“โอ๊ะ! โอ๊ย...” ศุภกรหันไปมองคนโดนต่อยที่ร้องลั่นแอคติ้งอ้อนแม่ของลูก ทั้งที่ตลอดทางเขาไม่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายร้องสักแอะ ดวงตาเหยี่ยวคมกล้าขึงตาใส่ผู้จัดการส่วนตัวส่งซิกซ์ให้รู้
“อะ อ๋อ...น้องแจนยังไม่หลับก็ดีแล้ว งั้นพี่ฝากดูแลธิมหน่อยแล้วกัน ถูกต่อยเสียเต็มแรงเลยเนี่ย ไม่รู้ว่ากรามจะหักเสียโฉมหรือเปล่าเนี่ย งั้นพี่ไม่อยู่เป็นกอขอคอ เอ๊ย! ไม่กวนละ ขอกลับไปพักก่อนแล้วกันนะ” ผู้จัดการหนุ่มหันไปขยิบตาใส่คนเจ็บนิดๆ ก่อนเผ่นออกจากห้อง
“ผมเจ็บจัง” คนตัวโตอ้อน
“งั้นคุณไปนั่งทางนั้นก่อน ขอฉันดูแผลหน่อย”
“อืม...”
คางบึกบึนมีรอยแดงจางๆ แต่ที่มุมปากกลับมีแผลแตกเล็กๆ ให้เห็น ดูเหมือนว่าคนต่อยจะหมัดหนักเอาเรื่อง
“โอ๊ะ...ซี้ดดด” เขาสูดปากเบาๆ เมื่อถูกผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดให้เบาๆ โดยที่พยาบาลจำเป็นไม่พูดไม่จา จนชายหนุ่มเป็นฝ่ายทนไม่ไหว
“คุณจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น”
“แล้วคุณอยากเล่าหรือเปล่าล่ะคะ”
“ที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เร
หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงวิกฤตที่แสนบีบหัวใจจนคิดว่าอาจต้องสูญเสียลูกน้อยไปตลอดกาล มันทำให้เธอได้รู้ว่าชีวิตคนเรานั้นไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ และตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าอะไรที่เป็นสิ่งสำคัญในวินาทีที่ความเป็นความตายมารออยู่ตรงหน้า หญิงสาวรู้สึกตัวลอยๆ สะลืมสะลือ แต่สิ่งที่คอยยึดเหนี่ยวเธอไว้คือมืออันอบอุ่นที่คอยเกี่ยวเกาะมือเธอไว้แน่น ราวกับบอกว่าเธอและลูกจะต้องปลอดภัยหากได้อยู่ในการคุ้มครองของเขาคนนี้“ไงครับเจ้าหญิงน้อยของพ่อ ในที่สุดเราก็ได้พบกันซักทีนะครับ”“แอ้ๆ”“แจนดูสิ นี่ไงลูกของเรา น่ารักที่สุดเลย แก้มยุ้ยเสียด้วย”คำว่าลูกของเรา ทำให้คนเป็นแม่เม้มริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นยามที่ได้เห็นดวงหน้าเล็กๆ น่าเอ็นดู จริงของธิเบศที่เจ้าตัวน้อยมีแก้มยุ้ยกลมใส และดูเหมือนลูกจะรับเอายีนส์เด่นเรื่องเบ้าหน้าขั้นเทพมาจากคนเป็นพ่อเต็มๆ ทั้งคิ้วดก ตาโต จมูกโด่ง หรือแม้แต่ปากแดงย้วยรูปกระจับเล็กๆ หรือผิวขาวราวกับนมสดนั่นดูยังไงก็เหมือนพ่อไม่มีผิดแต่มองอีกทีก็มีบางมุมที่แอบคล้ายจิราภาน้องสาวผู้ล่วงลับของเธออย
หญิงสาวพูดรัวรวดเดียวจบ เพราะเกรงว่าหากช้าไปเธอจะไม่กล้าพูดสิ่งที่นี้ออกมา และมันเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ในเมื่อเขาเองก็มีอนาคตของพระเอกซุปตาร์ค้ำคอ ไหนจะเรื่องนพจิราอีก หากฝ่ายนั้นระแคะระคายขึ้นมา เธอไม่อยากให้ตัวเองและลูกสร้างปัญหาให้เขา เพราะถึงยังไงธิเบศก็มีน้ำใจช่วยเหลือเธอมาตลอด “คุณพูดจบหรือยัง” จารุพัชรเงยหน้ามองใบหน้าอันหล่อเหลา ก่อนพยักหน้าเบาๆ “ค่ะ ฉันพูดทุกอย่างตามที่ตั้งใจไว้หมดแล้ว” “งั้นทีนี้คุณลองฟังผมดูบ้าง” เขาเอ่ยด้วยเสียงเข้มจริงจัง “ดูปากชัดๆ นะ ผมไม่ให้คุณกับลูกไปไหนทั้งนั้น!” คำนั้นเน้นชัดเจนทุกคำ ทำให้คนฟังอึ้งกิมกี่ “แล้วถ้าคิดจะทำเหมือนพวกนางเอกในละครน้ำเน่าที่เอะอะก็พาลูกหนีผัวล่ะก็ คุณเลิกคิดไปได้เลย เพราะผัวอย่างผมไม่ใจดีแบบพระเอกในละครพวกนั้นหรอกนะ ถ้าคุณคิดหอบลูกหนี ผมจะตามล่าคุณสุดชีวิต ตามจนกว่าจะเจอคุณ และอย่าคิดจะหาผัวใหม่ด้วย เพราะลูกของคุณต้องมีพ่อที่ชื่อนายธิเบศคนนี้คนเดียวเท่านั้น!”
เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจเงียบลงเมื่อคนที่ทุกคนรอคอยปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูอย่างสง่างาม เขาเดินตรงมาที่โต๊ะแถลงข่าวบนเวทีด้วยสีหน้าสบายๆ ไม่ได้เคร่งเครียดอย่างที่ใครๆ คาดคิด“สวัสดีครับพี่ๆ สื่อมวลชนทุกท่าน ก่อนอื่นผมขอขอบคุณมากๆ นะครับที่ทุกคนให้เกียรติมาร่วมงานแถลงข่าวสำคัญในวันนี้อย่างอบอุ่น และผมก็มีคนพิเศษที่อยากจะพามาแนะนำให้ทุกคนรู้จักในวันนี้ ผมหวังว่าทุกคนจะให้ความเอ็นดูสาวคนสำคัญทั้งสองคนของผมเหมือนที่เอ็นดูผมมาตลอดนะครับ”“สาวคนสำคัญ! หมายถึงสาวปริศนาคนที่อยู่ในคลิปหรือเปล่าครับ”ธิเบศไม่ได้ตอบคำถามนั้น แต่เขากลับเดินหายไปที่ประตูด้านข้างของห้องประชุมครู่ใหญ่ ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของนักข่าวที่จู่ๆ พระเอกของงานก็หายออกไป แต่แล้วทันใดนั้นเองสายตาทุกคู่ก็พร้อมใจกันหันไปมองที่ประตูห้อง เมื่อพระเอกหนุ่มกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเข็นรถที่มีหญิงสาวคนหนึ่งในชุดคนไข้ของโรงพยาบาลนั่งมา“อาจจะฉุกละหุกไปนิด แต่ผมขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับว่าที่เจ้าสาวของผม คุณแจน-จารุพัชรครับ”พอสิ้นเสียงนั้นก็บังเกิดความฮือฮาในห้องประชุมขึ้นมา
ข่าวซุปตาร์เบอร์หนึ่งของวงการเปิดตัวภรรยาและลูกน้อยแบบสายฟ้าแลบ ทำเอาวงการบันเทิงไทยสั่นสะเทือน แต่ก็มีสองกระแสคือบางคนก็ชื่นชมในความรักของเขา แต่บางคนก็แอนตี้ที่เขาโกหกแอบซุกลูกเมียไว้โดยไม่บอกแฟนคลับแต่ทว่าความน่ารักของแม่หนูทับทิมก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น และได้เห็นอีกด้านของพระเอกซุปตาร์อย่างธิเบศตอนที่อยู่กับลูกสาว ซึ่งเขาทั้งอ่อนโยนและรักลูกมาก ทำให้เรตติ้งของเขากลับมาแรงกว่าเดิมทันตาจารุพัชรนั่งมองจอโทรศัพท์มือถือพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุขข้างกายเธอมีลูกสาวตัวน้อยที่เพิ่งกินนมแม่จนอิ่มหนำและนอนหลับปุ๋ย หนูน้อยทับทิมนั้นเป็นเด็กที่น่ารักและเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยโยเย ใครเห็นก็เป็นหลงโดนตกกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะปู่กับย่า หรือแม้แต่ศุภกรที่เคยประกาศตัวว่าไม่ค่อยรักเด็ก ก็ยังหลงหลานจนหัวปักหัวปำ“ดูอะไรอยู่เหรอคุณ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยเชียว มีข่าวอะไรของผมอีกเหรอ” คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีถามอย่างสงสัย เขาเดินไปที่เตียงก่อนที่จะโน้มกายลงหอมแก้มยุ้ยๆ ฟูนุ่มของเจ้าตัวน้อยอย่างรักใคร่เอ็นดู ก่อนที่จะคว้าตัวแม่ของลูกมาชื่นใจไปอีกหนึ่งฟอด“ไม่ใช
ในบรรดานิทานที่เคยอ่านมาตั้งแต่เด็ก จารุพัชรไม่ค่อยอินกับเรื่องซินเดอเรลล่าที่สุด และไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงกับผู้หญิงเดินดินธรรมดาๆ อย่างเธอ จนกระทั่งถึงวันนี้ที่ชีวิตเธอเดินตามรอยนางสาวเศษถ่านได้ครองคู่กับเจ้าชายซุปตาร์ตัวพ่อของวงการอย่างธิม-ธิเบศ ดิฐวัฒน์ แถมยังได้ของขวัญเป็นลูกสาวที่แสนน่ารักน่าเอ็นดูอย่างเจ้าทับทิมน้อยแก้มป่องนี่มันฝันกลางวันชัดๆ !!!“อุแว้!”นั่นไงเธอฝันไปจริงๆ ด้วยหญิงสาวละสายตาจากอัลบั้มภาพถ่ายพรีเวดดิง และภาพบรรยากาศงานแต่งงานที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่เดือนก่อนหน้า พลางหันไปมองเจ้าลำโพงจอมพลังที่แผดเสียงร้องไห้จ้าขึ้น“ไงคะ คนเก่งของแม่”นี่ก็อีก ใครจะคิดว่าคนที่ไม่ค่อยอินกับความรักอย่างเธอต้องกลายมาเป็นแม่คนได้ คิดแล้วก็น่าขัน ใช่แต่เธอหรอกที่เก้ๆ กังๆ กับความเป็นแม่ แต่พอนึกถึงใครบางคนที่โดนคำว่าพ่อลูกอ่อนเล่นงานเข้าตั้งแต่แรกคลอดแม่หนูน้อยทับทิม ธิเบศก็แทบสลบเหมือดไปเหมือนกัน“คุณ...ลูกร้องทำไม” คุณพ่อมือใหม่ในวันนั้นโงนเงนหัวซุกหัวซุนลุกขึ้นนั่งตาปรือ เขา
จารุพัชรคิดถึงวันนั้นแล้วก็ขันไม่หาย ทั้งเธอทั้งธิเบศต้องไปเข้าคอร์สอบรมพ่อแม่มือใหม่เพื่อเพิ่มประสบการณ์อย่างเร่งด่วน และตัดสินใจจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลลูกสาวตัวน้อยอีกแรง หาไม่คงได้ประสาทกินกันทั้งคู่ เพราะไม่รู้ว่าลูกต้องการอะไรกันแน่ กว่าจะผ่านวันอลหม่านมาได้ทั้งสองก็แทบหมดเรี่ยวหมดแรงจนถึงตอนนี้ ในที่สุดธิเบศก็ได้เทิร์นโปรคุณพ่อมือใหม่สำเร็จ สามารถเปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ไปจนถึงเช็ดอึเช็ดฉี่ให้ลูกน้อยได้อย่างคล่องแคล่ว ถึงขนาดว่าแค่ได้ยินเสียงลูกร้องเขาก็บอกได้ว่าลูกต้องการอะไร งานนี้หญิงสาวจึงยกหน้าที่สำคัญให้คุณพ่อเจ้าแสบไป แต่มีเพียงหน้าที่เดียวที่เธอไม่ค่อยอยากยอมยกให้เขานั่นคือ...“ทวิงเกิ้ล ทวิ๊งเกิ้ล ลิตเติ้ลสต้าร์...”“พรืด!” หญิงสาวรีบเอากำปั้นอุดปากตัวเองไว้ก่อนที่เสียงหัวเราะจะเล็ดลอดออกมาทำลายบรรยากาศและความมั่นใจของนักร้องเสียงทอง พลางหันไปมองหน้าเจ้าลิตเติ้ลสตาร์จิ๋วที่กำลังเบะปากคิ้วขมวดมองหน้าหล่อๆ ของพ่อตัวเองอย่างตื่นตระหนกโถ...แม่คุณของแม่ ทนๆ ฟังพ่อเขาร้องเพลงกล่อมหน่อยนะลูกนะ
“เหนื่อยไหมคุณ วันนี้ลูกเรางอแงหรือเปล่า” เขาถามเสียงนุ่ม พลางยื่นมือไปรับเจ้าตัวน้อยที่หลับปุ๋ยจากอ้อมแขนของภรรยาสาว เสียงริมฝีปากเล็กหลุดจากยอดอกแม่ดังจ๊วบ ทำให้หญิงสาวอดเขินสายตาวิบวับของคนถามไม่ได้ รีบปิดชายเสื้อลงมาอย่างรวดเร็ว“เหนื่อยสิคะ วันนี้เจ้าแสบน้อยเอาแต่งอแงหาคุณพ่อทั้งวัน จนแจนต้องเปิดละครที่คุณเล่นให้ดู ลูกถึงหยุดโยเย”“จริงอะ” คนเป็นพ่อตาเป็นประกาย ก้มมองใบหน้าใสจนเห็นซับเส้นโลหิตแดงระเรื่อที่แก้มยุ้ยๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แจนพูดเล่นค่ะ” รอยยิ้มละมุนค้างเติ่ง ตาเหยี่ยวคมเข้มตวัดมองภรรยาสาวอย่างมันเขี้ยว“หิวหรือยังคะ กินอะไรมาหรือยัง”ธิเบศอมยิ้มกับความใส่ใจของอีกฝ่ายที่มีให้เขาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เขาค่อยๆ อุ้มลูกรักวางลงในเปลเด็กอย่างเบามือก่อนหันมาตอบ“หิวนิดหน่อย แต่หิวแจนมากกว่า”“หืม?” จารุพัชรเงยหน้ามองคนพูด ก็ได้เห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มชวนให้ใจกระตุกวูบวาบ“วันนี้พี่บีบอกว่าคุณต้องเล่นฉากเลิฟซีนตั้งหลายฉาก จูบ
ธิเบศโอบกระชับร่างเปลือยเปล่าของภรรยามาแนบอกพลางกดริมฝีปากจูบซับที่ขมับชื้นๆ ของเธอเบาๆ อย่างพึงพอใจ หลังจูงมือเธอไปชมทางช้างเผือกด้วยกันเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็สุดจะนับได้จารุพัชรนอนซบอกสามีอย่างหมดเรี่ยวแรง กลิ่นกายหอมๆ ที่เธอชื่นชอบทำให้นอนหลับสนิทและรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดนี้“ผมรักคุณนะแจน รักมาก...” เสียงกระซิบนั้นทำให้เธอเผลอยิ้มออกมาและเบียดซุกกายเข้าหาความอบอุ่นแสนหวานจนเกือบจมหายให้อ้อมแขนเขาผู้ชายทรงเสน่ห์ที่สาวๆ ทั้งประเทศตั้งฉายาให้ว่า...สามีแห่งชาติแต่คนที่โชคดีได้นอนกอดเขาก็คือเธอ ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่างมันเหมือนฝันเหลือเกิน เหมือนจนบางครั้งเวลานอนเธอก็ไม่อยากตื่นขึ้น เพราะกลัวจับใจว่าฝันดีแบบนี้จะหายไปเหลือแต่ความว่างเปล่าธิเบศมองคนในอ้อมแขนอย่างแปลกใจ เมื่อรับรู้ถึงแรงกอดรัดที่มากขึ้นของเธอ เขาจูบซับที่หน้าผากมนอย่างอ่อนโยน แม้เลือดในกายจะเริ่มเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรับรู้ถึงสิ่งที่นวลเนื้ออวบอิ่มที่บดเบียดเข้าหาราวกับจะยั่วกัน“เป็นอะไรไป คิดอะไรอยู่เหร
เอาเถอะ นาทีนี้ชีวิตคนต้องมาก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง หญิงสาวหลับตาเพื่อเลี่ยงภาพบาดใจ แต่ทว่า...“ผมผายปอดไม่เป็น!”หญิงสาวลืมตามองคนพูดทันใด“ขอโทษครับ ใครผายปอดแบบเม้าท์ทูเม้าท์ได้บ้าง” ธิเบศหันไปถามเหล่าไทยมุงหน้าตาเฉย และไม่นานก็มีพลเมืองดีอาสา“ผมทำได้ครับ ผมเคยฝึกมา” คนพูดคือชายวัยกลางคนตัวใหญ่ผิวคล้ำ แม้ท่าทีจะดูน่ากลัวไปนิด แต่ถือว่าเขามีน้ำใจ“งั้นช่วยกันหน่อยนะครับ ถือว่าเอาบุญ” ธิเบศลงเสียงหนักในประโยคสุดท้าย ก่อนรีบขยับหลีกทางให้พลเมืองดีเข้ามาทำหน้าที่แทน ส่วนเขาก็รีบยืนข้างๆ ภรรยาที่ตอนนี้ทำหน้าเหวอ ก่อนกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ“รอดูฉากเด็ดนะ”ฉากเด็ด! ฉากเด็ดอะไรล่ะ หญิงสาวได้แต่มองหน้าสามีสุดหล่ออย่างงุนงง ก่อนหันไปจ้องมองนาทีชีวิตของเมลดาตาแทบไม่กะพริบพลเมืองดีคนนั้นท่าทางจะมีความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นคนจมน้ำจริงอย่างที่พูด เขาจัดการลงมือช่วยหญิงสาวอย่างคล่องแคล่ว หากทว่าตอนที่เขากำลังจะทำการเป่าปากแบบเม้าท์ทูเม้าท์นั้นเอง จู่ๆ คนที่นอนนิ่งก็ล
จารุพัชรเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่ดุขึ้งจากอารมณ์ขุ่นมัวที่ค้างมาจากอดีตแฟนเก่า มืออุ่นๆ ของเขายังกุมมือเธอไว้แน่น และวงแขนแข็งแรงก็โอบอุ้มยอดดวงใจตัวน้อยไว้ไม่ปล่อยเธอไม่เคยเห็นเขาโมโหมากเท่านี้มาก่อน หากสิ่งที่เมลดาทำนั้นก็สมควรที่จะทำให้เขาไม่พอใจ“คุณธิมคะ” อดไม่ได้เลยเรียกเขาเบาๆ“หืม...คุณมีอะไรเหรอ เมื่อกี้เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”“แจนไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ส่วนลูกก็คงตกใจแต่ยังไม่ทันโดนทำร้ายอะไร”ธิเบศถอนหายใจ พลางหยุดเดินแล้วหันมาสบตา“ผมขอโทษนะ”“ขอโทษเรื่องอะไรคะ แจนกับลูกต้องขอบคุณคุณต่างหากที่เข้ามาปกป้องเราสองคน ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวส่งยิ้มให้ ทำให้สีหน้าดุๆ คลายลง“ขอบคุณเฉยๆ เหรอ แล้วรางวัลของผู้กล้าล่ะ”จารุพัชรมองคนพูดอย่างหมั่นใส้ แต่ทว่าเธอก็ยอมเขย่งปลายเท้าขึ้นและบรรจงจูบที่แก้มของเขาเบาๆ ไปทีหนึ่ง แต่เจ้าตัวกลับยื่นปากให้ หญิงสาวยิ้มเขินๆ“พอแล้วค่ะ อายลูกบ้าง”“อายทำไมเนอะลูกเนอะ หนูชอบให้พ่อกับแม่ส
“นี่แก!” เมลดามองศัตรูหัวใจราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เจ็บใจที่ผิดแผน ต้องโทษที่ยัยเด็กบ้านี่ทำให้เธอเสียอาการจนดูแย่ในสายตาบุรุษที่หมายปอง“ธิมคะ...เมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ...”“ไม่ตั้งใจงั้นเหรอ...คนที่คุณควรขอโทษคือลูกและเมียผมต่างหาก อ้อ! แล้วที่คุณว่าลูกผมว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนน่ะ ผมว่าคงไม่ใช่ลูกผมหรอกที่ควรโดนว่า แต่เป็นคุณต่างหาก...” เมลดาสะอึก หน้าเสีย ดวงตาคู่งามมีน้ำตาคลอ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปากร้ายขนาดนี้“ธิมคะ ทำไมคุณว่าเมหนักแบบนี้ เมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ตั้งใจ แล้วเมก็ยังไม่ได้ทำร้ายลูกคุณเลยนะคะ”“พอเถอะนะเม ผมไม่อยากฟังคำแก้ตัวอะไรของคุณ เอาเป็นว่า เราต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะ คุณจะทำเป็นไม่รู้จักผมเลยก็ได้ ผมไม่สน แต่อย่ามายุ่งกับลูกเมียผมอีก จะให้ดีคุณช่วยหายไปเหมือนวันนั้นได้ไหม ผมจะขอบคุณมาก”โอ้...จารุพัชรนิ่วหน้านิดๆ แอบเจ็บแทนคนฟัง ธิเบศเวอร์ชั่นปราบมารนี้อาจดูใจร้ายไปสักหน่อยสำหรับเมลดา แต่กลับกร้าวใจคนเป็นภรรยาเหลือเกิน พ่อคนหวงลูกหวงเมีย พ่อพระเอกนอกจอโอ๊ย...พ่อทูนหั
“จะรีบไปไหนล่ะคะ”เมลดาก้าวเข้ามาหาสองแม่ลูก วันนี้เธอสวมชุดว่ายน้ำทูพีชมีเสื้อคลุมเนื้อบางเบาสวมทับไว้อย่างสวยเก๋และดูเซ็กซี่ เรือนร่างของนางแบบสาวตรงหน้างดงามอย่างไม่มีที่ติ“คุณนั่นเอง มาเดินเล่นเหรอคะ”จารุพัชรยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน“เมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นน่ะค่ะ พอดีเห็นคุณกับ...ลูกเสียก่อน” เมลดาส่งยิ้มหวานให้ “นี่ลูกคุณเหรอคะ หนูชื่ออะไรเอ่ย”“ชื่อน้องทับทิมค่ะ”ชื่อนั้นทำให้คนฟังหน้าเสียไปนิดๆตั้งชื่อพ้องกับชื่อพ่อขนาดนี้ กลัวใครไม่รู้หรือไงว่าสามีชื่ออะไร เมลดาค่อนขอดคนตรงหน้าในใจอย่างหมั่นไส้ แต่ใบหน้าสวยยังคงยิ้มหวาน“แหม...ถ้าไม่บอกคงไม่รู้นะคะว่าเป็นลูกธิม”คนฟังชักทะแม่งหู ใครๆ ก็บอกว่าลูกสาวเธอหน้าเหมือนพ่ออย่างกับแกะจากพิมพ์เดียวกัน คำพูดของคนตรงหน้ามีนัยยะใดแอบแฝงหรือเปล่านะ“ขอโทษนะคะที่ฉันพูดตรงไปหน่อย แต่จริงๆ ฉันอยากบอกว่าหนูทับทิมหน้าเหมือนคุณมากกว่า ไม่ค่อยมีเค้าธิ
เมลดากัดฟันแน่น เมื่อเห็นอดีตคนที่เธอเคยทิ้งไปอย่างไม่ไยดีคอยเอาใจผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ คนนั้นอย่างหวานชื่น ทั้งที่ยัยนั่นไม่มีอะไรคู่ควรกับเขาสักอย่าง คนที่ไม่อาจเทียบกับเมลดานางแบบสาวสวยไฮโซคนนี้แม้ปลายเล็บด้วยซ้ำคิดไปแล้วก็แสนจะเจ็บใจ ค่าที่วันนั้นเธอไม่น่าใจเร็วด่วนได้หลงไปกับเปลือกนอกจอมปลอมของสามีไฮโซคนปัจจุบันอ้อ! ไม่ใช่สิ เขาคนนั้นกำลังจะกลายเป็นอดีตสามีต่างหาก ในเมื่อเธอกำลังจะฟ้องหย่าเร็วๆ นี้แล้วดวงตาสวยเฉี่ยวมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของอดีตแฟนเก่า ธิเบศในวันนี้หล่อเหลาและมีออร่าจับ ต่างจากธิเบศคนเก่าที่เธอทิ้งไปอย่างไม่ลังเลในวันนั้น ก็ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะกลายเป็นพระเอกซุปเปอร์สตาร์เหมือนอย่างวันนี้ เพราะถ้ารู้คนที่นั่งตรงหน้าเขาต้องเป็นเธอไม่ใช่ผู้หญิงกระจอกๆ คนนั้นยิ่งเห็นเขาเอาอกเอาใจภรรยา ดูเหมือนว่าเขาจะรักเธอคนนั้นมากเท่าไหร่ หัวใจเธอก็ยิ่งร้อนรนราวกับไฟเผาผลาญ นึกอยากย้อนวันเวลากลับไปในวันที่เคยรักกันอีกครั้ง เธอยังจำได้ว่าธิเบศทั้งรักและเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน ความเร่าร้อนของเขาทำให้เธอติดใจไม่หาย แม้สามีคนปัจจุบันก็ยังไม่ทำให้เธอพอใจเท่า
“กุ้งผัดกระเทียมพริกไทยดำนี่อร่อยดี เดี๋ยวผมแกะให้นะ” ธิเบศ เอ่ยหน้าตาเฉย พลางแกะกุ้งตัวโตในจานตนก่อนตักให้เธอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นโอ๊ย...อีพี่ธิมเวอร์ชั่นเลือดเย็น!!!นี่เธอควรดีใจหรือสงสารผู้หญิงคนนั้นดีล่ะเนี่ย“ทำแบบนั้นกับเธอจะดีเหรอคะ”“หรือคุณอยากให้ผมบอกเบอร์ตัวเองล่ะ” คนถูกถามชะงักไป“ถ้าคุณอยากบอก แจนจะไปห้ามอะไรได้”“ได้สิ แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมรู้ดีว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ผมไม่อยากให้เราต้องมีปัญหากันทีหลัง” คนฟังชะงักไป พลางคิดตามมันก็จริงแฮะ เธอเคยเห็นในละครบ่อยๆ ฉากที่นางร้ายพยายามเข้ามายุแหย่ทำให้พระเอกกับนางเอกเข้าใจผิด แล้วส่วนใหญ่มันก็สำเร็จสมใจนางร้าย 99% เสียด้วย ใครจะไปนึกว่าเธอต้องมาเจอเหตุการณ์แบบในละครน้ำเน่าพวกนั้น ยังดีที่ไม่ต้องมีฉากลุกขึ้นตบธิเบศถอนหายใจเบาๆ พลางยื่นมือมากุมมือภรรยาสาวไว้“ผมชอบอยู่กับปัจจุบันมากกว่าอดีตนะ อะไรที่ผ่านมาแล้วน่าจดจำก็จำ แต่ถ้ามันไม่น่าจำ ผมก็ไม่อยากเก็บไว้ให้รกสมอง”“แ
“นี่คุณแจน ภรรยาของผม แจนครับ นี่คือคุณเมลดา เขาเป็น ‘อดีตคนเคยรู้จัก’...” เมลดาชะงักกึก“แค่คนรู้จักเท่านั้นเองหรือคะ แต่เท่าที่เมจำได้ตอนนั้นเรารักกันมาก มากเสียจนคุณเคยบอกว่าอยากแต่งงานกับเมด้วยซ้ำนะคะ”จารุพัชรถึงกับสะอึก อึ้งไปชั่วขณะ พอหันไปมองสามีก็เห็นสีหน้านิ่ง แต่แววตาดุขึ้ง ดูท่าเรื่องที่ว่าคงมีมูลอยู่มากทีเดียว“เมยังไม่เคยลืมช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เมคิดถึงธิมมากเลยนะคะ”หืม...คิดจะเปิดเกมส์บุกกันแบบนี้เลยเหรอแม่คุณ“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณเมลดา” จารุพัชรส่งยิ้มให้ ราวกับไม่ถือสา แต่ตามองคนตรงหน้าอย่างประเมินผลเงียบๆผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสวยทั้งรูปร่างดีราวกับดารานางแบบ การแต่งกาย หรือบุคลิกภาพก็ไม่ได้ต่ำทรามอะไร ดูไปแล้วก็เหมาะสมกับธิเบศไม่น้อย ยกเว้นก็แต่แววตาของเจ้าหล่อนที่เผยความปรารถนาออกมาชัดเจนโจ่งแจ้งไปหน่อย แต่ทุกอย่างไม่สำคัญสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนข้างกายเธอต่างหากที่คิดอย่างไร ยังอาวรณ์กับอดีต หรือไม่คิดอะไรด้วยแล้ว นี่ต่างหากที่สำคัญ และเท่
“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่าไปยึดติดอะไรมากเลยค่ะ นั่นลูกหลับแล้ว” ธิเบศหันไปมองเจ้าตัวน้อยที่เอียงคอซบไหล่พ่อหลับปุ๋ยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้“ถ้าถึงวันนั้น วันที่ผมไม่ได้เป็นดาราชื่อดัง ไม่ใช่ธิม-ธิเบศที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ แต่กลายเป็นนายธิเบศผู้ชายธรรมดา คุณจะว่าไง”“จะไปว่าอะไร ก็แค่หาสามีใหม่สิคะ” คำนั้นทำให้ชายหนุ่มหันขวับ“ว่าไงนะ”“ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นค่ะ ดูคุณทำหน้าเข้าสิ” จารุพัชรหัวเราะคิก ก่อนที่จะหันไปมองสบตาเขา“คุณจะเป็นดาราดัง หรือเป็นคนธรรมดาแล้วไง ตราบใดที่คุณเป็นพ่อของลูกและเป็นสามีที่ดีของแจนแบบนี้ ก็พอแล้วนี่คะ”“ไดอะล็อกนี้คุ้นๆ จัง แต่ผมชอบแฮะ”“แจนก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย ขอแค่มีคุณกับลูก แจนก็มีความสุขแล้ว” หญิงสาวเงยหน้าสบตาเขาอย่างจริงใจ ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากรับจุมพิตแสนหวานของสามีที่โน้มลงมาทาบทับอย่างนุ่มนวลชวนฝันสองหนุ่มสาวและลูกน้อยโอบกอดกันท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นที่ตะวันใกล้ลับขอบ
“ไงธิม...ที่พักโอเคไหม”เสียงทักทายมาตามสายของผู้จัดการคู่ใจทำให้พระเอกหนุ่มที่กำลังทอดสายตามองไปที่ชายหาดซึ่งมีร่างเพรียวบางนั่งอยู่บนผืนทรายสีขาวละเอียดราวกับแป้ง ข้างกายมีลูกสาวตัวน้อยนั่งจุมปุ๊ก ทั้งสองกำลังเล่นของเล่นกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะใสๆ คลอกับเสียงคลื่นทะเลทำให้เขาพลอยเพลิดเพลินไปด้วย“ธิม...ฟังพี่อยู่หรือเปล่า”“ครับ ฟังอยู่ครับ”“แล้วเรื่องละครเรื่องใหม่ที่พี่ส่งไปธิมจะว่ายังไงรับหรือเปล่า บทพระเอกพ่อลูกอ่อนน่ะ”ธิเบศยิ้มกับตัวเอง เมื่อได้ยินคำนั้น“ถ้าพี่บีอ่านแล้วโอเค ก็ตอบรับไปได้เลยครับ อ้อ! แจ้งทางกองไปด้วยว่า...”“ไม่จูบจริงทุกกรณี เลิฟซีนต้องไม่ถึงเนื้อถึงตัวมาก” ศุภกรดักคอพระเอกในสังกัดอย่างรู้แกว เพราะหลังๆ ชายหนุ่มค่อนข้างเคร่งเรื่องนี้มาก จะบทไหนเขาก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น หากตกลง เขาก็รับเล่น“เท่านี้ใช่ไหมครับ”“เดี๋ยวๆ จะรีบไปไหนกัน พี่ยังพูดไม่จบ มีอีกงานเพิ่งเข้ามาวันนี้ เป็นงานถ่ายโฆษณาสินค้าพวกสเปรย์