หน้าหลัก / LGBTQ+ / อินกินหมี่ / บทที่ 5 อิน...กันต์ (4/6)

แชร์

บทที่ 5 อิน...กันต์ (4/6)

ผู้เขียน: ภุมโม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-04 10:15:42

ขณะนี้วัยรุ่นสี่คนกำลังสำรวจโรงแรม ร้านค้าและบริเวณชายหาดด้วยความตื่นตาตื่นใจ แห้วซึ่งเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในทริปใส่ชุดพละของโรงเรียนสมัยมัธยมเพื่อไม่ให้เป็นที่จับตามอง บั๊มเปรียบเสมือนเจ้าพ่อแฟชั่นผู้นำทางการแต่งตัวสวมกางเกงขายาวลายช้างสีขาวดำพร้อมแว่นตารูปวงรีที่มีเลนส์สีแดง

หมี่ใส่กางเกงขาสั้นสีเหลืองลายแตงโมแสนน่ารัก เผยเนื้อหนังมังสาท่อนบนให้ใครต่อใครได้เห็น ขณะที่อินสวมกางเกงเลสีน้ำเงินเข้ม เสื้อกล้ามสีขาวและปิดทับด้วยเสื้อฮาวายสีเหลืองลายมะนาว

“ปกติไม่เคยเห็นมึงใส่เสื้อกล้ามกับเสื้อฮาวายแบบนี้เลย” หมี่ที่เพิ่งสังเกตการแต่งตัวของรูมเมทก็เอ่ยทัก

“หล่อมั้ย” อินเห็นว่าคนตัวเล็กให้ความสนใจในเรื่องนี้ก็เลยถามความเห็นแต่ดูเหมือนว่าประโยคเมื่อครู่จะทำให้หมี่หน้าแดงและเลิ่กลั่ก

“ละ...หล่อเหล่อ...อะไรของมึง!หน้าบูดเป็นตูดลิงขนาดนั้น!”

“หึ เหรอ กูว่าวันนี้กูหล่อนะ” พูดพลางยิ้มมุมปาก

“ไอ้คนหลงตัวเอง” หมี่ไม่กล้าพูดหรอกว่าอีกฝ่ายหล่อขนาดไหน หยอกล้อกันได้ไม่นานก็เห็นแห้วเดิ

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อินกินหมี่   บทที่ 5 อิน...กันต์ (5/6)

    “เอานี่กุญแจ มึงไขเองเลย” คนตัวเล็กยื่นกุญแจสำรองห้องพักให้เด็กหนุ่มพลางก้มหน้าก้มตาไม่ยอมไขกุญแจเปิดประตู“อะไรของมึงเนี่ยก็แค่ไขกุญแจเข้าไปมันจะอะไรนักหนา เออ ๆ เดี๋ยวกูไขเอง...กว่าจะได้เข้าห้อง” อินอดไม่ได้ที่จะเผลอหงุดหงิดใส่แต่ก็ยังสยบใจไว้ได้ทันถึงปากจะบ่นที่คนตัวเล็กอิดออดไม่ยอมเปิดประตูแต่สุดท้ายเขาก็ยอมใจอ่อนและลงมือไขประตูเอง เมื่อบานประตูถูกเปิดออกหมี่ก็วิ่งตรงดิ่งไปหาเจ้าของห้องที่นอนแผ่อยู่บนเตียงและกระโดดทับอีกฝ่ายทันที“อะไรของมึงเนี่ยไอ้หมี่” เด็กหนุ่มผิวแทนเจ้าของห้องพูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตาอยู่“หึ้ย!รู้ได้ไงว่ากูเป็นคนกระโดดทับมึง มีตาที่สามป่ะเนี่ย” คนตัวเล็กตกใจจนรีบคลานลงจากตัวอีกฝ่ายอย่างทุลักทุเลและเกือบตกเตียง“ไอ้อินไม่ได้ปัญญาอ่อนเหมือนมึงนะ มีแต่มึงเนี่ยแหละที่ทำตัวเป็นเด็กมากระโดดทับคนอื่น” กันต์ตอบเสียงนิ่งพลางถอดหูฟังออกจากตัวและมองเพื่อนตัวเล็กที่เกือบตกจากเตียง โชคดีที่ได้ไอ้อินจับแขนไว้ทัน“เกือบตกเตียงแล้วมั้ยมึง นั่งให้มันดี ๆ&

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • อินกินหมี่   บทที่ 5 อิน...กันต์ (6/6)

    “ออกมายัง กูกับไอ้หมี่ถึงร้านละ” อินโทรตามเพื่อนสนิทที่ย้ายของไปอยู่หอใหม่เรียบร้อยแล้วเพราะตอนนี้คนตัวเล็กกำลังอาละวาดโมโหหิว วันนี้พวกเขานัดฉลองกันที่ร้าน ‘ก๋วยเตี๋ยวเจ๊ฟ้า’“กำลังไป” ปลายสายตอบเรียบนิ่ง ทว่าอินก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้นิ่งตามน้ำเสียงที่พยายามข่มไว้เลย“เสียงมึงฟังดูหงุดหงิดนะ” ได้ยินแบบนั้นปลายสายถึงกับเผลอคลี่ยิ้มบางเพราะไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เจ้าตัวจะไม่โดนอินล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิด“นิดหน่อย” และกันต์ก็ไม่จำเป็นต้องปิดบัง“รีบมา”“เออ” เด็กหนุ่มผิวแทนตอบรับและกดวางสายรอสักพักร่างสูงของกันต์ก็มาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ อินและหมี่ที่นั่งประจำตำแหน่งอยู่ก่อนแล้วก็เริ่มสั่งเมนูที่แต่ละคนต้องการ ทว่าการที่กันต์มาถึงร้านช้ากว่าปกติสร้างความหงุดหงิดให้กับหมี่เล็กน้อย“มึงอ่ะช้าตลอดเลย กูหิวจะตายชักละ” ก้นของกันต์ไม่ทันหย่อนลงบนเก้าอี้ เสียงตำหนิของเพื่อนรัก (?) อย่างไอ้เปี๊ยกก็ดังขึ้นทันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (1/6)

    **คำเตือน**อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์รวมไปถึงพฤติกรรมหรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่องฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะตึง!! ตึง!! โครม!!“ไอ้กันต์!” อินตะโกนเรียกเพื่อนสนิทหลังจากพังประตูห้องเข้ามาสภาพห้องที่เต็มไปด้วย...ความเปียกชื้นก้อนเนื้อคล้ายคลึงลูกตา...หล่นอยู่บนพื้นรอยเลือดเปรอะเลอะเตียง...หลายจุดและร่างของเพื่อนสนิทที่นอนแน่นิ่งเลือดไหลย้อยอยู่ตรงนั้นเด็กหนุ่มถลาไปหาเพื่อนและโอบร่างกันต์ให้ลุกขึ้น วินาทีนั้นเองที่เลือดหนืดข้นไหลทะลักออกมาจากรูหูของอีกฝ่ายเยอะขึ้นเรื่อย ๆ อินตกใจและมองสำรวจร่างกายของเพื่อน ก่อนจะเห็นว่ามีของเหลวสีแดงสดเลอะเปรอะเปื้อนเต็มฝ่ามือทั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (2/6)

    อินที่โทรคุยกับพ่อแม่เสร็จแล้วก็นั่งเฝ้าเพื่อนกึ่งสัปหงกเพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับเลยสักนิด ก่อนจะเห็นนิ้วของกันต์กระดิกขึ้นลงเหมือนอีกฝ่ายรู้สึกตัว เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนและมองหน้าเพื่อนสนิท ดวงตาคมของกันต์ลืมขึ้นอย่างช้า ๆ มือหนาของอินรีบกดเรียกพยาบาลทันทีเมื่อพยาบาลมาตรวจดูก็พบว่าอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไร รอเพียงผู้ป่วยและญาติร่วมกันตัดสินใจเรื่องการรักษาเท่านั้น อินพยักหน้ารับรู้และกล่าวขอบคุณพยาบาล ก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนสนิท“เป็นไงบ้างวะ”“...” กันต์นิ่งเงียบ ดวงตาเหม่อลอย“มึงไม่ได้ยินกูสักนิดเลยเหรอ”“...” ยังคงไร้การตอบรับจากอีกฝ่าย“กู-จะ-พูด-ช้า-ช้า” อินพูดช้าลงและขยับปากให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น“ยัง-เจ็บ-อยู่-มั้ย” พูดพลางชี้นิ้วไปที่หูของตัวเอง“เจ็บ” เสียงแหบแห้งของอีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก อินเห็นแบบนั้นก็รีบเปิดน้ำเทใส่แก้วและส่งให้กันต์ดื่มทันที“มึง-ปลอด-ภัย-ก็-ดี-แล้ว”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (3/6)

    อินเดินทางกลับถึงหอพักและพบว่าคนตัวเล็กไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว เด็กหนุ่มกัดฟันจนเห็นสันกรามและเส้นเอ็นที่ต้นคอชัดเจนพลางส่งเสียงคำรามในลำคอเพื่อระบายอารมณ์ เขาไม่รู้แล้วว่าตอนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอินทิ้งร่างลงบนเตียงและจมดิ่งเข้าสู่เขาวงกตแห่งความคิดอีกครั้ง สายตาเหม่อลอยมองใบพัดที่ติดอยู่บนเพดานหมุนไปมา ในหัวมีแต่อะไรไม่รู้เต็มไปหมดจนไม่อยากคิด นี่คือชีวิตที่เด็กหนุ่มวัยยี่สิบจะต้องพบเจองั้นเหรอไม่นานก็ได้ยินเสียงรูมเมทเปิดประตูเข้ามาเงียบ ๆ ซึ่งนั่นผิดปกติทำไมครั้งนี้หมี่ไม่ส่งเสียงร่าเริงเรียกเขากันนะ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้เขาขอพัก ไม่อยากคิดอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว“มึง” เสียงเล็กแหลมพูดเบาหวิวแต่เขากลับได้ยินชัดเจน“อะ...โอเค...ฮึกก...มั้ย” ร้องไห้อีกแล้วเหรอ ทำไมอีกฝ่ายถึงร้องไห้กันล่ะ“ฮะ...ฮึก...มึงอยากคุย...ฮึกก...กับกูมั้ย...” คุยอะไร เขาไม่มีอะไรต้องคุยกับคนตัวเล็กนี่“ฮืออ...มึงอย่า...ฮึกก...เงียบแบบนี้...ฮืออ...กูกลัว...ฮึกก...นะ...” การถามไถ่เริ่มเจือปนเสียงสะอื้นเป็นระยะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (4/6)

    อินอาบน้ำแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า หมี่เห็นแบบนั้นก็พิมพ์ข้อความส่งไปหากันต์ที่ยังอยู่โรงพยาบาลว่าอินได้ที่สอง ซึ่งอีกฝ่ายตอบกลับมาเป็นสติกเกอร์รูปนิ้วมือแบบธรรมดา การเป็นคนป่วยไม่ได้ทำให้กันต์กวนบาทาน้อยลงเลยคนตัวเล็กหันมองรูมเมทที่นอนหลับตาพริ้มด้วยสายตายินดีพลางคิดว่าหลังจากนี้ก็ขอให้มีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นกับพวกเขานะ ก่อนจะเริ่มเตรียมแผนการสำหรับฉลองที่อินได้เหรียญเงินในการแข่งขันว่ายน้ำครั้งแรกคิดไปคิดมา เขียนไปเขียนมาก็ผ่านไปหลายชั่วโมงจนตะวันตกดิน หมี่ที่เป็นกังวลว่าอินยังไม่ตื่นก็เดินไปปลุกเพราะถึงเวลาต้องหาอะไรกินแล้ว เด็กหนุ่มที่ถูกปลุกก็ลุกขึ้นมานั่งด้วยหน้าตาสะลึมสะลือ ก่อนจะตรงไปอาบน้ำเพื่อสลัดความง่วงทิ้ง“ครั้งนี้ฉลองด้วยอะไรดี” เสียงเล็กของหมี่ถามขึ้นอย่างตื่นเต้นทันทีที่อินเดินออกมาจากห้องน้ำ“ตามใจมึงเลย” เขากินอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ ความจริงแล้วตอนนี้ยงไม่อยากตื่นเลยด้วยซ้ำ“อืมม งั้นทำอะไรอร่อย ๆ กินกันดีมั้ย” เมื่อเห็นคนตัวเล็กทำหน้าครุ่นคิดว่าจะฉ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (5/6)

    “ไหนใครบอกว่าจะไปซื้อน้ำผลไม้” อินเห็นคนตัวเล็กนั่งอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนข้างอาคารผู้ป่วยก็พูดทัก“อ๊ะ! มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงตกใจหมด” เมื่ออีกฝ่ายหันมา อินก็เห็นว่ามีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี“เป็นอะไรรึเปล่า หน้าตาไม่ค่อยดีเลย” เด็กหนุ่มนั่งลงข้าง ๆ และสอดส่องใบหน้าของคนตัวเล็ก“เปล่า” เปล่าอะไรหน้าหงอยขนาดนั้น“จะบอกดี ๆ มั้ย” เมื่อโดนอินดุก็จำยอมต้องบอกความในใจ“เมื่อกี้จู่ ๆ กูก็รู้สึกแปลกแยกอ่ะ กูเลยอยากออกมาอยู่ข้างนอก” เด็กหนุ่มคิดตามอีกฝ่าย หรือความจริงแล้วหมี่ไม่สบายใจเพราะยังไม่ได้รู้จักพ่อแม่ของเขากันนะ“งั้นบอกพ่อกับแม่ดีมั้ย” คนตัวเล็กตาโต ไม่คิดว่าอินจะพูดแบบนี้“บอกเรื่องอะไร” ปากสวยได้รูปขยับถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“เรื่องของเราไง” อินเอื้อมไปจับมือหมี่และลูบเบา ๆ“แต่เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ...กูหมายถึงตอนนี้เราแค่ทดลองดูใจกันอยู่รึเปล่า” หมี่พูดออกมาตามตรง ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งคู่รับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (6/6)

    หมี่พาอินไปยังห้องนอนของตัวเองด้วยท่าทีเขินอาย คือถ้าเป็นการค้างแรมแบบเพื่อนคนตัวเล็กคงไม่เขินขนาดนี้ แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายเป็นคนที่กำลังดูใจกันอยู่เลยรู้สึกใจเต้นแรงแปลก ๆทางด้านของอินเมื่อได้ก้าวเข้ามาในห้องของคนตัวเล็กก็ต้องกัดฟันยับยั้งชั่งใจให้อยู่หมัด ห้องอะไรหอมชะมัด ก่อนจะได้ยินหมี่บอกให้อาบน้ำในห้องนี้ได้เลย ส่วนตัวเองจะไปอาบน้ำที่ห้องพี่จะได้ไม่ต้องมานั่งรอกันทันทีที่คนตัวเล็กออกไป อินก็เดินสำรวจรอบห้อง เตียงนอนขนาดกลางเต็มไปด้วยตุ๊กตาเยอะแยะมากมาย มองดูก็รู้ว่าตู้เสื้อผ้า โต๊ะหรือแม้กระทั่งสิ่งของเครื่องใช้ภายในห้องถูกดูแลเป็นอย่างดีและจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ถึงแม้ว่าของจะเยอะแต่ก็จัดเก็บไว้ได้อย่างลงตัวมือหนาหยิบผ้าขนหนูที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ขึ้นมาดู ลายบนผ้าผืนนี้ก็น่ารักสมกับเจ้าของห้อง แต่เมื่อเด็กหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำก็แทบจะเสียสติเพราะกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่เหลวที่หมี่ใช้ประจำตลบอบอวลอยู่ภายในห้องนี้อินรีบปิดน้ำจากฝักบัวรดหัวให้หายฟุ้งซ่าน ทว่าสีหน้าและแววตาของพี่แมนก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง...หรือพี่แมนต้องการให้เขาและหมี่ได้ใกล้ช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12

บทล่าสุด

  • อินกินหมี่   บทที่ 8 อินกินหมี่ (6/6) - ตอนจบ -

    ...ท่ามกลางบรรยากาศที่ห้อมล้อมไปด้วยความอบอุ่น ช่วงก็เวลาล่วงเลยผ่านไปวันแล้ววันเล่า ทว่าทั้งคู่ก็ยังสามารถประคับประคองความสัมพันธ์ครั้งนี้ได้อย่างดีเยี่ยมนอกเหนือจากเรื่องความรักของอินและหมี่ ก็มีเรื่องของคนตัวเล็กและพี่ชายที่นับวันจะยิ่งเข้าใจกันมากขึ้น ตอนนี้พี่แมนเข้าถึงง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะมากและดูเหมือนว่าพี่จะมีแฟนด้วย ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นพี่ชายในมุมคลั่งรักใครสักคนทางด้านครอบครัวของอิน นับตั้งแต่มีการคุยเปิดอกกันในตอนนั้น ทุกคนก็มีความสุขตลอดมาและมีการทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อสร้างความทรงจำที่ดีเช่น การให้พ่อและอินเป็นเชฟทำกับข้าวในช่วงวันหยุด โดยมีแม่และหมี่คอยยืนดูพร้อมทั้งเอาใจช่วยอยู่ห่าง ๆ หรือกิจกรรมไปเที่ยว ซึ่งแน่นอนว่าหมี่ก็ติดสอยห้อยตามไปทุกที่เพิ่มเติมคือตอนนี้น้าเกดกลับจากการทำงานต่างประเทศและได้มาดูแลลูกชายอย่างเต็มที่แล้ว กันต์เองก็เข้ารับการรักษาต่อเนื่องจนเรียกได้ว่าสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว แถมยังมาบ้านอินบ่อยขึ้นกว่าแต่ก่อนอีกด้วยและวันนี้ก็เช่นกันวันนี้เป็นวันครบรอบการจากไป

  • อินกินหมี่   บทที่ 8 อินกินหมี่ (5/6) NC

    “หมี่” เสียงเรียกชื่อจากคนรักเบาบางจนเกือบไม่ได้ยิน ทว่าร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดติดกันมากพอที่จะทำให้ทั้งคู่ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน“เรามีความสุขด้วยกันได้ จริงมั้ย” รอยยิ้มสดใสถูกส่งมาให้เด็กหนุ่มเหมือนอย่างเคย“ดีจริง ๆ ที่เป็นมึง” อินขยับตัวเข้าหาเจ้าของรอยยิ้มเพื่อแบ่งปันไออุ่นจากร่างกายของกันและกันแต่มือเล็กกับดันตัวเขาไว้พร้อมเอื้อมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา“นี่ ๆ ลองทำอันนี้กัน”“อะไร” กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่เลยเชียว ถึงเขาจะรู้สึกเสียดายแต่ไม่เป็นไร หลังจากนี้เขามีเวลาได้ใกล้ชิดกันอีกเยอะ“วิธีที่ทำให้รักกันยืนยาว มันเป็นคำถามอ่ะ คำถามที่จะทำให้คุณรู้จักคนรักมากขึ้น” ดวงตากลมโตแป๋วแหว๋วมองตรงที่หน้าจอและขยับปากอ่านตามตัวอักษรในนั้น“ไปหาอะไรแบบนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่”“กูก็หาไปเรื่อยอ่ะ ว่าไง สนใจลองตอบคำถามดูมั้ย”“ลองดู เผื่อเราจะได้รู้จักกันมากขึ้น”ระหว่างที่ผลัดกันถา

  • อินกินหมี่   บทที่ 8 อินกินหมี่ (4/6)

    ทางด้านของอินที่กำลังเดินหิ้วถุงขยะในบ้านออกมาทิ้งหลังจากกินข้าวเสร็จก็เห็นพ่อเดินตามหลังมาเลยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะปกติเวลากินข้าวเสร็จ พ่อจะชอบนั่งดูรายการข่าวทางโทรทัศน์“วันนี้พ่อไม่ดูข่าวเหรอครับ ถ้าจะทิ้งขยะก็ฝากมากับอินได้นะ เดี๋ยวอินเอามาทิ้งให้” ทว่าคำถามนี้กลับไม่ได้รับคำตอบใด ๆ เพราะคนเป็นพ่อเดินมากอดคอเขาแทน“พ่อออกมาเพราะอยากปล่อยให้สองคนนั้นเค้าคุยกันน่ะ” พูดพลางบุ้ยคางไปในบ้าน ซึ่งสองคนที่ว่าก็คือแม่กับหมี่สินะ“ครับ”“ส่วนเราเองอ่ะ จริงจังกับคนนี้มากถึงขั้นพามาให้พ่อแม่รู้จักแล้วก็อย่าเปลี่ยนคนซะล่ะ พ่อขี้เกียจมานั่งทำความรู้จักกับคนใหม่อีก” อินยิ้มเล็กน้อยและทิ้งขยะลงถังหน้าบ้าน“อินก็ไม่รู้ว่าจะเดินร่วมทางกับหมี่ไปได้ไกลขนาดไหนแต่จะพยายามประคับประคองความสัมพันธ์ไปเรื่อย ๆ ครับพ่อ” ก่อนจะเอ่ยปากรับคำคนเป็นพ่อ“ดีแล้ว เห็นอินได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ไปพร้อมกับใครสักคน พ่อก็ดีใจ” พ่อยิ้มแป้นยกมือกอดอก“อินก็ดีใจท

  • อินกินหมี่   บทที่ 8 อินกินหมี่ (3/6)

    เมื่อทุกคนก็กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาทำความสะอาดโต๊ะอาหารและจานชาม อินลุกขึ้นเก็บรวบรวมจานไปไว้ในอ่างล้างจานอย่างที่เคยทำ ส่วนหมี่ก็ช่วยคุณป้าเก็บเมนูกับข้าวที่เหลือใส่ในตู้กับข้าวจนกระทั่งเห็นว่าอินไม่ได้ล้างจานแต่กลับเดินไปที่ถังขยะและยกถุงขยะออกมาเพื่อจะเอาไปทิ้งหน้าบ้าน หมี่เลยอาสาเดินไปจัดการให้เอง เรื่องนี้หมี่ถนัด! ระหว่างที่กำลังเทเศษอาหารในจานใส่ถุงใหม่ก็ได้ยินเสียงคุณป้าดังขึ้นมา“ขอบคุณมากนะ สงสัยต้องเป็นเพราะลูกหมี่แน่ ๆ เลย ช่วงนี้พี่อินดูมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด”“เหรอครับ ผมว่าตอนนี้อินก็ยังชอบปั้นหน้ายักษ์อยู่นะ” หมี่พูดจากใจจริงเลยนะเนี่ย เขาไม่รู้หรอกว่าในสายตาของผู้ใหญ่มองไอ้อินเป็นยังไงแต่สำหรับเขา มันคือไอ้ยักษ์!“ฮ่าฮ่าฮ่า!อันนั้นคือปกติของเขาแหละแต่แม่ที่จะบอกคือตอนนี้พี่อินยิ้มเยอะขึ้นจริง ๆ”“เรื่องนั้นผมก็รู้สึกได้ครับ เมื่อก่อนนะมันชอบปั้นหน้าเป็นตูดลิงจนไม่มีใครกล้าคุยด้วยเลยครับ” หมี่อดไม่ไหวที่จะพูดถึงเรื่องนี้พลางนึกถึงวันแรก

  • อินกินหมี่   บทที่ 8 อินกินหมี่ (2/6)

    รูปเด็กผู้ชายแสนธรรมดาที่กำลังยิ้มแย้มแจ่มใสราวกับโลกทั้งใบของเขาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เสียงหัวเราะและ ความสุขพลางคิดว่านี่สินะดวงใจของบ้านหลังนี้ วินาทีนั้นเอง หมี่ก็รู้สึกปวดหนึบตรงหัวใจขึ้นมา...เพราะหมี่รู้ดีว่ากว่าจะผ่านช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกมันเป็นยังไง“อัน คนนี้เป็นเพื่อนพี่อินนะลูก เขาชื่อหมี่ เขาอยากมาทักทายอันน่ะ” แม่พูดแนะนำแขกให้คนในรูปได้รู้จักและยิ้มอ่อน“อะ...เอ่อ...หวัดดี ได้ยินเรื่องของมึงจากไอ้อินเยอะเลย หวังว่าอยู่ทางนั้นจะสบายดีนะ” หมี่เลยเอ่ยคำทักทายตามปกติ ทว่าตัวเขาไม่ค่อยได้คุยกับคนที่จากไปแล้วสักเท่าไหร่เลยพูดแบบติด ๆ ขัด ๆ ไปบ้างแต่ก็พยายามพูดคุยตามปกติ“กูเป็นรูมเมทไอ้อินนะ ตอนแรกที่ได้เจอกัน หน้าตามันตึงเครียดสุด ๆ กูกลัวมากเลย...แต่ตอนนี้ทุกอย่างโอเคขึ้นแล้ว” พูดไปพลางยกมือยกไม้ทำหน้าท่าทางเลียนแบบบุคคลที่ถูกพาดพิงอย่างอินได้แบบออกรส“มันพูดเยอะขึ้น ไม่คิ้วขมวดปั้นหน้าเป็นยักษ์แถมยังใช้ชีวิตไร้สาระมากขึ้นด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า ถึงกูจะรู้สึกไม่ดีที่ชวนมันทำเรื่องเหลวไหลก็เถอะแต

  • อินกินหมี่   บทที่ 8 อินกินหมี่ (1/6)

    “ขนอะไรไปเยอะแยะ” เมื่อถึงวันเสาร์อาทิตย์ที่นัดกันไว้ อินก็พาหมี่ไปแนะนำตัวกับพ่อแม่แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ขึ้นรถกันเลยเพราะคนตัวเล็กมัวแต่เตรียมของฝาก กว่าจะได้ออกจากห้องพักก็กินเวลาไปนานทีเดียว“ของฝากติดไม้ติดมือไง” ริมฝีปากบางขยับตอบยุกยิก ขณะที่มือทั้งสองข้างถือถุงผ้าที่เต็มไปด้วยของกินมากมาย“หืม เมนูมัดใจอะไรนั่นเหรอ” อินเลิกคิ้วถามและเอื้อมมือไปช่วยถือ“ใช่แล้ว มีขนม นมและผลไม้ด้วยนะ” หมี่หันมายิ้มแป้นแบบภาคภูมิใจสุด ๆ ที่ได้ซื้อของดีไปฝากผู้หลักผู้ใหญ่ กลับกันอินที่เห็นของทั้งหมดก็เผลอขมวดคิ้ว“เยอะเกินไปรึเปล่า แค่ทำกับข้าวไปฝากก็พอแล้ว”“คือจู่ ๆ กูก็กลัวว่าเมนูมัดใจจะไม่อร่อยอ่ะ เลยคิดว่าซื้อของฝากอย่างอื่นติดมือไปด้วยดีกว่า” คนตัวเล็กตอบเสียงเบาพลางหลบตาและเม้มปากอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“อย่าคิดมาก ยังไงแม่กูก็ทำกับข้าวไว้ให้อยู่แล้ว”“หมายความว่ายังไง! นี่จะบอกว่ากับข้าวกูไม่อร่อยเหรอ” เสียงโวยวายจากเจ้าของอาหารดังขึ

  • อินกินหมี่   บทที่ 7 ความสุขของอิน (6/6)

    อ๊ากกกกกก!!!“เป็นอะไรหมี่!” อินได้ยินเสียงคนตัวเล็กตะโกนดังแต่เช้าก็สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ“ผีหลอก!!!!” หมี่ยังคงส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจเพราะตื่นมาก็เห็นแขนของใครไม่รู้พาดอยู่ตรงเอวบางของตน“ผีอะไร!” อินถึงกับคิ้วขมวด เขาไม่เข้าใจว่าคนตัวเล็กกำลังพูดถึงเรื่องอะไร“ขะ...ขะ...แขนใครไม่รู้!...ฮือออ” หมี่หลับตาปี๋และชี้นิ้วไปตรงเอวของตัวเอง“แขนอะไร?” อินยิ่งงงเข้าไปใหญ่เพราะแขนแกร่งของเขาที่กอดเอวอีกฝ่ายก็ยังปกติดี“เอ๊ะ!เดี๋ยวนะ!” เสียงกรีดร้องแปรเปลี่ยนเป็นความฉงน หมี่ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ และมองเจ้าของเสียงที่ตนสนทนาด้วย“ไอ้ยักษ์!” ก่อนจะยกกำปั้นและออกแรงทุบไปที่ต้นแขน ของอีกฝ่าย“โอ๊ย!ตีกูทำไมเนี่ย” เมื่อรับรู้ว่าแขนปริศนามีเจ้าของและไม่ได้โดนผีหลอก หมี่ก็ขยี้หัวระบายความหงุดหงิด“ฮืออ...กูนึกว่าผีหลอกกู!ไอ้บ้าเอ๊ย!”“ผีอะไรจะมาหลอกมึงตอนเช้าแบบนี้”

  • อินกินหมี่   บทที่ 7 ความสุขของอิน (5/6) nc เบา ๆ

    อินวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างหมอน ก่อนจะดึงร่นกางเกงนอนลงเพื่อให้แท่งเนื้อที่กำลังผงาดอย่างแข็งขืนได้โผล่ออกมาเจอโลกภายนอก วินาทีที่อวัยวะส่วนที่อ่อนไหวที่สุดกระทบความเย็นจากเครื่องปรับอากาศก็สร้างความเสียวซ่านขึ้นมาอย่างน่าประหลาด มือหนาเลื่อนลงไปกอบกุมแท่งเนื้อที่ตอนนี้กลายเป็นแท่งร้อนเพราะเลือดที่สูบฉีดทั่ว“อ่าาา~” เสียงแห่งความสุขสมเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเล็กน้อย ผ่านไปแล้วสิบนาที มือหนาก็ยังคงชักรูดแท่งนั้นขึ้นลงอย่างคล่องแคล่วและไม่ผ่อนความเร็วลงแม้แต่น้อยจนน้ำเมือกที่เป็นสารหล่อลื่นเริ่มปริ่มออกมาผ่านไปอีกสามสิบนาที ความร้อนในร่างกายก็พุ่งสูงขึ้นตามอารมณ์ความใคร่ที่กำลังปะทุอยู่ นิ้วหัวแม่มือก็ลูบวนรอบส่วนหัวแท่งเนื้อเมามันพลางขบกรามแน่นเป็นระยะ มือสากของตัวเองยังทำให้รู้สึกดีมากขนาดนี้แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นมือนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายจะรู้สึกดีขนาดได้“หมี่~ ฮึ่มม” เสียงเรียกชื่อคนตัวเล็กที่ออกมาจากปากของตัวเอง ทำไมฟังดูกระเส่าเย้ายวนขนาดนี้ มันยิ่งทำให้ความอยากเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวซึ่งเด็กหนุ่มก็เคลิบเคลิ้มไปในโลกที่ตัวเอ

  • อินกินหมี่   บทที่ 7 ความสุขของอิน (4/6)

    ครืดดดด ครืดดดด“อ๊ะ! ทำยังไงดีไอ้ยักษ์โทรมา!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างพร้อมอาการลุกลี้ลุกลนทำอะไรไม่ถูกเราสองคนไม่เคยต้องโทรหากันตอนกลางคืนเลยเพราะปกติก็นอนด้วยกันตลอด ถ้าต้องโทรคุยกันน่าจะรู้สึกแปลกใหม่ดีเหมือนกัน คนตัวเล็กนอนจับมือถือพลิกไปพลิกมาบนเตียงครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจกดรับในที่สุด ทว่าสายตัดไปแล้ว...“อ้าว!วางไปแล้ว” หมี่ถึงกับเหวอจนนิ่งค้างไปชั่วขณะ“เอาไงดีเนี่ย โทรกลับไปดีมั้ย แล้วจะคุยอะไรล่ะ โอ๊ยยย!จะบ้า!” ด้วยความตื่นเต้นบวกกับความเขินอายเลยทำให้หมี่ไม่ได้กดโทรกลับไปหาอีกฝ่ายสักทีครืดดดด ครืดดดด“อ๊ะ!โทรกลับมาแล้ว อะแฮ่ม!” หมี่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโทรศัพท์สั่นอีกครั้ง ก่อนจะกระแอมเสียงและกดรับสาย“หมี่” เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อจากปลายสายหัวใจของหมี่ก็พองโตอย่างไม่มีสาเหตุ อะไรจะเสียงหล่อปานนั้นพ่อคู๊ณณณณ“โทรมามีไร” ทว่าเจ้าตัวต้องพยายามตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองกำลังตื่นเต้นและเลิ่กลั่กมากขนาดไหน“ทำอะไรอยู่” “กำลังจะนอน” หมี่ซุกหน้าเข้าหาผ้าห่มผืนหนาก่อนตอบ“กูโทรมากวนรึเปล่า นอนเลยมั้ย” ได้ยินประโยคนี้ก็ถึงกับดีดหน้าออกจากผ้าห่มด้วยความลืมต

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status