มิรดาจ้องมองภาพผู้หญิงที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาภายในห้องพักของตัวเองด้วยความอัศจรรย์ใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เพราะไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่เห็นจากกระจกเงาจะคือตัวเองจริงๆ
“นี่เราจริงๆ เหรอเนี่ย”
มือเล็กยกขึ้นแตะใบหน้านวลที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจากช่างมืออาชีพที่ธีธัชจัดหามาให้ซ้ำไปซ้ำมา
หล่อนจริงๆ ด้วย...
กลีบปากอิ่มหนาเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูหวานแวววาว แก้มนวลถูกแต้มด้วยสีสันจนมองไม่เห็นผิวเนื้อแท้จริง
ดวงตาเลื่อนลงมามองที่ลำคอของตัวเองที่ถูกเปิดเผยออกมาจากอาภรณ์มากกว่าทุกครั้ง บ่าเนียนมีเพียงแค่สายเล็กๆ สองเส้นที่ร้อยจากคริสตัสสีทองคล้องเอาไว้ทั้งสองข้าง และต่ำลงไปกว่านั้นก็คือเนินอกสาวที่หล่อนไม่เคยเปิดเผยแกสายตาของใครมาก่อนเลย
หล่อนไม่เคยมั่นใจกับรูปร่างของตัวเองเลย โดยเฉพาะที่หน้าอก
มันใหญ่เกินตัว และมันก็ทำให้หล่อนต้องสวมใส่ชุดตัวใหญ่กว่าขนาดจริงมาตลอด
ตั้งแต่อายุสิบสอง หน้าอกของหล่อนโตเร็วและเด่นชัดกว่าเพื่อนๆ ร่วมชั้น ซึ่งขนาดของมันใหญ่โตจนถูกแซวจากเพื่อนผู้ชายบ่อยครั้ง
หล่อนต้องซ่อนตัวเองเอาไว้ภายใต้เสื้อตัวโคร่ง และก็ห่อไหล่ลงเมื่อต้องเดินผ่านผู้คน เพราะเกรงว่าหน้าอกหน้าใจของตัวเองจะไปสะดุดตาและถูกแซวเข้าอีก
จริงอยู่ ธีธัชชอบผู้หญิงหน้าอกโต แต่ไม่ใช่ผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่เกินความพอดีเช่นหล่อน
หญิงสาวถอนใจออกมาด้วยความเป็นกังวล และก็ตั้งใจจะไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับชุดราตรีสั้นรัดรูปที่ธีธัชสั่งซื้อมาให้ แต่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน
หล่อนชะงักกึก ก่อนจะเดินไปหยุดที่ประตู และมองลอดรูเล็กออกไป ซึ่งก็เห็นว่าเจ้าของเสียงเคาะประตูก็คือเจ้านายสุดหล่อนั่นเอง
จะทำยังไงดี?
หล่อนลังเล และเต็มไปด้วยความหวาดวิตก ซึ่งมันต่างไปจากภาพลักษณ์ที่หล่อนเพียรสร้างเอาไว้เหลือเกิน
“คุณมิ้ม ผมเองนะ แต่งตัวเสร็จหรือยังครับ”
“เอ่อ... เสร็จ... เสร็จแล้วค่ะบอส”
หล่อนไม่มีทางเลือกอีกแล้ว นอกจากต้องเปิดประตูออกไปต้อนรับเขา
และโลกทั้งใบของหล่อนก็แตกระเบิดเฉียบพลัน เมื่อดวงตาปะทะเข้ากับผู้ชายตัวสูงใหญ่ ในชุดสูทสีทองสวยซึ่งเป็นสีเดียวกับชุดราตรีของหล่อน
ธีธัชหล่อเหลาแบบนี้เสมอ แต่ค่ำคืนนี้เขาหล่อเหลามากยิ่งขึ้น ชนิดที่เรียกได้ว่าทำเอาเลขาที่เก็บอารมณ์ได้ยอดเยี่ยมเช่นหล่อน แทบหลุดแสดงความหิวกระหายออกไป
แข้งขาของหล่อนอ่อนแรง ทุกอย่างรอบตัวร้อนผ่าวคล้ายกองเพลิงกำลังลุกโชน
“สะ... หวัดดีค่ะ... บอส...”
หล่อนพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ มีสมาธิ และอย่าหลุดคอนเซ็ปต์เลขาผู้ทรงประสิทธิภาพ แต่กว่าจะทำได้สำเร็จ หล่อนก็สูญเสียพลังงานไปมากมายเหลือเกิน
“สวัสดีครับ คุณมิ้ม...”
ดวงตาคมกริบมองหล่อนทั้งตัว มองขึ้นลงหลายครั้ง ก่อนที่สายตาจะมาหยุดที่ดวงตาที่เต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วนใจของหล่อนเป็นที่สุดท้าย
“ไม่น่าเชื่อว่าสาวสวยตรงหน้าของผมจะคือคุณนะ คุณมิ้ม”
“เอ่อ... มิ้มก็สวยได้แค่นี้แหละค่ะบอส”
หล่อนต้องระมัดระวังการแสดงออก และคำพูดของตัวเองอย่างยิ่งยวด เนื้อตัวสาวยามถูกดวงตาของธีธัชมองสำรวจ มันร้อนวูบวาบเหลือเกิน ความรู้สึกทางเพศจู่โจมเข้าสู่ใจกลางร่างกสาว และแผ่ซ่านไปทั่วทั้งจิตวิญญาณ
หล่อนร้อนผ่าว...
หากมีพรวิเศษสักข้อหนึ่งละก็ หล่อนอยากขอให้ได้อยู่ในอ้อมแขนของธีธัชสักคืน แค่ค่ำคืนเดียว แล้วหล่อนจะไม่ขออะไรอีกเลย
“คุณสวยมากต่างหากล่ะ โดยเฉพาะ...”
เขาหยุดพูดแค่นั้น และสายตาเลื่อนมาจ้องมองหน้าอกของหล่อนด้วยสายตาเปิดเผย
“ผมเห็นคุณในชุดสูทปิดบังเนื้อตัวจนเคยชิน พอมาเห็นคุณใส่ชุดราตรีเปิดเนื้อเปิดตัวแบบนี้ ไม่ชินตาเลยแหะ”
“เอ่อ... มิ้มเข้าไปเปลี่ยนชุดก็ได้นะคะ มิ้มก็ไม่ชินกับชุดแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
หล่อนกำลังจะทำตามที่พูด แต่แขนเรียวถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้เสียก่อน ไอร้อนจากปลายนิ้วมือแข็งแรงของธีธัช ทำให้กายสาวลุกเป็นไฟ
หล่อนสะท้านไปทั้งตัว ดวงตาเบิกกว้าง จนต้องถอยหลังหนีด้วยความระแวดระวังโดยไม่รู้ตัว
ธีธัชสูดลมหายใจเข้าปอด แกะสายตาจากเนินเนื้ออกอวบที่ใหญ่มากของเลขาคู่ใจ ขึ้นมาสบตากับเจ้าหล่อนแทน
“ผมไม่มีเวลาให้คุณเปลี่ยนชุดหรอกครับ ไปกันเถอะ งานใกล้จะเริ่มแล้ว”
“แต่มิ้มใช้เวลาไม่ถึงนาทีหรอกค่ะ แค่เปลี่ยนชุดเอง...”
“ชุดนี้เหมาะกับคุณที่สุดแล้ว ไปกันเถอะ”
แต่เมื่อเจ้านายหนุ่มสุดหล่อยืนกรานความต้องการเดิม หล่อนจึงไม่สามารถโต้แย้งใดๆ ได้อีก จำต้องเดินตามหลังเขาเข้าไปในลิฟต์
ภายในลิฟต์มีเพียงแค่หล่อนกับธีธัชตามลำพัง หล่อนลอบมองเขา ในขณะที่เขากำลังวุ่นวายอยู่กับการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือ แต่เขาก็ยังมีสมาธิที่ดีพอที่จะคุยกับหล่อนได้
“ผู้หญิงคนที่คุณหาให้ผมเมื่อวาน สุดยอดเลยนะคุณมิ้ม นมใหญ่ แม้ว่าจะเป็นนมปลอมก็เถอะ”
“เอ่อ... มิ้มดีใจที่ถูกใจบอสค่ะ”
เขาหย่อนโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋ากางเกง และมองหล่อน
แววตาของเขานิ่ง ไม่แสดงความรู้สึกอะไร ขณะพูดออกมา
“หาให้ผมอีก แบบเมื่อวานน่ะ”
“คืนนี้เหรอคะบอส”
หล่อนเอ่ยถามแปลกใจ เพราะธีธัชบอกหล่อนเองว่าคืนนี้งด เนื่องจากติดงานเลี้ยง
“ไม่ใช่ คืนพรุ่งนี้น่ะครับ ผมขอเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่คนเดิมนะ”
“ได้ค่ะบอส”
ตอนที่ 4.หล่อนตอบรับเสียงเรียบ ขณะก้าวเดินตามคนตัวโตออกไป เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก“วันนี้บอสขับรถเองเลยเหรอคะ”“ใช่ครับ พอดีลุงแกไม่ค่อยสบาย ผมก็เลยขับเอง”“เอ่อ... ให้มิ้มขับให้ไหมคะ”ธีธัชที่กำลังจะเปิดประตูรถชะงัก แววตาที่มองมามีประกายขบขัน“คุณคิดว่าผมจะเอาเปรียบคุณขนาดนั้นเลยหรือ คุณมิ้ม”“เอ่อ... บอสไม่ได้เอาเปรียบนะคะ แต่มิ้มเป็นเลขาฯ เอ่อ...”หล่อนยังพูดไม่จบ ธีธัชก็แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขัน“ผมรู้ว่าคุณทำเพื่อผมได้ทุกอย่าง คุณเก่ง คุณเป็นเลขายอดวิเศษที่ผมไม่อาจจะหาใครมาเทียบได้ แต่เรื่องขับรถ ให้ผมทำเองบ้างเถอะนะ”เขาหัวเราะขณะก้าวขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยรถ หล่อนรีบก้าวตามขึ้นไปนั่งเบาะหน้าข้างๆ“มิ้มก็แค่อยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้นเองค่ะ”คนตัวโตที่เพิ่งคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ หันมามอง แต่สายตาของเขาไม่ได้มองหน้าของหล่อนหรอกนะ แต่มันจ้องไปที่หน้าอกที่ล้นทะลักของหล่อนแทน คล้ายกับเขาลืมตัวนี่ธีธัชจะรู้ไหมนะว่าสายตาของเขาทำให้หล่อนร้อนเป็นไฟรู้หรอกว่าเขาก็มองหล่อน เหมือนกับที่ผู้ชายมองผู้หญิงนมโตนั่นแหละ ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรเลย แต่ก็อดหวั่นไหวไม่ได้“คุณทำหน้
ตอนที่ 5.หล่อนอยากกลับห้อง...ไม่อยากอยู่ในสถานที่ที่ไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้เลยมิรดาก้มลงมองเนื้อตัวของตัวเองอย่างเวทนา ต่อให้หล่อนสวยแค่ไหน พยายามทำตัวให้คู่ควรกับเขายังไง แต่ธีธัชก็ไม่มีทางมองสองแขนยกขึ้นโอบกอดเนื้อตัวเอาไว้ด้วยความเหน็บหนาว ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมีเสื้อสูทของใครบางคนคลุมทับมาบนบ่า“อุ๊ยยยย...”หล่อนตกใจมาก รีบหันไปมอง ก็พบว่าผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเป็นเจ้าของเสื้อสูทบนบ่าบอบบางของตัวเอง“ผมเห็นคุณยืนตัวสั่นน่ะ ก็เลยให้ยืม”“ขอบคุณค่ะ แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ”หล่อนจะส่งเสื้อสูทคืนเขา แต่เขาขยับออกห่าง และส่ายหน้า“ไม่เป็นไรครับ ยืมเถอะ ผมไม่คิดเงินหรอก”มิรดาอมยิ้มขบขันออกมาในที่สุด“ผมดีใจที่เห็นคุณหัวเราะนะครับ”“ฉันก็ไม่ได้ร้องไห้สักหน่อยนี่คะ”ผู้ชายเจ้าของเสื้อสูทเดินเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะชวนหล่อนไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร และชวนคุยต่อ“ก็ผมเห็นคุณเดินหน้าเศร้านี่ครับ”หล่อนเอียงหน้ามองเจ้าของคำพูดที่ตัวเองไม่อาจจะปฏิเสธได้“นี่แสดงว่าคุณจับตามองฉันตลอดเวลาเลยอย่างนั้นเหรอคะ”เขาหัวเราะอีกแล้ว ท่าทางสบายๆ ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลย หากหล่อนเป็นแบบเขาบ้างก็
ตอนที่ 1.เสียงเคาะประตูห้องเช่าดังขึ้นหนึ่งครั้ง...“สักครู่นะคะ”พลอยแพรวาที่เพิ่งเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกเสร็จรีบเช็ดไม้เช็ดมือด้วยความรีบร้อน“รอแม่แปบนะคะไพลิน”หญิงสาวพูดกับลูกสาววัยเก้าเดือนกว่าที่นอนอยู่บนเบาะนุ่มที่ปูเอาไว้บนพื้นห้องด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นและเดินตรงไปยังประตูห้องเช่า เพราะคิดว่าเป็นป้าสำลี คนที่หล่อนจ้างเลี้ยงลูกสาวหล่อนกุมลูกบิดประตู และดึงให้มันเปิดกว้างออก และก็ต้องช็อกตาค้าง เมื่อบุคคลที่อยู่หลังบานประตูไม่ใช่ป้าสำลี แต่กลับเป็นคนที่หล่อนพยายามหนีมาตลอดคริสเตียโน่ ลาร์กอส มหาเศรษฐีหนุ่มรูปงามผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ในลาสเวกัส เขาเป็นเจ้าของคาสิโนยักษ์ใหญ่ รวมถึงโรงแรมหรูในหลายประเทศ หากเอ่ยชื่อเขาออกมา ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักความทรงจำในอดีตเมื่อต้นปีก่อนผุดขึ้นมาในสมองอีกครั้งราวกับดอกเห็ดหน้าฝนในอดีตหล่อนคือสาวใช้ในบ้านของเศรษฐีคนหนึ่ง แต่ค่ำคืนหนึ่งที่ไม่มีใครอยู่บ้าน หล่อนได้เก็บบัตรเชิญงานเลี้ยงหรูหราได้จากถังขยะในห้องของอรนภา ซึ่งเป็นลูกสาวคนสวยของบ้าน และคงเพราะโชคชะตาเล่นกล ทำให้หล่อนกล้าบ้าบิ่นพอที่จะปลอมแปลงตัวเป็นอรนภาและไปร่วมงานเลี้ยงในค่ำคื
ตอนที่ 2.ดังนั้นการได้ทำงานร่วมกับเขาทุกวัน ได้มองเขาในเวลาที่เขาเผลอ ได้พูดคุยกับเขา ได้เห็นรอยยิ้มสดใสของเขา มันจึงมีค่ากับหล่อนมากมายเหลือเกิน เพราะอย่างนี้ไง ตลอดห้าปีที่ผ่านมา หล่อนถึงไม่เคยลาหยุดงานเลยหลายครั้งที่หล่อนอิจฉาผู้หญิงพวกนั้น และหลายครั้งที่หล่อนอยากจะขึ้นไปทำหน้าที่บนเตียงแทนพวกหล่อน แต่ก็จำต้องหยุดคิด เพราะหากหล่อนทำเช่นนั้นลงไป ธีธัชจะไม่มีวันยอมทำงานร่วมกับหล่อนอีก และแน่นอนว่า หล่อนจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิด หรือว่าเห็นหน้าเขาอีกเลยชั่วชีวิตหล่อนต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ภายในใจ เก็บซ่อนเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกแม้ว่าจะรักเขามากมายแค่ไหนก็ตาม...หล่อนเจ็บปวดนะ ทรมานมากด้วย แต่ก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้อีกแล้ว“เมื่อกี้คุณทำได้ดีมากเลยนะคุณมิ้ม”เจ้าของช่วงขายาวเอ่ยชมเลขาฯ ของตัวเองไม่ขาดปาก หลังจากจบการประชุมใหญ่ และทุกอย่างราบรื่นจนน่าทึ่ง“ไม่ใช่เพราะมิ้มหรอกค่ะ เพราะบอสต่างหาก ลูกค้าถึงได้เชื่อถือและยอมตกลงเซ็นต์สัญญาง่ายกว่าที่คาดคิดเอาไว้”ชายหนุ่มหยุดเดิน และมองเลขาที่ตัวเองเล็กกว่าตนเองไม่น้อย ระดับศีรษะของหล่อนอยู่แค่ปลายคางของ
ตอนที่ 5.หล่อนอยากกลับห้อง...ไม่อยากอยู่ในสถานที่ที่ไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้เลยมิรดาก้มลงมองเนื้อตัวของตัวเองอย่างเวทนา ต่อให้หล่อนสวยแค่ไหน พยายามทำตัวให้คู่ควรกับเขายังไง แต่ธีธัชก็ไม่มีทางมองสองแขนยกขึ้นโอบกอดเนื้อตัวเอาไว้ด้วยความเหน็บหนาว ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมีเสื้อสูทของใครบางคนคลุมทับมาบนบ่า“อุ๊ยยยย...”หล่อนตกใจมาก รีบหันไปมอง ก็พบว่าผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเป็นเจ้าของเสื้อสูทบนบ่าบอบบางของตัวเอง“ผมเห็นคุณยืนตัวสั่นน่ะ ก็เลยให้ยืม”“ขอบคุณค่ะ แต่ว่าไม่เป็นไรค่ะ”หล่อนจะส่งเสื้อสูทคืนเขา แต่เขาขยับออกห่าง และส่ายหน้า“ไม่เป็นไรครับ ยืมเถอะ ผมไม่คิดเงินหรอก”มิรดาอมยิ้มขบขันออกมาในที่สุด“ผมดีใจที่เห็นคุณหัวเราะนะครับ”“ฉันก็ไม่ได้ร้องไห้สักหน่อยนี่คะ”ผู้ชายเจ้าของเสื้อสูทเดินเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะชวนหล่อนไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร และชวนคุยต่อ“ก็ผมเห็นคุณเดินหน้าเศร้านี่ครับ”หล่อนเอียงหน้ามองเจ้าของคำพูดที่ตัวเองไม่อาจจะปฏิเสธได้“นี่แสดงว่าคุณจับตามองฉันตลอดเวลาเลยอย่างนั้นเหรอคะ”เขาหัวเราะอีกแล้ว ท่าทางสบายๆ ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลย หากหล่อนเป็นแบบเขาบ้างก็
ตอนที่ 4.หล่อนตอบรับเสียงเรียบ ขณะก้าวเดินตามคนตัวโตออกไป เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก“วันนี้บอสขับรถเองเลยเหรอคะ”“ใช่ครับ พอดีลุงแกไม่ค่อยสบาย ผมก็เลยขับเอง”“เอ่อ... ให้มิ้มขับให้ไหมคะ”ธีธัชที่กำลังจะเปิดประตูรถชะงัก แววตาที่มองมามีประกายขบขัน“คุณคิดว่าผมจะเอาเปรียบคุณขนาดนั้นเลยหรือ คุณมิ้ม”“เอ่อ... บอสไม่ได้เอาเปรียบนะคะ แต่มิ้มเป็นเลขาฯ เอ่อ...”หล่อนยังพูดไม่จบ ธีธัชก็แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงขบขัน“ผมรู้ว่าคุณทำเพื่อผมได้ทุกอย่าง คุณเก่ง คุณเป็นเลขายอดวิเศษที่ผมไม่อาจจะหาใครมาเทียบได้ แต่เรื่องขับรถ ให้ผมทำเองบ้างเถอะนะ”เขาหัวเราะขณะก้าวขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยรถ หล่อนรีบก้าวตามขึ้นไปนั่งเบาะหน้าข้างๆ“มิ้มก็แค่อยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่านั้นเองค่ะ”คนตัวโตที่เพิ่งคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ หันมามอง แต่สายตาของเขาไม่ได้มองหน้าของหล่อนหรอกนะ แต่มันจ้องไปที่หน้าอกที่ล้นทะลักของหล่อนแทน คล้ายกับเขาลืมตัวนี่ธีธัชจะรู้ไหมนะว่าสายตาของเขาทำให้หล่อนร้อนเป็นไฟรู้หรอกว่าเขาก็มองหล่อน เหมือนกับที่ผู้ชายมองผู้หญิงนมโตนั่นแหละ ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรเลย แต่ก็อดหวั่นไหวไม่ได้“คุณทำหน้
ตอนที่ 3.มิรดาจ้องมองภาพผู้หญิงที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาภายในห้องพักของตัวเองด้วยความอัศจรรย์ใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เพราะไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่เห็นจากกระจกเงาจะคือตัวเองจริงๆ“นี่เราจริงๆ เหรอเนี่ย”มือเล็กยกขึ้นแตะใบหน้านวลที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจากช่างมืออาชีพที่ธีธัชจัดหามาให้ซ้ำไปซ้ำมาหล่อนจริงๆ ด้วย...กลีบปากอิ่มหนาเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูหวานแวววาว แก้มนวลถูกแต้มด้วยสีสันจนมองไม่เห็นผิวเนื้อแท้จริงดวงตาเลื่อนลงมามองที่ลำคอของตัวเองที่ถูกเปิดเผยออกมาจากอาภรณ์มากกว่าทุกครั้ง บ่าเนียนมีเพียงแค่สายเล็กๆ สองเส้นที่ร้อยจากคริสตัสสีทองคล้องเอาไว้ทั้งสองข้าง และต่ำลงไปกว่านั้นก็คือเนินอกสาวที่หล่อนไม่เคยเปิดเผยแกสายตาของใครมาก่อนเลยหล่อนไม่เคยมั่นใจกับรูปร่างของตัวเองเลย โดยเฉพาะที่หน้าอกมันใหญ่เกินตัว และมันก็ทำให้หล่อนต้องสวมใส่ชุดตัวใหญ่กว่าขนาดจริงมาตลอดตั้งแต่อายุสิบสอง หน้าอกของหล่อนโตเร็วและเด่นชัดกว่าเพื่อนๆ ร่วมชั้น ซึ่งขนาดของมันใหญ่โตจนถูกแซวจากเพื่อนผู้ชายบ่อยครั้งหล่อนต้องซ่อนตัวเองเอาไว้ภายใต้เสื้อตัวโคร่ง และก็ห่อไหล่ลงเมื่อต้องเดินผ่านผู้คน เพราะเกรงว่าห
ตอนที่ 2.ดังนั้นการได้ทำงานร่วมกับเขาทุกวัน ได้มองเขาในเวลาที่เขาเผลอ ได้พูดคุยกับเขา ได้เห็นรอยยิ้มสดใสของเขา มันจึงมีค่ากับหล่อนมากมายเหลือเกิน เพราะอย่างนี้ไง ตลอดห้าปีที่ผ่านมา หล่อนถึงไม่เคยลาหยุดงานเลยหลายครั้งที่หล่อนอิจฉาผู้หญิงพวกนั้น และหลายครั้งที่หล่อนอยากจะขึ้นไปทำหน้าที่บนเตียงแทนพวกหล่อน แต่ก็จำต้องหยุดคิด เพราะหากหล่อนทำเช่นนั้นลงไป ธีธัชจะไม่มีวันยอมทำงานร่วมกับหล่อนอีก และแน่นอนว่า หล่อนจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิด หรือว่าเห็นหน้าเขาอีกเลยชั่วชีวิตหล่อนต้องเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ภายในใจ เก็บซ่อนเอาไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกแม้ว่าจะรักเขามากมายแค่ไหนก็ตาม...หล่อนเจ็บปวดนะ ทรมานมากด้วย แต่ก็ไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้อีกแล้ว“เมื่อกี้คุณทำได้ดีมากเลยนะคุณมิ้ม”เจ้าของช่วงขายาวเอ่ยชมเลขาฯ ของตัวเองไม่ขาดปาก หลังจากจบการประชุมใหญ่ และทุกอย่างราบรื่นจนน่าทึ่ง“ไม่ใช่เพราะมิ้มหรอกค่ะ เพราะบอสต่างหาก ลูกค้าถึงได้เชื่อถือและยอมตกลงเซ็นต์สัญญาง่ายกว่าที่คาดคิดเอาไว้”ชายหนุ่มหยุดเดิน และมองเลขาที่ตัวเองเล็กกว่าตนเองไม่น้อย ระดับศีรษะของหล่อนอยู่แค่ปลายคางของ
ตอนที่ 1.เสียงเคาะประตูห้องเช่าดังขึ้นหนึ่งครั้ง...“สักครู่นะคะ”พลอยแพรวาที่เพิ่งเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกเสร็จรีบเช็ดไม้เช็ดมือด้วยความรีบร้อน“รอแม่แปบนะคะไพลิน”หญิงสาวพูดกับลูกสาววัยเก้าเดือนกว่าที่นอนอยู่บนเบาะนุ่มที่ปูเอาไว้บนพื้นห้องด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นและเดินตรงไปยังประตูห้องเช่า เพราะคิดว่าเป็นป้าสำลี คนที่หล่อนจ้างเลี้ยงลูกสาวหล่อนกุมลูกบิดประตู และดึงให้มันเปิดกว้างออก และก็ต้องช็อกตาค้าง เมื่อบุคคลที่อยู่หลังบานประตูไม่ใช่ป้าสำลี แต่กลับเป็นคนที่หล่อนพยายามหนีมาตลอดคริสเตียโน่ ลาร์กอส มหาเศรษฐีหนุ่มรูปงามผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ในลาสเวกัส เขาเป็นเจ้าของคาสิโนยักษ์ใหญ่ รวมถึงโรงแรมหรูในหลายประเทศ หากเอ่ยชื่อเขาออกมา ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักความทรงจำในอดีตเมื่อต้นปีก่อนผุดขึ้นมาในสมองอีกครั้งราวกับดอกเห็ดหน้าฝนในอดีตหล่อนคือสาวใช้ในบ้านของเศรษฐีคนหนึ่ง แต่ค่ำคืนหนึ่งที่ไม่มีใครอยู่บ้าน หล่อนได้เก็บบัตรเชิญงานเลี้ยงหรูหราได้จากถังขยะในห้องของอรนภา ซึ่งเป็นลูกสาวคนสวยของบ้าน และคงเพราะโชคชะตาเล่นกล ทำให้หล่อนกล้าบ้าบิ่นพอที่จะปลอมแปลงตัวเป็นอรนภาและไปร่วมงานเลี้ยงในค่ำคื