หน้าหลัก / LGBTQ+ / อินกินหมี่ / บทที่ 5 อิน...กันต์ (3/6)

แชร์

บทที่ 5 อิน...กันต์ (3/6)

ผู้เขียน: ภุมโม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-03 10:15:00

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วตอนนี้ทุกคนจบการศึกษาปีหนึ่งกันแล้ว หมี่ที่วางแผนว่าจะชวนเพื่อน ๆ ไปเที่ยวทะเลก็เริ่มปฏิบัติการ เชิญชวนประหนึ่งมัดมือชกเพื่อนสนิทให้เข้าร่วมทริปครั้งนี้ โดยแบ่งให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในแผนการ โดยไม่ลืมว่ากันต์เป็นบุคคลแรกที่หมี่ต้องมัดแขนมัดขาพาไปเที่ยวให้ได้ เอาล่ะ ช่วงเวลาแห่งความสนุกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

วันปิดเทอมใหญ่เป็นวันที่นักศึกษาทุกคนต่างรอคอยกันยิ่งกว่าการปิดเทอมย่อยระหว่างภาคเรียนซะอีก ซึ่งการปิดเทอมครั้งแรกของชีวิตในรั้วมหาลัยฯ เด็กหนุ่มวัยใสสามคนและเด็กสาวอีกหนึ่งคนกลับถูกชักชวนยุยงให้ร่วมเดินทางไปเที่ยว โดยมีเด็กหนุ่มแสนร่าเริงเป็นตัวบงการ

สถานที่ที่เหล่าวัยรุ่นพวกนี้กำลังมุ่งหน้าไปก็คือทะเลที่ใกล้พวกเขามากที่สุด ขับรถมาจากมหาลัยฯ แค่สองถึงสามชั่วโมงเท่านั้นก็ถึงที่หมาย ต้องขอเล่าย้อนไปถึงช่วงเวลาก่อนหน้านี้สักเล็กน้อยเพื่อให้ได้รับรู้ว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ เหล่าวัยรุ่นต้องพบเจอเรื่องวุ่นวายมากขนาดไหน

หมี่เด็กหนุ่มที่เป็นคนต้นคิดเรื่องการไปเที่ยวก็ได้ชักชวนอินรูมเมทที่แสนรู้ใจ โดยจุดประสงค์ของการไปเที่ยวคืออยากให้

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อินกินหมี่   บทที่ 5 อิน...กันต์ (4/6)

    ขณะนี้วัยรุ่นสี่คนกำลังสำรวจโรงแรม ร้านค้าและบริเวณชายหาดด้วยความตื่นตาตื่นใจ แห้วซึ่งเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในทริปใส่ชุดพละของโรงเรียนสมัยมัธยมเพื่อไม่ให้เป็นที่จับตามอง บั๊มเปรียบเสมือนเจ้าพ่อแฟชั่นผู้นำทางการแต่งตัวสวมกางเกงขายาวลายช้างสีขาวดำพร้อมแว่นตารูปวงรีที่มีเลนส์สีแดงหมี่ใส่กางเกงขาสั้นสีเหลืองลายแตงโมแสนน่ารัก เผยเนื้อหนังมังสาท่อนบนให้ใครต่อใครได้เห็น ขณะที่อินสวมกางเกงเลสีน้ำเงินเข้ม เสื้อกล้ามสีขาวและปิดทับด้วยเสื้อฮาวายสีเหลืองลายมะนาว“ปกติไม่เคยเห็นมึงใส่เสื้อกล้ามกับเสื้อฮาวายแบบนี้เลย” หมี่ที่เพิ่งสังเกตการแต่งตัวของรูมเมทก็เอ่ยทัก“หล่อมั้ย” อินเห็นว่าคนตัวเล็กให้ความสนใจในเรื่องนี้ก็เลยถามความเห็นแต่ดูเหมือนว่าประโยคเมื่อครู่จะทำให้หมี่หน้าแดงและเลิ่กลั่ก“ละ...หล่อเหล่อ...อะไรของมึง!หน้าบูดเป็นตูดลิงขนาดนั้น!”“หึ เหรอ กูว่าวันนี้กูหล่อนะ” พูดพลางยิ้มมุมปาก“ไอ้คนหลงตัวเอง” หมี่ไม่กล้าพูดหรอกว่าอีกฝ่ายหล่อขนาดไหน หยอกล้อกันได้ไม่นานก็เห็นแห้วเดิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • อินกินหมี่   บทที่ 5 อิน...กันต์ (5/6)

    “เอานี่กุญแจ มึงไขเองเลย” คนตัวเล็กยื่นกุญแจสำรองห้องพักให้เด็กหนุ่มพลางก้มหน้าก้มตาไม่ยอมไขกุญแจเปิดประตู“อะไรของมึงเนี่ยก็แค่ไขกุญแจเข้าไปมันจะอะไรนักหนา เออ ๆ เดี๋ยวกูไขเอง...กว่าจะได้เข้าห้อง” อินอดไม่ได้ที่จะเผลอหงุดหงิดใส่แต่ก็ยังสยบใจไว้ได้ทันถึงปากจะบ่นที่คนตัวเล็กอิดออดไม่ยอมเปิดประตูแต่สุดท้ายเขาก็ยอมใจอ่อนและลงมือไขประตูเอง เมื่อบานประตูถูกเปิดออกหมี่ก็วิ่งตรงดิ่งไปหาเจ้าของห้องที่นอนแผ่อยู่บนเตียงและกระโดดทับอีกฝ่ายทันที“อะไรของมึงเนี่ยไอ้หมี่” เด็กหนุ่มผิวแทนเจ้าของห้องพูดขึ้นทั้งที่ยังหลับตาอยู่“หึ้ย!รู้ได้ไงว่ากูเป็นคนกระโดดทับมึง มีตาที่สามป่ะเนี่ย” คนตัวเล็กตกใจจนรีบคลานลงจากตัวอีกฝ่ายอย่างทุลักทุเลและเกือบตกเตียง“ไอ้อินไม่ได้ปัญญาอ่อนเหมือนมึงนะ มีแต่มึงเนี่ยแหละที่ทำตัวเป็นเด็กมากระโดดทับคนอื่น” กันต์ตอบเสียงนิ่งพลางถอดหูฟังออกจากตัวและมองเพื่อนตัวเล็กที่เกือบตกจากเตียง โชคดีที่ได้ไอ้อินจับแขนไว้ทัน“เกือบตกเตียงแล้วมั้ยมึง นั่งให้มันดี ๆ&

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-05
  • อินกินหมี่   บทที่ 5 อิน...กันต์ (6/6)

    “ออกมายัง กูกับไอ้หมี่ถึงร้านละ” อินโทรตามเพื่อนสนิทที่ย้ายของไปอยู่หอใหม่เรียบร้อยแล้วเพราะตอนนี้คนตัวเล็กกำลังอาละวาดโมโหหิว วันนี้พวกเขานัดฉลองกันที่ร้าน ‘ก๋วยเตี๋ยวเจ๊ฟ้า’“กำลังไป” ปลายสายตอบเรียบนิ่ง ทว่าอินก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้นิ่งตามน้ำเสียงที่พยายามข่มไว้เลย“เสียงมึงฟังดูหงุดหงิดนะ” ได้ยินแบบนั้นปลายสายถึงกับเผลอคลี่ยิ้มบางเพราะไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เจ้าตัวจะไม่โดนอินล่วงรู้ความรู้สึกนึกคิด“นิดหน่อย” และกันต์ก็ไม่จำเป็นต้องปิดบัง“รีบมา”“เออ” เด็กหนุ่มผิวแทนตอบรับและกดวางสายรอสักพักร่างสูงของกันต์ก็มาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ อินและหมี่ที่นั่งประจำตำแหน่งอยู่ก่อนแล้วก็เริ่มสั่งเมนูที่แต่ละคนต้องการ ทว่าการที่กันต์มาถึงร้านช้ากว่าปกติสร้างความหงุดหงิดให้กับหมี่เล็กน้อย“มึงอ่ะช้าตลอดเลย กูหิวจะตายชักละ” ก้นของกันต์ไม่ทันหย่อนลงบนเก้าอี้ เสียงตำหนิของเพื่อนรัก (?) อย่างไอ้เปี๊ยกก็ดังขึ้นทันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (1/6)

    **คำเตือน**อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์รวมไปถึงพฤติกรรมหรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่องฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะตึง!! ตึง!! โครม!!“ไอ้กันต์!” อินตะโกนเรียกเพื่อนสนิทหลังจากพังประตูห้องเข้ามาสภาพห้องที่เต็มไปด้วย...ความเปียกชื้นก้อนเนื้อคล้ายคลึงลูกตา...หล่นอยู่บนพื้นรอยเลือดเปรอะเลอะเตียง...หลายจุดและร่างของเพื่อนสนิทที่นอนแน่นิ่งเลือดไหลย้อยอยู่ตรงนั้นเด็กหนุ่มถลาไปหาเพื่อนและโอบร่างกันต์ให้ลุกขึ้น วินาทีนั้นเองที่เลือดหนืดข้นไหลทะลักออกมาจากรูหูของอีกฝ่ายเยอะขึ้นเรื่อย ๆ อินตกใจและมองสำรวจร่างกายของเพื่อน ก่อนจะเห็นว่ามีของเหลวสีแดงสดเลอะเปรอะเปื้อนเต็มฝ่ามือทั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (2/6)

    อินที่โทรคุยกับพ่อแม่เสร็จแล้วก็นั่งเฝ้าเพื่อนกึ่งสัปหงกเพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับเลยสักนิด ก่อนจะเห็นนิ้วของกันต์กระดิกขึ้นลงเหมือนอีกฝ่ายรู้สึกตัว เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนและมองหน้าเพื่อนสนิท ดวงตาคมของกันต์ลืมขึ้นอย่างช้า ๆ มือหนาของอินรีบกดเรียกพยาบาลทันทีเมื่อพยาบาลมาตรวจดูก็พบว่าอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไร รอเพียงผู้ป่วยและญาติร่วมกันตัดสินใจเรื่องการรักษาเท่านั้น อินพยักหน้ารับรู้และกล่าวขอบคุณพยาบาล ก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนสนิท“เป็นไงบ้างวะ”“...” กันต์นิ่งเงียบ ดวงตาเหม่อลอย“มึงไม่ได้ยินกูสักนิดเลยเหรอ”“...” ยังคงไร้การตอบรับจากอีกฝ่าย“กู-จะ-พูด-ช้า-ช้า” อินพูดช้าลงและขยับปากให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น“ยัง-เจ็บ-อยู่-มั้ย” พูดพลางชี้นิ้วไปที่หูของตัวเอง“เจ็บ” เสียงแหบแห้งของอีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก อินเห็นแบบนั้นก็รีบเปิดน้ำเทใส่แก้วและส่งให้กันต์ดื่มทันที“มึง-ปลอด-ภัย-ก็-ดี-แล้ว”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (3/6)

    อินเดินทางกลับถึงหอพักและพบว่าคนตัวเล็กไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว เด็กหนุ่มกัดฟันจนเห็นสันกรามและเส้นเอ็นที่ต้นคอชัดเจนพลางส่งเสียงคำรามในลำคอเพื่อระบายอารมณ์ เขาไม่รู้แล้วว่าตอนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นอินทิ้งร่างลงบนเตียงและจมดิ่งเข้าสู่เขาวงกตแห่งความคิดอีกครั้ง สายตาเหม่อลอยมองใบพัดที่ติดอยู่บนเพดานหมุนไปมา ในหัวมีแต่อะไรไม่รู้เต็มไปหมดจนไม่อยากคิด นี่คือชีวิตที่เด็กหนุ่มวัยยี่สิบจะต้องพบเจองั้นเหรอไม่นานก็ได้ยินเสียงรูมเมทเปิดประตูเข้ามาเงียบ ๆ ซึ่งนั่นผิดปกติทำไมครั้งนี้หมี่ไม่ส่งเสียงร่าเริงเรียกเขากันนะ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้เขาขอพัก ไม่อยากคิดอะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว“มึง” เสียงเล็กแหลมพูดเบาหวิวแต่เขากลับได้ยินชัดเจน“อะ...โอเค...ฮึกก...มั้ย” ร้องไห้อีกแล้วเหรอ ทำไมอีกฝ่ายถึงร้องไห้กันล่ะ“ฮะ...ฮึก...มึงอยากคุย...ฮึกก...กับกูมั้ย...” คุยอะไร เขาไม่มีอะไรต้องคุยกับคนตัวเล็กนี่“ฮืออ...มึงอย่า...ฮึกก...เงียบแบบนี้...ฮืออ...กูกลัว...ฮึกก...นะ...” การถามไถ่เริ่มเจือปนเสียงสะอื้นเป็นระยะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (4/6)

    อินอาบน้ำแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า หมี่เห็นแบบนั้นก็พิมพ์ข้อความส่งไปหากันต์ที่ยังอยู่โรงพยาบาลว่าอินได้ที่สอง ซึ่งอีกฝ่ายตอบกลับมาเป็นสติกเกอร์รูปนิ้วมือแบบธรรมดา การเป็นคนป่วยไม่ได้ทำให้กันต์กวนบาทาน้อยลงเลยคนตัวเล็กหันมองรูมเมทที่นอนหลับตาพริ้มด้วยสายตายินดีพลางคิดว่าหลังจากนี้ก็ขอให้มีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นกับพวกเขานะ ก่อนจะเริ่มเตรียมแผนการสำหรับฉลองที่อินได้เหรียญเงินในการแข่งขันว่ายน้ำครั้งแรกคิดไปคิดมา เขียนไปเขียนมาก็ผ่านไปหลายชั่วโมงจนตะวันตกดิน หมี่ที่เป็นกังวลว่าอินยังไม่ตื่นก็เดินไปปลุกเพราะถึงเวลาต้องหาอะไรกินแล้ว เด็กหนุ่มที่ถูกปลุกก็ลุกขึ้นมานั่งด้วยหน้าตาสะลึมสะลือ ก่อนจะตรงไปอาบน้ำเพื่อสลัดความง่วงทิ้ง“ครั้งนี้ฉลองด้วยอะไรดี” เสียงเล็กของหมี่ถามขึ้นอย่างตื่นเต้นทันทีที่อินเดินออกมาจากห้องน้ำ“ตามใจมึงเลย” เขากินอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ ความจริงแล้วตอนนี้ยงไม่อยากตื่นเลยด้วยซ้ำ“อืมม งั้นทำอะไรอร่อย ๆ กินกันดีมั้ย” เมื่อเห็นคนตัวเล็กทำหน้าครุ่นคิดว่าจะฉ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-10
  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (5/6)

    “ไหนใครบอกว่าจะไปซื้อน้ำผลไม้” อินเห็นคนตัวเล็กนั่งอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนข้างอาคารผู้ป่วยก็พูดทัก“อ๊ะ! มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงตกใจหมด” เมื่ออีกฝ่ายหันมา อินก็เห็นว่ามีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี“เป็นอะไรรึเปล่า หน้าตาไม่ค่อยดีเลย” เด็กหนุ่มนั่งลงข้าง ๆ และสอดส่องใบหน้าของคนตัวเล็ก“เปล่า” เปล่าอะไรหน้าหงอยขนาดนั้น“จะบอกดี ๆ มั้ย” เมื่อโดนอินดุก็จำยอมต้องบอกความในใจ“เมื่อกี้จู่ ๆ กูก็รู้สึกแปลกแยกอ่ะ กูเลยอยากออกมาอยู่ข้างนอก” เด็กหนุ่มคิดตามอีกฝ่าย หรือความจริงแล้วหมี่ไม่สบายใจเพราะยังไม่ได้รู้จักพ่อแม่ของเขากันนะ“งั้นบอกพ่อกับแม่ดีมั้ย” คนตัวเล็กตาโต ไม่คิดว่าอินจะพูดแบบนี้“บอกเรื่องอะไร” ปากสวยได้รูปขยับถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“เรื่องของเราไง” อินเอื้อมไปจับมือหมี่และลูบเบา ๆ“แต่เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ...กูหมายถึงตอนนี้เราแค่ทดลองดูใจกันอยู่รึเปล่า” หมี่พูดออกมาตามตรง ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งคู่รับ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11

บทล่าสุด

  • อินกินหมี่   บทที่ 7 ความสุขของอิน (6/6)

    อ๊ากกกกกก!!!“เป็นอะไรหมี่!” อินได้ยินเสียงคนตัวเล็กตะโกนดังแต่เช้าก็สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ“ผีหลอก!!!!” หมี่ยังคงส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจเพราะตื่นมาก็เห็นแขนของใครไม่รู้พาดอยู่ตรงเอวบางของตน“ผีอะไร!” อินถึงกับคิ้วขมวด เขาไม่เข้าใจว่าคนตัวเล็กกำลังพูดถึงเรื่องอะไร“ขะ...ขะ...แขนใครไม่รู้!...ฮือออ” หมี่หลับตาปี๋และชี้นิ้วไปตรงเอวของตัวเอง“แขนอะไร?” อินยิ่งงงเข้าไปใหญ่เพราะแขนแกร่งของเขาที่กอดเอวอีกฝ่ายก็ยังปกติดี“เอ๊ะ!เดี๋ยวนะ!” เสียงกรีดร้องแปรเปลี่ยนเป็นความฉงน หมี่ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ และมองเจ้าของเสียงที่ตนสนทนาด้วย“ไอ้ยักษ์!” ก่อนจะยกกำปั้นและออกแรงทุบไปที่ต้นแขน ของอีกฝ่าย“โอ๊ย!ตีกูทำไมเนี่ย” เมื่อรับรู้ว่าแขนปริศนามีเจ้าของและไม่ได้โดนผีหลอก หมี่ก็ขยี้หัวระบายความหงุดหงิด“ฮืออ...กูนึกว่าผีหลอกกู!ไอ้บ้าเอ๊ย!”“ผีอะไรจะมาหลอกมึงตอนเช้าแบบนี้”

  • อินกินหมี่   บทที่ 7 ความสุขของอิน (5/6) nc เบา ๆ

    อินวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างหมอน ก่อนจะดึงร่นกางเกงนอนลงเพื่อให้แท่งเนื้อที่กำลังผงาดอย่างแข็งขืนได้โผล่ออกมาเจอโลกภายนอก วินาทีที่อวัยวะส่วนที่อ่อนไหวที่สุดกระทบความเย็นจากเครื่องปรับอากาศก็สร้างความเสียวซ่านขึ้นมาอย่างน่าประหลาด มือหนาเลื่อนลงไปกอบกุมแท่งเนื้อที่ตอนนี้กลายเป็นแท่งร้อนเพราะเลือดที่สูบฉีดทั่ว“อ่าาา~” เสียงแห่งความสุขสมเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินเล็กน้อย ผ่านไปแล้วสิบนาที มือหนาก็ยังคงชักรูดแท่งนั้นขึ้นลงอย่างคล่องแคล่วและไม่ผ่อนความเร็วลงแม้แต่น้อยจนน้ำเมือกที่เป็นสารหล่อลื่นเริ่มปริ่มออกมาผ่านไปอีกสามสิบนาที ความร้อนในร่างกายก็พุ่งสูงขึ้นตามอารมณ์ความใคร่ที่กำลังปะทุอยู่ นิ้วหัวแม่มือก็ลูบวนรอบส่วนหัวแท่งเนื้อเมามันพลางขบกรามแน่นเป็นระยะ มือสากของตัวเองยังทำให้รู้สึกดีมากขนาดนี้แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นมือนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายจะรู้สึกดีขนาดได้“หมี่~ ฮึ่มม” เสียงเรียกชื่อคนตัวเล็กที่ออกมาจากปากของตัวเอง ทำไมฟังดูกระเส่าเย้ายวนขนาดนี้ มันยิ่งทำให้ความอยากเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวซึ่งเด็กหนุ่มก็เคลิบเคลิ้มไปในโลกที่ตัวเอ

  • อินกินหมี่   บทที่ 7 ความสุขของอิน (4/6)

    ครืดดดด ครืดดดด“อ๊ะ! ทำยังไงดีไอ้ยักษ์โทรมา!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างพร้อมอาการลุกลี้ลุกลนทำอะไรไม่ถูกเราสองคนไม่เคยต้องโทรหากันตอนกลางคืนเลยเพราะปกติก็นอนด้วยกันตลอด ถ้าต้องโทรคุยกันน่าจะรู้สึกแปลกใหม่ดีเหมือนกัน คนตัวเล็กนอนจับมือถือพลิกไปพลิกมาบนเตียงครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจกดรับในที่สุด ทว่าสายตัดไปแล้ว...“อ้าว!วางไปแล้ว” หมี่ถึงกับเหวอจนนิ่งค้างไปชั่วขณะ“เอาไงดีเนี่ย โทรกลับไปดีมั้ย แล้วจะคุยอะไรล่ะ โอ๊ยยย!จะบ้า!” ด้วยความตื่นเต้นบวกกับความเขินอายเลยทำให้หมี่ไม่ได้กดโทรกลับไปหาอีกฝ่ายสักทีครืดดดด ครืดดดด“อ๊ะ!โทรกลับมาแล้ว อะแฮ่ม!” หมี่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโทรศัพท์สั่นอีกครั้ง ก่อนจะกระแอมเสียงและกดรับสาย“หมี่” เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อจากปลายสายหัวใจของหมี่ก็พองโตอย่างไม่มีสาเหตุ อะไรจะเสียงหล่อปานนั้นพ่อคู๊ณณณณ“โทรมามีไร” ทว่าเจ้าตัวต้องพยายามตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองกำลังตื่นเต้นและเลิ่กลั่กมากขนาดไหน“ทำอะไรอยู่” “กำลังจะนอน” หมี่ซุกหน้าเข้าหาผ้าห่มผืนหนาก่อนตอบ“กูโทรมากวนรึเปล่า นอนเลยมั้ย” ได้ยินประโยคนี้ก็ถึงกับดีดหน้าออกจากผ้าห่มด้วยความลืมต

  • อินกินหมี่   บทที่ 7 ความสุขของอิน (3/6)

    หลังจากที่ไปส่งอินขึ้นรถหน้ามหาลัยฯ หมี่ก็เริ่มคิดอย่างจริงจังเรื่องการไปเจอพ่อแม่ของอีกฝ่าย ครอบครัวอินดูแลลูกชายให้เติบโตมาเป็นคนดีขนาดนี้ เด็กน้อยแบบเขาาจะคู่ควรกับอีกฝ่ายจริง ๆ เหรอคิดไปคิดมาก็เริ่มหดหู่ใจ เมื่อสมองถูกใช้งานมากเกินไปก็ชักจะหิวหมี่เลยขอหยุดนึกถึงเรื่องนี้ก่อนและเดินลงไปชั้นล่างเพื่อจะซื้อของที่ร้านค้าสวัสดิการของหอพัก จังหวะนั้นเองก็บังเอิญเจอเข้ากับอาจารย์หอพอดี“สวัสดีครับอาจารย์” คนตัวเล็กเอ่ยทักอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสดใส“อ๊ะ สวัสดีครับ ไม่เจอกันนานเลย เป็นยังไงบ้าง” อาจารย์พิทักษ์มีท่าทีตกใจเล็กน้อยแต่ก็ทักทายกลับมา“ทำไมเรียนทำอาหารถึงเหนื่อยแบบนี้ครับ ผมล่ะอยากจะร้องไห้” พูดพลางปั้นหน้ามู่ทู่น่าเอ็นดูจนคนมองอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“ฮ่าฮ่าฮ่า!นั่นสินะ การเรียนก็เหนื่อยทั้งนั้นแหละแต่ผลตอบรับที่ได้กลับมาย่อมคุ้มค่า” คนเป็นอาจารย์ก็ทำได้เพียงปลอบใจเหล่านักศึกษาที่กำลังท้อแท้แบบนี้แหละและคอยเฝ้ามองลูกศิษย์ค่อย ๆ เติบโต“ครับ...ว่าแต่อาจารย์ไปทำอะไรในห้องนั้นครับ มันดูอับมากเลย” หมี่ถามด้วยความอยากรู้เพราะเท่าที่เห็นคือห้องด้านหลังร้านค้าสวัสดิการเป็นห้องที่ไม่น่

  • อินกินหมี่   บทที่ 7 ความสุขของอิน (2/6)

    หลังจากได้เคลียร์ปมปัญหาที่ติดแน่นอยู่ในส่วนลึกของจิตใจออกไปและได้กินข้าวร่วมกับพ่อแม่ด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็ทำให้อินเริ่มยิ้มมากขึ้น พูดคุยมากขึ้นและเป็นตัวเองมากขึ้นเด็กหนุ่มจัดเก็บจานชามและโต๊ะกินข้าวเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งคุยกับพ่อแม่ต่อที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะมีเสียงหยอกล้อของคนในบ้านและตามมาด้วยเสียงหัวเราะเป็นระยะ ตอนนี้บรรยากาศในบ้านไม่อึมครึมอีกต่อไปแล้ว“เอ่อ...พ่อครับ แม่ครับ” อินที่คิดว่าเวลานี้คงเหมาะที่จะคุยถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องก็เอ่ยขึ้น“หืมม มีอะไรลูก” พ่อตอบรับอย่างอารมณ์ดี“พ่อกับแม่รักกันได้ยังไงครับ” เมื่อได้ยินคำถามแบบนี้จากลูกชาย คนเป็นพ่อแม่ก็ถึงกับหันมองหน้ากันทันที“จู่ ๆ มาถามเรื่องแบบนี้ มีอะไรรึเปล่าลูก” แม่ถามไถ่ลูกชายด้วยความเป็นห่วง ขณะที่พ่อส่งเสียงแซวดังลั่น“จะมีอะไรอีกล่ะคุณ ลูกชายเรากำลังจะเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วน่ะสิ ฮ่าฮ่าฮ่า!” ไม่ว่าเปล่าแต่กลับหัวเราะจนท้องเข็ดท้องแข็งอีกด้วย“โธ่พ่อ! อย่าแซว” เด็กหนุ่มเขินอายเล็กน้อยแต่ยังไงเขาก็ต้องคุยกับทั้งคู่ให้รู้เรื่องเลยพยายามเก๊กขรึมไว้“สมัยนั้นพ่อไปฉุดแม่มาน่ะ ก็อย่างว่าพ่อมันคนร้

  • อินกินหมี่   บทที่ 7 ความสุขของอิน (1/6)

    เช้าวันรุ่งขึ้นทั้งคู่ก็เดินทางกลับหอพักและใช้ชีวิตตามปกติ หลังจากค่ำคืนนั้นอินก็พยายามหาวิธีหลอกล่อคนตัวเล็กให้ติดกับ แต่ดูเหมือนเขาจะทำไม่ได้เลยเพราะโกหกไม่เป็นและอีกฝ่ายก็รู้ทันตลอดครืดดดด ครืดดดด“ครับแม่” เด็กหนุ่มกดรับสายเมื่อเห็นว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาคือ ‘แม่’ จะว่าไปช่วงนี้เขาไม่ได้โทรหาคนที่บ้านเลย สงสัยพ่อแม่คงอยากให้กลับไปเยี่ยมบ้านบ้างแล้ว“อิน วันก่อนที่ลูกแข่งขันว่ายน้ำได้เหรียญเงินมา พวกเรายังไม่ได้ฉลองกันเลยนะลูก” จริงสิ ช่วงนั้นมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมากมายจนลืมเรื่องนี้ไปเลย ไหนจะยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับความรักความสัมพันธ์ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นอีก ตอนนี้คงถึงเวลาที่เขาต้องให้ความสำคัญกับครอบครัวแล้วสินะ“ครับ”“จริง ๆ แม่ว่าจะโทรถามเรื่องนี้ตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ไม่รู้ว่าอินว่างช่วงไหนบ้างเลยไม่อยากโทรไปกวน” เด็กหนุ่มอดรู้สึกผิดไม่ได้ที่เขาละเลยหน้าที่ของการเป็นลูก“ขอโทษครับแม่ ช่วงนั้นอินมีเรื่องให้ต้องจัดการเยอะแยะเลยไม่ค่อยมีเวลาว่างเพื่อกลับบ้านสักเท่าไหร่ แถมยังไม่ได้โทรหาพ่อกับแม่ด้วย” น้ำเสียงหดหู่ปนเศร้าใจถูกส่งผ่านไปยังผู้เป็นแม่“ไม่เป็นไรจ้ะ แม่คิดว่าตอนนี้ทุกอย่างค

  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (6/6)

    หมี่พาอินไปยังห้องนอนของตัวเองด้วยท่าทีเขินอาย คือถ้าเป็นการค้างแรมแบบเพื่อนคนตัวเล็กคงไม่เขินขนาดนี้ แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายเป็นคนที่กำลังดูใจกันอยู่เลยรู้สึกใจเต้นแรงแปลก ๆทางด้านของอินเมื่อได้ก้าวเข้ามาในห้องของคนตัวเล็กก็ต้องกัดฟันยับยั้งชั่งใจให้อยู่หมัด ห้องอะไรหอมชะมัด ก่อนจะได้ยินหมี่บอกให้อาบน้ำในห้องนี้ได้เลย ส่วนตัวเองจะไปอาบน้ำที่ห้องพี่จะได้ไม่ต้องมานั่งรอกันทันทีที่คนตัวเล็กออกไป อินก็เดินสำรวจรอบห้อง เตียงนอนขนาดกลางเต็มไปด้วยตุ๊กตาเยอะแยะมากมาย มองดูก็รู้ว่าตู้เสื้อผ้า โต๊ะหรือแม้กระทั่งสิ่งของเครื่องใช้ภายในห้องถูกดูแลเป็นอย่างดีและจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ถึงแม้ว่าของจะเยอะแต่ก็จัดเก็บไว้ได้อย่างลงตัวมือหนาหยิบผ้าขนหนูที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ขึ้นมาดู ลายบนผ้าผืนนี้ก็น่ารักสมกับเจ้าของห้อง แต่เมื่อเด็กหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำก็แทบจะเสียสติเพราะกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่เหลวที่หมี่ใช้ประจำตลบอบอวลอยู่ภายในห้องนี้อินรีบปิดน้ำจากฝักบัวรดหัวให้หายฟุ้งซ่าน ทว่าสีหน้าและแววตาของพี่แมนก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง...หรือพี่แมนต้องการให้เขาและหมี่ได้ใกล้ช

  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (5/6)

    “ไหนใครบอกว่าจะไปซื้อน้ำผลไม้” อินเห็นคนตัวเล็กนั่งอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อนข้างอาคารผู้ป่วยก็พูดทัก“อ๊ะ! มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงตกใจหมด” เมื่ออีกฝ่ายหันมา อินก็เห็นว่ามีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี“เป็นอะไรรึเปล่า หน้าตาไม่ค่อยดีเลย” เด็กหนุ่มนั่งลงข้าง ๆ และสอดส่องใบหน้าของคนตัวเล็ก“เปล่า” เปล่าอะไรหน้าหงอยขนาดนั้น“จะบอกดี ๆ มั้ย” เมื่อโดนอินดุก็จำยอมต้องบอกความในใจ“เมื่อกี้จู่ ๆ กูก็รู้สึกแปลกแยกอ่ะ กูเลยอยากออกมาอยู่ข้างนอก” เด็กหนุ่มคิดตามอีกฝ่าย หรือความจริงแล้วหมี่ไม่สบายใจเพราะยังไม่ได้รู้จักพ่อแม่ของเขากันนะ“งั้นบอกพ่อกับแม่ดีมั้ย” คนตัวเล็กตาโต ไม่คิดว่าอินจะพูดแบบนี้“บอกเรื่องอะไร” ปากสวยได้รูปขยับถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ“เรื่องของเราไง” อินเอื้อมไปจับมือหมี่และลูบเบา ๆ“แต่เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยนะ...กูหมายถึงตอนนี้เราแค่ทดลองดูใจกันอยู่รึเปล่า” หมี่พูดออกมาตามตรง ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งคู่รับ

  • อินกินหมี่   บทที่ 6 อิน อัน กันต์ (4/6)

    อินอาบน้ำแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า หมี่เห็นแบบนั้นก็พิมพ์ข้อความส่งไปหากันต์ที่ยังอยู่โรงพยาบาลว่าอินได้ที่สอง ซึ่งอีกฝ่ายตอบกลับมาเป็นสติกเกอร์รูปนิ้วมือแบบธรรมดา การเป็นคนป่วยไม่ได้ทำให้กันต์กวนบาทาน้อยลงเลยคนตัวเล็กหันมองรูมเมทที่นอนหลับตาพริ้มด้วยสายตายินดีพลางคิดว่าหลังจากนี้ก็ขอให้มีแต่เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นกับพวกเขานะ ก่อนจะเริ่มเตรียมแผนการสำหรับฉลองที่อินได้เหรียญเงินในการแข่งขันว่ายน้ำครั้งแรกคิดไปคิดมา เขียนไปเขียนมาก็ผ่านไปหลายชั่วโมงจนตะวันตกดิน หมี่ที่เป็นกังวลว่าอินยังไม่ตื่นก็เดินไปปลุกเพราะถึงเวลาต้องหาอะไรกินแล้ว เด็กหนุ่มที่ถูกปลุกก็ลุกขึ้นมานั่งด้วยหน้าตาสะลึมสะลือ ก่อนจะตรงไปอาบน้ำเพื่อสลัดความง่วงทิ้ง“ครั้งนี้ฉลองด้วยอะไรดี” เสียงเล็กของหมี่ถามขึ้นอย่างตื่นเต้นทันทีที่อินเดินออกมาจากห้องน้ำ“ตามใจมึงเลย” เขากินอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ ความจริงแล้วตอนนี้ยงไม่อยากตื่นเลยด้วยซ้ำ“อืมม งั้นทำอะไรอร่อย ๆ กินกันดีมั้ย” เมื่อเห็นคนตัวเล็กทำหน้าครุ่นคิดว่าจะฉ

DMCA.com Protection Status