กลิ่นผ้าใหม่ บวกกับการหันหน้าหันหลังจนหัวหมุนทำเอาร่างเล็กแทบล้มพับลงต่อหน้าเขาเมื่อลองชุดเดรสสีขาวอ่อน ระบายด้วยลูกไม้ทั่วทั้งตัว ชุดนี้สามารถขับผิวหล่อนให้ดูโดดเด่น น่ารักน่ามองไปทั่วทั้งตัว ผมที่ถูกผูกไว้เป็นหางม้าหลวม ๆ เมื่อเช้า บัดนี้ถูกปล่อยให้สยายเต็มแผ่นหลัง และบ่าไหล่ ใบหน้าที่สดใสไร้ที่ติแดงอยู่แล้วโดยไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแดงเพราะอะไร
ฮิโรยูกิจ้องมองร่างเล็ก สมส่วนตรงหน้าอย่างตะลึงงัน ในความน่ารัก สดใส ที่เปล่งประกายออกมาอย่างเป็นธรรมชาติของหล่อน แก้มถูกแตะแต้มด้วยสีแดงระเรื่อ จนเป็นสีขาวอมชมพูช่างน่ารักน่าใคร่นัก นี่ถ้าหากว่าอยู่ในที่ ที่เป็นส่วนตัวล่ะก็ เขาจะกระชากร่างเล็กนั่นเข้ามากอดและก็จูบให้หนำใจเลยล่ะ
น้ำรินขาแทบขวิด เมื่อออกมายืนต่อหน้าชายหนุ่มที่มองมาด้วยสายตา ชื่นชมอย่างออกนอกหน้า แววตาหวานเยิ้มนั้นทำให้หญิงสาวอดคิดตามไม่ได้ ว่าเขาต้องการอะไรในตอนนี้ ซึ่งก็ตรงเผงกับความคิดของเขาเลยล่ะ โชคดีที่ตรงนี้ ไม่ได้เป็นที่รโหฐาน ไม่อย่างนั้นล่ะก็.. อื้ย..ไม่อยากจะคิด แต่ก่อนอื่น ขอหยิบผ้าคลุมไหล่สีชมพูอ่อนนวลตามาพันรอบคอ เพื่อปิดทับร่องรอยที่คนลา
“พอได้แล้วคะ ฉันไม่เห็นคุณซื้ออะไรบ้างเลย ไหนคุณบอกว่าจะเข้ามาซื้ออะไรบางอย่างไม่ใช่หรือคะ?” หญิงสาวเอียงหน้าถามคนตัวสูงที่เข็นรถอย่างสบายอารมณ์ ไม่เห็นว่าเขาจะสนใจอะไรเป็นพิเศษ อย่างที่บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าอยากได้อะไรบางอย่าง“อืมม์..ก็ยังไม่เห็นร้านที่ว่าเลยนี่นา” ร่างสูงยืดอกเต็มความสูง พลางใช้สายตามองไปโดยรอบห้างฯ ก่อนจะตอบออกมาอย่างลิงโลด แววตายินดีเหมือนเด็กที่เจอของถูกใจยังไงยังงั้น“อ๊ะ! นั่นไงล่ะ! สิ่งที่อยากได้ไปกันเถอะ” หญิงสาวออกจะงงไปสักนิด เมื่อจู่ ๆ เขาก็แสดงความดีใจออกมาทางสีหน้า ราวกับเจอขุมทรัพย์ก็ไม่ปาน ร่างสูงเข็นรถเข็นเดินนำลิ่ว ๆ ไปยังจุดหมายที่เขาจ้องไว้แล้ว ไม่วายหันมากระชับข้อมือเล็กให้เดินตามเขาไปอย่างรีบเร่ง“อุ๊ย! คุณ ฉันเดินเองได้ไม่หลงหรอกน่า คุณเข็นรถมือเดียวแบบนั้นเดี๋ยวก็ได้แขนหลุดกันพอดี”“ทำไม? เป็นห่วงหรือ? ฉันไม่กลัวหรอกนะว่าแขนจะหลุดหรือไม่ เพราะยังไงก็มีพยาบาลอยู่ข้างกายแล้ว ถ้าหากเมื่อยเธอก็ต้องนวดให้ฉัน เข้าใจไหมสาวน้อย แล้วอีกอย่างฉันสัญญาแล้วยังไงล่ะ ว่าจะไม่ปล
“บ้าน่ะสิ! ไม่พูดด้วยแล้ว คนลามก ทะลึ่งจริง ๆ เลย”“อะ..อะไรนะ? ว่าอะไรนะทะ..ท้ารุ่งหรือ? รู้สึกว่าคำนี้ไม่เคยได้ยินนะ เฮ้! เดี๋ยวก่อนสิคนสวยรอด้วย”“อ่ะ..หมายเลขหนึ่ง คือเบอร์ของฉันจำเอาไว้นะ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกดหมายเลขนี้ ฉันจะไปหาเธอทันที”“คะ?!” น้ำรินยังงุนงงไม่หาย เมื่อจู่ ๆ มือใหญ่ก็หยิบเจ้าโทรศัพท์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ๆ หมาด ๆ ส่งให้หล่อน แถมยังกดบันทึกเบอร์ของตัวเองลงในเครื่องเฉยเลย คล้อยหลังจากที่ทั้งสองได้กลับเข้ามาอยู่ในรถหรูเรียบร้อยแล้ว“รับไปสิ ก็..เห็นว่า ยังไม่มีโทรศัพท์นี่ แล้วอีกอย่างเธอจะได้ไม่ต้องไปเที่ยวขอยืมคนอื่นให้ยุ่งยากอีกไง และที่สำคัญ ห้าม! โทรหาผู้ชายอื่นเด็ดขาด!เพราะฉันขี้หึงสุด ๆ เลยนะจะบอกให้!”“พรึด!” หญิงสาวกลั้นยิ้มไว้แทบไม่ไหว จนต้องหลุดเสียงขำออกมาจนได้ เอามือมาปิดปากแทบไม่ทัน เขินก็เขิน พลางยื่นมือไปรับเจ้าเครื่องมือสื่อสารด้วยมืออันสั่นเทา เพราะกลั้นหัวเราะ พร้อมกับส่งยิ้มใส ๆ แบบจริงใจให้อีกฝ่ายเป็นครั้งแรก เพื่อแสดงความขอบคุณ&ldqu
“มาแล้วหรือ? นั่งก่อนสิ” หมอสาวลุกขึ้น ส่งยิ้มหวานไปให้ฮิโรยูกิ แต่ก็ต้องชะงักยิ้มไว้เพียงเท่านั้น เมื่อสายตาเหลือบไปเห็น ดวงหน้าสาวไทยร่างเล็กคนนั้นเดินตามมาด้วย ทำเอาหัวใจที่แช่มชื่นเมื่อครู่ กลับหดหู่ขึ้นมาแทนที่ทันที แต่ก็จำต้องฝืนยิ้มให้กับหล่อนแบบแกน ๆ ฮิโรยูกิเลื่อนเก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงข้ามกับฮานะ ให้น้ำรินนั่ง ออกแรงดึงแขนเรียวเล็กที่ทำท่าทางแข็งขืนนิด ๆ บวกกับใบหน้าตึง ๆ นั่น ราวกับว่าเจ้าหล่อนไม่ต้องการนั่งร่วมโต๊ะกับฮานะกระนั้น อย่าบอกนะว่าหล่อนกำลังหึงเขาอยู่ คิดได้เท่านั้น ก็เล่นเอาชายหนุ่มอดอมยิ้มที่มุมปากอย่างอารมณ์ดีไม่ได้ ทางด้านน้ำริน เมื่อถูกมือใหญ่ฉุดให้นั่งลงข้าง ๆ เขาแล้ว หญิงสาวจึงหันไปส่งสายตาขุ่นเขียวให้กับคนเอาแต่ใจ ขบเม้มริมฝีปากอย่างหมั่นไส้ แต่อีกฝ่ายหารู้สึกผิดไม่ กลับทำระรื่นหน้าตาเฉย“มีธุระอะไรหรือ?” ชายหนุ่มหนึ่งเดียวในนั้น เอ่ยเสียงเข้มขรึม หลังจากที่พาตัวเองนั่งฝั่งตรงข้ามกับหมอสาวเรียบร้อยแล้ว“ฉันอยากคุยกับคุณลำพัง..แค่สองคนจะได้ไหม?” ฮานะจำต้องพูดเป็นภาษาถิ่น พอให้เข้าใจแค่สองคนระหว
“เรายังเป็นเพื่อนกันได้เสมอฮานะ และตลอดไป” น้ำเสียงเย็นเยียบเอ่ยออกมา คลายวงแขนที่กอดอกนิ่งเมื่อครู่คล้ายกับว่าเขามีเวลาให้หล่อนเพียงแค่นี้เท่านั้น ดวงตางดงามของฮานะเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ราวกับว่ามีใครเอาเข็มมาทิ่มแทงจิตใจให้รู้สึกเจ็บแสบนัก หญิงสาวเพ่งมองชายหนุ่มนิ่งสักพัก ก่อนจะค่อย ๆ หันไปยังบริเวณล็อบบี้หน้าร้านอาหารที่ทำเป็นกระจกใส สามารถมองทะลุออกไปด้านนอกได้ ฮานะเห็นหญิงสาวชาวไทยร่างเล็ก นั่งอยู่บนม้านั่งที่ทางร้านจัดเอาไว้ให้ และเธอผู้นั้น ก็หันมาทางนี้พอดีเช่นกัน“เธอน่ารักนะคะ ฉันยินดีกับคุณด้วยภาวนาให้คุณสมหวังในความรัก” ฮิโรยูกิมองตามสายตาของหญิงสาว ก่อนจะพบกับร่างเล็กที่กำลังมองมาทางนี้พอดิบพอดี ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่ง“ผมชอบและรักเธอ ถ้าหากว่าไม่มีปัญหาอะไร ผมก็จะแต่งงานกับเธอให้เร็วที่สุด” ชั่ววินาทีที่กล่าวประโยคนั้นออกมา เขาพูดโดยไม่ได้หันมาทางฮานะ หากใบหน้าและดวงตาของเขากลับจับจ้องไปยังหญิงสาวชาวไทยข้างนอกนั่นอย่างมุ่งมั่น เขาเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่พูดไป เมื่อครู่เป็นเรื่องจริงอย่างยิ่ง เขาสามารถเอ่ยมันออกมา
“ขอนั่งด้วยคนนะคะ..คุณหมอ” ฮีจินเดินเข้ามาในร้านอาหาร ของทางโรงพยาบาล ร้านอาหารถูกจัดง่าย ๆ ไม่จำกัดชนิดและประเภทของอาหาร ผู้คนทั่วไปจึงเข้ามาทานได้ วันนี้ผู้คนแลดูจะพลุกพล่านพอดู เนื่องจากเป็นเวลาพักเที่ยงนั่นเอง ไม่รู้เพราะอะไร หล่อนจึงได้มาถึงที่นี่ เพียงเพื่อต้องการมาพบหน้าเขา พยาบาลที่อยู่หน้าห้องบอกว่าเขามาทานอาหารกลางวัน หล่อนจึงเดินตามมา และทันเห็นชายหนุ่มนั่งเหม่อลอย ไม่ยอมแตะอาหารที่สั่งมาเลย สีหน้าของเขาเหมือนหมดอาลัย และเหมือนต้องการลืมเรื่องบางอย่าง“คุณฮีจิน! มาทำอะไรที่นี่หรือครับ? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? นั่งก่อนสิครับ” หมอหนุ่มหันมามองยังหญิงสาวร่างเพรียวระหง น้ำเสียงหวานใส บวกกับรอยยิ้มสวยสดของหล่อนเขายังจำได้ดีชายหนุ่มจึงเอ่ยถามออกไปแบบกระตือรือร้น ตามประสาคนที่ชอบเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นเขาไปเสียหมด“มาโรงพยาบาลนี่ ต้องเป็นคนป่วยทุกคนเลยหรือคะ? ก็ได้ ฉันป่วยหนักหนักมากด้วยคุณจะช่วยรักษาให้ฉันจะได้ไหมล่ะคะ” ฮีจินตอบกลับไปแบบทีเล่นทีจริง มองสบตาหมอหนุ่มอมยิ้มนิด ๆ แต่เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าเป็นกังวลของยูอิจิ หญิงสาวถึงกับ
“บ่ายนี้..ผมไม่มีเคสผ่าตัดจะมีอีกทีก็ช่วงเย็นดังนั้น..ผมขอไปส่งคุณที่สนามบินได้ไหมครับ?” ฮีจินช้อนดวงหน้าสวยหวาน ขึ้นสบตากับชายหนุ่มแทบจะทันที แววตาแปลกใจ มีแววลิงโลดปะปนไปด้วยความคิดหลากหลาย ไม่เข้าใจกับคำพูดของเขาเท่าใดนัก ฮีจินเห็นนัยน์ตาที่แสดงออกถึงความจริงใจ ไม่ได้แอบแฝงเล่ห์กลอะไรใด ๆ ก็แทบจะร้องไห้ น้ำตาที่คลออยู่รอบดวงตาหวาน จู่ ๆ มันก็ไหลออกมาเองโดยเจ้าตัวไม่รู้เลยด้วยซ้ำ“อ๊ะ! คุณร้องไห้ อย่าร้องเลยนะครับ เอ่อ..ผมจะไปส่งคุณเองไม่ต้องห่วงนะ ไม่ต้องไปสนใจเจ้าฮีโร่มัน..เดี๋ยวผมจะไปจัดการมันให้เองไม่ต้องห่วงนะ” ยูอิจิเข้าใจไปอีกอย่าง ละล่ำละลักคิดว่าตนทำให้หญิงสาวร้องไห้ ร่างสูงของหมอหนุ่มลุกขึ้นมาโอบกระชับร่างเพรียวบาง ที่สะอื้นไห้อยู่อย่างไม่รู้สาเหตุ จู่ ๆ หล่อนก็ร้องไห้ออกมา นั่นทำให้หญิงสาวยิ่งเพิ่มแรงสะอื้นฮักเข้าไปใหญ่ ยูอิจิงงไปกับ ท่าทางของหล่อน จึงกระชับวงแขนเข้าหากันเพื่อปลอบโยนและถ่ายเทความอบอุ่นไปยังร่างเพรียวบาง ภายในห้องอาหารของโรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาล รวมทั้งคนไข้และบุคคลทั่วไปที่เข้ามาท
“ งั้น..ท่านปู่จะเป็นผู้ใหญ่ทางฝ่ายเธอได้ใช่ไหมครับ?” “ อื้อ ได้สิแต่..” “ แต่..อะไรหรือครับท่านปู่ มีปัญหาอย่างนั้นหรือครับ” “ หลานลืมไปแล้วหรือว่า..วงศ์ตระกูลของเราเคร่งครัดเรื่องคู่ครองมาก ถึงแม้ทางญี่ปุ่นจะไม่คิดมากเรื่องนี้ แต่ญาติผู้ใหญ่ที่ยังหลงเหลืออยู่เกาหลีโน้น คงไม่ยอมแน่ เธอคิดว่า หนูน้ำรินจะยอมอดทนฟันฝ่าอุปสรรคตรงนี้ไปได้ไหม? ปู่เกรงว่ามันจะซ้ำรอย” “ ไม่หรอกครับท่านปู่ ผมจะไม่มีวันแยกจากเธอเป็นอันขาด ผมจะทำทุกวิถีทางให้ผู้ใหญ่ทางโน้นยอมรับน้ำริน แต่งเข้าตระกูลของเราให้ได้” “ พูดอย่างนี้ แสดงว่าหนูน้ำรินเอง ก็รักเธออย่างนั้นหรือฮีโร่ หลานเชื่อมั่นในตัวเธอว่าจะยอมสู้เพื่อที่จะได้ครองรั
“อยู่นิ่ง ๆ แบบนี้ก่อนได้ไหม? น้ำรินฉันอยากกอดเธอ อยากจูบเธอ อยากสัมผัสเธอ อยากทำตามหัวใจตัวเองที่มันร่ำร้องใจแทบขาด” จมูกโด่งสวย ก้มลงมาดอมดมที่ซอกคอ และข้างแก้มของหล่อน อย่างหลงใหล ลมหายใจอุ่น ๆ รดรินติดกับแก้มนวลใส สูดดมกลิ่นกายสาวเข้าปอดลึกอย่างชื่นอกชื่นใจ..“คุณ..”“เรียกฉันว่า ฮีโร่ เฉย ๆ ได้ไหม? หือ น้ำริน ฉันอยากให้เธอเรียกอย่างนั้น” สัมผัสอันแผ่วเบาชวนให้ขนลุก ยิ่งหลบก็เหมือนยิ่งยุ เมื่อลมหายใจอุ่น ๆ ริมฝีปากร้อนผะผ่าวแตะแต้มไปทั่ว ปลุกเร้าให้เลือดในร่างกายหญิงสาวตื่นตัว น้ำรินพยายามสะกดกั้นอารมณ์วาบหวามที่กำลังปะทุ ราวกับพลุแตกไปทั่วร่างกาย“ฮีโร่คะได้โปรด..อย่าทำกับฉันเหมือนเป็นผู้หญิงที่ไร้ค่าเลยนะคะ” ฮิโรยูกิชะงักการเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ ก้มลงมองดวงหน้าขาวใส หยดน้ำเค็ม ๆ ไหลรินลงมาจากดวงตากลมสุกใส ปลายนิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มช่วยไล่น้ำตาให้อย่างเบามือ เต็มไปด้วยความอ่อนโยน“อย่าเข้าใจผิดสิ ฉันแค่ทำตามหัวใจที่มันเรียกร้องต่างหาก เธอเองก็คิดไม่ต่างจากฉันใช่ไหม”“ต่างกันค่ะ ใ
การกระทำของทั้งสองได้เรียกน้ำตาให้กับคนที่พบเห็น บริเวณห้องฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ชั่ววินาทีนั้นราวกับว่าได้หยุดทุกสิ่งทุกอย่างให้หยุดอยู่กับที่ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ป่วยที่ร้องโอดโอย เพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลบริเวณหน้าขา เพิ่งถูกเข็นผ่านเข้ามาภายใน ต้องหยุดชะงักงันไปชั่วขณะ เหลือบมองมายังคู่หนุ่มสาวทั้งสองด้วยความงุนงงสงสัย ลืมความเจ็บปวดเมื่อครู่ไปเลยทีเดียว ทางด้านผู้สูงอายุทั้งสาม ถึงกับอึ้งไปกับการกระทำของทั้งสองหนุ่มสาว ความรู้สึกตื้นตัน และเห็นความตั้งใจจริงของทั้งสอง แสดงให้รู้ว่าพวกเขารักกันมากมายขนาดไหน ฝ่ายชายถึงกับสามารถตัดขาดจากสมบัติและวงศ์ตระกูลได้เลย เพื่อแลกกับการได้ครองรักกับหญิงสาวร่างเล็กบอบบางข้างกาย ลี ฮาซันถึงกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับที่หางตา มองไปทางด้านผู้เป็นสามีคล้องวงแขนเข้ากับลำแขนของอีกฝ่ายซุกหน้ากับอกของสามี ด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ ทางด้านลี จางชีก็มีอาการไม่ต่างจากกันนัก จึงแตะที่แขนของภรรยาอย่างปลอบประโลม ชายชราหนึ่งเดียวนั้นก็ไม่ได้มีอาการแตกต่างจากคนอื่นเท่าใดนัก ร่างที่ค่อนข้างค้อมเล็กน้อย ไขว้มือที่เหี่ยวย่นไว้ด้านหลังข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างวางอยู่บน
น้ำรินพยายามลืมตาตื่น รู้สึกมึนงงไปหมด อาการคลื่นไส้ จะเป็นลม หายเป็นปลิดทิ้งหลังจากที่ได้ให้น้ำเกลือ และนอนพักเต็มอิ่มแล้ว ดวงตาที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำอุ่น ๆ เค็ม ๆ ถูกเช็ดออกจากดวงหน้าด้วยนิ้วเรียวใหญ่อย่างเบามือของผู้เป็นสามี“ตื่นแล้วหรือ? เป็นไงบ้าง? ยังเวียนหัวอยู่หรือเปล่า?” คำถามรัวถี่ติด ๆ กันจนคนถูกถามแทบตอบไม่ทัน จึงได้แต่ส่ายศีรษะไปมาเบา ๆ เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ หล่อนไม่อยากให้เขาเป็นกังวลมากนัก“ไอ้หมอหัวล้านกับเจ้ายูมันให้เธอกลับบ้านได้ แต่ฉันว่าเธอยังไม่แข็งแรงดีเลย ยังไงนอนพักดูอาการที่นี่สักคืนดีไหม” ผู้เป็นภรรยาส่ายหัวดิกเมื่อ ได้ยินผู้เป็นสามีบอกให้นอนพักที่นี่สักคืน“ไม่เอาค่ะ หายดีแล้ว ไม่เวียนหัว ไม่คลื่นไส้ ไม่มีอาการอะไรทั้งนั้นแล้ว ฉันหายดีแล้วจริง ๆ นะคะ” อยากจะบอกเหลือเกินว่า แค่ตื่นขึ้นมาแล้วได้เจอหน้าเขา มาอยู่ใกล้ ๆ อย่างนี้อาการต่าง ๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้งทันทีเลยล่ะ“จริงนะ ห้ามโกหก เป็นพยาบาลอะไรไม่ชอบโรงพยาบาลเฮ้อ!” ชายหนุ่มชะโงกหน้า มองเสี้ยวหน้าภรรยาตัวน้อยด้วยความมันเขี้ยว มือใหญ่วางแปะที่ศีรษะเล็กนั้น เขย่าเบา ๆ อย่างเอ็นดู“กลับบ้านกันเถอะนะคะ” คนไข้ตัว
“ดี..แล้วก็เอาหัวล้าน ๆ ของไอ้หมอคนเมื่อกี้ออกไปห่างเมียกันหน่อยได้ไหม กันไม่ชอบขี้หน้ามันเลยว่ะ” ฮิโรยูกิหันมากระซิบข้างหูเพื่อนรักทันทีที่หันไปเห็นแพทย์คนเมื่อสักครู่ เดินเลี่ยงออกไปทางด้านซ้ายของเตียงคนไข้ นั่นก็เรียกรอยยิ้มให้ยูอิจิได้เป็นอย่างดี ขี้หึงจริง ๆ นะเพื่อนเรา แม้แต่หมอแก่ร่างท้วม กับหัวที่มีผมทางตอนหน้าเหลือน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง ไปหาว่าเขาหัวล้านซะนี่ ร้ายจริง ๆ“ออกไปก่อนเถอะเพื่อน ไม่ต้องห่วงทางนี้ กันจะช่วยดูให้อีกแรงหนึ่ง” คำยืนยันของยูอิจิ บอกว่าภรรยาของเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างสูงจึงยอมถอยห่างออกมาแต่ไม่ได้ไปไหนไกล เขายังคงปักหลักยืนอยู่ห่าง ๆ ในมุมห้องแคบนั้น พลางกอดอกมองแพทย์และพยาบาลตรวจร่างกายหล่อนเงียบ ๆ“ฮีโร่..ฮีโร่..ตื่นเถอะ”“อ๊ะ! ฮ๊ะ! ยู..เมียฉันล่ะเมียฉันเป็นไงบ้าง!” ร่างสูงผวาตกใจตื่น เมื่อได้ยินเสียงยูอิจิปลุกให้ตื่น เขาเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน“หึ..ตื่นขึ้นมาก็โวยวายเลยนะ คุณน้ำรินปลอดภัยแล้ว หมอให้น้ำเกลือ แล้วย้ายเธอไปนอนพักดูอาการที่ห้องข้าง ๆ โน่นแล้ว”“เหรอ? แล้วอยู่ไหนล่ะ?”“เดี๋ยวสิเพื่อน นี่นายไม่อ
“อือ ๆ ก็ว่าอย่างนั้นล่ะ” แล้วก็มีเสียงงึมงำจากคนรอบข้าง ที่บ่งบอกว่าเห็นด้วยกับความเห็นของเขา และนั่นก็ให้คุณคิม เซยอนชักสีหน้าอย่างไม่พอใจให้สามีทันที“เอาอย่างนี้สิ อะไรที่เป็นฝีมือของเธอ เราก็ชิมอันนั้นก็แล้วกัน..เรามาวัดกันที่รสชาติเป็นไง” และก็เป็นท่านปู่อีกตามเคยที่เอื้อมมือมาช่วยหล่อนไว้ ทำให้น้ำรินลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก การทดสอบเรื่องอาหารผ่านไปด้วยดี ผลที่ออกมาหล่อนได้คะแนนเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าสูงมากเลยทีเดียว และสุดท้ายก็คือการชงชาที่ถูกต้อง ขณะที่กำลังนำถาดน้ำชาไปเสิร์ฟให้ผู้หลักผู้ใหญ่นั้นเอง วูบหนึ่งหล่อนรู้สึกหน้ามืด วิงเวียนจนแทบล้ม แต่ก็พยายามข่มใจไว้ พลางยืดอกขึ้นสูดลมหายใจเพื่อเอาออกซิเจนเข้าปอดลึก ๆ เฮือกหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอดเรื่องที่หญิงสาวไม่ต้องการให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้“อุ๊บ! อ๊ะ!” เพล้ง! จู่ ๆ หญิงสาวก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อกลิ่นของชาชั้นดีโชยมาแตะเข้าที่จมูก กลิ่นของมันทำให้แก๊สในกระเพาะอาหารปั่นป่วนจนวิ่งมาจุกอยู่ที่ลำคอ แทบอ้วกออกมา เท่านั้นเองโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว หล่อนเผลอยกมือขึ้นมาปิดปาก ทำให้น้ำหนักถูกเทไปที่มืออีก
สามวันแล้วสินะที่หล่อนโดนการทดสอบแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคุณอาหญิง วันแรกเธอให้หล่อนขัดถูเครื่องใช้โบราณที่อยู่ในครัว ทำอยู่เป็นวันกว่าจะเสร็จก็เล่นเอามือถลอกไปเลยทีเดียว ถัดมาอีกวันหนึ่งหล่อนถูกทดสอบการทำอาหารซึ่งหล่อนถนัดนักล่ะ ไม่ว่าเธอจะสั่งให้ทำอะไรหล่อนก็ทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี และนั่นก็ทำให้คุณลี ฮาซัน เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับหล่อนดีขึ้น วันนี้เธอช่วยสอนวิธีชงชาที่ถูกวิธีให้กับหล่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ฮีจินมาเยี่ยมหล่อนเมื่อช่วงบ่าย ก่อนจะกลับหล่อนได้ยื่นของสิ่งหนึ่งมาให้ นั่นก็คือหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีในแต่ละยุคสมัย คุณลีบอกว่าอีกสองวันจะมีการประชุมผู้อาวุโสของตระกูล ให้หล่อนเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อถึงวันนั้นเธอบอกว่าจะคอยช่วยหล่อนอีกแรงหนึ่ง น้ำรินรู้สึกดีใจเหลือเกิน ที่สามารถเอาชนะใจคุณลี ฮาซันได้ เพียงแค่ระยะเวลาอันสั้น ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน พ่อบ้านเก่าแก่ ต่างก็ให้ความเป็นกันเองกับหล่อนมากขึ้นผิดกับวันแรก ๆ ที่หล่อนมาถึงที่นี่ลิบลับ หญิงสาวกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งในช่วงเย็น หลังจากร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นกับผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว ร่างเล็กก้าวเข้าไป
ช่วงเดือนพฤษภาคมที่เกาหลีแลดูสดชื่นนัก ความสวยงามของดอกไม้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ ผลิดอกบานสะพรั่งก่อนที่จะมีใบสีเขียวชอุ่มตามมา ไกด์จำเป็นอธิบายให้หล่อนฟังว่า ริมทางที่รถวิ่งผ่านมาส่วนมากจะเป็นต้นเมเปิลต้นอึนแฮง ( ต้นแป๊ะก๊วย) ต้นบอทือ ( ต้นหลิว) ต้นบอช ( ต้นซากุระ) ต้นชัน (คล้ายต้นสน) ส่วนที่อยู่บนเนินเขาจะมีดอกจิลดัลแล สีชมพูอมม่วง ดอกแคนารีสีเหลือง และดอกซากุระ หรือดอกชนามู สีขาวอมชมพู ต่างผลิดอกออกมาประชัน เปรียบเสมือนสีผ้าต่าง ๆ พืด ปูประดับประดาไว้อย่างสวยงาม ต้นไม้ที่ให้ร่มเงา ยืนเรียงรายริมถนนเริ่มผลิใบอ่อนบ้างแล้ว ตามกิ่งก้านจะมีนกเจบีตัวเล็ก ๆ สีดำส่งเสียงร้องอย่างร่าเริง รถคันจิ๋ววิ่งลัดเลาะผ่านภูเขาที่ดูคดเคี้ยว จากกรุงโซลออกมาแถวชานเมือง ได้สักพักใหญ่ ๆ คนขับกิตติมศักดิ์ของหล่อนก็หักพวงมาลัยเพื่อเลี้ยวขวาขึ้นไปบนเนินสูงเบื้องหน้า วิ่งผ่านรั้วกำแพงสูงใหญ่เข้าไปด้านใน ก่อนจะจอดนิ่งสนิทหน้าลานกว้าง น้ำรินก้าวลงจากรถพลางเหม่อ
“อืมม์ เก่งขึ้นทุกวันนะเราใครสอนกันนะ โอ๊ะ! หึ ๆ” พูดออกไปแล้วก็ต้องร้องครวญครางด้วยความเจ็บ เมื่อถูกกำปั้นน้อย ๆ ทุบที่หน้าอกทีหนึ่งจากคนตัวเล็กตรงหน้า แก้มแดงระเรื่อทำให้เขาอดใจไม่ไหว ช้อนร่างหล่อนอุ้มขึ้นมากระชับไว้ในวงแขนอันอบอุ่น ก่อนจะพามาวางลงบนที่นอนโดยมีร่างสูงหนาตามมาติด ๆ ลมหายใจรินรดกันจนแทบจะสัมผัสได้ ตาต่อตาประสานกันนิ่ง ชายหนุ่มแนบหน้าเข้ามาใกล้เกลือกจมูกโด่งสวยเป็นสัน กับแก้มเนียนอมชมพูสูดดมความหอมอย่างรักใคร่หลงใหล ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากจากมุมปากประกบไว้แนบแน่น มือหนึ่งช้อนไว้ที่ท้ายทอยของหล่อน ส่วนมืออีกข้างก็ทำการสำรวจร่างกาย ลูบไล้ไปทั่วก่อนจะสอดหายเข้าไปใต้เนื้อผ้า.. สักพักชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาก็ถูกปลดออกจากร่าง เหลือไว้เพียงร่างขาวนวลเนียนกระจ่างตา“ยังเช้าอยู่เลยนะคะ” หญิงสาวจำต้องยกมือขึ้นแตะที่แขนของสามีเป็นเชิงเตือน เมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น“ไม่เห็นเป็นไรเลยเช้า ๆ นั่นแหละดี”“แต่ว่า..คุณต้องไปทำงาน”“อื้อ..อย่าดื้อน่า เมื่อกี้ยังเชื้อเชิญอยู่เลย นะ..ขอหน่อยนะที่รัก หลายวันแล้วนะที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย อีกหน่อยเธอก็ต้องไปที่โซลแล้ว เมื่อถึ
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทำให้มันสะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายจึงใช้ส้นเท้ากระทืบลงที่หลังเท้าของมันเต็มแรง ก่อนจะก้มลงไปกัดที่มือหยาบหนาบริเวณที่มันโอบเหนือเอวหล่อนขึ้นมา เมื่อถูกฟันคม ๆ ของหล่อนกดลึกเข้าไปในผิวเนื้อจนมันรู้สึกเจ็บ ร้องจ๊ากออกมา จนสะบัดมือ สะบัดเท้าเร่า ๆ หญิงสาวมองเห็นความหวังที่จะรอดไปได้ขึ้นมารำไร จึงรีบสลัดตัวออกจากแขนใหญ่ล่ำ ที่พันธนาการหล่อนอยู่ทันที ก่อนจะก้มลงไปหยิบปืนที่หล่นอยู่แทบเท้าเมื่อครู่ด้วยมืออันสั่นเทา นิ้วชี้กระชับพร้อมที่จะเหนี่ยวไกเพื่อกระชากวิญญาณของพวกมันได้ทุกเมื่อ หญิงสาวอยู่ในท่าเตรียมพร้อมอย่างที่ร่ำเรียนมา ปลายกระบอกปืนส่ายสลับไปมา ระหว่างชายฉกรรจ์ที่ยึดตัวหล่อนและสามีไว้เมื่อครู่อย่างหมายมาด สถานการณ์กลับกลายไปเป็นอีกแบบหนึ่งทันที ฮิโรยูกิย่างสามขุมตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของโทรุ ด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนไอ้สองคนที่กำลังสาละวนอยู่กับการพันธนาการฮีจินอยู่ ชะงักงัน หนึ่งในนั้นพยายามที่จะงัดปืนออกมาจากเอวของมันแต่ถูกเสียงเข้มดุดัน ตะโกนสั่งออกมาเสียก่อน“ทิ้งปืนซะ! ถ้าไม่อยากให้เจ้านายของแกตาย แล้วก็แก้มัดเพื่อนฉัน
“ทำได้ดีมาก..ที่รัก” ฮิโรยูกิยังมีอารมณ์หันมาเอ่ยปากชมหล่อนทันทีที่ร่างเล็ก ๆ วิ่งเข้ามาหลบอยู่ข้างหลังเขา ความขุ่นมัว กรุ่นโกรธก่อนหน้านี้ค่อยผ่อนคลายลงไปได้นิดหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหล่อนแก้เผ็ดไอ้คนที่กระทำการอันน่ารังเกียจกับหล่อนได้อย่างไม่น่าเชื่อไม่เสียแรงเลยที่เขาอุตส่าห์ให้หล่อนหัดเรียนรู้วิธีป้องกันตัว เมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมาทั้ง ๆ ที่กลัวเหลือเกินว่าเนื้อตัวของหล่อนจะบอบช้ำจากการฝึกฝน แต่ดูเหมือนว่าภรรยาตัวน้อยของเขาจะติดใจการฝึกหัดทุกรูปแบบเสียจนบางครั้ง ไม่สนใจเขาไปเลยในช่วงนั้น โดยเฉพาะเวลาที่เธอฝึกยิงปืนกับครูหนุ่ม การเอาใจใส่จนออกนอกหน้าของครูฝึกคนนั้น ทำให้เขาต้องย้ายหล่อนให้มาฝึกกับครูผู้หญิงแทน ส่วนครูฝึกคนแรกนั้น ถูกย้ายทันทีในวันถัดมา นี่ล่ะ..ผู้หญิงที่จะมาเป็นนายหญิงของตระกูลคัทซึฮิโกะตัวจริง“หึ ๆ แกแน่มาก ฮิโรยูกิแต่ดูเหมือนว่าแกจะประเมินฉันต่ำไปแล้ว” ฮิโรยูกิกับน้ำรินรู้สึกแปลกใจในคำพูดของโทรุ ที่จู่ ๆ มันก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมาจากลำคอ ทันใดนั้นทั้งสองก็ต้องอ้าปากค้างร้องอุทานออกมาเกือบพร้อมกัน“ฮ