดแบบเม้าท์ทูเม้าท์ได้บ้าง” ธิเบศหันไปถามเหล่าไทยมุงหน้าตาเฉย และไม่นานก็มีพลเมืองดีอาสา“ผมทำได้ครับ ผมเคยฝึกมา” คนพูดคือชายวัยกลางคนตัวใหญ่ผิวคล้ำ แม้ท่าทีจะดูน่ากลัวไปนิด แต่ถือว่าเขามีน้ำใจ“งั้นช่วยกันหน่อยนะครับ ถือว่าเอาบุญ” ธิเบศลงเสียงหนักในประโยคสุดท้าย ก่อนรีบขยับหลีกทางให้พลเมืองดีเข้ามาทำหน้าที่แทน ส่วนเขาก็รีบยืนข้างๆ ภรรยาที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอ ก่อนกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ“รอดูฉากเด็ดนะ”ฉากเด็ด! ฉากเด็ดอะไรล่ะ หญิงสาวได้แต่มองหน้าสามีสุดหล่ออย่างงุนงง ก่อนหันไปจ้องมองนาทีชีวิตของเมลดาตาแทบไม่กะพริบพลเมืองดีคนนั้นท่าทางจะมีความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคนจมน้ำจริงอย่างที่พูด เขาจัดการลงมือช่วยหญิงสาวอย่างคล่องแคล่ว หากทว่าตอนที่เขากำลังจะทำการเป่าปากแบบเม้าท์ทูเม้าท์นั้นเอง จู่ๆ คนที่นอนนิ่งก็ล
จารุพัชรเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ดุขึ้งจากอารมณ์ขุ่นมัวที่ค้างมาจากอดีตแฟนเก่า มืออุ่นๆ ของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น และวงแขนแข็งแรงก็โอบอุ้มยอดดวงใจตัวน้อยไว้ไม่ปล่อยเธอไม่เคยเห็นเขาโมโหมากเท่านี้มาก่อน หากสิ่งที่เมลดาทำนั้นก็สมควรที่จะทำให้เขาไม่พอใจ“คุณธิมคะ” อดไม่ได้เลยเรียกเขาเบาๆ“หืม...คุณมีอะไรเหรอ เมื่อกี้เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“แจนไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ส่วนลูกก็คงตกใจแต่ยังไม่ทันโดนทำร้ายอะไร”ธิเบศถอนหายใจ พลางหยุดเดินแล้วหันมาสบตา“ผมขอโทษนะ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ แจนกับลูกต้องขอบคุณคุณต่างหากที่เข้ามาปกป้องเราสองคน ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้ ทำให้สีหน้าดุๆ คลายลง“ขอบคุณเฉยๆ เหรอ แล้วรางวัลของผู้กล้าล่ะ”จารุพัชรมองคนพูดอย่างหมั่นใส้ แต่ทว่าเธอก็ยอมเขย่งปลายเท้าขึ้นและบรรจงจูบที่แก้มของเขาเบาๆ ไปทีหนึ่ง แต่เจ้าตัวกลับยื่นปากให้ หญิงสาวยิ้มเขินๆ“พอแล้วค่ะ อายลูกบ้าง”“อายทำไมเนอะลูกเนอะ หนูชอบให้พ่อกับแม่ส
“นี่แก!” เมลดามองศัตรูหัวใจราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เจ็บใจที่ผิดแผน ต้องโทษที่ยัยเด็กบ้านี่ทำให้เธอเสียอาการจนดูแย่ในสายตาบุรุษที่หมายปอง“ธิมคะ...เมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ...”“ไม่ตั้งใจงั้นเหรอ...คนที่คุณควรขอโทษคือลูกและเมียผมต่างหาก อ้อ! แล้วที่คุณว่าลูกผมว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนน่ะ ผมว่าคงไม่ใช่ลูกผมหรอกที่ควรโดนว่า แต่เป็นคุณต่างหาก...” เมลดาสะอึก หน้าเสีย ดวงตาคู่งามมีน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปากร้ายขนาดนี้“ธิมคะ ทำไมคุณว่าเมหนักแบบนี้ เมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ แล้วเมก็ยังไม่ได้ทำร้ายลูกคุณเลยนะคะ”“พอเถอะนะเม ผมไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรของคุณ เอาเป็นว่า เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะ คุณจะทำเป็นไม่รู้จักผมเลยก็ได้ ผมไม่สน แต่อย่ามายุ่งกับลูกเมียผมอีก จะให้ดีคุณช่วยหายไปเหมือนวันนั้นได้ไหม ผมจะขอบคุณมาก”โอ้...จารุพัชรนิ่วหน้านิดๆ แอบเจ็บแทนคนฟัง ธิเบศเวอร์ชั่นปราบมารนี้อาจดูใจร้ายไปสักหน่อยสำหรับเมลดา แต่กลับกร้าวใจคนเป็นภรรยาเหลือเกิน พ่อคนหวงลูกหวงเมีย พ่อพระเอกนอกจอโอ๊ย...พ่อทูนหั
“จะรีบไปไหนล่ะคะ”เมลดาก้าวเข้ามาหาสองแม่ลูก วันนี้เธอสวมชุดว่ายน้ำทูพีชมีเสื้อคลุมเนื้อบางเบาสวมทับไว้อย่างสวยเก๋และดูเซ็กซี่ เรือนร่างของนางแบบสาวตรงหน้างดงามอย่างไม่มีที่ติ“คุณนั่นเอง มาเดินเล่นเหรอคะ”จารุพัชรยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน“เมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นน่ะค่ะ พอดีเห็นคุณกับ...ลูกเสียก่อน” เมลดาส่งยิ้มหวานให้ “นี่ลูกคุณเหรอคะ หนูชื่ออะไรเอ่ย”“ชื่อน้องทับทิมค่ะ”ชื่อนั้นทำให้คนฟังหน้าเสียไปนิดๆตั้งชื่อพ้องกับชื่อพ่อขนาดนี้ กลัวใครไม่รู้หรือไงว่าสามีชื่ออะไร เมลดาค่อนขอดคนตรงหน้าในใจอย่างหมั่นไส้ แต่ใบหน้าสวยยังคงยิ้มหวาน“แหม...ถ้าไม่บอกคงไม่รู้นะคะว่าเป็นลูกธิม”คนฟังชักทะแม่งหู ใครๆ ก็บอกว่าลูกสาวเธอหน้าเหมือนพ่ออย่างกับแกะจากพิมพ์เดียวกัน คำพูดของคนตรงหน้ามีนัยยะใดแอบแฝงหรือเปล่านะ“ขอโทษนะคะที่ฉันพูดตรงไปหน่อย แต่จริงๆ ฉันอยากบอกว่าหนูทับทิมหน้าเหมือนคุณมากกว่า ไม่ค่อยมีเค้าธิ
เมลดากัดฟันแน่น เมื่อเห็นอดีตคนที่เธอเคยทิ้งไปอย่างไม่ไยดีคอยเอาใจผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนนั้นอย่างหวานชื่น ทั้งที่ยัยนั่นไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่าง คนที่ไม่อาจเทียบกับเมลดานางแบบสาวสวยไฮโซคนนี้แม้ปลายเล็บด้วยซ้ำคิดไปแล้วก็แสนจะเจ็บใจ ค่าที่วันนั้นเธอไม่น่าใจเร็วด่วนได้หลงไปกับเปลือกนอกจอมปลอมของสามีไฮโซคนปัจจุบันอ้อ! ไม่ใช่สิ เขาคนนั้นกำลังจะกลายเป็นอดีตสามีต่างหาก ในเมื่อเธอกำลังจะฟ้องหย่าเร็วๆ นี้แล้วดวงตาสวยเฉี่ยวมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของอดีตแฟนเก่า ธิเบศในวันนี้หล่อเหลาและมีออร่าจับ ต่างจากธิเบศคนเก่าที่เธอทิ้งไปอย่างไม่ลังเลในวันนั้น ก็ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะกลายเป็นพระเอกซุปเปอร์สตาร์เหมือนอย่างวันนี้ เพราะถ้ารู้คนที่นั่งตรงหน้าเขาต้องเป็นเธอไม่ใช่ผู้หญิงกระจอกๆ คนนั้นยิ่งเห็นเขาเอาอกเอาใจภรรยา ดูเหมือนว่าเขาจะรักเธอคนนั้นมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งร้อนรนราวกับไฟเผาผลาญ นึกอยากย้อนวันเวลากลับไปในวันที่เคยรักกันอีกครั้ง เธอยังจำได้ว่าธิเบศทั้งรักและเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน ความเร่าร้อนของเขาทำให้เธอติดใจไม่หาย แม้สามีคนปัจจุบันก็ยังไม่ทำให้เธอพอใจเท่า
“กุ้งผัดกระเทียมพริกไทยดำนี่อร่อยดี เดี๋ยวผมแกะให้นะ” ธิเบศ เอ่ยหน้าตาเฉย พลางแกะกุ้งตัวโตในจานตนก่อนตักให้เธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นโอ๊ย...อีพี่ธิมเวอร์ชั่นเลือดเย็น!!!นี่เธอควรดีใจหรือสงสารผู้หญิงคนนั้นดีล่ะเนี่ย“ทำแบบนั้นกับเธอจะดีเหรอคะ”“หรือคุณอยากให้ผมบอกเบอร์ตัวเองล่ะ” คนถูกถามชะงักไป“ถ้าคุณอยากบอก แจนจะไปห้ามอะไรได้”“ได้สิ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมรู้ดีว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ผมไม่อยากให้เราต้องมีปัญหากันทีหลัง” คนฟังชะงักไป พลางคิดตามมันก็จริงแฮะ เธอเคยเห็นในละครบ่อยๆ ฉากที่นางร้ายพยายามเข้ามายุแหย่ทำให้พระเอกกับนางเอกเข้าใจผิด แล้วส่วนใหญ่มันก็สำเร็จสมใจนางร้าย 99% เสียด้วย ใครจะไปนึกว่าเธอต้องมาเจอเหตุการณ์แบบในละครน้ำเน่าพวกนั้น ยังดีที่ไม่ต้องมีฉากลุกขึ้นตบธิเบศถอนหายใจเบาๆ พลางยื่นมือมากุมมือภรรยาสาวไว้“ผมชอบอยู่กับปัจจุบันมากกว่าอดีตนะ อะไรที่ผ่านมาแล้วน่าจดจำก็จำ แต่ถ้ามันไม่น่าจำ ผมก็ไม่อยากเก็บไว้ให้รกสมอง”“แ
“นี่คุณแจน ภรรยาของผม แจนครับ นี่คือคุณเมลดา เขาเป็น ‘อดีตคนเคยรู้จัก’...” เมลดาชะงักกึก“แค่คนรู้จักเท่านั้นเองหรือคะ แต่เท่าที่เมจำได้ตอนนั้นเรารักกันมาก มากเสียจนคุณเคยบอกว่าอยากแต่งงานกับเมด้วยซ้ำนะคะ”จารุพัชรถึงกับสะอึก อึ้งไปชั่วขณะ พอหันไปมองสามีก็เห็นสีหน้านิ่ง แต่แววตาดุขึ้ง ดูท่าเรื่องที่ว่าคงมีมูลอยู่มากทีเดียว“เมยังไม่เคยลืมช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เมคิดถึงธิมมากเลยนะคะ”หืม...คิดจะเปิดเกมส์บุกกันแบบนี้เลยเหรอแม่คุณ“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณเมลดา” จารุพัชรส่งยิ้มให้ ราวกับไม่ถือสา แต่ตามองคนตรงหน้าอย่างประเมินผลเงียบๆผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสวยทั้งรูปร่างดีราวกับดารานางแบบ การแต่งกาย หรือบุคลิกภาพก็ไม่ได้ต่ำทรามอะไร ดูไปแล้วก็เหมาะสมกับธิเบศไม่น้อย ยกเว้นก็แต่แววตาของเจ้าหล่อนที่เผยความปรารถนาออกมาชัดเจนโจ่งแจ้งไปหน่อย แต่ทุกอย่างไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนข้างกายเธอต่างหากที่คิดอย่างไร ยังอาวรณ์กับอดีต หรือไม่คิดอะไรด้วยแล้ว นี่ต่างหากที่สำคัญ และเท่
“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่าไปยึดติดอะไรมากเลยค่ะ นั่นลูกหลับแล้ว” ธิเบศหันไปมองเจ้าตัวน้อยที่เอียงคอซบไหล่พ่อหลับปุ๋ยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้“ถ้าถึงวันนั้น วันที่ผมไม่ได้เป็นดาราชื่อดัง ไม่ใช่ธิม-ธิเบศที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ แต่กลายเป็นนายธิเบศผู้ชายธรรมดา คุณจะว่าไง”“จะไปว่าอะไร ก็แค่หาสามีใหม่สิคะ” คำนั้นทำให้ชายหนุ่มหันขวับ“ว่าไงนะ”“ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นค่ะ ดูคุณทำหน้าเข้าสิ” จารุพัชรหัวเราะคิก ก่อนที่จะหันไปมองสบตาเขา“คุณจะเป็นดาราดัง หรือเป็นคนธรรมดาแล้วไง ตราบใดที่คุณเป็นพ่อของลูกและเป็นสามีที่ดีของแจนแบบนี้ ก็พอแล้วนี่คะ”“ไดอะล็อกนี้คุ้นๆ จัง แต่ผมชอบแฮะ”“แจนก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอแค่มีคุณกับลูก แจนก็มีความสุขแล้ว” หญิงสาวเงยหน้าสบตาเขาอย่างจริงใจ ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากรับจุมพิตแสนหวานของสามีที่โน้มลงมาทาบทับอย่างนุ่มนวลชวนฝันสองหนุ่มสาวและลูกน้อยโอบกอดกันท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่ตะวันใกล้ลับขอบ
“ไงธิม...ที่พักโอเคไหม”เสียงทักทายมาตามสายของผู้จัดการคู่ใจทำให้พระเอกหนุ่มที่กำลังทอดสายตามองไปที่ชายหาดซึ่งมีร่างเพรียวบางนั่งอยู่บนผืนทรายสีขาวละเอียดราวกับแป้ง ข้างกายมีลูกสาวตัวน้อยนั่งจุมปุ๊ก ทั้งสองกำลังเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะใสๆ คลอกับเสียงคลื่นทะเลทำให้เขาพลอยเพลิดเพลินไปด้วย“ธิม...ฟังพี่อยู่หรือเปล่า”“ครับ ฟังอยู่ครับ”“แล้วเรื่องละครเรื่องใหม่ที่พี่ส่งไปธิมจะว่ายังไงรับหรือเปล่า บทพระเอกพ่อลูกอ่อนน่ะ”ธิเบศยิ้มกับตัวเอง เมื่อได้ยินคำนั้น“ถ้าพี่บีอ่านแล้วโอเค ก็ตอบรับไปได้เลยครับ อ้อ! แจ้งทางกองไปด้วยว่า...”“ไม่จูบจริงทุกกรณี เลิฟซีนต้องไม่ถึงเนื้อถึงตัวมาก” ศุภกรดักคอพระเอกในสังกัดอย่างรู้แกว เพราะหลังๆ ชายหนุ่มค่อนข้างเคร่งเรื่องนี้มาก จะบทไหนเขาก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น หากตกลง เขาก็รับเล่น“เท่านี้ใช่ไหมครับ”“เดี๋ยวๆ จะรีบไปไหนกัน พี่ยังพูดไม่จบ มีอีกงานเพิ่งเข้ามาวันนี้ เป็นงานถ่ายโฆษณาสินค้าพวกสเปรย์