Home / วาย / อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว / ตอนที่10. ว่ากันว่าสองร้อยปีก่อน

Share

ตอนที่10. ว่ากันว่าสองร้อยปีก่อน

Author: Readed
last update Last Updated: 2025-01-18 23:57:15

เพิ่งสิ้นเสียง สีหน้าของเขาก็เริ่มแข็งทื่อขึ้นมา เจียงอันเหอรออยู่สักครู่ แต่ไม่ได้รอดู เขาใช้มือวาดไปวาดมาตรงหน้ามนุษย์ประหลาด เห็นมนุษย์ประหลาดไม่มีปฏิกิริยา เดาว่าเขาคงเข้าไปในสถานการณ์บางอย่างแล้ว เหมือนกับวิหคซ่างฟู่ในตอนนั้น เจียงอันเหอจึงตอบออกไปว่าตกลง มนุษย์ประหลาดจึงได้พูดออกมา

  “หลังจากที่ปิศาจกุ่ยเยวี่ยจุนได้ทิ้งวิญญาณเอาไว้ที่นี่แล้ว ปิศาจจำนวนนับไม่ถ้วนจึงใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทยอยกันมากราบไหว้ไม่หยุดหย่อน หรืออาจจะเรียกว่าหาสมบัติก็ได้ จนทำให้สถานที่แห่งนี้ปกคลุมไปด้วยไอปีศาจ  พวกที่มาบำเพ็ญเซียนจึงได้สร้างถ้ำไว้ที่นี่ นักบำเพ็ญก่อนยุคจินตานขออยู่ที่นี่เพื่อรักษาการได้ สำนักใหญ่หลายสำนักจะเป็นผู้ดูแลค่าตอบแทน และก็เป็นการปกป้องคนธรรมดาอีกทางหนึ่งด้วย

มนุษย์ประหลาดพูดๆ ไปก็ตบปากตัวเอง แล้วลูบคลำแหวนที่อยู่บนมือ หยิบสุราที่บรรจุในน้ำเต้าออกมาดื่ม แล้วเล่าต่อ 

“ว่ากันว่าสองร้อยปีก่อน ผู้บำเพ็ญเซียนที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นผู้บำเพ็ญพเนจรไร้สำนัก เดิมทีก็ไร้อุปสรรคใดๆ อยู่หรอก หากแต่ในกลางดึกของคืนหนึ่ง คนจำนวนมากเห็นว่าแสงพระจันทร์เป็นสีเลือดวงใหญ่ พวกปิศาจต่างทยอยกันมายังที่แห่งนี้ ว่ากันว่าวิญญาณของปิศาจกุ่ยเยวี่ยจุนจะถือกำเนิด เสียดายพวกเขาคิดไม่ถึง สิ่งที่รอพวกเขาอยู่คือการสังหารฉากหนึ่ง" 

“ในตอนที่พวกผู้บำเพ็ญเซียนเร่งกันมา รอบๆ ถ้ำเต็มไปด้วยซากของพวกปิศาจ แต่ไม่เห็นผู้บำเพ็ญพเนจรผู้นั้น ต่อมาพวกเขาก็ได้เจอผู้บำเพ็ญพเนจรผู้ก่อความวุ่นวายผู้นั้น เพื่อที่จะสืบรู้ความจริง จึงมีผู้บำเพ็ญใช้กระจกน้ำร่ายมนตร์แล้วย้อนดูเหตุการณ์"

“ที่แท้เวลาที่ผู้บำเพ็ญพเนจรนั้นตั้งเอาไว้ บังเอิญไปปลุกวิญญาณของปิศาจกุ่ยเยวี่ยจุนเข้า วิญญาณปิศาจได้ปลดยันต์ปิดผนึกออก แล้วผู้บำเพ็ญพเนจรนั้นก็โดนดูดวิญญาณไป ผู้บำเพ็ญพเนจรนั้นสองตาแดงก่ำ สีหน้าบิดเบี้ยว คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบจากไอสังหารในพลังปิศาจ ประจวบเหมาะกับการมาถึงของพวกปิศาจ จึงยิ่งเป็นการกระตุ้นผู้บำเพ็ญผู้นั้น วิญญาณของปิศาจกุ่ยเยวี่ยจุนทำให้เขาคลุ้มคลั่ง และก็ทำให้เขาบำเพ็ญได้ก้าวหน้าไม่น้อยเช่นกัน เพื่อที่จะไม่ให้ผู้บำเพ็ญจากข้างนอกทำลายพลังลมปราณ สัญชาตญาณที่เหลือจึงทำให้เขาต้องสังหาร”

“จากนั้น ในตอนที่เขาไล่ฆ่าปิศาจบางตนไปถึงริมลำธาร แต่กำลังแรงกลับไม่อ่อนลงเลยแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าพลังจากการบำเพ็ญของปิศาจลึกล้ำยิ่งนัก ในเวลานี้เอง จู่ๆ ผู้บำเพ็ญพเนจรก็หยุดลง มองซ้ายแลขวา แล้วล้มพับลงบนพื้นไปอย่างอ่อนแรง สลบไสลไป สิ่งที่กระจกน้ำสะท้อนมีแต่ภาพเหตุการณ์ ไม่มีเสียง พวกผู้บำเพ็ญเซียนทั้งหลายก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้บำเพ็ญพเนจรคนนั้น”

“ผู้บำเพ็ญบางคนเสนอให้สังหารผู้บำเพ็ญพเนจรผู้ที่ดูดวิญญาณปิศาจกุ่ยเยวี่ยจุนนี่เสีย บางคนให้คิดเสียว่าเป็นความเมตตาจากสวรรค์ หากแต่ก็ไม่ได้เป็นความปรารถนาของผู้บำเพ็ญพเนจร เหตุใดชนหมู่มากไม่ร่วมกันหล่อหลอมเขาเสียเล่า พวกเขาตกลงอะไรกัน มีแต่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้นที่รู้ เอาเป็นว่าเท่าที่ข้ารู้ สุดท้ายผู้บำเพ็ญพเนจรผู้เคราะห์ร้ายผู้นั้นก็ยังมีชีวิตต่อไป”

ในตอนที่เขาเล่าถึงเคราะห์ร้ายของผู้บำเพ็ญพเนจรผู้นั้น บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มประหลาดขึ้น

ในที่สุดมนุษย์ประหลาดก็เล่าจบแล้วมอบเกล็ดน้ำให้เจียงอันเหอ “นี่คือกุญแจของประตูถ้ำในวันวาน เบาะแสที่หาอยู่ในนี้”

เห็นเขาเพียงโยนสุราน้ำเต้าในมือขึ้น แล้วมันก็โตขึ้นหลายเท่ากลางอากาศ มนุษย์ประหลาดกระโดดพลิกตัวยืนอยู่บนน้ำเต้านั้น แล้วบังคับน้ำเต้าให้ทะยานขึ้น ทิ้งคำพูดไว้คำหนึ่ง “ข้าชื่อมิ่วอี สหายน้อย หากมีวาสนาคงได้พบกันอีก!”

เจียงอันเหอเงยหน้ามองดูมิ่วอีจากไป แม้ว่าก่อนหน้าจะได้สัมผัสมนตร์คาถาที่มู่ชิงกับชางไป๋ซานใช้ แต่ตอนนี้มาเห็นลีลาท่าทางการท่องโลกกว้างของมิ่วอี ถึงได้รู้สึกว่าเขยิบเข้าใกล้วิถีของเซียนเข้าไปอีกนิด

เจียงอันเหอกำกุญแจเกล็ดน้ำที่ใช้เปิดประตูถ้ำไว้ ค้นพบว่าในตอนที่ตัวเองหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เกล็ดน้ำจะส่องประกาย เขาจึงออกเดินทางไปยังทิศนั้น

    

เจียงอันเหอเดินทางไปตามป่าเขียวขจี  เกล็ดน้ำในมือเขาส่องประกายแวววาวขึ้นทุกที กระทั่งเป็นประกายจนแสบตา

ยังไม่ทันรอให้เขาได้มีปฏิกิริยาใดๆ จู่ๆ เกล็ดน้ำก็ลื่นหลุดออกจากมือ พุ่งลอยขึ้นกลางอากาศ เปล่งแสงประกายเป็นวงกว้างออกมา วงล้อมของเกล็ดน้ำค่อยๆ แผ่กระจายออกมาเป็นวงถ้ำ

   ประตูใหญ่ของถ้ำเก่าแก่และผุผัง เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งกาลเวลา ป้ายที่เอียงกระเท่เร่มองเห็นแต่เพียงคำว่า

เซียน เท่านั้น   

เจียงอันเหอมองซ้ายมองขวา ยืนยันแล้วว่าน่าจะเป็นถ้ำแห่งนี้ จึงเดินผ่านวงน้ำแล้วผลักประตูใหญ่เข้าไป ประตูใหญ่ส่งเสียง ‘แอ๊ด’ ขึ้นเบาๆ แล้วเปิดออกโดยง่าย เขามองเข้าไปในถ้ำที่ดำสนิท อดพูดออกมาเบาๆ คำหนึ่งไม่ได้ “รบกวนแล้วขอรับ”

ในถ้ำสะท้อนพลังงานของคนที่มีชีวิตอยู่ ไฟค่อยๆ ส่องสว่างขึ้นเอง และนี่ก็ทำให้เจียงอันเหอเห็นว่าถ้ำแห่งนี้ถูกทำลายไปมากขนาดไหนแล้ว 

ในตอนนี้ ระบบก็มีการแจ้งเตือน เจียงอันเหอคลิ๊กดู ภารกิจอัพเดตแล้ว ต้องการให้ผู้เล่นทำความสะอาดถ้ำของผู้บำเพ็ญพเนจร

เจียงอันเหอมองดูใยแมงมุมที่เป็นวงวงนั้น แล้วได้แต่ไปหาอุปกรณ์ทำความสะอาด

เขากวาดหยากไย่ลงมา จัดเก้าอี้ที่ล้มระเนระนาดให้เป็นระเบียบ กวาดฝุ่นผงที่มองเห็นรอบๆ ดวงหน้าน้อยๆ ของเจียงอันเหอสกปรกมอมแมม ในตอนที่เขาจะไปขัดทำความสะอาดประตูใหญ่ ระบบก็ร้องแจ้งเตือนอีกครั้งว่าภารกิจสำเร็จแล้ว

ดูท่าระดับความสะอาดของประตูใหญ่ยังไม่อยู่ในระดับที่ถูกจัดให้อยู่ในภารกิจ เจียงอันเหอจึงกดปุ่มภารกิจเสร็จสิ้น

ชายผู้สวมชุดยาวอย่างผู้บำเพ็ญเซียนสีขาวคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนอาสนะ ดวงตาทั้งสองข้างหลบพริ้ม ตาเนื้อเห็นแสงสีขาวสว่างจากตัวเขาพุ่งออกมารอบทิศ

เจียงอันเหอยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองผู้ชายที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นกับถ้ำต่างๆ ที่ไม่เหมือนเดิม เดาว่าน่าจะเป็นการเข้าไปในเนื้อเรื่องเกม

การเคลื่อนไหวของพลังเร็วขึ้นทุกที คิ้วของชายหนุ่มขมวดเข้าหากัน

ด้านนอกถ้ำที่เจียงอันเหอมองไม่เห็น พระจันทร์ได้กลายเป็นสีเลือดไปแล้วเรียบร้อย ค่อยๆ แทรกซึมผสมผสานกับพลังงานสีขาว กลายเป็นจิตสังหาร

ชายหนุ่มลืมตาทั้งสองขึ้น แววตาที่เดิมทีสุกใสเป็นประกาย ค่อยๆ เลือนหายและหม่นหมองลง

สถานการณ์ถัดไปเหมือนเรื่องราวที่มิ่วอีเล่าให้เขาฟังไม่มีผิดเพี้ยน  ปิศาจมารวมตัวกัน การสังหารใหญ่ของผู้บำเพ็ญพเนจร เสียงร้องคร่ำครวญตอนก่อนตายของพวกปิศาจ เลือดสดที่สาดไปทั่ว ไม่มีสิ่งใดเลยที่ไม่ไปกระทบประสาทสัมผัสของเจียงอันเหอ

เขาใช้มือปิดตา ได้แต่แอบดูสถานการณ์ผ่านร่องนิ้ว แล้วคอยบอกตัวเองเป็นนัยว่า “ฉันกำลังดูหนัง ฉันกำลังดูหนัง...”

ในที่สุด มีปิศาจที่ผ่านการบำเพ็ญเพียรตนหนึ่งวิ่งออกมาจากถ้ำ ชายหนุ่มก็วิ่งไล่ตาม สถานการณ์ก็หยุดลงเพียงเท่านี้

Related chapters

  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่11.จัดการอารมณ์ตนเอง

    ฉากตัดย้อนกลับไปที่ถ้ำเก่าทรุดโทรม เจียงอันเหอถอนหายใจยาวออกมา ไม่ว่าอย่างไรฉากที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดแบบนี้ก็กวนใจเขาไปไม่น้อยเขาจัดการอารมณ์ตนเอง ฉากเมื่อครู่ทำให้เขาสัมผัสถึงสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ในเส้นทางภารกิจของเขาแล้วว่าได้เดินมาในทางบำเพ็ญเซียนแน่แล้ว คิดมาถึงตรงนี้ เจียงอันเหอจึงเปิดระบบขึ้นเตรียมตรวจสอบภารกิจในเวลานี้ ประตูถ้ำที่เปิดอยู่มีเสียงนกประหลาดร้องออกมาเจียงอันเหอมองไปตามเสียง เห็นสัตว์ที่คล้ายนกกระเรียนมงกุฎแดงตัวหนึ่ง หากแต่เป็นนกสีเขียวที่มีขาเดียวกระโดดโหยงเหยงเข้าไปในถ้ำ นกตัวนั้นก็มองเห็นเจียงอันเหอด้วย มันเอียงหัว แล้วพ่นควันขาวก้อนหนึ่งออกมาจากจะงอยปากมาทางเขาหลังจากที่เจียงอันเหอโดนไล่ล่าจากวิหคซ่างฟู่ เขาก็มีเงามืดเกี่ยวกับนกอยู่ในใจ ในตอนที่เขาเห็นนกตัวนี้ก็เกิดความระแวดระวังขึ้นในใจ จึงรีบหมอบกลิ้งลงไปบนพื้น หลบควันสีขาวก้อนนั้นกลุ่มควันคละคลุ้งอยู่ตามผนังถ้ำ ราวกับว่าก่อเกิดมนตร์คาถาอันใดอันหนึ่งขึ้น ล่องลอยผ่านแสงสว่างวาบแสงหนึ่งไป โดยที่ไม่ได้ทำลายผนังประตูถูกนกเขียวขวางเอาไว้ เจียงอันเหอจึงได้แต่ห

    Last Updated : 2025-01-21
  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่12.มุ่งหน้าไปเมืองผิงหนาน

    รอจนหลังเจียงอันเหอเลิกงานแล้วออนไลน์ในวันที่สอง เกมก็ผ่านไปแล้วกว่าเกือบครึ่งเดือนหนิวเอ้อร์กำลังจะขับเกวียนออกจากหมู่บ้านชมจันทร์มุ่งหน้าไปยังเมืองผิงหนานพอดี เห็นเด็กคนที่เขาหาอยู่สองสามวันเมื่อครึ่งเดือนก่อนยืนตะลึงงันอยู่กลางถนน “เฮ้ เด็กคนนั้นน่ะ!” หนิวเอ้อร์คิดอยู่นานจึงรู้สึกว่าดูเหมือนตัวเองจะไม่รู้ชื่อเด็กคนนั้น จึงได้แต่ตะโกนหาสองสามทีพอเจียงอันเหอออนไลน์ก็ได้ยินเสียงท่านพี่หนิวเอ้อร์ จึงอดอุทานออกมาไม่ได้ว่าตัวเองนั้นโชคดีเหลือเกิน ขานเรียกพลางวิ่งไปหาหนิวเอ้อร์พลางทั้งคู่คุยกันอยู่ครู่หนึ่ง จึงนั่งรถม้าออกไปจากหมู่บ้านด้วยกัน มุ่งหน้าไปเมืองผิงหนานเมืองผิงหนานเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้ และก็เป็นสถานีแรกที่ผู้เล่นมือใหม่ส่วนมากมาเยือนหลังออกจากหมู่บ้าน ดังนั้นแม้ว่าเมืองจะเล็กไปหน่อย แต่ตลาดและโรงน้ำชามักจะมีคนแน่นเสมอ ครื้นเครงเป็นที่สุดหนิวเอ้อร์พาเจียงอันเหอมาถึงหน้าโรงน้ำชาแห่งหนึ่ง ช่วยเขาสอบถามข้อมูลเล็กน้อยก็กล่าวอำลา ขับเกวียนที่บรรทุกสินค้าไว้เต็มมุ่งหน้าไปยังตลาดเจียงอันเหอโผล่หน้าไปดูที่หน้าประตูโรงน้ำชา ด้านในมีคนจำนวนมากที่กำลังจิบน้ำชาฟังนิทาน ไม

    Last Updated : 2025-01-21
  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 13.เจ้าของกระบี่คือใครกัน

    ด้านหน้าสายตาเจียงอันเหอมืดดำไปหมด พอเขาได้สติ ก็เห็นว่าตัวเองถูกส่งไปยังไม้คาน ไกลออกไปเป็นสิ่งปลูกสร้างสลับซับซ้อนเป็นชั้นๆ ด้านหลังเป็นป่าไม้เงียบสงบร่มรื่น ใต้เท้าเป็นพื้นดินที่อยู่ไกลออกไปเขากลืนน้ำลาย กำเชือกที่อยู่บนคานแน่น รู้สึกราวกับว่าคานไม้นี้พร้อมจะหักลงมาได้ทุกเมื่อเจียงอันเหอทำใจอยู่ครู่หนึ่งก็เดินขึ้นหน้าช้าๆ พอเห็นว่าสิ่งปลูกสร้างใกล้เข้ามาทุกที ถึงได้มองเห็นชัดว่ามันเป็นอาคารสูงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ประหนึ่งครีบปลา กระเบื้องสีแดงชาดส่องสะท้อนภายใต้แสงแดดเป็นประกายจางๆ บนหลังคาแกะสลักรูปอสูรไว้ ดูมีชีวิตชีวาราวกับมีชีวิตหลังจากที่เดินลงสะพาน ตึกที่อยู่ใกล้ที่สุดก็อยู่เพียงคืบ เจียงอันเหอเพิ่งจะถอนหายใจ เด็กชายที่สวมเสื้อคลุมสีเขียวคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ถือกระบี่สำริดเดินเข้ามา “ผู้ ผู้มาช้าก่อน! ขอถามหน่อย ท่าน ท่าน ท่านมีธุระอะไร” เด็กชายอายจนหน้าแดงก่ำ พูดจาตะกุกตะกัก แม้ว่าน้ำเสียงจะค่อนข้างดุ แต่เจียงอันเหอมองเด็กชายที่สูงกว่าตัวเองไม่มากเท่าไหร่คนนี้ ก็รู้สึกอยากหัวเราะเขาหยิบด้ามกระบี่ออกมา รีบพูดตอนที่เด็กชายชักสีหน้า “ข้าถูกผู้รับช่วงส่งมาที่นี่ เขาบอกว่

    Last Updated : 2025-01-21
  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 14.คงไม่มีผีหรอกมั้ง

    เจียงอันเหอตรวจสอบดูตารางเรียนที่เหอเหนียนทิ้งไว้ให้ ด้านบนระบุไว้ว่าเป็นชั้นเรียนระดับต้น ชั้นเรียนวันแรกใช้เวลาสองชั่วยามในการเรียนเรื่องการกำหนดชีพจรและจุดลมปราณ เริ่มตั้งแต่เวลาเฉินไปจนถึงเวลาอู่ ซึ่งก็คือเริ่มชั้นเรียนตอนเจ็ดโมงเช้าวันนี้เขาออนไลน์เกมตอนบ่าย หลังจากที่วุ่นวายเป็นเวลาเนิ่นนาน ด้านนอกก็เริ่มเป็นเวลาวิกาล ห่างจากเวลาเรียนออกไปสองสามชั่วโมง ตอนนี้จะให้นั่งอยู่เฉยๆ ก็ค่อนข้างน่าเบื่อ ดังนั้นเจียงอันเหอจึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอก ตราบใดที่อยู่ภายในตึกรังหงส์คงจะปลอดภัยเข้าช่วงกลางคืน เดิมทีลูกศิษย์ที่เดินไปมาอยู่บนถนนประปรายก็ไม่เห็นแม้แต่เงา บนหลังคาของแต่ละอาคารมีโคมไฟแขวนประดับเอาไว้ ดูๆ ไปก็มีเสน่ห์เหมือนกัน แต่ไรมาที่นี่ก็เงียบสนิท ตอนนี้มีแสงไฟจากโคมส่องสว่าง ทำให้เจียงอันเหอรู้สึกไม่คุ้นชินอืม ในฐานะสำนักฝ่ายธรรม คงไม่มีผีหรอกมั้งเจียงอันเหอกำกระบี่ชิงถงในมือไว้แน่น ใช่แล้ว เจ้าสำนักดูเหมือนเซียนที่สูงส่งออกขนาดนั้นต้องเป็นสำนักฝ่ายธรรมะแน่ๆ ในตอนที่เขากำลังปลุกขวัญกำลังใจให้ตนเองอยู่นั้น เงาดำมืดสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากมุมแล้วปะทะเข้ากับร่างเขาอย่างจั

    Last Updated : 2025-01-21
  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 15.คิดไม่ถึงว่า

    ทัศนียภาพสวงามยมักอยู่ไม่นาน สองคนเดินอยู่หนึ่งชั่วยามก็ยังไม่ถึงหอตานชิง หลินอิงเหมิงไม่เพียงแต่เพียงพูดจนน้ำลายแห้ง แถมยังสงสัยและแล้วไม่ทันรอให้หลินอิงเหมิงฉีกหน้าเจียงอันเหอ ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงเบาละมุนมาแต่ไกล “เอ๋ นี่เป็นศิษย์คนใหม่ที่เพิ่งเข้าสำนักนี่นา ดึกดื่นป่านนี้เหตุใดจึงไม่พักผ่อน”คนคนนั้นหัวเราะทีหนึ่ง เจียงอันเหอเหลือบตาขึ้นเห็นเฉินจื่อเยว่กำลังเดินออกมาจากหอหนึ่งพอดี เขาลูบคลำหน้าตัวเอง ดูท่าการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าไม่ได้มีผลต่อ NPC เท่าไหร่ หรือบางทีในสายตาอีกฝ่าย เขาอาจจะเป็นแค่ชุดตัวเลขหนึ่งก็ได้พอเฉินจื่อเยว่เห็นเจียงอันเหอคารวะให้เขาในฐานะศิษย์ และสาวน้อยข้างกายคิดจะทำตาม จึงรีบหลบไปยังทิศทางที่สาวน้อยคารวะ “แม่นางที่มาเองโดยมิได้เชื้อเชิญ มิจำเป็นต้องคารวะด้วยมารยาทใหญ่โต”เจียงอันเหอเห็นเจ้าสำนักรู้สถานภาพสาวน้อยทะลุปรุโปร่ง จึงได้ทีขี่แพะไล่ “ว่าอย่างไรนะ! เจ้ามิใช่คนในสำนักพวกเราหรอกหรือ?!” จากนั้นจึงคิดจะก้าวขาเดินไปทางเจ้าสำนักของตัวเองคิดไม่ถึงว่าพอหลินอิ่งเหมิงเห็นเฉินจื่อเยว่ก็สังหรณ์ไม่ค่อยดีแล้ว จึงเตรียมตัวไว้แต่แรก พอเห็นเจียงอันเหอจะคิดหนี จึงหยิ

    Last Updated : 2025-01-21
  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 16.แต่พอคิดอีกที 

    เจียงอันเหอกลับมาถึงหอชิงหลวน หลังจากที่อยู่ในห้องตัวเองสักพัก ก็ถึงเวลาไปเข้าเรียนที่ห้องเรียนแล้วห้องบรรยายอยู่ชั้นห้าของหอชิงหลวน มีลักษณะเหมือนห้องหนังสือ เหนือผนังสีขาวมีหลังคากระเบื้องสีดำ ดูแล้วเรียบง่าย ตอนที่เจียงอันเหอมาถึงประตูยังไม่เปิด แต่หน้าประตูก็มีลูกศิษย์มายืนรอถึงสามสี่คนแล้วคนที่รออยู่สามสี่คนนั้นพอเห็นหน้าใหม่ จึงเข้ามาต้อนรับศิษย์น้องคนใหม่อย่างอบอุ่นมีศิษย์พี่หญิงคนหนึ่งถามถึงความก้าวหน้าทางการศึกษาเขาอย่างห่วงใย พอรู้ว่าเจียงอันเหอมาที่ห้องบรรยายเป็นครั้งแรก หลังจากที่เปิดประตูแล้ว จึงส่งเขาไปเข้าเรียนด้วยตนเองเจียงอันเหอยืนอยู่หน้าประตูห้องเรียน หลังจากอำลาศิษย์พี่หญิงด้วยรอยยิ้ม จึงนวดหน้าที่ฉีกยิ้มค้างแล้วหามุมสงบในห้องเรียนนั่งลงพวกศิษย์พี่ชายหญิงล้วนมีน้ำใจกันนัก เกรงว่าเขาจะรับไม่ไหว คิดไม่ถึงว่าศิษย์ร่วมสำนักในตึกรังหงส์จะกลมเกลียวกันปานนี้แต่พอคิดอีกที ภายใต้การนำของเทพชายของตนนั้น ความกลมเกลียวย่อมดีแน่นอน!ในเวลานี้ เสียงฆ้องป่าวประกาศจากด้านนอกดังขึ้นสามที ชายหนุ่มหน้าตาคมสันคนหนึ่งค่อยๆ ย่างก้าวเข้ามาอย่างภาคภูมิเดิมทีเจียงอันเหอคิดว่าเขาเอง

    Last Updated : 2025-01-21
  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 17.ดูดซึมพลังลมปราณ

    หลังจากผ่านพ้นหนึ่งคืนเต็ม เจียงอันเหอค้นพบประสิทธิภาพในการดูดซึมพลังลมปราณของตนเองสูงขึ้นอีกหน่อย พลังลมปราณที่ค่อยๆ หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกาย กำลังแผ่ซ่านไปทั่วทุกเส้นชีพจร ตอนนี้เขายังปรับทิศทางการไหลเวียนของพลังปราณตามชีพจรไม่ได้ ความรู้สึกที่โดนพลังปราณครอบคลุมนั้นช่างยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน ดีจนกระทั่งเจียงอันเหอรู้สึกว่าเพียงแค่หลับตา คืนหนึ่งก็ผ่านพ้นไปแล้วโชคไม่ดีคือ แผนภาพชีพจรที่เจียงอันเหอท่องอยู่ครึ่งค่อนวัน หายวับไปจากหัวเขาจนเกือบหมด เขาพยายามนึกอย่างไรก็นึกออกเพียงแค่ไม่กี่ข้อเรื่องแบบนี้ฝืนไม่ได้หรอก เจียงอันเหอจึงวางลงก่อน แล้วไปเข้าเรียนที่ห้องบรรยายคนที่บรรยายให้เขาฟังวันนี้เป็นศิษย์พี่ที่ค่อนข้างเคร่งขรึม เอาแต่จ้องเขาตอนเรียนเขม็ง ทำให้เจียงอันเหอตึงเครียดเหมือนกับนั่งอยู่บนเข็มทั้งคาบ อย่างกับได้ทบทวนความรู้สึกที่โดนอาจารย์ถามตอนเรียนหนังสือในปีเก่าๆ ศิษย์พี่เน้นบรรยายความสำคัญของการขับเคลื่อนพลังลมปราณ พอรู้ว่าเมื่อวานเจียงอันเหอได้ไปฝึกฝนพลังลมปราณจนสำเร็จ ศิษย์พี่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ใช้แววตาเยียบเย็นจ้องมองเจียงอันเหอตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่สองสามรอบ

    Last Updated : 2025-01-21
  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 18.ลองร่ายคาถา

    หลังจากเข้าสู่ช่วงฝึกปราณ ผู้เล่นไม่เพียงแค่รับพลังปราณได้จากการนั่งสมาธิเท่านั้น ยังไปหา NPC ของสำนักเพื่อรับภารกิจได้อีกด้วย พอเสร็จภารกิจก็จะได้รางวัลโบนัสกับค่าพลังปราณที่กำหนดไว้พอเจียงอันเหอรู้ถึงจุดนี้ ก็ตัดสินใจว่าหลังเลิกเรียนวันนี้จะไปดูภารกิจที่สำนักตอนนี้ตารางเรียนที่อยู่ในมือเขาได้อัพเดตเรียบร้อยแล้ว เวลาไม่เปลี่ยน ส่วนสถานที่เรียนเปลี่ยนไปเป็นโถงฝึกพลังลมปราณ ในตอนที่เจียงอันเหอเข้าไป ค้นพบว่าที่นี่คึกคักกว่าตรงประตูทางเข้าเสียอีก ด้านในมีลูกศิษย์นั่งกันอยู่เป็นสิบ มีบางคนที่เคยเห็นศิษย์น้องอย่างเขา ต่างก็ทั้งประหลาดใจและดีใจ ล้วนมาแสดงความยินดีที่เขาเข้าสู่ช่วงฝึกพลังปราณได้เร็วขนาดนี้สำหรับพวกเขาแล้ว การที่เจียงอันเหอหายหน้าหายตาไปเป็นสิบวันคงกำลังไปตั้งใจฝึกฝนอยู่เป็นแน่ ไม่อย่างนั้นจะสำเร็จรวดเร็วปานนี้ได้อย่างไรหลังจากเสียงฆ้องดังขึ้น อาจารย์ผู้เข้าสอนจึงเดินเข้ามา ส่งสัญญาณให้พวกลูกศิษย์ตั้งใจเรียนอาจารย์ผู้สอนในคาบเรียนนี้ใช้วิธีการสอนแบบร่ายคาถาจู่โจม หัวใจสำคัญคือแปรพลังปราณที่อยู่ภายในร่างกายเป็นธาตุพลังปราณสำหรับใช้ร่ายคาถาแล้วปล่อยพลังออกไป ธาตุหลักทั

    Last Updated : 2025-01-21

Latest chapter

  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 20. ยิ้มมุมปาก

    วันนี้ชายหนุ่มไม่ได้รวบผมดำขลับที่ปล่อยยาวลงมา และก็ไม่ได้ตวัดพู่กันวาดภาพ หากแต่กลับหยิบขลุ่ยหยกขาวราวหิมะนั่งเป่าเพลงเจียงอันเหอฟังอย่างเคลิบเคลิ้มครู่หนึ่ง รอจนเฉินจื่อเยว่เป่าเพลงจบถึงได้ส่งผลงานภารกิจวันนี้ให้เขาเฉินจื่อเยว่ยังคงยิ้มมุมปากแบบนั้น เป็นปฏิกิริยาปกติที่เจอเจียงอันเหอทำเหมือนกับเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจียงอันเหอคิดชั่วครู่ เป็นแบบนั้นจริงๆ เฉินจื่อเยว่เป็นเพียงแค่ NPC เท่านั้นเอง บางทีเรื่องเมื่อวานอาจจะไม่ได้บันทึกลงไปในสถิติของอีกฝ่ายก็เป็นได้ บางทีเขาอาจจะรู้สึกว่าเรื่องนี้คงไม่ผลกระทบเรื่องท่าทีที่เขามีต่อตนเองเท่าไหร่นัก...เอาเป็นว่า ตอนที่เจียงอันเหอได้เจอเขาอีกครั้ง เขาไม่ได้ดูฝืนอย่างที่คิดไว้เขาปลอบใจตนเองด้วยการมองแง่ดี ดูสิ นี่เป็นข้อดีที่ว่าคนที่ชอบเป็น NPCวันเวลาต่อจากนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วราวติดปีกบิน เจียงอันเหอใช้ชีวิตในเกมไปตามกฎระเบียบ ทุกวันหลังจากที่จบชั้นเรียนคาถาก็จะไปเข้าชั้นเรียนตานชิง แน่นอนว่าเขาไม่เคยวาดรูปคนในชั้นเรียนตานชิงเลย หากกลับวาดภาพทิวทัศน์ ภาพสัตว์ หรือไม่ก็ภาพประหลาดๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัวเขาแทนค่อยเป็นค่อยไปทีละช้าๆ ทุกคร

  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 19.ไม่ใช่ว่าศิษย์พี่ไม่ดูแลเจ้า

    ภารกิจ NPC จากสำนักตึกรังหงส์คือไปพบเหอเหนียนที่พาเจียงอันเหอไปพบเจ้าสำนัก เขามองดูกระดาษที่เขียนภารกิจอยู่เต็มหน้า เลือกอยู่เป็นนานสองนานกว่าจะได้ภารกิจในช่วงฝึกพลังปราณ“ช่วยไม่ได้ ไม่ใช่ว่าศิษย์พี่ไม่ดูแลเจ้า ลูกศิษย์ที่มาฝึกพลังปราณมีค่อนข้างมาก ภารกิจก็มีเพียงไม่กี่อย่างนี้ จะให้เจ้ารับภารกิจใหญ่ก็ไม่ได้เสียด้วย มันค่อนข้างอันตรายเกินไป” เหอเหนียนหยิบกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง พร้อมกับตราประทับหยกส่งยื่นให้เขา “เอ้า ฉบับนี้แหละง่ายมาก เอาตราประทับหยกนี่ยื่นให้เจ้าสำนักก็พอ"ศิษย์พี่ ข้าชื่นชมท่านเหลือเกินวันนี้เฉินจื่อเยว่เปลี่ยนมาใส่ชุดคลุมสีดำ และกำลังตั้งอกตั้งใจใช้พู่กันขนแกะวาดภาพดอกเหมยหมึกลงบนกระดาษสาในตอนที่เจียงอันเหอมาถึง เขากำลังตวัดกลีบดอกสุดท้ายพอดี“คารวะเจ้าสำนัก นี่คือตราประทับหยกที่ศิษย์พี่เหอเหนียนให้ข้านำมา” พอเจียงอันเหอคารวะเรียบร้อย จึงยื่นตราประทับหยกให้กับเฉินจื่อเยว่เฉินจื่อเยว่รับตราประทับหยกไปวางลงบนโต๊ะ แล้วทักทายเขาว่า “ได้ยินว่าเจ้าลงเรียนคาบตานชิง เช่นนั้นเจ้ามาดูภาพวาดดอกเหมยหมึกที่ข้าวาดวันนี้”เจียงอันเหอขยับเข้าไปใกล้ การใช้เส้นของภาพวาดนี้เรียบง

  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 18.ลองร่ายคาถา

    หลังจากเข้าสู่ช่วงฝึกปราณ ผู้เล่นไม่เพียงแค่รับพลังปราณได้จากการนั่งสมาธิเท่านั้น ยังไปหา NPC ของสำนักเพื่อรับภารกิจได้อีกด้วย พอเสร็จภารกิจก็จะได้รางวัลโบนัสกับค่าพลังปราณที่กำหนดไว้พอเจียงอันเหอรู้ถึงจุดนี้ ก็ตัดสินใจว่าหลังเลิกเรียนวันนี้จะไปดูภารกิจที่สำนักตอนนี้ตารางเรียนที่อยู่ในมือเขาได้อัพเดตเรียบร้อยแล้ว เวลาไม่เปลี่ยน ส่วนสถานที่เรียนเปลี่ยนไปเป็นโถงฝึกพลังลมปราณ ในตอนที่เจียงอันเหอเข้าไป ค้นพบว่าที่นี่คึกคักกว่าตรงประตูทางเข้าเสียอีก ด้านในมีลูกศิษย์นั่งกันอยู่เป็นสิบ มีบางคนที่เคยเห็นศิษย์น้องอย่างเขา ต่างก็ทั้งประหลาดใจและดีใจ ล้วนมาแสดงความยินดีที่เขาเข้าสู่ช่วงฝึกพลังปราณได้เร็วขนาดนี้สำหรับพวกเขาแล้ว การที่เจียงอันเหอหายหน้าหายตาไปเป็นสิบวันคงกำลังไปตั้งใจฝึกฝนอยู่เป็นแน่ ไม่อย่างนั้นจะสำเร็จรวดเร็วปานนี้ได้อย่างไรหลังจากเสียงฆ้องดังขึ้น อาจารย์ผู้เข้าสอนจึงเดินเข้ามา ส่งสัญญาณให้พวกลูกศิษย์ตั้งใจเรียนอาจารย์ผู้สอนในคาบเรียนนี้ใช้วิธีการสอนแบบร่ายคาถาจู่โจม หัวใจสำคัญคือแปรพลังปราณที่อยู่ภายในร่างกายเป็นธาตุพลังปราณสำหรับใช้ร่ายคาถาแล้วปล่อยพลังออกไป ธาตุหลักทั

  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 17.ดูดซึมพลังลมปราณ

    หลังจากผ่านพ้นหนึ่งคืนเต็ม เจียงอันเหอค้นพบประสิทธิภาพในการดูดซึมพลังลมปราณของตนเองสูงขึ้นอีกหน่อย พลังลมปราณที่ค่อยๆ หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกาย กำลังแผ่ซ่านไปทั่วทุกเส้นชีพจร ตอนนี้เขายังปรับทิศทางการไหลเวียนของพลังปราณตามชีพจรไม่ได้ ความรู้สึกที่โดนพลังปราณครอบคลุมนั้นช่างยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน ดีจนกระทั่งเจียงอันเหอรู้สึกว่าเพียงแค่หลับตา คืนหนึ่งก็ผ่านพ้นไปแล้วโชคไม่ดีคือ แผนภาพชีพจรที่เจียงอันเหอท่องอยู่ครึ่งค่อนวัน หายวับไปจากหัวเขาจนเกือบหมด เขาพยายามนึกอย่างไรก็นึกออกเพียงแค่ไม่กี่ข้อเรื่องแบบนี้ฝืนไม่ได้หรอก เจียงอันเหอจึงวางลงก่อน แล้วไปเข้าเรียนที่ห้องบรรยายคนที่บรรยายให้เขาฟังวันนี้เป็นศิษย์พี่ที่ค่อนข้างเคร่งขรึม เอาแต่จ้องเขาตอนเรียนเขม็ง ทำให้เจียงอันเหอตึงเครียดเหมือนกับนั่งอยู่บนเข็มทั้งคาบ อย่างกับได้ทบทวนความรู้สึกที่โดนอาจารย์ถามตอนเรียนหนังสือในปีเก่าๆ ศิษย์พี่เน้นบรรยายความสำคัญของการขับเคลื่อนพลังลมปราณ พอรู้ว่าเมื่อวานเจียงอันเหอได้ไปฝึกฝนพลังลมปราณจนสำเร็จ ศิษย์พี่จึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ใช้แววตาเยียบเย็นจ้องมองเจียงอันเหอตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่สองสามรอบ

  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 16.แต่พอคิดอีกที 

    เจียงอันเหอกลับมาถึงหอชิงหลวน หลังจากที่อยู่ในห้องตัวเองสักพัก ก็ถึงเวลาไปเข้าเรียนที่ห้องเรียนแล้วห้องบรรยายอยู่ชั้นห้าของหอชิงหลวน มีลักษณะเหมือนห้องหนังสือ เหนือผนังสีขาวมีหลังคากระเบื้องสีดำ ดูแล้วเรียบง่าย ตอนที่เจียงอันเหอมาถึงประตูยังไม่เปิด แต่หน้าประตูก็มีลูกศิษย์มายืนรอถึงสามสี่คนแล้วคนที่รออยู่สามสี่คนนั้นพอเห็นหน้าใหม่ จึงเข้ามาต้อนรับศิษย์น้องคนใหม่อย่างอบอุ่นมีศิษย์พี่หญิงคนหนึ่งถามถึงความก้าวหน้าทางการศึกษาเขาอย่างห่วงใย พอรู้ว่าเจียงอันเหอมาที่ห้องบรรยายเป็นครั้งแรก หลังจากที่เปิดประตูแล้ว จึงส่งเขาไปเข้าเรียนด้วยตนเองเจียงอันเหอยืนอยู่หน้าประตูห้องเรียน หลังจากอำลาศิษย์พี่หญิงด้วยรอยยิ้ม จึงนวดหน้าที่ฉีกยิ้มค้างแล้วหามุมสงบในห้องเรียนนั่งลงพวกศิษย์พี่ชายหญิงล้วนมีน้ำใจกันนัก เกรงว่าเขาจะรับไม่ไหว คิดไม่ถึงว่าศิษย์ร่วมสำนักในตึกรังหงส์จะกลมเกลียวกันปานนี้แต่พอคิดอีกที ภายใต้การนำของเทพชายของตนนั้น ความกลมเกลียวย่อมดีแน่นอน!ในเวลานี้ เสียงฆ้องป่าวประกาศจากด้านนอกดังขึ้นสามที ชายหนุ่มหน้าตาคมสันคนหนึ่งค่อยๆ ย่างก้าวเข้ามาอย่างภาคภูมิเดิมทีเจียงอันเหอคิดว่าเขาเอง

  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 15.คิดไม่ถึงว่า

    ทัศนียภาพสวงามยมักอยู่ไม่นาน สองคนเดินอยู่หนึ่งชั่วยามก็ยังไม่ถึงหอตานชิง หลินอิงเหมิงไม่เพียงแต่เพียงพูดจนน้ำลายแห้ง แถมยังสงสัยและแล้วไม่ทันรอให้หลินอิงเหมิงฉีกหน้าเจียงอันเหอ ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงเบาละมุนมาแต่ไกล “เอ๋ นี่เป็นศิษย์คนใหม่ที่เพิ่งเข้าสำนักนี่นา ดึกดื่นป่านนี้เหตุใดจึงไม่พักผ่อน”คนคนนั้นหัวเราะทีหนึ่ง เจียงอันเหอเหลือบตาขึ้นเห็นเฉินจื่อเยว่กำลังเดินออกมาจากหอหนึ่งพอดี เขาลูบคลำหน้าตัวเอง ดูท่าการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าไม่ได้มีผลต่อ NPC เท่าไหร่ หรือบางทีในสายตาอีกฝ่าย เขาอาจจะเป็นแค่ชุดตัวเลขหนึ่งก็ได้พอเฉินจื่อเยว่เห็นเจียงอันเหอคารวะให้เขาในฐานะศิษย์ และสาวน้อยข้างกายคิดจะทำตาม จึงรีบหลบไปยังทิศทางที่สาวน้อยคารวะ “แม่นางที่มาเองโดยมิได้เชื้อเชิญ มิจำเป็นต้องคารวะด้วยมารยาทใหญ่โต”เจียงอันเหอเห็นเจ้าสำนักรู้สถานภาพสาวน้อยทะลุปรุโปร่ง จึงได้ทีขี่แพะไล่ “ว่าอย่างไรนะ! เจ้ามิใช่คนในสำนักพวกเราหรอกหรือ?!” จากนั้นจึงคิดจะก้าวขาเดินไปทางเจ้าสำนักของตัวเองคิดไม่ถึงว่าพอหลินอิ่งเหมิงเห็นเฉินจื่อเยว่ก็สังหรณ์ไม่ค่อยดีแล้ว จึงเตรียมตัวไว้แต่แรก พอเห็นเจียงอันเหอจะคิดหนี จึงหยิ

  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 14.คงไม่มีผีหรอกมั้ง

    เจียงอันเหอตรวจสอบดูตารางเรียนที่เหอเหนียนทิ้งไว้ให้ ด้านบนระบุไว้ว่าเป็นชั้นเรียนระดับต้น ชั้นเรียนวันแรกใช้เวลาสองชั่วยามในการเรียนเรื่องการกำหนดชีพจรและจุดลมปราณ เริ่มตั้งแต่เวลาเฉินไปจนถึงเวลาอู่ ซึ่งก็คือเริ่มชั้นเรียนตอนเจ็ดโมงเช้าวันนี้เขาออนไลน์เกมตอนบ่าย หลังจากที่วุ่นวายเป็นเวลาเนิ่นนาน ด้านนอกก็เริ่มเป็นเวลาวิกาล ห่างจากเวลาเรียนออกไปสองสามชั่วโมง ตอนนี้จะให้นั่งอยู่เฉยๆ ก็ค่อนข้างน่าเบื่อ ดังนั้นเจียงอันเหอจึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอก ตราบใดที่อยู่ภายในตึกรังหงส์คงจะปลอดภัยเข้าช่วงกลางคืน เดิมทีลูกศิษย์ที่เดินไปมาอยู่บนถนนประปรายก็ไม่เห็นแม้แต่เงา บนหลังคาของแต่ละอาคารมีโคมไฟแขวนประดับเอาไว้ ดูๆ ไปก็มีเสน่ห์เหมือนกัน แต่ไรมาที่นี่ก็เงียบสนิท ตอนนี้มีแสงไฟจากโคมส่องสว่าง ทำให้เจียงอันเหอรู้สึกไม่คุ้นชินอืม ในฐานะสำนักฝ่ายธรรม คงไม่มีผีหรอกมั้งเจียงอันเหอกำกระบี่ชิงถงในมือไว้แน่น ใช่แล้ว เจ้าสำนักดูเหมือนเซียนที่สูงส่งออกขนาดนั้นต้องเป็นสำนักฝ่ายธรรมะแน่ๆ ในตอนที่เขากำลังปลุกขวัญกำลังใจให้ตนเองอยู่นั้น เงาดำมืดสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากมุมแล้วปะทะเข้ากับร่างเขาอย่างจั

  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่ 13.เจ้าของกระบี่คือใครกัน

    ด้านหน้าสายตาเจียงอันเหอมืดดำไปหมด พอเขาได้สติ ก็เห็นว่าตัวเองถูกส่งไปยังไม้คาน ไกลออกไปเป็นสิ่งปลูกสร้างสลับซับซ้อนเป็นชั้นๆ ด้านหลังเป็นป่าไม้เงียบสงบร่มรื่น ใต้เท้าเป็นพื้นดินที่อยู่ไกลออกไปเขากลืนน้ำลาย กำเชือกที่อยู่บนคานแน่น รู้สึกราวกับว่าคานไม้นี้พร้อมจะหักลงมาได้ทุกเมื่อเจียงอันเหอทำใจอยู่ครู่หนึ่งก็เดินขึ้นหน้าช้าๆ พอเห็นว่าสิ่งปลูกสร้างใกล้เข้ามาทุกที ถึงได้มองเห็นชัดว่ามันเป็นอาคารสูงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ประหนึ่งครีบปลา กระเบื้องสีแดงชาดส่องสะท้อนภายใต้แสงแดดเป็นประกายจางๆ บนหลังคาแกะสลักรูปอสูรไว้ ดูมีชีวิตชีวาราวกับมีชีวิตหลังจากที่เดินลงสะพาน ตึกที่อยู่ใกล้ที่สุดก็อยู่เพียงคืบ เจียงอันเหอเพิ่งจะถอนหายใจ เด็กชายที่สวมเสื้อคลุมสีเขียวคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ถือกระบี่สำริดเดินเข้ามา “ผู้ ผู้มาช้าก่อน! ขอถามหน่อย ท่าน ท่าน ท่านมีธุระอะไร” เด็กชายอายจนหน้าแดงก่ำ พูดจาตะกุกตะกัก แม้ว่าน้ำเสียงจะค่อนข้างดุ แต่เจียงอันเหอมองเด็กชายที่สูงกว่าตัวเองไม่มากเท่าไหร่คนนี้ ก็รู้สึกอยากหัวเราะเขาหยิบด้ามกระบี่ออกมา รีบพูดตอนที่เด็กชายชักสีหน้า “ข้าถูกผู้รับช่วงส่งมาที่นี่ เขาบอกว่

  • อาจารย์ขอรับ ศิษย์ล่วงเกินแล้ว   ตอนที่12.มุ่งหน้าไปเมืองผิงหนาน

    รอจนหลังเจียงอันเหอเลิกงานแล้วออนไลน์ในวันที่สอง เกมก็ผ่านไปแล้วกว่าเกือบครึ่งเดือนหนิวเอ้อร์กำลังจะขับเกวียนออกจากหมู่บ้านชมจันทร์มุ่งหน้าไปยังเมืองผิงหนานพอดี เห็นเด็กคนที่เขาหาอยู่สองสามวันเมื่อครึ่งเดือนก่อนยืนตะลึงงันอยู่กลางถนน “เฮ้ เด็กคนนั้นน่ะ!” หนิวเอ้อร์คิดอยู่นานจึงรู้สึกว่าดูเหมือนตัวเองจะไม่รู้ชื่อเด็กคนนั้น จึงได้แต่ตะโกนหาสองสามทีพอเจียงอันเหอออนไลน์ก็ได้ยินเสียงท่านพี่หนิวเอ้อร์ จึงอดอุทานออกมาไม่ได้ว่าตัวเองนั้นโชคดีเหลือเกิน ขานเรียกพลางวิ่งไปหาหนิวเอ้อร์พลางทั้งคู่คุยกันอยู่ครู่หนึ่ง จึงนั่งรถม้าออกไปจากหมู่บ้านด้วยกัน มุ่งหน้าไปเมืองผิงหนานเมืองผิงหนานเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในละแวกนี้ และก็เป็นสถานีแรกที่ผู้เล่นมือใหม่ส่วนมากมาเยือนหลังออกจากหมู่บ้าน ดังนั้นแม้ว่าเมืองจะเล็กไปหน่อย แต่ตลาดและโรงน้ำชามักจะมีคนแน่นเสมอ ครื้นเครงเป็นที่สุดหนิวเอ้อร์พาเจียงอันเหอมาถึงหน้าโรงน้ำชาแห่งหนึ่ง ช่วยเขาสอบถามข้อมูลเล็กน้อยก็กล่าวอำลา ขับเกวียนที่บรรทุกสินค้าไว้เต็มมุ่งหน้าไปยังตลาดเจียงอันเหอโผล่หน้าไปดูที่หน้าประตูโรงน้ำชา ด้านในมีคนจำนวนมากที่กำลังจิบน้ำชาฟังนิทาน ไม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status